PDA

View Full Version : สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565


สายน้ำ
14-02-2022, 03:04
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศเวียดนาม ลาวตอนบน และทะเลจีนใต้แล้ว ส่งผลทำให้ยังคงมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนอง กับลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 14 ? 16 ก.พ. 65 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น สำหรับภาคใต้มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณหัวเกาะสุมาตรา ประกอบกับมีลมตะวันออกที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 17-19 ก.พ. 65 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกทีพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 14 ? 16 ก.พ. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650214_Forecast1.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/fe38e16e-6258-4d60-bedd-3ffc22793081/p/f76ee4c4-f46e-4b10-903e-20a61bec2e4b)


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650214_Wave_Sat.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/fe38e16e-6258-4d60-bedd-3ffc22793081/p/564373cf-b82c-431c-9043-58b7366a15ba)


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650214_Warning02.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/fe38e16e-6258-4d60-bedd-3ffc22793081/p/02b77b11-3ac5-4dbc-9118-c6219e5c342a)

สายน้ำ
14-02-2022, 04:01
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ทช.เอาจริง แจ้งจับนักท่องเที่ยว โพสต์รูปนั่งบนปะการัง อ้างคิดว่าเป็นโขดหิน

ทช.เอาจริง ขึ้นโรงพัก แจ้งความเอาผิดนักท่องเที่ยว โพสต์ภาพนั่งบนปะการังใต้ทะเลสัตหีบ แจ้งโทษหนักจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650214_Thairath_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/fe38e16e-6258-4d60-bedd-3ffc22793081/p/50b4a2ec-32a3-4072-b672-1adf37f5fd68)

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นายวุฒิพงษ์ วงศ์อินทร์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.สำราญ สุขโต สารวัตร(สอบสวน) สภ.สัตหีบ ให้ดำเนินคดี บุคคลผู้ใช้ แอปพลิเคชันเฟซบุ๊กรายหนึ่ง กรณีโพสต์รูปมีบุคคลกำลังดำน้ำและขึ้นนั่งบนปะการัง บริเวณเกาะครามน้อย ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนเข้ามา ในข้อหา การล่าหรือทำอันตรายด้วยปะการอื่นใดแก่สัตว์ป่า ที่ไม่มีเจ้าของและอยู่อย่างเป็นอิสระ ตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 3 ประกอบ มาตรา 12 และมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 89 จำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายวุฒิพงษ์ วงศ์อินทร์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 กล่าวว่า จากการตรวจสอบในรูป พบว่าเป็นปะการังชนิด ปะการังโขด Porites lutes อยู่ใน Order Scleractinia เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามบัญชีแนบท้ายกฎกระทรวง สัตว์ป่าไม่มีกระดูกสันหลังอื่นๆ ลำดับที่ 4 ปะการังแข็งทุกชนิดในอันดับ (Order Scleractinia) กำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546 การกระทำในลักษะดังกล่าวทำให้หนวดของปะการังหดตัว และหลั่งเมือกออก ซึ่งต้องใช้พลังงานและออกซิเจน ส่งผลต่อการสังเคราะห์แสงและอัตราการเติบโตลดลง ปะการังอาจเกิดการฟอกขาวและทำให้ปะการังถึงแก่ความตายได้ ประกอบกับการจับสัมผัสหรือการนั่งทับปะการัง ทำให้ปะการังเกิดความเครียดและอาจเกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อการสัมผัสหรือถูกกดทับนาน จะทำให้ปะการังส่วนที่ถูกสัมผัส หรือกดทับ ตายได้ ซึ่งถือการว่าเป็นการล่าหรือทำอันตรายด้วยประการอื่นใด แก่สัตว์ป่าที่ไม่มีเจ้าของและอยู่อย่างเป็นอิสระ

จึงขอฝากเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวดูปะการัง ให้ช่วยกันสอดส่องและรักษาสิ่งแวดล้อม ห้ามไปสัมผัส หรือโยกย้ายปะการัง โดยเด็ดขาด หากมีการพบเจอ หรือตรวจพบ ทั้งในโลกออนไลน์ หรือต่อหน้า หรือตรวจพบในทางอื่นๆ จะมีการดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

