PDA

View Full Version : สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2565


สายน้ำ
02-04-2022, 04:05
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้แล้ว ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง

อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณตอนใต้ของประเทศกัมพูชา และอ่าวไทยตอนกลาง มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ในช่วงวันที่ 2-3 เม.ย. 65 ส่งผลทำให้ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อุณหภูมิจะลดลง 1?3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 2 - 3 เม.ย. 65 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมบริเวณดังกล่าว ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นกับมีลมแรง ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง โดยจะเริ่มบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ซึ่งมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยตอนบนช่วยคลายความร้อนลงได้

ส่วนในช่วงวันที่ 4 - 7 เม.ย. 65 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน มีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส

อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณปลายแหลมญวน มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ในช่วงวันที่ 2 ? 3 เม.ย. 65 ทำให้ลมฝ่ายตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร หลังจากนั้น คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 2 ? 3 เม.ย. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย และดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน ส่วนในช่วงวันที่ 2 - 7 เม.ย. 65 ประชาชนบริเวณภาคใต้ควรระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้น ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบถึงวันที่ 3 เมษายน 2565)" ฉบับที่ 7 ลงวันที่ 02 เมษายน 2565

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้แล้ว ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณตอนใต้ของประเทศกัมพูชา และอ่าวไทยตอนกลางมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ในช่วงวันที่ 2?3 เม.ย. 65 ทำให้ลมฝ่ายตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650402_Sat1.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/ef912f4a-88e8-4b54-9ff1-1e98de3cbd85/p/20d7b33e-4dba-47c5-ac8b-4de10423ffc9)


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650402_Warning02.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/ef912f4a-88e8-4b54-9ff1-1e98de3cbd85/p/0d1d16c3-5d6e-4907-8912-2a7cd35a3572)


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650402_Warning.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/ef912f4a-88e8-4b54-9ff1-1e98de3cbd85/p/d93ae6c7-e39b-4352-887b-83228de933b5)


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650402_Warning03.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/ef912f4a-88e8-4b54-9ff1-1e98de3cbd85/p/2c7d3ad7-b441-4c29-a35e-e286ca7b5d5c)

สายน้ำ
02-04-2022, 04:48
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


"โลกร้อน-โรครวน" แปรปรวนทั้งโลก

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650402_Thairath_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/ef912f4a-88e8-4b54-9ff1-1e98de3cbd85/p/bbfa903d-eeb7-45c6-b03b-f4283e8f9ccb)

ช่วงต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา สภาพน้ำในคลองเวนิสของอิตาลี มีระดับความสูงไม่ถึง 50 เซนติเมตร ไม่รวมลำคลองสายเล็กสายน้อยที่ระดับน้ำลดลงอย่างผิดปกติ ส่งผลให้เรือก็อนโดลานับร้อยลำจอดนิ่งสนิท เป็นปรากฏการณ์ที่เริ่มเกิดขึ้นบ่อยครั้งมากขึ้น

ในรอบ 5 ปีมานี้เวนิส เริ่มเผชิญกับความไม่สมดุลของปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงผิดปกติ นอกจากปัญหาน้ำท่วมซึ่งเคยเป็นปัญหาของเวนิส ที่ทำให้สถาปัตยกรรมยุคเรอเนสซองส์ (Renaissance) ของเวนิสได้รับความเสียหายทุกครั้งที่เกิดน้ำท่วม

ไม่ใช่เฉพาะเวนิสที่ต้องเผชิญกับความแปรปรวนของสภาพอากาศที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากผลกระทบของ Climate Change แต่หลายที่ในโลกก็กำลังเผชิญกับความเลวร้ายของสภาวะที่เรียกว่า "โลกรวน" ไม่ต่างกัน

นักวิชาการระบุว่า ปรากฏการณ์น้ำแห้ง น้ำท่วมในเมืองเวนิส เกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งภูมิอากาศของโลกที่เปลี่ยนแปลง ระดับน้ำทะเลที่มีน้ำขึ้น-ลงผิดปกติ รวมถึงแผ่นดินที่ทรุดตัว

ข้อน่าสังเกตคือ โดยปกติ สภาพความแปรปรวนแบบสุดขั้ว เช่นนี้ หากเกิดขึ้นตามธรรมชาติอาจต้องใช้เวลานับล้านปี แต่ทุกวันนี้ กลับเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่สิบปีจากน้ำมือของมนุษย์

ปี 2021 ที่ผ่านมา ในช่วงเดือนมกราคมจนถึงเดือนสิงหาคม หลายพื้นที่บนโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นจนผิดไปจากอุณหภูมิปกติเดิมทำให้เกิดผลกระทบมากมายจากสภาพอากาศที่ร้อนและหนาวอย่างหนัก

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650402_Thairath_02.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/ef912f4a-88e8-4b54-9ff1-1e98de3cbd85/p/d69f5ca7-c2d9-4772-a899-f5cf8221e0ec)

