PDA

View Full Version : สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม 2565


สายน้ำ
31-03-2022, 03:28
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่ร้อนขึ้นไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง อนึ่ง ในช่วงวันที่ 1-2 เม.ย. 65 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งรวมถึงมีฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีแนวโน้มจะเคลื่อนผ่านประเทศเวียดนามตอนล่าง ปลายแหลมญวน และเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ในช่วงวันที่ 2-3 เม.ย. 65 ส่งผลทำให้ลมฝ่ายตะวันออก และลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 30 - 31 มี.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 1 - 2 เม.ย. 65 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมบริเวณดังกล่าว ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยจะเริ่มบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ซึ่งมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่

สำหรับในช่วงวันที่ 3 - 5 เม.ย. 2564 บริเวณประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง 5-7 องศาเซลเซียส ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ 2-4 องศาเซลเซียส ในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยตอนบนช่วยคลายความร้อนลง

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 1 ? 3 เม.ย. 65 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีแนวโน้มจะเคลื่อนผ่านประเทศเวียดนามตอนล่าง ปลายแหลมญวน และเข้าปกคลุมภาคใต้ต่อไป ทำให้ลมฝ่ายตะวันออกที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน อ่าวไทย และภาคใต้ มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 1 ? 3 เม.ย. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย และดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน สำหรับประชาชนบริเวณภาคใต้ ควรระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้น ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 1?3 เมษายน 2565)" ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 31 มีนาคม 2565

ในช่วงวันที่ 1-2 เม.ย. 65 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งรวมถึงมีฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย และดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงในระยะนี้

อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีแนวโน้มเคลื่อนผ่านประเทศเวียดนามตอนล่าง ปลายแหลมญวน และจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ในช่วงวันที่ 2?3 เม.ย. 65 ทำให้ลมฝ่ายตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650331_Forecast1.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/ef912f4a-88e8-4b54-9ff1-1e98de3cbd85/p/cb6768dc-37b2-43f8-9ed6-f40d35b0a840)


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650331_Sat1.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/ef912f4a-88e8-4b54-9ff1-1e98de3cbd85/p/814f3dae-cb3c-4bd6-97ee-2ff67114758e)


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650331_Warning.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/ef912f4a-88e8-4b54-9ff1-1e98de3cbd85/p/3683ddb3-690e-430d-aabd-d0e89583440b)


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650331_Warning03.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/ef912f4a-88e8-4b54-9ff1-1e98de3cbd85/p/81a33b53-4f7a-4e03-bf0d-6ac3202a934d)

สายน้ำ
31-03-2022, 03:41
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ทีมนักวิจัยพบไมโครพลาสติกในเลือดเป็นครั้งแรก

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650331_Thairath_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/ef912f4a-88e8-4b54-9ff1-1e98de3cbd85/p/e47431a7-90cd-42ae-b400-158c5a7fb0fc)

พลาสติกชิ้นเล็กๆ ที่แทบจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าหรือที่รู้จักกันว่า ไมโครพลาสติก ขณะนี้ถูกพบแล้วเกือบทุกที่ในโลก ตั้งแต่มหาสมุทรที่ลึกที่สุดไปจนถึงภูเขาที่สูงที่สุด ทั้งบนอากาศ ดิน และห่วงโซ่อาหาร สร้างความกังวลอย่างมากมาย เพราะเสี่ยงเป็นอันตรายต่อสุขภาพของทุกสิ่งมีชีวิตบนโลก

และสิ่งที่หลายคนกังวลถึงก็เกิดขึ้นแล้วเมื่อมีผลการวิจัยจากนักนิเวศวิทยาและนักพิษวิทยาของมหาวิทยาลัยไรจ์ (Vrije Universiteit) ในอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์ แลนด์ ตีพิมพ์ในวารสารสิ่งแวดล้อมนานาชาติ (Environment International) หลังตรวจสอบตัวอย่างเลือดหรือโลหิตจากอาสาสมัครสุขภาพดีที่ไม่ระบุชื่อ 22 ราย และพบว่ามีไมโครพลาสติกปะปนอยู่ในเลือดเกือบ 80% โดยตัวอย่างเลือดครึ่งหนึ่งพบร่องรอยของพลาสติกชนิดคืนรูปอย่าง Polyethylene Terephthalate (PET) ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในการผลิตขวดเครื่องดื่ม ในขณะที่มากกว่า 1 ใน 3 มี polystyrene ที่ใช้สำหรับบรรจุอาหารแบบใช้แล้วทิ้งและผลิตภัณฑ์อื่นๆอีกมากมาย

นักวิจัยเผยว่า ไมโครพลาสติกสามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง ทั้งทางอากาศ น้ำ หรืออาหาร รวมถึงในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ยาสีฟัน ลิปสติก และหมึกสักร่างกาย โดยมีความเป็นไปได้ทางวิทยาศาสตร์ที่อนุภาคพลาสติกอาจเดินทางไปยังอวัยวะต่างๆ ผ่านทางกระแสเลือด การวิจัยใหม่นี้นับเป็นครั้งแรกที่ตรวจจับและหาปริมาณไมโครพลาสติกในเลือดมนุษย์ ทีมย้ำว่าให้มีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบว่าพลาสติกมีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร เมื่อเข้าไปในร่างกายมันแผ่ซ่านไปทางไหน กำจัดออกได้หรือไม่ จะถูกขับออกหรือกักสะสมไว้ในอวัยวะบางส่วน หรือแม้แต่จะข้ามผ่านผนังเส้นเลือดและสมองได้ไหม.


https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2354248


*********************************************************************************************************************************************************


หินภูเขาไฟเกลื่อนหาด ใช้ในการเกษตรได้ไหม?

