PDA

View Full Version : สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน 2565


สายน้ำ
21-04-2022, 02:52
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกยังคงมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 20 - 21 เม.ย. 65 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง และฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางพื้นที่

ส่วนในช่วงวันที่ 22 - 26 เม.ย. 65 หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมบริเวณดังกล่าว ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 20 - 21 เม.ย. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 22-26 เม.ย. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนไว้ด้วย


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650421_Forecast1.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/239aa389-0b92-44ee-9af8-c7774e372c3b/p/69ee5256-4a16-4b6a-8ee2-39f273f0abfb)


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650421_Sat1.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/239aa389-0b92-44ee-9af8-c7774e372c3b/p/4c160ba0-db8a-4878-825d-4f6f03558189)


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650421_Warning.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/239aa389-0b92-44ee-9af8-c7774e372c3b/p/ed54541d-c13d-4fb3-9a79-a215f6b45d6b)


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650421_Warning02.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/239aa389-0b92-44ee-9af8-c7774e372c3b/p/11d0b718-ab0a-47d6-b1cf-cbd10b64cb95)

สายน้ำ
21-04-2022, 03:39
ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


ชาวหนิงโปรวมพลังช่วย 'วาฬยักษ์' เกยตื้น กลับคืนสู่ท้องทะเล

ชาวเมืองหนิงโป ในภาคตะวันออกของจีน ร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือวาฬยักษ์เกยตื้น ให้กลับคืนสู่ท้องทะเลได้อีกครั้ง

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650421_Dailynews_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/239aa389-0b92-44ee-9af8-c7774e372c3b/p/24329c5d-e52b-4af7-9037-c30d1d5a0d2c)
ข้อมูล-ภาพ : XINHUA

สำนักข่าวซินหัวรายงานจากเมืองหางโจว ประเทศจีน เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ว่าทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยท้องถิ่น ในมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน สามารถอพยพวาฬเกยตื้นตัวใหญ่ยักษ์กลับสู่น้ำลึก หลังจากดำเนินภารกิจช่วยเหลือนาน 20 ชั่วโมง

รายงานระบุว่า ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ลากจูงวาฬเคราะห์ร้ายลงสู่น่านน้ำ จนกระทั่งมันสามารถว่ายกลับลงทะเลลึกอย่างปลอดภัย เมื่อช่วงเช้าของวันพุธตามเวลาท้องถิ่น โดยก่อนหน้านั้น ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยตัดสายเคเบิลลากจูง และปล่อยวาฬเป็นอิสระในน่านน้ำลึก

ทั้งนี้ วาฬตัวดังกล่าวเกยตื้นใกล้อำเภอเซียงซาน ของนครหนิงโป เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่การประมงและการกู้ภัยท้องถิ่นรุดเข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

ทีมเจ้าหน้าที่และชาวบ้านท้องถิ่นเริ่มภารกิจช่วยเหลือ ด้วยการระดมสาดรดน้ำให้วาฬเกยตื้น ซึ่งมีลำตัวยาว 20 เมตร และขุดร่องลึกเติมน้ำทะเลรอบตัววาฬ.


https://www.dailynews.co.th/news/974522/

สายน้ำ
21-04-2022, 03:41
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


เฮ! ปะการังอ่าวมาหยา จ.กระบี่ ฟื้นตัวเกือบ 100%

กระบี่ - คณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ลงติดตามการฟื้นตัวของปะการังอ่าวมาหยา เกาะพีพี พบแนวโน้มมีการฟื้นตัวกลับมาสู่สภาพเกือบสมบูรณ์ 100%

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650421_Mgr_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/239aa389-0b92-44ee-9af8-c7774e372c3b/p/20996529-02fa-4f0f-930d-f19fbbcd58c6)

วันนี้ (20 เม.ย.) นายสรชัด สุจิตต์ รองประธานคณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 นายจรัล ด้วงแป้น ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สบอ.5 นายวิษณุ แจ้งใจ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 นายฑีฆาวุฒิ ศรีบุรินทร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ลงพื้นที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พพ.5 (อ่าวมาหยา) อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เพื่อติดตามการฟื้นตัวของปะการังบริเวณอ่าวมาหยา หลังจากที่ทางกรมอุทยานฯ ได้ทำการฟื้นฟูตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา พบว่า ปะการังมีการฟื้นตัวดี กลับมาสู่สภาพเกือบสมบูรณ์ 100%

นายสรชัด เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่อ่าวมาหยา และทะเลบริเวณโดยรอบอ่าวมาหยาและเกาะพีพี เป็นแหล่งที่มีปะการังที่สวยงาม จึงเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ปะการังเริ่มมีการเสื่อมโทรม และจากการติดตามในหลายปีที่ผ่านมาพบว่าปะการังเสียหายอย่างหนักเนื่องจากขาดการบริหารจัดการที่ดี แต่หลังจากที่ได้มีการประกาศปิดและทำการฟื้นฟู พบว่า ปะการังสามารถฟื้นตัวได้ดี ซึ่งจากที่ได้มีการปิดมากว่า 2 ปี พบว่าปะการังฟื้นตัวได้ดี แต่จะให้กลับมาเหมือนเดิมคงต้องใช้เวลาอีกหลายปี

