PDA

View Full Version : มาช่วยกันอนุรักษ์ไม้ไทยกันเถอะครับ


milo15
23-12-2009, 21:26
"โจนลงกลางชานร้านดอกไม้ ของขุนช้างสร้างไว้อยู่ดาษดื่น
รวยรสเกษรเมื่อค่อนคืน ชื่นชื่นลมชายสบายใจ
กระถางแถวแก้วเกดพิกุลแกม ยี่สุ่นแซมมะสังดัดดูไสว
สมอรัดดัดทรงสมละไม ตะขบข่อยตั้งไว้จังหวะกัน
ตะโกนาทิ้งกิ่งประกับยอด แทงทวยทอดอินพรหมนมสวรรค์
บ้างผลิดอกออกช่ออยู่ชูชัน แสงพระจันทร์จับแจ่มกระจ่างตา
ยี่สุ่นกุหลายมะลิซ้อน ซ่อนชู้ชูกลิ่นถวิลหา
ลำดวนยวนใจให้ไคลคลา สายหยุดหยุดช้าแล้วยืนชม......"
คำกลอนที่ผมยกขึ้นมานำเรื่องนี้ เอามาจาก "ขุนช้างขุนแผน ฉบับอ่านใหม่ของท่านอาจารย์ใหญ่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมท" ครับ เพราะอ่านแล้วมองเห็นภาพเลย บางท่านอาจจะเสมือนได้กลิ่นด้วยทีเดียว
วันนี้ผมไปรดน้ำต้นไม้ที่บ้านสวนนนทบุรี แถบบางใหญ่ พบว่าต้นวาสนา ออกดอกอยู่สามสี่ต้น หลังจากเฝ้ารออยู่ สามสี่ปีหลังจากออกดอกครั้งแรก ดีใจมากเนื่องจาก วาสนาแถบภาคกลางนี้ ไม่ใคร่จะออกดอก หรือออกดอกยากมาก บางคนชาวสวนแท้ๆ ยังบอกว่าไม่เคยเห็นดอกวาสนาเลย ตอนผมไปซื้อที่ปลูกบ้านทำไร่ที่พะเยา ( เกือบ 20 ปี มาแล้ว ) ช่วงหน้าหนาว เห็นวาสนาออกดอกกันเต็มไปหมด คนที่นั่นเขาบอกว่ามันเป็นอย่างนั้นทุกปีแหละ วาสนาที่บ้านผมเองที่พะเยาก็ออกดอกทุกปีเหมือนกัน เมื่อต้นเดือนนี้ไปมา ก็เห็นวาสนาในบ้านออกดอกพราว และหอมฟุ้งอบอวลไปหมด เมื่อตอนดึกๆ ได้ความรู้สึกแบบไทยๆดี
ที่พร่ำคุยมานี่ ก็เพียงอยากจะให้ พวกเราชาวสมาชิก sos หันมาสนใจกับไม้ดอกไม้ประดับพื้นบ้านของไทยเราบ้าง ซึงมีราคาถูก และส่วนใหญ่ดูแลง่าย แต่จะให้ผลที่ดีทางจิตใจแก่ผู้ปลูกผู้ดูแล เป็นอย่างมาก ไม่ลองไม่รู้ครับ
อยากจะให้ พวกเราชาวสมาชิก sos ลองพูดถึงต้นไม้ไทย ทีมีในบ้าน หรือที่ชอบ ว่ามีต้นอะไรในบ้านบ้าง ชอบเพราะอะไร ดูแลเองหรือเปล่า หรืออยากได้ต้นไม้อะไร ฯลฯ เป็นต้น คุณโป๋ ปลูกวาสนาที่บ้านภูโอบไว้บ้างหรือเปล่าครับ.....:D:D:D

สายชล
23-12-2009, 23:17
ขอสนับสนุนความคิดของพี่ milo15 ค่ะ...เพราะสองสายเอง พยายามหาไม้ไทยมาลงที่บ้านอยู่ แต่ขอกลับไปกรุงเทพฯก่อนนะคะ ค่อยให้คำตอบว่าตอนนี้ที่บ้านมีต้นอะไรบ้างและคิดจะปลูกต้นอะไรต่อไป

ต้นวาสนาออกดอก....โบราณเขาว่าวาสนาจะสูงส่ง เงินทองไหลมาเทมา ใช่ไหมคะพี่พจน์...:)

ดอกปีบ
24-12-2009, 07:09
มาร่วมหลงรักและอนุรักษ์ไม้ไทยด้วยคนครับลุงไมโลและพี่น้อย (ปีบ ก็ถือเป็นไม้ไทยเหมือนกันใช่ไหมครับ ฮ่าๆ) ..

ผมเห็นด้วยเหลือเกินว่าไม้ดอกไม้ประดับที่เห็นกันทั่วไป ชื่อเสียงเรียงนามอินเตอร์กันทั้งนั้น คนไทยน่าจะหันมารณรงค์เรื่องปลูกไม้ไทยกันให้มากขึ้นทั้งไม้ดอกไม้ประดับ

ส่วนตัวผม ชอบดอกไม้ไทยหอมๆทุกชนิดเลยครับ ทั้งปีบ สายหยุด จำปี จำปา มะลิ โมก แก้ว หลงรักในกลิ่นหอมเฉพาะของดอกไม้เหล่านี้ อยากได้อยากมีไว้ที่บ้านให้หมด ตอนนี้ก็มีแค่บางส่วนครับ ที่บ้านมีพื้นที่ปลูกต้นไม้ไม่มากนัก จริงๆอยากได้ปีบ แต่คงไม่มีพื้นที่ที่พอ คงต้นเน้นไม้กระถางเป็นหลักครับ

:)

milo15
24-12-2009, 09:07
อ.สองสายครับ ถ้าเป็นอย่างที่ว่า ผมขอแบ่งให้ สมาชิก sos เราทุกๆท่าน เป็นของขวัญวันปีใหม่นี้เลยนะครับ รวมทั้งขอให้มีสุขภาพดีทั้งกายและใจ เพื่อพร้อมที่จะทำงานร่วมกับ sos ซึ่งมี อ.สองสาย เป็นผู้นำ ตลอดไปครับ
น้องดอกปีบ ครับ ลองปลูกต้นปีบ หรือ กาสะลอง (ทางเหนือ) ลงในกระถางใบโตๆ แล้วคอยดูแล ให้ปุ๋ย ตัดแต่งกิ่ง ก็สามารถมีไว้ในบ้านได้ครับ ทั้งยังสามารถย้ายที่ตามต้องการได้อีกด้วย และไม่นานนักเขาก็จะออกดอกให้เชยชมครับ
สามีเพื่อนผมที่แม่กลอง ทดลองเอามะพร้าวน้ำหอมปลูกในกระถาง ปรากฎผล ว่า มะพร้าวนั้นสามารถออกลูกได้ตามปกติครับ น้องดอกปีบครับลองทำอะไรที่มันแปลกๆบ้าง จะได้ ตื่นเต้น ไม่ซ้ำซาก จำเจ น่าเบื่อ ลองดูนะ......

chickykai
24-12-2009, 13:28
ปลูกกระดังงาสิจ๊ะพี่ปี๊บ ดอกแข็ง สวย ทน หอมด้วย
ตอนหม่าม้าไก่ยังทำงาน หน้าบ้านพักก็ปลูกกระดังงา แล้วก็ชอบเก็บมาวางหน้าแอร์ด้วย หอมทั้งห้องเลยทีเดียว

admin
24-12-2009, 19:33
ต้นวาสนาที่บ้านภูโอบมีหลายต้น ขนาดเท่าข้อขาก็มีครับ แต่ผมขุดขึ้นมาจากดินเอามาพิงรั้วไว้ กำลังจะหากระถางมาลง จะได้ย้ายที่ได้ เสาร์นี้จะถ่ายภาพมาให้ดูครับ ที่ขุดเพราะว่าต้องปลูกหญ้าญี่ปุ่นนะครับ วาสนาทนแล้งมาก ไม่น่าจะสิ้นชีวิตนะครับ

