สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 20 เมษายน 2565

[สายน้ำ]

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมบริเวณดังกล่าว ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคกลางด้านตะวันตก จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ใกล้สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง และเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองซึ่งอาจเกิดอันตรายจากลมกระโชกแรงได้ เกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 19 - 20 เม.ย. 65 ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง และฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่

ส่วนในช่วงวันที่ 21 - 25 เม.ย. 65 หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมบริเวณดังกล่าว ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 19 - 20 เม.ย. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650420_Forecast1.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/239aa389-0b92-44ee-9af8-c7774e372c3b/p/3a980e71-d1a3-4187-8ba3-6615fc71a71c)


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650420_Sat1.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/239aa389-0b92-44ee-9af8-c7774e372c3b/p/3e68d863-cefd-4a79-8431-739e69f82856)


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650420_Warning02.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/239aa389-0b92-44ee-9af8-c7774e372c3b/p/3ca97c22-b792-401b-9982-56430b70970c)

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


อันซีนพังงา "สะพานนาใต้" หาดทรายขาวชวนเล่น พร้อมชมพระอาทิตย์ตกบนสะพานยื่นไปในทะเล

ชวนเที่ยว "สะพานนาใต้" จุดชมพระอาทิตย์ตกดินบนสะพานที่ยื่นไปในทะเล บริเวณชายหาดนาใต้ จ.พังงา ชายหาดที่มีหาดทรายขาวละเอียดความยาวกว่า 7 กิโลเมตร

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650420_Mgr_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/239aa389-0b92-44ee-9af8-c7774e372c3b/p/e5b2b1b4-7382-434b-8c4b-f316660373e1)
ภาพจากเพจทัพเรือภาคที่ ๓

เพจเฟซบุ๊กทัพเรือภาคที่ ๓ โพสต์ภาพ "สะพานนาใต้" อีกหนึ่งจุดเช็กอินในจังหวัดพังงา พร้อมโพสต์ข้อความว่า

สีสันวันหยุด กับ "สะพานนาใต้" จังหวัดพังงา สะพานนาใต้ ตั้งอยู่ที่ชายหาดนาใต้ ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จว.พังงา ลักษณะทั่วไปของชายหาดแห่งนี้ คือเป็นหาดที่มีทรายเม็ดละเอียด ขาวสะอาด และมีความยาวสุดลูกหูลูกตา กว่า 7 กม.

มนต์เสน่ห์ของที่นี่คือ ความสงบ ความเป็นธรรมชาติ และความเป็นกันเองของผู้คน จึงไม่แปลกที่จะมีโรงแรม วิลล่า บ้านพักตากอากาศ และบีชคลับ ขึ้นอยู่เรียงรายหลายแห่ง นอกจากนั้นแล้วที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ตกปลาขึ้นชื่อของจังหวัดพังงาอีกด้วย มีชาวบ้านและนักตกปลาทั่วไป เดินทางมาตกปลากันตลอดทั้งวันทั้งคืน

ส่วนบรรยากาศในตอนเย็น ๆ นั้น เหมาะสำหรับการนั่งชมพระอาทิตย์ตกน้ำเป็นอย่างยิ่ง ผู้คนมากมายต่างพาครอบครัวมานั่งชมบรรยากาศ และมาเล่นน้ำทะเลกันอย่างสนุกสนาน และที่สำคัญจะมีอาหารทะเลสดๆ อาทิ กุ้ง หอย ปู ปลา ขายกันแบบสด ๆ แถมราคาไม่แพงอีกด้วย


https://mgronline.com/travel/detail/9650000036922

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


ขั้วโลกใต้หดตัวสถิติ โลกร้อนวิกฤตทำระดับน้ำทะเลขยับตัวสูงต่อเนื่อง

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650420_Khaosod_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/239aa389-0b92-44ee-9af8-c7774e372c3b/p/4872c202-7c14-4316-8d38-e01d981ea4f2)

ขั้วโลกใต้หดตัวสถิติ ? วันที่ 19 เม.ย. เดลีเมล์รายงานว่า ทวีปแอนตาร์กติกา หรือขั้วโลกใต้ มีขนาดลดลงเล็กที่สุดนับตั้งแต่มีการจดบันทึกมาเนื่องจากการละลายของแผ่นน้ำแข็งที่มีสาเหตุมาจากปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หรือโลกร้อน

ผลการศึกษาดังกล่าวมาจากฝีมือของคณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยซุนยัดเซ็น เมืองกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ร่วมมือกับศูนย์ข้อมูลด้านหิมะและน้ำแข็งแห่งชาติ ตรวจวัด ณ วันที่ 25 ก.พ. พบความหนาของแผ่นน้ำแข็งลดลงถึงร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับช่วงปี 2524-2534

นักวิจัยพบว่าขนาดโดยรวมของธารน้ำแข็งขั้วโลกใต้ลดลงเหลือเพียงประมาณ 2 ล้านตารางกิโลเมตรเท่านั้น เนื่องจากอัตราของการละลายจากภาวะโลกร้อนนั้นสูงกว่าอัตราการเกิดของธารน้ำแข็งในฤดูหนาวที่น้ำแข็งนั้นมีอัตราการเกิดใหม่เพียงร้อยละ 1 ตั้งแต่ปี 2513 เป็นต้นมา

การศึกษาความผิดปกติที่เกิดขึ้นพบว่ามาจากช่วงฤดูร้อนของขั้วโลกใต้ โดยเฉพาะการเคลื่อนของกระแสลมร้อนจากทะเลอามันด์เซนทางตะวันตกและทะเลเวดเดลล์ทางตะวันออกของทวีป รวมกับความเข้มแสงที่ตกกระทบผิวน้ำแข็งและอุณหภูมิสภาพแวดล้อมที่สูงขึ้น

นายชิงหัว หยาง หนึ่งในคณะนักวิจัย กล่าวว่า ธารน้ำแข็งนั้นมีคุณสมบัติการกระจายความร้อนต่ำและการดูดซึมความร้อนที่สูงกว่าผิวน้ำทะเล ทำให้การละลายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และผิวน้ำทะเลอุ่นขึ้น กลายเป็นวงจรเร่งการละลาย

ผลการศึกษาข้างต้นยังเกิดขึ้นในช่วงเดียวกันกับอีกการศึกษาที่พบว่าระดับน้ำทะเลทั่วโลกจะสูงขึ้นถึง 3 เมตร หากธารน้ำแข็งทเวตส์ (แผ่นน้ำแข็งทางตะวันตกของทวีป) ละลายจนหมด ส่งผลให้มหานครใหญ่อย่างนครเซี่ยงไฮ้ และกรุงลอนดอน รวมถึงพื้นที่ลาดลุ่มอย่างรัฐฟลอริดาของสหรัฐอเมริกา ประเทศบังกลาเทศถูกทะเลกลืน ตลอดจนหมู่เกาะมัลดีฟส์ด้วย

ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์คาดว่าด้วยอัตราการละลายที่เกิดขึ้นในขั้วโลกใต้นั้นธารน้ำแข็งดังกล่าวจะละลายหมดภายในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้านี้ โดยมหานครซิดนีย์ในออสเตรเลีย และนิวยอร์กในสหรัฐฯ จะถูกน้ำทะเลไหลเข้าท่วมอย่างสมบูรณ์


https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_7005130