โดยในเวลาต่อมา นายวิสูตร รัตนเสถียร อายุ 45 ปี เจ้าของบัญชีเฟซบุ๊ก ได้เดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับรับสารภาพว่าเป็นบุคคลในรูปที่ไปนั่งทับบนปะการังดังกล่าว โดยไม่รู้ว่าเป็นปะการัง คิดว่าเป็นโขดหินใต้ท้องทะเล โดยรูปนี้ได้ถ่ายไว้เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว ก่อนจะมีการนำมาโพสต์เมื่อวานนี้ 12 ก.พ. ก่อนจะถูกแจ้งดำเนินคดี ซึ่งต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้มีเจตนาจะไปทำร้ายปะการังแต่อย่างใด เพียงแค่อยากจะไปถ่ายรูปกับธรรรมชาติใต้ท้องทะเลเท่านั้น


https://www.thairath.co.th/news/crime/2315147

สายน้ำ
14-02-2022, 04:16
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


GISTDA โชว์ภาพสิมิลัน สิมิใจ รับวาเลนไทน์ปี 65

GISTDA เผยภาพจากดาวเทียมไทยโชตโชว์เกาะรูปหัวใจแห่งอันดามัน ซึ่งภาพที่ปรากฏเป็นภาพบริเวณเหนือเกาะ 5 ภายในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ชี้เมื่อมองจากอวกาศแล้วจะเห็นว่าเกาะดังกล่าวมีลักษณะคล้ายรูปหัวใจกลางทะเลสีฟ้าใส "จิสด้า" พร้อมส่งมอบความโรแมนติกจากห้วงอวกาศสู่สายตาคนไทยรับเดือนแห่งความรัก

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650214_Mgr_04.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/fe38e16e-6258-4d60-bedd-3ffc22793081/p/1adc5eb0-c0d1-4a4d-9f1f-a7e82de7ec72)

วันนี้ (13 ก.พ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม หรือ อว. โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยภาพจากดาวเทียมไทยโชตโชว์เกาะรูปหัวใจแห่งอันดามัน ซึ่งภาพที่ปรากฏเป็นภาพบริเวณเหนือเกาะ 5 ภายในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันที่เมื่อมองจากอวกาศแล้วจะเห็นว่าเกาะดังกล่าวมีลักษณะคล้ายรูปหัวใจกลางทะเลสีฟ้าใส โดย GISTDA พร้อมส่งมอบความโรแมนติกจากห้วงอวกาศสู่สายตาคนไทยรับเดือนแห่งความรัก

นายตติยะ ชื่นตระกูล รองผู้อำนวยการด้านสร้างเสริมพันธมิตรและเครือข่ายองค์ความรู้ของ GISTDA กล่าวว่า "จากภาพดาวเทียมดังกล่าว GISTDA ทำการผสมสีที่เรียกว่า False Color Composite หรือสีผสมเท็จ ซึ่งจะทำให้เห็นพืชพรรณป่าไม้เป็นสีแดงและน้ำเป็นสีเข้ม มองเห็นรายละเอียดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ดังนั้น จากภาพถ่ายดาวเทียมนี้ เราจึงมองเห็นเกาะเป็นรูปหัวใจสีแดงเข้ากับเดือนแห่งความรักได้พอดี"

ทั้งนี้ หมู่เกาะสิมิลัน ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 43 เมื่อปี พ.ศ. 2525 มีขนาดพื้นที่ 128 ตารางกิโลเมตร ในปี พ.ศ. 2541 มีการผนวกเกาะตาชัยและเกาะบอนเพิ่มอีก 12 ตารางกิโลเมตร รวมเป็น 140 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่บก 15 ตารางกิโลเมตร อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันอยู่ในเขต อ.คุระบุรี จ.พังงา สิมิลัน เป็นภาษายาวี หมายถึง เก้า ตามจำนวนเกาะที่เรียงตัวในแนวเหนือ-ใต้ โดยเกาะหนึ่งอยู่ด้านทิศใต้ เกาะแปดหรือเกาะสิมิลันมีขนาดใหญ่ที่สุดบนพื้นที่ประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร และมียอดสูงสุดที่ 244 เมตร ปัจจุบันได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเป็นจำนวนมาก


https://mgronline.com/science/detail/9650000014650


*********************************************************************************************************************************************************