ต้นไม้ที่อยากได้มากคือ แม่ช้อยนางรำ เห็นครั้งสุดท้ายหลายสิบปีมาแล้ว พอตบมือ ดอกจะไหวเหมือนกำลังร่ายรำครับ

ดอกปีบ
24-12-2009, 22:04
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับลุงไมโล ..
เคยคิดปลูกปีบในกระถางเหมือนกัน ตามที่เคยหาข้อมูลในเว็บ พบว่าความเห็นส่วนใหญ่ไม่เชียร์ให้ปลูก ตัวผมเองเคยปลูกในกระถางที่เมืองกาญจน์ เค้าสูงขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายต้องเอาไปลงในที่รกร้างแทน

สงสัยต้องลองดูอีกซักรอบตามคำแนะนำของลุงแล้วครับ

ตุ๊กแกผา
25-12-2009, 18:22
อิอิ...ของเราก็มีแหล่ะต้นปีบ

ที่ปลูกเนี่ย เพราะตอนนั้น(ปี30) เดินงานเกษตรแฟร์ เขาขายต้นเล็กๆ ประกอบกับกำลังเห่อ

สถาบันตัวเองเลยซื้อปีบ กับ ศรีตรังมาปลูก ( พ่อปลูกต้นไม้ที่รับประทานได้...ลูกสาวปลูกไม้ดอก....)

ตุ๊กแกผา
25-12-2009, 18:24
แม่ปลูกแต่พืชสวนครัว....ก็เลยเต็มบ้านไปหมด 5555555

ปัจจุบัน ต้นปีบที่บ้านใหญ่มั่กๆ คนแถวบ้านชอบกันใหญ่ เขาว่า.....กลิ่นมันหอมดี

แต่เราไม่ค่อยจะได้กลิ่นแฮ๊ะ......

ตอนนี้ที่บ้านแม่กะพี่สาวปลูกพืชมงคล เอาไว้จะไปดูว่ามีอะไรบ้าง

อยากเข้ากลุ่มกะพี่ๆเพื่อนๆด้วย......เดี๋ยวตกเทรน5555

ตุ๊กแกผา
25-12-2009, 18:26
จำได้มีไผ่สีสุก ต้นวาสนา โป๊ยเซียน บัวหลวง....เดี๋ยวกลับไปดูก่อนดีกว่า อิอิ

แม่หอย
25-12-2009, 23:43
สมัครเป็นสมาชิกชมรมคนรักต้นไม้ไทยด้วยคนค่ะ
ปลูกมาเยอะแยะมาก และหมดทรัพย์ไปหลายอยู่ แต่เหลือรอดไม่กี่ชนิด แต่ก็แน่นบริเวณบ้าน (หลวง) ที่อาศัยอยู่ แถมลามไปถึงข้างบ้านด้วยค่ะ อิอิ..
ตอนนี้ที่ลามที่สุดก็คือปีบ มันเที่ยวชอนไชรากออกไหลขึ้นเป็นต้นใหม่ไปทั่ว นอกจากปีบแล้ว
ปัจจุบันที่ปลุกไว้แล้วยังมีชีวิตยืนต้นอยู่ได้มีกระดังงาทั้งกระดังงาไทย (ต้นใหญ่มาก) กระดังงาจีนหรือการเวกก็ไม่ค่อยแน่ใจค่ะ กระดังงาสงขลา สายหยุด ลำดวน ยี่หุบ มณฑา ช่อมาลี (กุมาริกา) ลดาวัลย์ สายน้ำผึ้ง รสสุคนธ์ คัดเค้า หอมเจ็ดชั้น ประยงค์ โมก พวงคราม พุทธชาติ พุดซ้อน เขี้ยวกระแต มะลิซ้อน มะลิลา มะลิวัลย์ มะลิไส้ไก่ วาสนา พิกุล ฯลฯ
ไม่ยืนต้นที่ปลูกที่บ้านมีตะแบก เสลา มะตูม ฯลฯ
ที่จริงมีจำปี จำปา ปลูกไว้จนได้ชื่นชมดอก โดยเฉพาะจำปี ดอกดกมาก แต่หลายปีก่อน น้ำท่วมเอ่อในบึงข้างบ้าน ทำเอารากเน่า ตายไปหมดเลยค่ะ เสียดายมากค่ะ

Super_Srinuanray
26-12-2009, 13:59
ไม่ค่อยรู้จักดอกไม้ไทยเท่าไรนักค่ะ

เพราะไม่ค่อยได้ปลูก จำได้แต่ต้นจำปี ที่สมัยก่อนเก็บขาย หาค่าขนมกินทุกครั้งค่ะ

ตุ๊กแกผา
26-12-2009, 14:23
จริงด้วย....ตอนเด็กๆบ้าน(ของราชการ)อยู่ติดวังสวนกุหลาบ มีดอกไม้เยอะแยะ จำได้แต่ดอกพิกุล ที่มีชาวบ้านแถวนั้นมาเก็บกันแต่เช๊าาาาาาา เขาบอกว่าขายได้ตังค์ ก็ไปช่วยเขาเก็บ....ไม่ได้เงินหรอกค่ะ ที่ชอบเก็บเพราะชอบกลิ่น กับชอบดูตอนมันร่วงลงมาจากต้น....

milo15
26-12-2009, 18:08
อาจารย์แม่หอยครับ นานๆทีที่ผม ได้เห็นผู้ที่รู้จักต้นไม้หอมคลาสิคตระกูลกระดังงา ที่สามารถแยกแยะได้ คือ กระดังาไทย (ต้นใหญ่มาก) กระดังงาจีน หรือ การะเวก (ดอกกลีบแข็ง) กระดังงาสงขลา หรือกระดังงารนไฟ (ดอกเหมือนสายหยุดแต่บอบบางกว่าและกลีบดอกตอนปลายๆจะบิดเป็นเกลียว) และสายหยุด ที่บ้านผมมีและออกดอกทุกต้น ยกเว้นกระดังงาไทย ยังไม่ออกดอก คงเพิ่งปลูกได้สองปีครับ
ต้นเขี้ยวกระแตออกดอกเพีบงปีละครั้ง เป็นไม้ไทยโบราณครับ ผมได้มาจากสวนข้างวัดสวนแก้ว ปีนี้ต้นเขี้ยวกระแตและต้นวาสนา ของอาจารย์แม่หอยออกดอกหรือยังครับ
บ้านอาจารย์แม่หอยอยู่ใกล้ทะเล ไม่ลองปลูก ต้นสารภีทะเล หรือต้นกะทิงบ้างหรือครับ
ครูติ่งคงมีงานต้องทำมาก เลยไม่ค่อยได้ปลูกต้นไม้ ผมว่า หากครูติ่งลองหาต้นไม้มาปลูกบ้างสักต้นสองต้น สักพักหนึ่งจะรู้สึกว่ารู้ว่าปลูกต้นไม้แล้วดียังงี้ ปลูกไปนานแล้ว
ติ๋ว ลุงเองตอนเด็กๆก็ชอบเก็บดอกพิกุลเหมือนกัน แต่แย่งเก็บกับเพื่อนเณร ที่วัดใกล้บ้านนะ.....