หลายพื้นที่ในแถบทวีปอเมริกาเหนือ เช่น แคนาดา สหรัฐอเมริกา ต้องเผชิญหน้ากับคลื่นความร้อน (Heat Wave) อย่างหนักในช่วงเดือนมิถุนายน 2021 อย่างเช่นหมู่บ้านลิททัน (Lytton) ในเขตบริติชโคลัมเบียของแคนาดา มีอุณหภูมิสูงเกือบ 50 องศาเซลเซียส เป็นสถิติอุณหภูมิที่สูงที่สุดในรอบกว่า 80 ปี หรือหุบเขามรณะ (Death Valley) ในสหรัฐอเมริกา ก็มีอุณหภูมิสูงขึ้นถึง 54.4 องศาเซลเซียส

แต่สถานที่ที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดของโลกในปี 2021 เห็นจะเป็นทะเลทรายลุต หรือดาชต์เอลุต (Dasht-e Lut) ในประเทศอิหร่าน ข้อมูลจากดาวเทียมขององค์การนาซาระบุว่า ดาชต์เอลุต มีอุณหภูมิสูงถึง 80.8 องศาเซลเซียส เช่นเดียวกับใจกลางกรุงคูเวตซิตี้ของคูเวต ที่อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 70 องศาเซลเซียสในบริเวณกลางแจ้งรับแสงแดดโดยตรง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าความร้อนที่เพิ่มขึ้นทั้งโลกนี้เป็นผลโดยตรงมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change ซึ่งนับวันกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และกำลังก้าวเข้าสู่สภาวะที่เรียกว่า ?สภาพภูมิอากาศแบบสุดขั้ว? หรือ Extreme Weather Event ที่ทำให้เกิดสภาพอากาศร้อนจัด หนาวจัด ฝนตก พายุที่รุนแรง ไฟป่าที่เกิดบ่อยครั้งมากขึ้น หรือแม้แต่ภัยแล้งจัด เช่น ในจีนและบราซิล ฯลฯ

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650402_Thairath_03.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/ef912f4a-88e8-4b54-9ff1-1e98de3cbd85/p/3e0742a9-c729-4167-af7f-81ff7680bc97)

สภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนอย่างสุดขั้วนี้สร้างความกังวลแก่นักวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก เพราะมันไม่ได้ค่อยๆเกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งใช้เวลานับล้านปี แต่มันเกิดจากกิจกรรมต่างๆของมนุษย์ การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล การเผาไหม้ถ่านหิน การใช้น้ำมันและก๊าซอย่างรวดเร็ว

ข้อมูลจากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ หรือ IPCC (Intergovernmental Panel on Climate Change) หลายเรื่องมีความ "น่ากลัว" อยู่ไม่น้อย เช่น ในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นแล้ว 1.09 องศาเซลเซียส ถือเป็นอัตราที่เร็วและน่ากลัวมาก เพราะในอดีตการเพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียสของอุณหภูมิโลกใช้เวลานานมาก อาจจะถึง 50-100 ปีเลยทีเดียว อุณหภูมิโลกที่เคยคาดกันว่าอาจสูงขึ้นถึง 1.5 องศาเซลเซียส ภายในสิ้นศตวรรษนี้หรืออีก 80 ปีข้างหน้า จะเกิดขึ้นเร็วกว่าเดิม โดยคาดว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส ภายในปี 2040 หรืออีก 20 ปีข้างหน้านี้เท่านั้น

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650402_Thairath_04.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/ef912f4a-88e8-4b54-9ff1-1e98de3cbd85/p/2b576d51-8514-4733-9011-e0673eb124fe)

วันนี้เราได้เห็นทั้งคลื่นความร้อน น้ำในคลองเวนิสที่แห้งขอด อากาศหนาวสุดขั้ว อย่างในชิคาโกที่เคยเผชิญกับอุณหภูมิต่ำสุดถึงเกือบ -50 องศาเซลเซียส หรือที่มาดริด สเปน อุณหภูมิลดต่ำลงเหลือ -12 องศาเซลเซียส และอีกหลายภัยพิบัติที่เริ่มเกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มานับร้อยปี รวมไปถึงโรคระบาดอย่าง COVID-19 ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั้งโลก

อาจจะถึงเวลาแล้วที่ชาวโลกต้องเริ่มตระหนักและเตรียมพร้อมรับมือกับ New Normal ที่เกิดจากโลกร้อน โลกรวน และทำให้ผู้คนแปรปรวนกันทั้งโลกในอีกไม่นานนี้.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2350835

สายน้ำ
02-04-2022, 04:52
ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


'เกาะสมุย' จัดอบรมป้องกันพิษ 'แมงกะพรุนกล่อง' ยํ้าต้องใช้น้ำส้มสายชูเท่านั้น!

