View Full Version : สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน 2564
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังอ่อน ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรใช้ความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
คาดหมาย
ในช่วงวันที่ 18 ? 19 มิ.ย. 64 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง
ส่วนในช่วงวันที่ 20 ? 23 มิ.ย. 64 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 20 ? 23 มิ.ย. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามัน ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640618_Forecast_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/6f61357c-8782-4ba0-ac57-e125bbf9ea06/p/ebd250ad-b466-4edd-b43c-b01d03943684)
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640618_Wave_Sat.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/6f61357c-8782-4ba0-ac57-e125bbf9ea06/p/0eca746f-9f68-4f5b-97cf-9b51b776929a)
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640618_Warning02.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/6f61357c-8782-4ba0-ac57-e125bbf9ea06/p/4c4dce8d-310f-4127-9c3e-81b35e1ac9fa)
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
โครงสร้างเหล็กรูปดาว กระตุ้นระบบนิเวศปะการังที่กำลังจะตายให้งอกใหม่
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640618_Thairath_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/6f61357c-8782-4ba0-ac57-e125bbf9ea06/p/0c204966-b79a-4d3c-80f2-e2adcc83e6ad)
หมู่เกาะในอินโดนีเซียเป็นที่อยู่อาศัยของปะการังมากกว่า 75% ของโลก ตามข้อมูลของโครงการฟื้นฟูปะการังข้ามชาติ Coral Triangle Initiative แต่ทุกวันนี้ ปะการังหลายแห่งเผชิญกับการกัดกร่อนและฟอกขาวในทุกปี ทว่าแนวปะการังในบาหลีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่ถือว่าอยู่ในสภาพดี โดยที่เหลืออีก 30% อยู่ในสภาพย่ำแย่ และ 15% อยู่ในสภาพเลวร้ายกว่า ตามรายงานของกรมประมงของบาหลีในปี พ.ศ.2561 ซึ่งความเสียหายนั้นเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการประมงแบบคุกคาม ภาวะโลกร้อน และคลื่นรุนแรง
เมื่อเร็วๆนี้ มีข้อมูลเปิดเผยว่าแนวปะการังที่กำลังจะตายของบาหลีมีการงอกใหม่ เป็นผลงานของมูลนิธิ Nusa Dua Reef ที่นักอนุรักษ์ได้ใช้วิธีนำโครงสร้างเหล็กรูปทรงหกเหลี่ยมคล้ายดาว เรียกว่า ?รีฟ สตาร์? (Reef Star) มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร ไปวางตามแนวปะการังที่ตายทั่วเกาะบาหลี เพื่อกระตุ้นการงอกและเติบโตของปะการังใหม่
ปารีอามา ฮูตาซูอิต นักอนุรักษ์สตรีชาวอินโดนีเซียเผยว่า มูลนิธิ Nusa Dua Reef ได้ติดตั้งโครงสร้างเหล็กนี้เกือบ 6,000 ชิ้น และตั้งเป้าจะติดตั้งเพิ่มตามแนวปะการังอีกประมาณ 5,000 ชิ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า ส่วนในอนาคตนั้น หากเป็นไปได้ก็ต้องการขยายการฟื้นฟูแนวปะการังออกไปนอกบาหลีเช่นกัน นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งของเงินบริจาคของมูลนิธิจะใช้ในโครงการเผยแพร่ให้ความรู้แก่ชุมชนท้องถิ่นถึงความสำคัญของการปกป้องแนวปะการังของบาหลี.