milo15
26-12-2009, 22:14
คืนนี้นอนไม่หลับ เลยคิดว่าจะเล่าเรื่องแปลกๆเกี่ยวกับต้นไม้ไทย ให้สมาชิก sos อ่านขำๆเล่นดีกว่า เรื่องมีอยู่ว่า ที่บ้านพะเยา ผมปลูกไม้สมุนไพรไทย ไว้ต้นหนึ่งสัก 2-3 ปีมาแล้ว มีชื่อว่า" ต้นเขยตายแม่ยายชักปก " ตอนที่ผมซื้อผมถาม คนขายถึงความเป็นมาของชื่อเพราะแปลกดี
คนขายก็เล่าว่า " มีแม่ยายกับลูกเขยออกไปหาของป่ากัน บังเอิญลูกเขยถูกงูกัดตาย แม่ยายก็ตัดเอาต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ใกล้ๆบริเวณนั้น ปกคลุมศพลูกเขยไว้ก่อนจะเดินทางกลับบ้าน เพื่อไปตามญาติพี่น้องมาเคลื่อนย้ายศพ ขณะคนเหล่านั้นกำลังมา ก็เห็นลูกเขยเดินสวนทางมา ต่างแปลกใจที่ฟื้นมาได้ ก็สอนถามหาสาเหตุ ก็ได้ความว่าคงฟื้นเพราะต้นไม้นี้ในลักษณะต่างๆ จึงพาเรียกชื่อต้นไม้นี้ดังกล่าวข้างต้น "
ถ้าท่านสมาชิก sosท่านใด ต้องการจะทราบรายละเอียดมากกว่านี้ และเห็นภาพที่แจ่มชัด ก็ลอง พิมพ์ชื่อ ต้นเขยตาย เข้า search ใน google ดูครับ
คราวหน้าผม จะหาเรื่องเกี่ยวไม้ไทย ทั้งไม้ประดับ ไม้สมุนไพร ฯลฯ แปลกๆมาเล่าให้ฟังอีก หรือใครมีก็มาเล่าแลกเปลี่ยนกัน จะได้ทั้งความรู้ และสีสันครับ......

ตุ๊กแกผา
27-12-2009, 09:20
555555 อ่านมาแล้วค่ะ ด้วยความอยากรู้

ก็จะไม่ให้ฟื้นได้ไงค่ะ........ต้นเนี้ย มีชื่อมากมาย แต่มีชื่อหนึ่งที่เดาที่มาของการฟื้นได้

" พิษนาคราช "

ตุ๊กแกผา
27-12-2009, 09:21
ฮิฮิ.......อ่านของลุงMilo15 แล้วให้นึกถึงตำนานอีกต้นหนึ่ง....พ่อค้าตีเมีย........

ตุ๊กแกผา
27-12-2009, 09:35
เคยมีคนส่งมาให้ทางmail เรื่องต้นไม้และดอกไม้ประจำวันเกิด ซึ่งเชื่อกันว่า หากใครที่ปลูกต้นไม้หรือดอกไม้ประจำวันเกิด แล้วต้นไม้หรือดอกไม้เจริญเติบโตได้ดี ชีวิตก็จะก้าวหน้า ร่างกายแข็งแรงหรือถ้าออกดอกเบ่งบานดี เชื่อกันว่าจะมีความสุขความสมหวังเสมอ ตรงกันข้าม หากดอกไม้หรือต้นไม้เกิดเหี่ยวเฉาลงก็จะเป็นลางเตือนเจ้าของต้นไม้ ดอกไม้ได้เหมือนกัน มาลองดูกันค่ะ

วันอาทิตย์

ต้นไม้ประจำวันเกิดเป็น ต้นพวงแสด ต้นพุทธรักษา ต้นธรรมรักษา และต้นเยอร์บีร่าที่มีดอกสีส้ม ส่วนดอกไม้ประจำวันเกิดเป็นดอกกุหลาบสีส้ม จะถูกโฉลกกับคนที่เกิดวันอาทิตย์ ผู้มีนิสัยทะเยอทะยานและกระตือรือล้น ดอกไม้มีความหมายถึงความฝันอันยิ่งใหญ่ ดอกไม้อีกชนิดสำหรับผู้เกิดวันนี้คือ ดอกทานตะวัน อันเป็นสัญลักษณ์คู่กับพระอาทิตย์เสมอ บอกถึงเป็นคนที่เชื่อมั่น หัวสูง ถือตัว และหยิ่งในศักดิ์ศรีด้วย

วันจันทร์

ต้นไม้ประจำวันเกิดคือ ต้นมะลิ ต้นแก้ว ต้นพุด ต้นจำปี ยิ่งถ้าปลูกแล้วออกดอกหอม จะยิ่งโชคดี ดอกไม้ประจำวันเกิดคือดอกมะลิขาวสะอาด หมายถึงเป็นคนที่มีความนุ่มนวลอ่อนโยน เรียบร้อย
ส่วนดอกไม้อีกชนิดคือ ดอกกุหลาบขาว หมายถึงความรักที่อ่อนโยนและไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน เพราะคนวันจันทร์มักอ่อนไหวง่าย โรแมนติก และช่างฝัน

วันอังคาร

ต้นไม้ที่แสนดีคือ ต้นชัยพฤกษ์ ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ ต้นยี่โถ ออกดอกสีชมพู ต้นเข็มออกดอกสีชมพู ถ้าต้นไม้ออกดอกมากๆ บอกได้ว่าคนนั้นกำลังมีความสุขดอกไม้ประจำวันเกิดคือ ดอกกล้วยไม้ โดยเฉพาะที่ออกดอกสีชมพู เพราะมีความหมายถึงความรักที่ร้อนรุ่ม หวือหวา วูบวาบตามอารมณ์ของคนที่เกิดวันนี้

วันพุธ

ต้นไม้ประจำตัวคนที่เกิดวันพุธนั้นพิเศษกว่าคนอื่นตรงที่เป็นต้นไม้ใบเขียว โดยเฉพาะต้นกระดังงา ต้นสนฉัตร ดังนั้นควรปลูกต้นไม้เยอะๆ ถึงจะโชคดี ต้นไม้เหล่านั้นจะช่วยปกป้องคุ้มครองได้ คือ ดอกบัว หมายถึงจิตใจอันสงบ เพราะคนที่เกิดวันพุธมักชอบเป็นนักการทูตและรัก สันติภาพดอกไม้ประจำวันเกิดคือ คือดอกบัว ซึ่งคนที่เกิดวันพุธมักจะเป็นนักคำนวณ (เงิน) สีเหลืองอร่ามราวกับทองของดอกไม้ชิดนี้ หมายถึงรักต้องมาพร้อมเงิน

วันพฤหัสบดี

ต้นไม้ประจำตัวคือ ต้นโสน ต้นราชพฤกษ์ และต้นบานบุรี หากมีต้นไม้เหล่านี้อยู่ในบ้านจะช่วยคุ้มครองดูแล ดอกไม้ประจำวันเกิด คือ ดอกกุหลาบสีเหลือง หมายถึงการเปลี่ยนแปลงในเรื่องความรัก รักซ้อนซ่อนใจ เพราะคนที่เกิดวันนี้เป็นคนรักงายหน่ายเร็ว เจ้าชู้เล็กๆ ดอกไม้อีกชนิดหนึ่งคือดอกคาร์เนชั่นสีชมพู หมายถึงรักที่อ่อนโยนและอ่อนหวานคนที่เกิดวันนี้ จริงๆ แล้วเป็นคนสุภาพอ่อนโยนและมีอารมณ์ขัน น่ารักเหมือนดอกไม้นั่นแหละ

