เข้าระบบ

View Full Version : สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ ที่ 29 สิงหาคม 2565


สายน้ำ
29-08-2022, 02:29
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 29 ? 31 ส.ค. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทย ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันออก ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 1 - 3 ก.ย. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 29 ส.ค. ? 3 ก.ย. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากโดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650829_Forecast1.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/411bec8d-17d6-40d2-bc07-f33741fa99ed/p/e635d1d5-4fa5-459b-b350-bf58abc2d569)


https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650829_Sat1.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/411bec8d-17d6-40d2-bc07-f33741fa99ed/p/fd273f94-4bba-4e55-a10b-2855976a3eed)

สายน้ำ
29-08-2022, 02:31
ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


ออสเตรเลียผุดแผนฟื้นฟู ''สภาพแวดล้อมทางทะเล'' ของอ่าวซิดนีย์

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650829_Dailynews_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/411bec8d-17d6-40d2-bc07-f33741fa99ed/p/6645e950-1988-4471-ac5d-574d1c749a7e)

สำนักข่าวซินหัวรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมือวันที่ 28 ส.ค. ว่า ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย ประกาศแผนริเริ่มการฟื้นฟูป่าสาหร่ายทะเลและประชากรม้าน้ำ ในอ่าวซิดนีย์ โดยใช้งบประมาณ 9.1 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ( ราว 226 ล้านบาท ) แบ่งเป็นการจัดสรรสำหรับ 3 โครงการ ได้แก่ การติดตั้งผนังกั้นน้ำทะเลที่มีชีวิตและการปลูกทุ่งหญ้าทะเล รวมถึงป่าสาหร่ายทะเล การจัดทำสำมะโนประชากรเพนกวิน และการประเมินที่อยู่อาศัยของแมวน้ำ

ทั้งนี้ มากกว่า 85% ของประชาชนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ อาศัยอยู่ห่างจากชายฝั่งในระยะ 50 กิโลเมตร ส่งผลให้แนวชายฝั่งอ่าวซิดนีย์มากกว่า 50% เต็มไปด้วยโครงสร้างเมือง รวมถึงมีคนทำงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวชายฝั่งมากกว่า 142,000 คน ระดับความหนาแน่นของเมืองจึงก่อให้เกิดทั้งความท้าทาย และการพึ่งพาระบบนิเวศทางทะเลชายฝั่ง

อนึ่ง แผนริเริ่มดังกล่าว เป็นการดำเนินงานร่วมกับสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลแห่งซิดนีย์ สมาคมอนุรักษ์ทารองกาแห่งออสเตรเลีย และหน่วยงานบริการสัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติของรัฐนิวเซาท์เวลส์


https://www.dailynews.co.th/news/1408263/

สายน้ำ
29-08-2022, 02:35
ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


เมนูเด็ดจากท้องทะเล 'ปลาเหล็กโคนทอดกรอบ' ถูกปาก แคลเซียมสูง

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650829_Naewna_01.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/411bec8d-17d6-40d2-bc07-f33741fa99ed/p/2db62b47-9ceb-419d-bd8b-a3ebb5050335)

วันนี้ "ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์" จะพาไปที่บ้านเขาปิหลาย หมู่ 14 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ชาวประมงพื้นบ้านที่นี่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำประมงพื้นบ้าน ออกเรือหัวโทงหาปลา หนึ่งในนั้นคือ ปลาเหล็กโคน อาหารท้องถิ่นที่กำลังเป็นที่นิยมของร้านอาหาร ภัตตาคาร แคลเซียมสูง โดยปลาเหล็กโคนจะอยู่รวมกันเป็นฝูง ลำตัวมีขนาดเล็กประมาณเท่านิ้วมือ ยาวประมาณหนึ่งคืบ