สำหรับการท่องเที่ยวในปัจจุบันจะต้องมีการจัดการอย่างเป็นระบบ ทั้งจำกัดจำนวนคนและกติกาต่างๆ เพื่อปกป้องปะการังให้อยู่คู่กับแหล่งท่องเที่ยวไปอย่างยั่งยืน ซึ่งตัวชี้วัดที่บ่งบอกว่าปะการังมีการฟื้นตัวได้ดี คือปลาฉลามหูดำ ที่เข้ามาเวียนว่ายอยู่บริเวณอ่าวมาหยา และหลายพื้นที่ของเกาะพีพี มีเป็นจำนวนมากขึ้น และเชื่อว่าอีกประมาณ 4-5 ปี ปะการังจะมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับการท่องเที่ยวบริเวณนี้จะต้องมีการคิดกันต่อไปว่าจะมีการจัดการอย่างไรให้สามารถท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืน และไม่ทำลายระบบนิเวศสิ่งแวดล้อมในพื้นที่


https://mgronline.com/south/detail/9650000037753

สายน้ำ
21-04-2022, 03:44
ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


'ฉลามวาฬ'ทะเลเกาะพีพี ว่ายน้ำเล่นอวดโฉมอย่างเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650421_Naewna_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/239aa389-0b92-44ee-9af8-c7774e372c3b/p/884e33ad-b690-4db4-b6ef-a6c72e581bff)

20 เมษายน 2565 โลกออนไน์ ผู้ใช้เฟสบุ๊คซึ่งเป็นนักดำรายหนึ่งบนเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความคลิปวีดีโอ ขณะดำน้ำแล้วเจอฉลามวาฬ ระบุว่า'วันแห่งความโชคดี เราดำน้ำกับฉลามวาฬวันนี้ ที่ Island Dives พร้อมคลิปฉลามวาฬขนาดใหญ่ ว่ายวนเวียนไปมา'

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของเฟสบุคดังกล่าว ชื่อนายจิรศักดิ์ พุทธวรรณ เป็น ผจก. สถานประกอบการ ดำน้ำไอส์แลนด์ไดฟ์เวอร์ เกาะพีพี บ.ชาวเกาะบริการ ที่เป็นเจ้าของคลิป เล่าว่า เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ขณะที่ตนนำนักท่องเที่ยวลงไปดำน้ำบริเวณเกาะบิดะนอกพื้นที่เกาะพีพี ชมความงามของแหล่งปะการังใต้น้ำ

ตอนที่กำลังถ่ายบรรยากาศใต้น้ำในขณะที่ดำน้ำอยู่นั้น ต้องตกใจและตื่นเต้นเป็นที่สุด เมื่อได้เจอกับฉลามวาฬขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 7-10 เมตร ว่ายเข้ามาใกล้อย่างเป็นมิตร และมีความคุ้นเคยไม่มีท่าที่จะทำร้าย เข้ามาว่ายเล่นอวดโฉมให้กับนักท่องเที่ยวที่มาดำน้ำได้ถ่ายภาพ

นายจิรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ กว่า 2 ปี ที่ผ่านมา เจอพิษโควิดทำให้นักท่องเที่ยวไม่มาเที่ยวเกาะพีพี ทำให้สภาพระบบนิเวศในหมู่เกาะต่างๆของเกาะพีพีได้พักฟื้นตัว ทำให้มีสัตว์น้ำต่างๆแพร่พันธุ์และเข้ามาอาศัยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสัตว์ทะเลหายาก ตอนนี้ใต้ทะเลเกาพีพีมีความสวยงามมากขึ้น นอกจากนี้ยังพบฉลามหูดำเข้ามาในพื้นที่ประมาณ 60-100 ตัว มีกุ้ง ปลาสวยงาม ปลาการ์ตูน กลับมาอีกครั้ง


https://www.naewna.com/likesara/648522

สายน้ำ
21-04-2022, 03:48
ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


อธิบดี ทช.สั่งระงับไถป่าชายเลนเกาะพระทอง-ขัดมติครม.คุ้มครอง

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650421_TPBS_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/239aa389-0b92-44ee-9af8-c7774e372c3b/p/6e396e69-e80f-4771-8f39-b977dd9d4f5e)

อธิบดี ทช.สั่งระงับโครงการไถปรับพื้นที่ป่าเสม็ด บนเกาะพระทอง จ.พังงา อันซีนไทยแลนด์ปี'46 หลังพบมีการปรับพื้นที่ทำแก้มลิงสร้างอ่างเก็บน้ำ ในเขตป่าชายเลนตามมติ ครม. และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต พรุ่งนี้ (21 เม.ย.) ส่งจนท.ตรวจสอบความเสียหาย