วันศุกร์

ต้นไม้ที่แสนดีของคนที่เกิดวันศุกร์คือ ต้นพยับหมอก ต้นแส ต้นอัญชัน
ส่วนดอกไม้ที่ถูกแลกโชคดีคือ กุหลาบทุกสี เพราะคนที่เกิดวันศุกร์มักเป็นนักรักที่ยิ่งใหญ่มีเสน่ห์ล้นเหลือหรือจะเป็นดอกไม้เจ้าเสน่ห์ที่มีความหมายหวานแหววแบบดอกไวโอแลตว่า "ฉันรักเธอแล้ว หากรักฉันก็บอกกันบ้างนะ" คนเกิดวันศุกร์บางอารมณ์ก็โลเล จึงได้ดอกลาเวนเดอร์ที่มีความหมายถึงรักที่สับสน ไม่แน่นอน ไปครองอีกดอกหนึ่ง

วันเสาร์

จะมีต้นไม้พวก ต้นกัลปังหา ต้นพวงคราม ต้นอินทนิล เป็นต้นไม้ประจำวันเกิด และดอกไม้ประจำวันเกิดคือ ดอกลิลลี่ อันหมายถึงรักครั้งแรก รักที่บริสุทธิ์เพราะคนที่เกิดวันเสาร์เป็นคนจริงจังและซีเรียส จึงรักใครยากหน่อย ทว่าดอกลิลี่เป็นดอกที่กระทบใจคนขี้เหงาวันเสาร์ได้ดีทีเดียว

ตุ๊กแกผา
27-12-2009, 14:03
ขนาดว่าดอกไม้ที่ประจำวันเกิดของเรา ก็ยังเป็นกุหลาบเลย.........ดอกลาเวนเดอร์อีกอย่าง กลิ่นสุดยอดทั้ง 2 อย่างเลย ตอนไปเที่ยวเมืองจีนเมื่อหลายปีก่อน เข้าไปในทุ่งลาเวนเดอร์....แทบแย่ มีแต่คนบอกว่าหอม.....เราเกือบเป็นลมเอาแน๊ะ555555 แต่ก็ทนได้เพราะรูปที่ไม่ได้ถ่ายกันง่ายๆ ไหนจะต้องคอยวิ่งหนีเด็กๆที่มาขอตังค์อีก......555555

สายชล
27-12-2009, 14:15
เอ้ออออ....อ้าาาาา....ตัวข้าพเจ้าเป็นคนทะเยอทะยาน...กระตือรือล้น แถมยังเชื่อมั่น หัวสูง ถือตัว และหยิ่งในศักดิ์ศรีซะด้วย ส่วนดอกไม้ก็ต้องออกสีแสด...สีส้ม...สีเหลือง ซึ่งเกลี๊ยด...เกลียด เข้าไปอีก....

คิกๆ...แม่นจริงๆหรือหนูติ๋ว...

ตุ๊กแกผา
27-12-2009, 14:32
แหะๆๆๆๆๆๆก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะพี่....เพราะของหนูก็มีทั้งกุหลาบงี้ ลาเวนเดอร์งี้ ไม่พิสมัยกลิ่นทั้ง 2 อย่างเลยค่ะ

แหะๆ แต่ว่าต้นพุทธรักษา กะ ดอกทานตะวันก็ดีน๊ะค่ะพี่....ความหมายดี ถึงจะเหลืองก็เหลืองสวย .......ถึงไม่ชอบสี แต่ปลูกไว้เสริมดวงก็ดีน๊ะค่ะ แต่สงสัยจะปลูกยาก....ที่บ้านพี่น้อยหามุมปลูกเจ้าพวกนี้ยากแฮ๊ะ.....ที่บ้านหนู พ่อปลูกไว้ที่รั้วหน้าบ้านโน่นเลย พ่อชอบเพราะเป็นสัญลักษณ์วันพ่อค่ะ

แม่หอย
27-12-2009, 16:45
อาจารย์แม่หอยครับ นานๆทีที่ผม ได้เห็นผู้ที่รู้จักต้นไม้หอมคลาสิคตระกูลกระดังงา ที่สามารถแยกแยะได้ คือ กระดังาไทย (ต้นใหญ่มาก) กระดังงาจีน หรือ การะเวก (ดอกกลีบแข็ง) กระดังงาสงขลา หรือกระดังงารนไฟ (ดอกเหมือนสายหยุดแต่บอบบางกว่าและกลีบดอกตอนปลายๆจะบิดเป็นเกลียว) และสายหยุด ที่บ้านผมมีและออกดอกทุกต้น ยกเว้นกระดังงาไทย ยังไม่ออกดอก คงเพิ่งปลูกได้สองปีครับ
ต้นเขี้ยวกระแตออกดอกเพีบงปีละครั้ง เป็นไม้ไทยโบราณครับ ผมได้มาจากสวนข้างวัดสวนแก้ว ปีนี้ต้นเขี้ยวกระแตและต้นวาสนา ของอาจารย์แม่หอยออกดอกหรือยังครับ
บ้านอาจารย์แม่หอยอยู่ใกล้ทะเล ไม่ลองปลูก ต้นสารภีทะเล หรือต้นกะทิงบ้างหรือครับ
.....

คุณพี่ milo15 คะ (ไม่กล้าเรียกคุณลุงอย่างพวกน้องๆ เพราะหนูแม่หอยน่ะจะเป็นป้าของน้องๆ แล้ว เลยขออนุญาตเรียกคุณพี่นะคะ)
กระดังงาไทยที่บ้านพักของแม่หอย ออกดอกมาก แต่ไม่ยักได้กลิ่นสักเท่าไร เพราะสูงเกิน ไปหอมที่บ้านอื่นหมด
วาสนาเคยออกดอกค่ะ แต่ปีนี้ถูกตัดลำต้นออกไปเลื่อยเป็นท่อนๆ เอาไปชำไว้อีก เลยไม่มีดอก
ส่วนเขี้ยวกระแต บริเวณที่อยู่คงร่มเกินไป ตอนนี้เลยไม่เห็นแววว่าจะออกดอก
กะทิงหรือสารภีทะเลนั้น ผอ.ท่านหนึ่งสมัยนานกว่า 10 ปีมาแล้ว ท่านปลูกเป็นแนวสองข้างทางบริเวณบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำของศูนย์ ออกดอกสะพรั่ง หอมอบอวล ใครมาเห็นตอนออกดอกเป็นต้องติดใจและสนใจขอเม็ดไปปลูกตามๆ กัน

เมื่อคืนยังมาคิดว่า หลงลืมเล่าตกหล่นไปอีกหลายชนิด เช่น เล็บมือนาง (อันนี้ก็ระบาดไปทั่ว ขุดทิ้งไม่หวาดไม่ไหวเลยค่ะ) กรรณิการ์ ชมนาด บุหงาส่าหรี เป็นต้น
ชอบไม้หอมๆ ค่ะ

แม่หอย
27-12-2009, 16:48
ส่วนคำทำนายของคุณหมอติ๋วนั้น อ่านแล้วขนลุกนิดหน่อย แม่หอยเกิดวันศุกร์น่ะ มันจะแม่นเร้อ.. ตำรานี้
แต่ว่าถูกใจสีม่วง เลยไม่ขัดข้องลาเวนเดอร์ อิอิ