บังหมาด เล่าให้ฟังว่า ลักษณะการอยู่อาศัยของปลาเหล็กโคน จะอาศัยอยู่กันเป็นฝูง จุดสังเกตเวลาจะหาปลาเหล็กโคนคือ จะเห็นเป็นเงาสะท้อนขึ้นมาจากผิวน้ำระยิบระยับ และกระโดดไปมาบริเวณผิวน้ำ ซึ่งจะสามารถหาได้ช่วงหลังจากที่หมดมรสุม เป็นชนิดปลาที่สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องทะเลไม่ว่าจะเป็นพังงา-ภูเก็ต - ชุมพร ทั้งทะเลอันดามันและอ่าวไทย โดยอุปกรณ์ที่จะใช้หาปลาเหล็กโคนคือแหซึ่งมีขนาดตาของแหอยู่ที่ 1.7 เซ็นติเมตร โดยจะรอจังหวะที่ฝูงปลาเหล็กโคนกระโดดเข้าใกล้ชายหาด

โดยปลาเหล็กโคนจะกระโดดขึ้นมาเหนือน้ำเนื่องจากว่ามีปลาขนาดใหญ่ไล่ต้อนมาจากใต้น้ำทำให้ปลาเหล็กโคนกระโดดขึ้นมาเหนือผิวน้ำ จากนั้นเราก็จะเหวี่ยงแหออกไป ถ้าจังหวะดีก็ได้ปลาเหล็กโคนติดแหขึ้นมาจำนวนมาก ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ได้ปลาเหล็กโคน 5-10 กิโลกรัม วันไหนโชคไม่ดีก็ได้ไม่มาก ส่วนมากเมื่อได้ปลามาก็จะนำมาแจกจ่ายให้กับชุมชนในหมู่บ้านแบ่งกันกินเป็นวิถีชีวิตชาวบ้านที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันและกันที่ชุมชนบ้านเขาปิหลาย หากเหลือจากการแบ่งปันกันแล้ว ก็จะนำไปขายให้กับร้านอาหาร ภัตตาคารในราคา กิโลกรัมละ 30-40 บาท ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของร้านอาหาร ลูกค้าถูกใจในรสชาติเนื่องจากมีแคลเซี่ยมสูง กินได้ทั้งตัว

จากวิถีชีวิตท้องถิ่น เข้าสู่ร้านอาหาร พื้นบ้าน ทำให้ทางร้านท่านุ่น ซีฟู๊ด ก็เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารที่รับซื้อปลาเหล็กโคนจากชุมชนบ้านเขาปิหลาย เมนูที่ทางร้านนำมาขึ้นเมนูคือ ปลาเหล็กโคนหมักเกลือทอดกรอบ โดยขั้นตอนคือนำปลาเหล็กโคนมาขอดเกร็ดที่ส่วนตัวทั้ง 2 ด้านออกให้หมดครับ แล้วตัดส่วนของหัวปลาทิ้งเนื่องจากมีรสขมทำให้รสชาติความอร่อยของปลาเสียไป นำไปล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด 2-3 น้ำ จากนั้นนำมาหมักเกลือ หมักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อนปานกลาง นำปลาเหล็กโคนนำไปทอดจนเหลืองแล้วตักขึ้นพักจนน้ำมันสะเด็ดแล้วตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟในราคา จานละ 150 บาท ลูกค้าส่วนใหญ่ต่างติดใจในรสชาติเนื่องจาก หวาน กรอบ กินได้ทั้งตัว กินง่าย อีกทั้งยังมีแคลเซียมสูงอีกด้วย

นางวาสนา ช้องทอง อายุ 59 ปี? จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ตนเองเป็นลูกค้าประจำทางร้านหากแวะผ่านเข้า จ.ภูเก็ต จะแวะรับประทานร้านนี้ประจำ ซึ่งเพิ่งรับประทานปลาเหล็กโคนทอดกรอบเป็นครั้งแรกรู้ติดใจและชอบในรสชาติ