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650331_Thairath_02.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/ef912f4a-88e8-4b54-9ff1-1e98de3cbd85/p/5ceedba9-55ae-41a4-b125-811d493c14ba)

ข่าวหินภูเขาไฟหรือกรวดภูเขาไฟถูกคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง ลอยเกลื่อนตลอดแนวชายหาด ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ไปจนถึงนราธิวาส เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้คนและเกษตรกรหลายคนได้ไปเก็บรวบรวมไว้เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ ทั้งที่ยังไม่ทราบว่าหินภูเขาไฟนั้นมีประโยชน์อย่างไรบ้าง

ดร.จิระ สุวรรณประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 8 สงขลา (สวพ.8) เผยว่า ได้รับรายงานจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หินภูเขาไฟหรือกรวดภูเขาไฟเป็นหินขนาดเล็ก มีรูพรุนชัดเจน น้ำหนักเบา สีเทาปนเขียว ขนาดอนุภาคตะกอนประมาณ 0.3-3 เซนติเมตร ลักษณะคล้ายหินพัมมิช (Pumice) หรือที่เรียกว่าหินภูเขาไฟ กรวดภูเขาไฟที่พบน่าจะมาจากการปะทุของภูเขาไฟ ?อานัก กรากาตัว? ที่อยู่ระหว่างตอนใต้ของเกาะสุมาตราและตอนเหนือของเกาะชวา ทางตะวันตกของอินโดนีเซีย เมื่อปี 2561 มากกว่าจะที่เป็นกรวดภูเขาไฟที่ปะทุจากเหตุการณ์ภูเขาไฟใต้น้ำตองกาในประเทศตองกา เมื่อมกราคม 2565 ซึ่งภูเขาไฟ "อานัก กรากาตัว" ห่างจากประเทศไทยประมาณ 2,490 กม. ดังนั้น เพื่อให้ข้อมูลต่อเกษตรกร สวพ.8 จึงได้นำหินภูเขาไฟที่พบที่จังหวัดสงขลามาทำการวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ

"รายงานผลการวิเคราะห์หินภูเขาไฟแบบบดละเอียดที่ล้างน้ำและไม่ล้างน้ำ ทำโดย นางสาวสาวิตรี เขมวงศ์ ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาการตรวจสอบพืชและปัจจัยการผลิต สวพ.8 พบว่า มีความเป็นกรดด่าง (pH) 7.63-7.84 ค่าการนำไฟฟ้า EC 0.49-0.67 Ds/m อินทรีย์คาร์บอน OC 0.44-0.45% อินทรียวัตถุ OM 0.76-0.78% ไนโตรเจน 0.04% ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ 18.93-22.80 mg/kg หรือ 0.002% และโปแตสเซียมที่เป็นประโยชน์ 35.16-54.05 mg/kg หรือ 0.005%"

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650331_Thairath_03.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/ef912f4a-88e8-4b54-9ff1-1e98de3cbd85/p/d07b2008-ca52-48bb-baf1-b7a50906fd9e)

ผอ.สวพ.8 เผยถึงผลการวิเคราะห์ แสดงให้เห็นว่า หินภูเขาไฟไม่เหมาะที่จะเป็นปุ๋ยเพราะให้ธาตุอาหารน้อยมาก แต่น่าเหมาะที่จะนำมาใช้เป็นวัสดุปรับปรุงดินมากกว่า ด้วยผลการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่า เมื่อนำไปบดจะมีคุณสมบัติในการช่วยปรับโครงสร้างดิน เช่น เมื่อนำไปผสมดินจะทำให้ดินร่วนซุยขึ้น เพิ่มความโปร่ง ลดความแน่นของดิน การใส่ลงไปในดินจะไม่ทำให้ดินเป็นกรด เพราะมีคุณสมบัติเป็นด่างอ่อน pH=7.8 ด้านความเค็มมีค่าปานกลาง พืชส่วนใหญ่ยังทนกับความเค็มระดับนี้ได้ ส่วนอินทรียวัตถุ 0.78% ถือว่าต่ำ และธาตุอาหารหลัก N 0.04% P K 0.005%-0.04% ถือว่ามีน้อยมากๆ

ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ปรากฏในต่างประเทศ แสดงให้เห็นว่าหินภูเขาไฟในแต่ละแหล่งที่มา จะให้คุณสมบัติที่แตกต่างกัน สำหรับหินภูเขาไฟที่พบตามชายหาดไทยช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีคุณสมบัติทางเคมีที่เป็นประโยชน์กับพืชน้อยกว่าจากรายงานการพบในประเทศตุรกี ซึ่งมาจากภูเขาไฟคนละแห่งกันหินภูเขาไฟ หรือกรวดภูเขาไฟนั้น มีประโยชน์ในด้านการซึมผ่านของอากาศและน้ำในดิน จะช่วยเพิ่มการแทรกซึมน้ำและลดการระเหยน้ำ ช่วยให้ปริมาณน้ำในดินปลูกพืชอยู่ในระดับที่ดีขึ้น ช่วยลดการให้น้ำได้ และหินภูเขาไฟไม่มีเมล็ดวัชพืชและองค์ประกอบของโรคเจือปน จึงจะเป็นวัสดุอนินทรีย์ในการนำมาปรับปรุงดินได้ และมีค่าการนำความร้อนต่ำ จะลดความเสียหายกับพืชที่เกิดจากการเปลี่ยนอุณหภูมิ.


https://www.thairath.co.th/news/local/south/2348896