ตุ๊กแกผา
27-12-2009, 17:39
เย้ๆๆๆๆๆๆๆวันเดียวกันเลยค่ะพี่แม่หอย

แหะๆๆๆ มันไม่ใช่คำทำนายของติ๋วหรอกค่ะ เพื่อนๆ(จำไม่ได้แล้วว่าใคร)ส่งมาให้น๊านนานมาแล้ว เห็นว่าน่าจะมีประโยชน์กับตัวเอง ถ้าเผื่อวันไหนเบื่อๆแล้วจะไปทำสวนหน้าบ้าน(ซึ่งยังไม่มีวี่แว่วเลย) ก็เลยเก็บเอาไว้ค่ะ

milo15
27-12-2009, 21:56
นอกจากไม้ไทยที่มีความสวยงาม มีกลิ่นหอม ฯลฯ ในด้านให้ความสุข ให้ความรื่นรมย์แก่เราแล้ว ไม้ไทยบางชนิดเป็นไม้มีพิษ โดยที่เรานึกไม่ถึง เพราะคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่ เราจึงควรรู้จักเอาไว้บ้าง เพื่อป้องกันตัวเอง และเด็กๆรอบๆตัวเราครับ
ต้นแรกคือต้นชวนชม เป็นไม้ประดับ ใบหนา ดอกสีแดงออกเป็นกระจุกสวยงาม ความเป็นพิษ คือ ยางสีขาว จากลำต้น ทำให้ผิวหนังเกิดผื่น อักเสบ คัน ถ้ารับประทานจะมีรสขม เป็นพิษต่อหัวใจ คนล่าสัตว์สมัยก่อนๆใช้ยางนี้ทาหัวลูกธนู ครับ

ต่อไป ต้นราตรี เป็นไม้พุ่มแกมเถา ดอกสีขาวเป็นกระจุกจำนวนมากที่ปลายกิ่งก้าน บานตอนเย็น มีกลิ่นหอมเย็น ชื่นใจ ความเป็นพิษ ผล ใบ และต้น ห้ามรับประทาน เพราะจะทำให้ปาก คอแห้ง ม่านตาขยาย หัวใจเต้นเร็ว หายใจช้า และปัสสาวะไม่ออก ครับ

ต่อไป ต้นมะกล่ำตาหนู ต้นนี้ต้องระวังเด็กๆ เพราะชอบเล่นและชอบอม โดยรู้เท่าไม่ถึงการ เป็นไม้เถา ดอกสีขาวแบบดอกถั่ว เป็นกระจุก มีฝักสีน้ำตาล เมื่อฝักแก่จะแตกออก เห็นเมล็ด รูปรีๆสีแดงหัวจุกสีดำติดกับขั้ว ในเมล็ดมีสารพิษ เมื่อรับประทาน จะระคายเคืองต่อช่องปาก อาเจียน ความดันโลหิตต่ำ กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ย เส้นเลือดขยายตัว หัวใจล้มเหลว ถึงตายได้ ครับ

ต่อไป ต้นผกากรอง เป็นไม้พุ่ม มีหลายสี นำไปต่อยอดกับตอไม้อื่นๆได้ง่าย นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ แต่ถ้าสัมผัสต้นแรงๆจะส่งกลิ่นเหม็นออกมา ความป็นพิษ อยู่ที่เมล็ด ถ้ารับประทาน จะทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ม่านตาขยาย ชีพจรผิดปกติ และหมดสติได้ครับ

วันนี้แค่นี้ก่อน แล้วจะมาต่อใหม่ พวกเราอย่าตกใจกลัวจนเลิกชอบ เลิกอนุรักษ์ไม้ไทยๆ เรานะครับ เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง ย่อมมีทั้งคุณ และโทษทั้งนั้น หรือมีทั้งด้านดีและไม่ดี ถ้าศึกษาให้รู้เขารู้เรา โดยถ่องแท้แล้ว เราก็สามารถเลือกใช้ให้ป็นประโยชน์ เหมาะแก่กาลเวลาได้ครับ.....

ตุ๊กแกผา
28-12-2009, 14:34
มีอีกต้นหนึ่งที่ทราบมานานแล้วค่ะ....และมีอยู่ช่วงหนึ่งนิยมนำมาทำกระทงด้วย

นั่นคือ...สาวน้อยประแป้ง มียางเป็นพิษ เช่นถูกผิวหนังแล้วทำให้คันมาก แล้วถ้าเผลอๆหากกินเข้าไปอาจอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ฉะนั้นใครจะปลูกเป็นไม้ประดับในบ้านระวังด้วยจ้า

milo15
28-12-2009, 19:08
ใช่เลย อย่างหมอติ๋วว่า แต่ขอเพิ่มเติมหน่อยนะ ว่าในส่วนของใบ ลำต้น มีผลึกของ แคลเซี่ยม อ๊อกซาเลท ชนิดไม่ละลายน้ำ ถ้าผลึกนี้เข้าปาก จะตำปาก ทำให้ปวดแสบปวดร้อน นอกจากนั้น ยังมีสาร protoanemonine ทำให้บวมแดง ที่ริมฝีปาก ลิ้น หลอดอาหาร ทำให้กลืนลำบาก และค่อยๆเกิดพิษไปทั่วร่างกาย ครับ (จากหนังสือ สวนนานา พฤกษาสมุนไพรฯ).....

marine_wi
29-12-2009, 22:47
ที่บ้านหนูก็เพิ่งปลูก บุนนาค กับ ปีบ
ได้จากเกษตรแฟร์ ปี 52

milo15
31-12-2009, 10:31
ประมาณ 10 ปีกว่ามาแล้ว สมัยเมื่อยังรับราชการอยู่ ครั้งหนึ่งได้มีโอกาส ไปเข้าเวรราชองครักษ์ ที่พระตำหนักทักษินราชนิเวศย์ จ.นราธิวาส ที่หน้าห้องนั่งเวรฯ ผมได้เห็นต้นไม้เลื้อยขนาดใหญ่ เลื้อยขึ้นไปแตกกิ่งก้าน คลุมยอดต้นไม้ใหญ่ที่อยู่บริเวณนั้นเต็มไปหมด ที่สดุดตาคือ ใบออกสีเหลือบทอง เป็นประกายเมื่อต้องแสงอาทิตย์ สวยงามมาก ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

เมื่อออกเวรแล้ว ได้พูดคุย กับพนักงานชาวที่ ที่ดูแลปัดกวาด ทำความสะอาด บริเวณนั้น ได้ความว่า ต้นไม้เลื้อยฯนั้น มีชื่อตามท้องถิ่นว่า " ย่านดาโอ๊ะ " ส่วนภาษากลาง เรียกว่า " ใบไม้สีทอง " วันต่อมาที่ผมไปเข้าเวรฯอีก คุณลุงชาวที่ ได้เอาใบไม้สีทอง 1 ใบมาให้ผม บอกว่าท่านเก็บใบที่ร่วงเอาไว้ให้ เห็นว่าสนใจ ให้เอาไปไส่กรอบบูชา จะเป็นมงคล เพราะเป็น ไม้ในตำหนักฯ

พอดีช่วงนั้นมีงานขาย ไม้ดอกไม้ประดับฯ ในตัวจังหวัด ก็ไปหาซื้อต้นไม้แปลกๆ ไปเจอต้น ย่านดาโอ๊ะ ที่เขาเพาะขาย สูงประมาณครึ่งเมตร ขายต้นละ 15 บาทเท่านั้น เลยซื้อมา 8 ต้น ที่จริงอยากจะซื้อมากกว่านั้น จะเอาไปฝากเพื่อนๆคอเดียวกัน แต่เกรงใจคนอื่นที่จะไปแย่งที่ระวางเขา เพราะต้องกลับเครื่องบินทหาร