สลด! หมวกนักท่องเที่ยวติดหัวฉลามครีบดำ ดิ้นรนตายอนาถพร้อมลูกอีก 4 ตัว

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650214_Mgr_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/fe38e16e-6258-4d60-bedd-3ffc22793081/p/54452400-bc3d-45e2-8d6c-4845c10a53d0)

กระบี่ - สุดสลด! พบฉลามครีบดำขนาดใหญ่นอนตายติดแนวปะการัง พร้อมลูกน้อยอีก 4 ตัว ตรวจสอบพบหมวกสานปีกกว้างของนักท่องเที่ยวติดอยู่ที่หัว เชื่อเป็นสาเหตุทำให้ตายอนาถ

จากกรณี นายณฐพล คงมาลัย อายุ 40 ปี ครูสอนดำน้ำอิสระที่เกาะพีพี พบฉลามครีบดำขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 1.5 เมตร นอนตายอยู่ก้นทะเลที่ระดับความลึก 7 เมตร บริเวณหน้าถ้ำไวกิ้ง เกาะพีพี หมู่ 7 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ โดยมีลูกฉลามตายอยู่ข้างๆ ติดกับซากอีก 4 ตัว หลังจากนั้นได้นำภาพที่ถ่ายไว้มาลงในโลกโซเชียล

จนมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก พร้อมระบุว่า จุดดังกล่าวเป็นเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ไม่ควรมีการดักอวน บางคนไว้อาลัยให้ฉลามน้อยๆ 4 ตัวที่ตายก่อนจะออกมาดูโลก ขณะที่บางรายอยากให้ทางเจ้าหน้าที่กวดขันให้มากขึ้น

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650214_Mgr_02.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/fe38e16e-6258-4d60-bedd-3ffc22793081/p/eb1b96be-73a9-4fc5-a006-e82615a15988)

สำหรับความคืบหน้ากรณีดังกล่าว นายปราโมทย์ แก้วนาม หัวหน้าอุทยานหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานใต้น้ำ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ลงพื้นที่ตรวจสอบ กรณีการตายของปลาฉลามที่ได้มีการเผยแพร่ในสื่อโซเชียล เมื่อวันที่ 9 ก.พ. เบื้องต้นพบว่าเป็นหมวกสานปีกกว้างที่นักท่องเที่ยวทำหล่น และไปติดอยู่ที่ส่วนหัวของฉลาม ไม่ใช่อวน

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650214_Mgr_03.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/fe38e16e-6258-4d60-bedd-3ffc22793081/p/30dfcfdc-1f94-443f-ac03-924c5547b241)

คาดว่าฉลามน่าจะว่ายเข้าไปชนหมวกที่มีชิ้นส่วนของหมวกไปติดกับปะการัง ทำให้ไม่สามารถว่ายน้ำต่อไป และดิ้นจนตาย สาเหตุเพราะปลาฉลามต้องว่ายน้ำตลอดเวลา หากหยุดว่ายน้ำมันจะตาย เพราะปลาชนิดอื่นๆ จะมีถุงลมทำให้หายใจได้แม้ไม่เคลื่อนที่ แต่ปลาฉลามไม่มีถุงลม ดังนั้น ถ้ามันหยุดว่ายน้ำจะทำให้ไม่มีออกซิเจนไหลผ่านเหงือกจึงไม่มีออกซิเจนใช้ในการหายใจ

ส่วนลูกทั้ง 4 ตัว เชื่อเป็นลูกที่ใกล้คลอด และตายไปพร้อมกับตัวแม่


https://mgronline.com/south/detail/9650000014676