yoQlZZiV_k4
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2112837
ขอบคุณข่าวจาก GREENPEACE
ชีวิตท่ามกลางหายนะภัยทางทะเลครั้งใหญ่ที่สุดของศรีลังกา .................. โดย Tashiya de Mel
นี่คือจุดจบ ความคิดแรกที่แล่นเข้ามาในหัวของฉันเมื่อได้อ่านข่าวรายงานข่าวไฟไหม้ของเรือ X-Press-Pearl แนวชายฝั่งบริเวณใกล้เคียงดำคล้ำด้วยเศษซากไหม้เกรียมและสินค้าอันตรายเกลื่อนชายฝั่งของศรีลังกา ไม่กี่วันต่อมา กระแสคลื่นพัดพาเม็ดพลาสติกขนาดเล็กที่เรียกว่า ?nurdles? ขึ้นมาเกลื่อนชายหาดทางตะวันตกและทางใต้
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640618_Greenpeace_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/6f61357c-8782-4ba0-ac57-e125bbf9ea06/p/7264a4d4-2ac6-4b49-9e7e-002adae41daa)
เศษซากไหม้เกรียมและวัตถุอันตราย รวมทั้งสินค้าที่ถูกไฟไหม้และเม็ดพลาสติกขนาดเล็ก ถูกคลื่นซัดเกยตื้นบริเวณชายฝั่ง ศรีลังกากำลังเผชิญกับหายนะภัยด้านสิ่งแวดล้อมครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ หลังจากเม็ดพลาสติกจำนวนมากถูกพัดขึ้นฝั่งใกล้กับเมืองหลวงที่มีชายหาดเก่าแก่ยาวหลายกิโลเมตร และคุกคามสิ่งมีชีวิตทางทะเล ? Tashiya de Mel / Greenpeace
วิกฤตทางทะเลครั้งใหญ่ที่สุดในศรีลังกากำลังเผยออกมาแบบเรียลไทม์ เมื่อความตระหนกในช่วงแรกที่เกิดเหตุการณ์สงบลง คลื่นความโกรธก็ถาโถม ตามมาด้วยความเศร้า รู้สึกหมดหนทาง และฉันทำได้แค่เรียนรู้เกี่ยวกับสถานการณ์นี้ซึ่งดูเหมือนจะแย่ลงไปอีก
สารเคมีรั่วไหล
เพลิงไหม้
การระเบิด
เศษซากสิ่งมีชีวิตในทะเลถูกคลื่นซัดเกยขึ้นบนหาด
น้ำมันรั่วไหลที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา
และที่เลวร้ายไปกว่านั้น การล็อกดาวน์ทั่วประเทศขัดขวางไม่ให้อาสาสมัครรวมตัวกัน เพื่อช่วยจัดการปัญหา
ราวกับการถูกปลุกให้ตื่นขึ้นจากฝันร้าย
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640618_Greenpeace_02.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/6f61357c-8782-4ba0-ac57-e125bbf9ea06/p/900f8ad4-9ff9-4915-ae82-d05d0cde20d7)
เศษซากไหม้เกรียมและวัตถุอันตราย รวมทั้งสินค้าที่ถูกไฟไหม้และเม็ดพลาสติก ถูกคลื่นซัดเกยตื้นบริเวณชายฝั่ง ศรีลังกากำลังเผชิญกับหายนะภัยด้านสิ่งแวดล้อมครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ หลังจากเม็ดพลาสติกจำนวนมากถูกพัดขึ้นฝั่งใกล้กับเมืองหลวงที่มีชายหาดเก่าแก่ยาวหลายกิโลเมตร และคุกคามสิ่งมีชีวิตทางทะเล ? Tashiya de Mel / Greenpeace
ฉันเติบโตมาในเมืองโคลัมโบและใช้เวลาส่วนใหญ่ในการสำรวจพื้นที่ที่ห่างไกลของเกาะนี้ ทำให้เกิดความรักและความปรารถนาที่จะเชื่อมโยงผู้คนต่าง ๆ กับธรรมชาติ ในฐานะช่างภาพและนักกิจกรรม ฉันใช้วิธีการเล่าเรื่องผ่านภาพเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและการตระหนักรู้ต่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
หลังจากเรือ X-Press Pearl ได้จมลง ฉันได้ตระหนักต่อความเป็นจริงที่ว่า ในปัจจุบันเรากำลังเผชิญกับวิกฤตฉุกเฉินด้านสิ่งแวดล้อม
เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
ใครต้องรับผิดชอบ?
เราจะฟื้นฟูความเสียหายซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ ที่เกิดขึ้นต่อระบบนิเวศ สัตว์ทะเล และวิถีการดำเนินชีวิตได้อย่างไร?
ซารากูวา เนกอมโบ เป็นหนึ่งในแนวชายฝั่งที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ระดับความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงกำลังแย่ลงเรื่อย ๆ ในขณะที่ฉันกำลังเก็บบันทึกข้อมูลให้กับกรีนพีซ สากล ถึงผลกระทบของหายนะภัยจากเรือ X-Press-Pearl อยู่นี้ก็มีข้อค้นพบที่น่าสนใจ คือ
1. วิถีชีวิตและชีวิตที่ต้องดำเนินไป
มีการห้ามทำประมงภายในรัศมี 80 กม. จากซากเรือ การห้ามนี้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชาวประมงหลายพันคน ชาวประมงพื้นบ้านถูกห้ามไม่ให้จับปลาในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากการปนเปื้อนสารเคมี แล้วพวกเขามีทางเลือกอื่นอะไรบ้าง? เพราะปลาเป็นอาหารหลักของพวกเขา หากไม่มีแหล่งรายได้ สถานการณ์ก็ยิ่งแย่ลง ภัยพิบัติดังกล่าวเป็นผลกระทบที่ซ้ำเติมชุมชนชาวประมงเหล่านี้