ความคืบหน้ากรณีพบการไถพื้นที่ป่าเสม็ด ป่าชายเลนบนเกาะพระทอง จ.พังงา เสียหายเป็นวงกว้าง วันนี้ (20 เม.ย.2565) นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า เบื้องต้นตรวจสอบจากแผนที่พบว่าจุดโครงการก่อสร้างแก้มลิงเกาะพระทอง จ.พังงา เนื้อที่ 250 ไร่พบมีการเข้าไปไถปรับพื้นที่มีต้นเสม็ดล้มระเนระนาดเสียหายเป็นวงกว้าง โดยพื้นที่ทั้งหมดอยู่ในเขตป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) 22 ส.ค.2543 และ 17 ส.ค.2543 และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเลนโครงการอำเภอคุระบุรี แปลงที่หนึ่งทั้งแปลง

อธิบดีทช.กล่าวว่า พื้นที่ร้องเรียนดังกล่าวคาดว่า เป็นพื้นที่โครงการแก้มลิงเกาะพระทอง เนื้อที่ประมาณ 250 ไร่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่โครงการก่อสร้างติดตั้งระบบโซล่าเชลล์ระบบประปา หมู่ที่ 1 บ้านทุ่งค่าย ต.เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา ขององค์การบริหารส่วนตำบลเกาะพระทอง (อบต.) โดยมีพื้นที่ที่ถูกเปลี่ยนแปลงสภาพประมาณ 15.02 ไร่ แบ่งเป็น พื้นที่อ่างเก็บน้ำ 14 ไร่ อยู่ในเขตป่าชายเลนตามมติ ครม.เนื้อที่ประมาณ 12.57 ไร่

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650421_TPBS_02.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/239aa389-0b92-44ee-9af8-c7774e372c3b/p/7d927de4-60fe-424f-a39d-97d3666c638c)
ภาพ : Punnawis Onrthammarats


สั่งระงับทันที-ขัดมติครม.ป่าชายเลน

นายโสภณ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบแล้วไม่พบว่าไม่พบเอกสารการยื่นคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งถูกคุ้มครองตามมติ ครม.และไม่พบอยู่ในในพื้นที่ ฐานคดีที่เกี่ยวกับการทำลายทรัพยากรป่าชายเลนที่มีการร้องเรียนเข้ามาก่อน รวมทั้งไม่อยู่ในพื้นที่ปลูกและบำรุงป่าชายเลน และไม่อยู่ในพื้นที่โครงการกำหนด และประกาศเขตพื้นที่ป่าชายเลนอนุรักษ์ และออกกฎกระทรวง
ตามมาตรา 18 แห่งพ.ร.บ.ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ.2558 ดังนั้นจึงถือเป็นทำผิดมติ ครม.ข้อหาแผ้วถาง ทำลายบุกรุกป่า

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650421_TPBS_03.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/239aa389-0b92-44ee-9af8-c7774e372c3b/p/003b38e0-4ac5-4bf0-916f-fe089e1ee6d7)
ภาพ : Punnawis Onrthammarats

หากดูตามแผนที่พบว่ารูปแปลงโครงการเนื้อที่ 250 ไร่ และพื้นที่สีแดงที่เป็นแปลงสภาพรูปตัวแอลสีเหลือง เนื้อที่ถูกถางน่าจะอยู่รอบแนวอ่างเก็บน้ำ ถือเป็นการปรับไถพื้นที่ป่าชายเลน โดยไม่ได้รับอนุญาต ทช.ไม่เคยได้รับหนังสือ เพื่อขอยกเว้นการใช้พื้นที่ แม้จะเป็นโครงการสาธารณูปโภค และประโยชน์สาธารณะ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ก่อน หากไม่ได้รับการยกเว้นตามมติ ครม.

"ตอนนี้ขอให้สั่งระงับการดำเนินการทั้งหมด และต้องหยุดอย่างสิ้นเชิง เพราะถือว่าผิดอย่างชัดเจน และพรุ่งนี้(21 เม.ย.) จะมีการส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจวัดพิกัดพื้นที่ และตรวจสอบชนิดไม้ ที่ถูกไถปรับเสียหายกี่ต้น กี่ไร่ และขั้นตอนต่อไปจะอาจจะแจ้งเอาผิดเพราะเป็นการเปิดพื้นที่ป่า"

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650421_TPBS_04.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/239aa389-0b92-44ee-9af8-c7774e372c3b/p/9df7e059-3a76-456b-a9ae-2c93fd4f8805)
ภาพ:กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.)

สำหรับเกาะพระทอง มีความหลากหลายทางชีวภาพ เพราะมีทั้งชายหาด ป่าชายหาด ป่าชายเลน ป่าพรุ ป่าเสม็ด ทุ่งหญ้า ไม้พุ่ม พืชสังคมทดแทน กล้วยไม้หายาก สัตว์ทะเล สัตว์ป่า สัตว์หายาก โดยปี 2546 เกาะพระทอง ได้รับเลือกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์ "Unseen Thailand" เนื่องจากส่วนบริเวณกลางเกาะเป็นทุ่งหญ้าสะวันนาขนาดใหญ่ที่มีต้นเสม็ดแคระ ขึ้นกระจายอย่างสวยงามมาก ซึ่งถือเป็นป่าทุ่งหญ้าสะวันนากลางทะเลขนาดใหญ่หนึ่งเดียวในเมืองไทย


https://news.thaipbs.or.th/content/314728