ระว่างนั่งเครื่องกลับดอนเมือง ก็มีหลายๆคนเห็น ต้นไม้นี้เข้า ก็พูดคุยสอบถามกัน หลายคนสนใจ ก็ขอไปคนละต้น เหลือเพีอง 3 ต้น ผมปลูกไว้ที่สวนนนท์ 1 ต้น ( เริ่มออกดอก และใบเริ่มเป็นสีทองแล้วครับ ) ปลูกไว้ที่บ้านที่พะเยา 1 ต้น ( ต้นเล็กกว่าที่บ้านนนท์ และยังไม่ออกดอก ใบยังไม่เป็นสีทองครับ ) ส่วนอีกต้นหนึ่ง ต้นสุดท้าย ให้เพื่อนไปปลูกที่สวนเก่านนทบุรีแถวๆแคราย พระรามห้า โตมากแล้ว แต่ยังไม่ออกดอก และใบยังไม่เป็นสีทองครับ

ผมกับป้า เคยไปพบต้นย่านดาโอ๊ะ ที่ตลาดบางแค 2 ตอนมาปลูกในกระถาง ต้นสูงประมาณ 2เมตร ฟอร์มสวย มีใบเป็นสีทองแล้วสมบูรณ์มาก ขาย ราคาต้นละ 4,000 บาท เลยคิดว่าจะลองตอนเอาไว้ แจกเพื่อนๆ ที่สนใจบ้างครับ

รายละเอียดเกี่ยวกับต้นย่านดาโอ๊ะ หรือใบไม้สีทองนี้มีมากมาย ทั้งน่าทึ่ง และน่าสนใจครับ ลอง พิมพ์คำว่า " ย่านดาโอ๊ะ " ไปsearch ใน google ดูเอานะครับ แล้วค่อยมาคุยกันต่อครับ.....

สายชล
31-12-2009, 11:58
ไปอ่านเรื่องและชมภาพมาแล้ว....ใบและดอก "ย่านดาโอ๊ะ" สวยงามน่าอัศจรรย์จริงๆค่ะพี่พจน์...:)


ในกรุงเทพฯไม่ได้ร้อนชื้นและสภาพทั่วไปไม่ได้เอื้ออำนวยให้ปลูกต้นไม้พันธุ์นี้ได้เหมือนทางใต้ที่เป็นถิ่นกำเนิด ถ้าปลูกได้งามและเริ่มออกดอกได้แล้วเช่นนี้ แสดงว่าพี่พจน์มือเย็นและมีบุญจริงๆค่ะ

milo15
31-12-2009, 13:43
ขอบคุณสำหรับ คำชมครับ อาจารย์สองสาย ถือเป็นคำอวยพรที่มีคุณค่าสำหรับปีใหม่นี้ครับ และขอให้อาจารย์สองสายมีสุขภาพ พลานามัยที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยมากล้ำกลาย จะได้ดำเนินกิจกรรม ของ sos ไปได้อย่างตั้งใจ และมีประสิทธิภาพครับ

ผมจะลองตอนกิ่ง ย่านดาโอ๊ะ เร็วๆนี้ครับ ถ้าฟลุ๊กได้ผลขึ้นมา จะนำมาแจกพวกเราที่ต้องการจะนำไปปลูกเพื่อชื่นชมครับ.....

ตุ๊กแกผา
31-12-2009, 14:50
ดีจังค่ะ.......ท่าทางปีใหม่ที่จะมาถึงนี้จะทำให้ติ๋วใจเย็นขึ้น เริ่มมีความอยาก.....

อยากปลูกต้นไม้ขึ้นมาอีกแล้ว......ว่าจะหาเวลากลับบ้านให้มากขึ้น ปลูกต้นไม้แทนพ่อซ๊ะที

รับปากพ่อไว้ตั้งนานแล้ว......แรงฮึดเริ่มมาแล้วววววว พ่อบอกว่าเรามือร้อน ต้องทำบ่อยๆ

แหะๆๆๆๆๆๆ ปกติใช้แต่แรง....ขุดๆๆๆๆๆๆๆๆพ่อเป็นคนปลูก

ขอบคุณพี่ๆที่ทำให้คนห่างบ้านคนนี้....อยากกลับบ้านค่ะ

วันประชุม...จะได้เห็นกุหลาบบบบบบบบจากเหนือรึเปล่าน๊อออออ

ย่านดาโอ๊ะ.......แค่ชื่อก็น่าสนใจแล้ว ไปหาข้อมูลอ่านก่อนดีกว่า

สายชล
31-12-2009, 20:53
กราบขอบพระคุณพี่พจน์สำหรับพรที่ให้ค่ะ....


สองสายขออาราธนาตุณพระศรีรัตนตรัย โปรดดลบันดาลให้พี่พจน์และสมาชิกในครอบครัวทุกๆท่าน ถึงพร้อมด้วยจตุรพิธพรชัย พี่พจน์ดำน้ำและเข้าป่าขอให้มีแต่ความสุขสนุกสนาน ปลอดภัยจากอันตรายและโรคภัยไข้เจ็บทั้งสิ้นทั้งปวง และขอให้ป้าอนุญาตให้พี่พจน์ได้ไปดำน้ำรักษ์ทะเลกับพวกเราชาว sos ทุกครั้งที่อยากจะไปนะคะ....:)

milo15
01-01-2010, 16:01
วันนี้ เป็นวันดีขึ้นปีใหม่ 2553 ผมขออวยพรให้ ท่านสมาชิก SOS ทุกๆท่าน จงประสบแต่ความสุข ความเจริญ ฯ ตลอดไปครับ

ไม่ได้ไปไหน นั่งเล่นนอนเล่นอยู่กับบ้าน ได้ยินเพลงไทยเดิม สั้นๆท่อนหนึ่งจากทีวี บรรเลงด้วย ซอสามสาย ดูเหมือนจะเป็นเพลง ขับไม้บัณเฑาะ เพลงนี้ผมจำได้แม่น เพราะได้เห็น และได้ฟังจาก ท่านอาจารย์ พระยาภูมีเสวิน ( จิตร จิตรเสวี )บ่อยๆที่บ้านข้างวัดราชาฯ เมื่อเกือบ 50 ปีมาแล้ว

ช่วงนั้นได้มีโอกาสติดตาม ท่านอาจารย์ฯ ไปบ้านช่างทำซอ แถวๆตลาดพลู ได้เห็น วิธีการทำซอต่างๆ หลังๆมาท่านอาจารย์ฯเลยใช้ให้ คอยติดตามความก้าวหน้าในการทำซอ ตลอดจนการเร่งงานช่างทำซอ ฯลฯ ให้ท่าน

เป็นเรื่องแปลกเหมือนกัน ที่ช่างทำซอฝีมือดีจำนวนไม่น้อยที่ สีซอไม่เป็นครับ ผมเห็นช่างทำซอขอร้องให้ เมื่อท่านอาจารย์ลองสีซอให้ฟัง แล้ว ลุงช่างทำซอ จะมีสีหน้าแสดงออกมาซึ่งความสุข ครับ

ร่ายยาวมานานแล้ว หลายท่านคงคิดว่า ตาลุงไมโลนี่ แกพล่ามนอกเรื่องไปใหญ่แล้ว สงสัยโดนป้าแดง เบิ๊ดกระโหลกบ่อยๆแน่ๆเลย ยอมรับโดนบ้าง แต่ไม่บ่อย และก็ไม่ถือคนวัยทองครับ