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ลงพื้นที่ให้ความรู้ผู้ประกอบการโรงแรมในเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ป้องกันภัยแมงกะพรุนกล่อง ยํ้าต้องใช้น้ำส้มสายชูเท่านั้น ห้ามใช้อย่างอื่นล้างเด็ดขาด

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650402_Dailynews_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/ef912f4a-88e8-4b54-9ff1-1e98de3cbd85/p/a85556e0-b421-4402-a0d7-1949bc35e79d)

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดย ศ.ดร.พญ.ลักขณา ไทยเครือ ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ลงพื้นที่ชายหาดละไม ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อมาบรรยายให้ความรู้เรื่องการป้องกันและการปฐมพยาบาล จากพิษแมงกะพรุนกล่อง ที่โรงแรมเดอะไฮวฟ์ โดยมีนางกฤษณา พรหมเกาะ ประธานที่ปรึกษาชมรมบริหารงานเกาะสมุย พร้อมด้วยตัวแทนจากโรงแรมบนเกาะสมุยจำนวน 20 แห่ง มาร่วมรับฟังการบรรยาย พร้อมรับป้ายเตือนอันตรายจากแมงกะพรุนกล่อง 4 ภาษา และเสาใส่น้ำส้มสายชู เพื่อนำไปปักบนชายหาดของแต่ละโรงแรม พร้อมกับการสาธิตการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากพิษแมงกะพรุนกล่อง

จากข้อมูลกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้ดำเนินการสำรวจแมงกะพรุนพิษ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552?ปัจจุบัน มีพื้นที่ได้รับการสำรวจครอบคลุมทางชายฝั่งทะเลอันดามัน และอ่าวไทย รวม 23 จังหวัด พบแมงกะพรุนพิษ 9 ชนิด กลุ่มแมงกะพรุนไฟ 2 ชนิด แมงกะพรุนขวด 1 ชนิด และเป็นแมงกะพรุนในกลุ่มแมงกะพรุนกล่อง 6 ชนิด

ด้านนางกฤษณา กล่าวว่า ถื่อว่าเป็นเรื่องที่ดีของเกาะสมุย ที่ สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดย ศ.ดร.พญ.ลักขณา ไทยเครือ ซึ่งเป็นแพทย์คนเดียวที่ทำเรื่องของแมงกะพรุนกล่องในประเทศไทย ได้มาให้ความรู้เกี่ยวกับแมงกะพรุนกล่องให้กับผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเทียวชาวไทยและชาวต่างประเทศว่าโรงแรมมีความรู้ในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุจากพิษของแมงกะพรุนกล่องได้ทันท่วงที และนักท่องเที่ยวก็จะได้มีความระมัดระวังตัวมากขึ้น

ขณะที่ ศ.ดร.พญ.ลักขณา กล่าวว่า การพบแมงกะพรุนกล่องขึ้นอยู่กับพื้นที่ ฝั่งอันดามัน หรืออ่าวไทยตอนบนและตอนล่างจะไม่เหมือนกัน แต่ของเกาะสมุยจะอยู่ในช่วงเดือนก.ค.-ต.ค. จะเจอผู้บาดเจ็บจากแมงกะพรุนกล่อง แต่ช่วงที่มีคลื่นลมแรงๆมักจะไม่เจอแมงกะพรุน แต่ถ้าช่วงที่คลื่นลมสงบหรือลักษณะเป็นอ่าวโค้ง หลังฝนตกใหม่ๆ ช่วงเวลากลางคืน มักจะพบแมงกะพรุนกล่อง จึงไม่แนะนำให้ลงเล่นน้ำ แต่ถ้าหาดไหนมีตาข่ายกั้นแมงกะพรุนลักษณะตัวตาข่ายข้างล่างติดพื้นข้างบนลอยน้ำแนะนำให้เล่นในบริเวณตาข่าย หรือสวมใส่ชุดแบบเต็มตัวและแนบกับผิวหนังเพื้อป้องกัน

"หากพบว่ามีคนถูกพิษแมงกะพรุนกล่อง ต้องรีบใช้น้ำส้มสายชูเท่านั้นราดไปที่บาดแผลต่อเนื่อง 30 วินาทีเป็นอย่างน้อย ห้ามเอาทราย น้ำทะเล น้ำเปล่า ผักบุ้งทะเล ไปถูที่บริเวณบาดแผลเพราะจะทำให้พิษเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น หากไม่มีสัญญาณชีพให้รีบทำการปั๋มหัวใจทันที พร้อมกับเรียกรถพยาบาลเพื่อนำส่งโรงพยาบาล" ศ.ดร.พญ.ลักขณา กล่าว

จากสถิติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 ถึงปัจจุบัน พบว่ามีผู้เสียชีวิตจากพิษของแมงกะพรุนกล่อง 10 ราย เกาะสมุยและเกาะพะงัน รวม 9 ราย สถานที่อื่นอีก 1 ราย ส่วนปีนี้ยังไม่พบผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากแมงกะพรุนกล่อง ส่วนหนึ่งอาจมาจากนักท่องเที่ยวน้อยลง


https://www.dailynews.co.th/news/918587/