ส่วนนายเทพนิมิต สมทรง อายุ 28 ชาวสุราษฎร์ฯ กล่าวว่า ตนเองชื่นชอบอาหารพื้นบ้านอยู่แล้วเมื่อกินปลาเหล็กโคนทอดกรอบมีความรู้สึกว่าอร่อยกว่าที่คิดไว้ หลังจากนี้ตนเองไม่พลาดที่จะสั่งเมนูนี้แน่นอน


https://www.naewna.com/likesara/676277


******************************************************************************************************


ฮือฮา! นักดำน้ำเกาะพีพีพบกระเบนนกหน้าถ้ำไวกิ้ง เผยเป็นสัตว์ทะเลที่หาดูยาก

ฮือฮา! นักดำน้ำเกาะพีพีพบกระเบนขนาดใหญ่ที่บริเวณหน้าถ้ำไวกิ้งเกาะพีพี กระบี่ เผยเป็นสัตว์ทะเลที่หาดูยากพบไม่บ่อยนัก คาดเกิดจากความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรหลังปิดเกาะมานานกว่า 2 ปี ขณะที่นักวิชาการระบุเป็นกระเบนนก ยังไม่เป็นสัตว์คุ้มครอง

https://hosting.photobucket.com/images/aa455/saveoursea/650829_Naewna_02.jpg?width=960&height=720&fit=bounds (https://app.photobucket.com/u/saveoursea/a/411bec8d-17d6-40d2-bc07-f33741fa99ed/p/67fbfc3a-4cba-4228-957d-cde2dfa01bfc)

วันที่ 27 ส.ค.65 สร้างความใมฮือฮาในโลกโซเชี่ยลโดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการดำน้ำ ชมธรรมชาติใต้ท้องทะเล เมื่อนักประดาน้ำของบริษัท ชาวเกาะไดวิ่ง ที่เกาะพีพี จ.กระบี่ สามารถบันทึกปลากระเบนขนาดใหญ่ บนแผ่นหลังมีลายจุดเล็กๆ สีขาว ลำตัวกว้างประมาณ 1.5 เมตร ความยาวจากหัวจรดหางประมาณ 2.5 เมตร ขณะกำลังเวียนว่ายหากินอยู่ใต้ทะเลลึก ที่บริเวณถ้ำไวกิ้งใกล้ เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งเป็นการพบครั้งแรกในรอบ 2 ปีตั้งแต่มีการปิดเกาะในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 ซึ่งนับเป็นปลากระเบนขนาดใหญ่ที่พบเจอได้ไม่บ่อยนัก และหายไปนานจากทะเลเกาะพีพี

จากการสอบถามนายจิระศักดิ์ พุทธวรรณ นักดำน้ำที่เกาะพีพี เปิดเผยว่ากระเบนดังกล่าวเป็นกระเบนนกมีขนาดใหญ่ พบเจอที่บริเวณหน้าถ้ำไวกิ้ง หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เมื่อวานนี้ (26 ส.ค.) ทำให้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบดำน้ำลึกเป็นอย่างมาก นับเป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากกระเบนชนิดนี้จะหาดูพบเจอได้ยากมาก คาดว่าเป็นเพราะความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรใต้ทะเลเกาะพีพี หลังปิดเกาะช่วงการแพร่ระบาดของโควิดมานานกว่า 2 ปี ถือเป็นสีสันของการท่องเที่ยว

ด้านนายทัศพล กระจ่างดารา นักวิชาการประมงชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต) กล่าวว่า กระเบนนกหรือมีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า Aetobatus ocellatus ยังไม่ได้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่ผ่านมาพบโดยทั่วไปทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน แต่ปัจจุบันพบน้อยมากในทะเลไทย เนื่องจากที่ผ่านมามีการล่ากันมาก ซึ่งกระเบนชนิดนี้จะมีหางยาวปากแหลมคล้ายปากนก กินสัตว์หน้าดินเป็นอาหาร เช่น หอย ปู ส่วนที่อันตรายคือเงี่ยงที่บริเวณโคนหางไม่ควรไปสัมผัส ควรจะอยู่ห่างๆ ไม่ไปรบกวนมัน เวลาตกใจจะบินขึ้นมาเหนือน้ำทะเลได้ แต่ลอยอยู่ไม่กี่วินาที


https://www.naewna.com/likesara/676073