ผมปลูกมะพร้าวซอ ( ได้มาจากเพื่อนของเพื่อน ที่ อัมพวา จ.สมุทรสงคราม 1 ต้น ) ไว้ที่บ้านที่พะเยา นานกว่า 10 ปีแล้ว โดยหวังจะอนุรักษ์ไว้ เป็นเรื่องหลัก ส่วนเรื่องรอง คืออยากจะได้ กระลา มาทำกระโหลกซอสามสาย ครับ ตอนนี้มะพร้าวซอของผม ตกลูกแล้ว ค่อนข้างดกซะด้วย ( มีเคล็ดลับ ได้มาจากเกษตรจังหวัดพะเยา ให้เอาเกลือแกงไส่โคนต้น ปีละ 3 - 5 ขัน แล้วแต่ขนาดของต้น ลองแล้วได้ผลจริงๆครับ ) เมือผลแก่ ผมได้ลองนำมาปอกเปลือกดูกระลาแล้ว ยังเป็น กระลาแบบมะพร้าวแกง อยู่ครับ (เกรดของกระลามะพร้าวซอ คือ พระยาซอ ดีที่สุด รองลงมาคือซอพระยา เกรดต่ำสุด คือ ซอพล และที่ใช้ไม่ได้เลย คือ กระลาซอแกง แบบของผม )

จากการสอบถามท่านผู้รู้เรื่องมะพร้าวซอ สรุปว่า โอกาสที่จะได้กระลาซอดีๆนั้น ต้องปลูกมากๆเป็นสิบๆร้อยๆต้น ( แต่ผมปลูกเพียงต้นเดียว ) อายุของต้นจะต้อง 20 ปีขึ้นไป (ของผมประมาณ 10 ปีกว่าๆ ) ผู้ปลูกจะต้องมีบารมีพอสมควร (เพราะใน สมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าฯ ทรงโปรด ซอสามสายมาก มีซอสามสายคู่พระหัตถ์ นามว่า "ซอสายฟ้าฟาด"พระองค์ได้หมอบ "ตราภูมิคุ้มห้าม " แก่เจ้าของสวนมะพร้าวซอ ให้สิทธไม่ต้องเสียภาษีที่ดินฯ )

ท่านผู้ใดอยากจะเห็น ต้นมะพร้าวซอ ลูกมะพร้าวซอบนต้น กระลามะพร้าวซอเกรดต่างๆ ตลอดจนการสลักเสลา กระลาซอ เป็นกระโหลกซอสามสาย และซอสามสายที่ทำสมบูรณ์แล้ว ไปดูได้ที่สวน ร.สอง อัมพวา ครับ หรือ จะให้ผมจัดทัวร์พาไปชมไม๊ครับ

เหมือนเดิม เนื่องจากรายละเอียด เรื่อง"มะพร้าวซอ" ซึ่งเกี่ยวข้องโยงใยไปถึงเรื่อง "ซอสามสาย"มีมากมายเกินกว่าความรู้ของ คนแก่ๆอย่างผม จะนำมาเสนอได้อย่างสมบูรณ์ จึงขอให้ท่าน ที่ต้องการหาความรู้เพิ่มมากขึ้น กรุณา search หาใน google ต่อไปครับ.....

ตุ๊กแกผา
01-01-2010, 16:27
โอ๊ะโอ!!!!!!แล้วเป็นเด็กร.ว.ด้วยแน่เลยยยยยอ๊ะ.......ศัตรูเก่าด้วย(แต่จำไม่ได้แล้วค่ะ ว่ามีเรื่องอะไรกัน จำได้แต่ว่า ล้อเพื่อนคนนั้นว่าอยู่วัดหมอลาย เกือบโดนมันเตะแน๊ะ 55555555 ตอนนั้นเรียนอยู่ที่สตรีวรนาถ แถวๆเทเวศน์ค่ะ )

milo15
01-01-2010, 17:21
เข้าใจผิดแล้ว หมอติ๋ว บ้านข้างวัดราชานั้น เป็นบ้านของ ท่านอาจารย์เจ้าคุณภูมีเสวิน ส่วนบ้านผมอยู่แถวๆบางแค ( ไม่ไกลจากตลากพลูนัก ทานอาจารย์ฯ จึงให้ช่วยดูแลการทำซอของลุงช่างซอครับ ) ช่วงนั้นอายุประมาณ 20 ปีแล้ว อ้อ.. แล้วเพิ่งทราบว่าสตรีวรนาถ เคยอยู่แถวเทเวศน์ เพราะเคยเห็นอยู่แถว พหลโยธินครับ.....

สายชล
01-01-2010, 17:55
ร่ายยาวมานานแล้ว หลายท่านคงคิดว่า ตาลุงไมโลนี่ แกพล่ามนอกเรื่องไปใหญ่แล้ว สงสัยโดนป้าแดง เบิ๊ดกระโหลกบ่อยๆแน่ๆเลย ยอมรับโดนบ้าง แต่ไม่บ่อย และก็ไม่ถือ คนวัยทอง ครับ


คิกๆ....พี่แดงมาอ่านละก็ มีหวังพี่พจน์ถูก "เบิ๊ดกระโหลก" อีกแน่ๆเลยค่ะ...http://www.naturethai.org/forum/smileys/penquin/pen1_60.gif



ไปค่ะ....อยากไปอัมพวาโดยมีพี่พจน์เป็นไกด์ แล้วจะไปเมื่อไรดีคะพี่พจน์...http://www.naturethai.org/forum/smileys/penquin/pen1_03.gif

ตุ๊กแกผา
02-01-2010, 11:25
เข้าใจผิดแล้ว หมอติ๋ว บ้านข้างวัดราชานั้น เป็นบ้านของ ท่านอาจารย์เจ้าคุณภูมีเสวิน ส่วนบ้านผมอยู่แถวๆบางแค ( ไม่ไกลจากตลากพลูนัก ทานอาจารย์ฯ จึงให้ช่วยดูแลการทำซอของลุงช่างซอครับ ) ช่วงนั้นอายุประมาณ 20 ปีแล้ว อ้อ.. แล้วเพิ่งทราบว่าสตรีวรนาถ เคยอยู่แถวเทเวศน์ เพราะเคยเห็นอยู่แถว พหลโยธินครับ.....
อ้าววววววว เข้าใจผิดหรือนี่....ขออภัยในความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนคร๊าบบบ

แหะๆๆๆ รร.ที่เรียนชื่อสตรีวรนาถค่ะ อยู่เทเวศน์ซอย 1 เจ้าของเดียวกับสตรีวรนาถบางเขน ตรงพหลฯใกล้แดนเนรมิตเก่านั่นแหล่ะค่ะ ตรงพหลฯจะมีคำว่าบางเขนต่อท้ายค่ะ เรียนตั้งแต่อนุบาลจนจบม.3 หน้าปากซอยข้ามถนนไปก็เจอคลองผดุงกรุงเกษม ที่ทั้งตอนโน้นนนนนนนและตอนนี้น้ำเหม็นสุดๆ555555

ตุ๊กแกผา
02-01-2010, 11:26
คิกๆ....พี่แดงมาอ่านละก็ มีหวังพี่พจน์ถูก "เบิ๊ดกระโหลก" อีกแน่ๆเลยค่ะ...http://www.naturethai.org/forum/smileys/penquin/pen1_60.gif



ไปค่ะ....อยากไปอัมพวาโดยมีพี่พจน์เป็นไกด์ แล้วจะไปเมื่อไรดีคะพี่พจน์...http://www.naturethai.org/forum/smileys/penquin/pen1_03.gif

ยกมือไปด้วยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

milo15
02-01-2010, 17:44
ตกลง ครับ อาจารย์สองสาย และหมอติ๋ว เราจะไปทัวร์ อัมพวากัน ส่วนวันเวลา คงจะเป็นช่วงกลางๆเดือน ก.พ.นี้นะครับ เพราะระยะนี้จนถึง 11 ม.ค.นี้ มีนัดให้เขามาตัดแต่งต้นไม้ที่สวนนนท์ จากนั้น 13 -18 ม.ค. ไปทริปอันดามันเหนือ ส่วน 21 - 31 ม.ค. นัดช่างปรับปรุงหลังคาบ้านที่พะเยาครับ

ส่วนรายละเอียดของ sos ทัวร์ อัมพวาจะไปพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดกัน ระหว่างทริปอันดามันเหนือนะครับ อาจารย์สองสาย และหมอติ๋ว......