"การทำประมงเป็นส่วนสำคัญหลักของอัตลักษณ์ของพวกเรา เราไม่รู้ว่ามีอะไรที่จะทำได้ดีไปกว่านี้" สุราษฎ์กล่าว เขาเล่าเพิ่มเติมว่า มีการช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐบาลในเหตุการณ์ครั้งนี้เพียงแค่น้อยนิดเท่านั้น
ฝนตกหนัก น้ำท่วม ภัยพิบัติทางทะเล การระบาดครั้งใหญ่ ยังคงส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง และชุมชนในพื้นที่ยังต้องเผชิญกับผลกระทบของวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ในฐานะประเทศที่เป็นเกาะ ศรีลังกามีแนวโน้มที่จะเกิดมรสุมตามฤดูกาลและพายุที่ดูเหมือนจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
2. การเสพติดพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง
เม็ดพลาสติกขนาดเล็กกว่าสามพันล้านชิ้นรั่วไหลลงสู่มหาสมุทร และตลอดแนวชายฝั่งของศรีลังกา การทำความสะอาดและเก็บรวบรวมอาจทำได้เพียงแค่บางส่วนเท่านั้น ซึ่งยังมีเม็ดพลาสติกปริมาณมหาศาลที่จะคงอยู่ในทรายและในปะการังต่อไปอีกหลายปี
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ปัญหาใหญ่อย่างเม็ดพลาสติกที่ใช้เป็นวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์พลาสติกทั้งหมด ถ้าเราต้องการกำจัดเม็ดพลาสติกเหล่านี้ เราต้องหยุดตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตและการบริโภค เราต้องก้าวออกจากอุตสาหกรรมที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลซึ่งก่อมลพิษ และมองหาแนวคิดใหม่อย่างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ยั่งยืนกว่า เราต้องเริ่มให้บริษัทต่าง ๆ รับผิดชอบต่อวัสดุที่ใช้ครั้งเดียวที่พวกเขาผลิต และคัดง้างกับผลประโยชน์ที่ให้ความสำคัญกับผลกำไรมากกว่าสิ่งแวดล้อมและผู้คน
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640618_Greenpeace_03.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/6f61357c-8782-4ba0-ac57-e125bbf9ea06/p/8ea10aef-d7e7-44f7-a76a-7a7e10b6e7b0)
กองทัพเรือศรีลังกาและหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเล (MEPA) กำลังทำความสะอาดชายหาดในเนกอมโบ ศรีลังกา ที่กำลังเผชิญกับหายนะภัยด้านสิ่งแวดล้อมครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ หลังจากเม็ดพลาสติกจำนวนมากถูกพัดขึ้นฝั่งใกล้กับเมืองหลวงที่มีชายหาดเก่าแก่ยาวหลายกิโลเมตร และคุกคามสิ่งมีชีวิตทางทะเล
3. ทุกสิ่งเชื่อมโยงกัน
หายนะภัยจากเรือ X Press Pearl ช่วยเตือนสติของเราถึงความเสี่ยงที่มีอยู่ในระบบเศรษฐกิจทุนนิยมเสรี ?ธุรกิจที่ดำเนินไปตามปกติ? อาจไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงของวิกฤตสภาพภูมิอากาศและภาวะฉุกเฉินด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งกำหนดอนาคตของเรา
หนทางแสนไกล
การต่อสู้เพิ่งเริ่มต้นขึ้น ขณะที่ฉันเดินไปตามชายหาดเคปุงโกดา ซึ่งอยู่ทางเหนือของท่าเรือโคลัมโบเพียงไม่กี่กิโลเมตร ฉันมองเห็นซากเรืออับปางในขอบฟ้า และอดไม่ได้ที่จะไตร่ตรองในสิ่งที่ได้เห็น
เมื่อผลกระทบที่เห็นได้ชัดเริ่มเลือนลางลง และสื่อต่าง ๆ ที่รุมเสนอข่าวก็เริ่มหายไป ผลกระทบที่ตามหลังจากนี้ที่อาจจะเป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี ก็จะมีเพียงชุมชนท้องถิ่นเท่านั้นที่ต้องเผชิญกับผลกระทบในระยะยาว
https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/640618_Greenpeace_03.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/6f61357c-8782-4ba0-ac57-e125bbf9ea06/p/8ea10aef-d7e7-44f7-a76a-7a7e10b6e7b0)
สิ่งที่ยังไม่อาจเห็นได้คืออะไร ผลกระทบระยะยาวที่ยังคงเกิดขึ้นกับสิ่งมีชีวิตในทะเลและระบบนิเวศของศรีลังกาต่อไปคืออะไร?
เราต้องไม่มองข้ามประเด็นสำคัญในภาพกว้างที่เป็นต้นตอของหายนะภัยดังกล่าว หายนะภัยจากเรือ X-Press Pearl เป็นหายนะภัยด้านสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่ที่สุดของศรีลังกา และทำให้เกิดคำถามที่สำคัญเกี่ยวกับผลกระทบที่จะตามมาในวงกว้างซึ่งยังไม่ปรากฏชัดในขณะนี้
เราสามารถเรียนรู้จากอดีต และทำให้ดีขึ้น
https://www.greenpeace.org/thailand/story/20152/plastic-living-through-sri-lankas-biggest-marine-disaster-a-personal-reflection/
vBulletin® v3.8.10, Copyright ©2000-2025, vBulletin Solutions, Inc.