ตุ๊กแกผา
03-01-2010, 08:22
เย้ๆๆๆๆๆๆๆ ขอบคุณค่ะๆๆๆๆๆๆๆ555555โปรแกรมเที่ยวมาอีกแย้ววววววว ชอบๆๆๆๆๆๆๆ

milo15
06-01-2010, 19:16
สวัสดีครับท่านอาจารย์สองสาย และท่านสมาชิก SOS ทุกๆท่าน วันนี้ผมได้หนังสือดีและถูกใจมากๆมาเล่มหนึ่ง จากญาติ ชื่อหนังสือว่า " ๘๔ พรรณไม้ ถวายในหลวง โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ "จักทำโดย บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด ( มหาชน ) หรือ CATเป็นหนังทำเพื่อเผยแพร่ (ไม่ได้จำหน่ายครับ ) ส่งเสริม และสืบสานแนวทางการดำเนินงาน ตามพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องการปลูกป่าในใจคน ซึ่งเป็นพระราชดำริที่ได้พระราชทาน แก่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่รับผิดชอบด้านดูแลป่าว่า " ....ถ้าจะปลูกป่าควรจะปลูกต้นไม้ลงในใจคนเสียก่อน แล้วคนเหล่านั้นก็จะพากันปลูกต้นไม้ลงบนแผ่นดิน และรักษาต้นไม้ด้วนตนเอง "

ส่วนเนื้อหาในเล่ม แค่ดูสารบัญ ก็ตื่นเต้นแล้วครับ อาทิเช่น จากใจของเรา ในหลวงกับการอนุรักษ์ป่า ก่อนจะมาเป็น ๘๔ พรรณไม้ถวายในหลวง พรรณไม้ภาคเหนือ พรรณไม้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฯลฯ เป็นต้น ผมลองพลิกๆดูเนื้อหาแล้ว เป็นหนังสือที่มีคุณค่าจริงๆ และตั้งใจว่าจะหาเวลาว่างอ่านรวดเดียวให้จบเลยครับ

อาจารย์สองสาย และท่านสมาชิก SOS ครับ ลอง search ใน Google เพื่อดูรายละเอียดก่อน ( มีรายละเอียดมากมาย ฯ ผมเข้าไปดูมาแล้วครับ ) แล้วลองค่อยเสาะหาหนังสือนี้ จากแหล่งที่ท่านคาดว่าจะหาได้ครับ......

สายชล
06-01-2010, 19:34
น่าสนใจมากค่ะ...เดี๋ยวจะลองหาข้อมูลดูนะคะ ขอบคุณมากค่ะพี่พจน์


สองสายจะได้ต้นจันทร์กะพ้อมาปลูกตอนหลังกลับจากดำน้ำที่อันดามันเหนือค่ะ ถ้านัดกับน้องอ้อและน้องอู๋แน่นอนแล้วจะเรียนให้พี่พจน์ทราบนะคะ

admin
06-01-2010, 19:42
http://www.matichon.co.th/news-photo/matichon/2009/04/ent05160452p1.jpg

๘๔ พรรณไม้ ถวายในหลวง

คอลัมน์ งานเป็นเงา

โดย ลำแข





บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ *แคท* ทำหนังสือ *๘๔ พรรณไม้ถวายในหลวง* ขึ้นน้อมถวายเป็นราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๗ รอบในปี ๒๕๕๔

ซึ่งเป็นการสานต่อโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ ตามแนวพระราชดำริ *ปลูกป่าในใจคน*

เพื่อปลุกจิตสำนึกคนไทยให้ตระหนักในคุณค่าการปลูกต้นไม้ ชุบชีวิตผืนป่าเพื่อรักษาสมดุลของระบบนิเวศ

หนังสือเล่มนี้มุ่งส่งเสริมความภาคภูมิใจในพันธุ์ไม้ท้องถิ่น เพื่อช่วยกันรักษาดูแลให้ถูกต้อง ด้วยข้อมูลที่สามารถอ้างอิงเชิงวิชาการ

จากนั้นจึงมอบให้ห้องสมุดโรงเรียน ห้องสมุดประชาชน ห้องสมุดหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ

เป็นหนังสือสวยงามเกือบสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด ๗ นิ้ว คูณ ๗ นิ้วครึ่ง งดงามด้วยการออกแบบและภาพสีทุกหน้า ด้วยการให้เนื้อหาในหลวงกับการอนุรักษ์ป่า, ก่อนจะมาเป็น ๘๔ พรรณไม้ถวาย, พรรณไม้ภาคเหนือ, พรรณไม้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, พรรณไม้ภาคตะวันออก, พรรณไม้ตะวันออกและภาคกลาง, พรรณไม้ภาคใต้

สุดท้ายเป็นหัวใจที่รับผิดชอบต่อสังคมไทยของเรา มีบรรณานุกรม, ดัชนีให้เรียบร้อย

๒๐๐ กว่าหน้าซึ่งเต็มไปด้วยภาพต้นไม้ที่หลายต่อหลายต้นเพิ่งเคยได้ยินชื่อ หรือรู้จักชื่อไม่เต็ม หรือไม่เคยรู้จักชื่อทางการ ทั้งลำต้นและสีสันงดงามพิสดาร บางพันธุ์งามจนแทบจะได้กลิ่นฉมออกมาจากหน้ากระดาษ บอกความอุดมสมบูรณ์ของผืนดินไทย ซึ่งครั้งหนึ่งเคยกว้างขวางด้วยป่าทึบและดงลึก

เห็นภาพทั้งหมดในเล่มแล้ว น่าจะกระตุ้นความรู้สึกอยากปกปักรักษาพรรณไม้เหล่านั้น ไว้ให้คงอยู่เป็นประโยชน์กับบ้านเมืองและลูกหลานต่อไป

แทนที่จะปล่อยให้อยู่หรือตายไปตามเวรตามกรรมของคนหรือสังคมที่ไม่เข้าใจคุณค่าของทรัพยากร

หนังสือที่เตือนใจผู้คนและบอกความรุ่มรวยของแผ่นดิน ซึ่งหากไม่ร่วมกันรับรู้เพื่อช่วยกันดูแลให้มรดกธรรมชาติเหล่านี้จะกลับมาดูแลเราในทางกลับกัน หากผู้สนใจอยากมีไว้ ก็น่าจะสอบถามไปที่ฝ่ายส่งเสริมภาพองค์กร ๐-๒๑๐๔-๓๖๖๕ ได้

ลองโทร.ไปดู


http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01ent05160452&sectionid=0105&day=2009-04-16

admin
06-01-2010, 19:44
http://www.cattelecom.com/web_data/uploads/12-10-08_poster(1).jpg
http://www.cattelecom.com/site/th/news_detail.php?year=2009&cat=44&id=444

สายชล
14-06-2010, 11:55
อ่านกระทู้นี้แล้ว....คิดถึงพี่พจน์หรือลุงไมโลของเราจริงๆค่ะ....


ถ้าพี่พจน์ยังอยู่....จะให้มาดูต้นจันทร์กระพ้อของสองสายที่ลงดินแล้ว


ตอนได้มา.....ต้นจันทร์กระพ้อของสองสายต้นสูงชลูด ใบโตดกหนาแต่ถูกแมลงเจาะจนพรุนไปหมด เห็นแล้วใจหาย จะรอดไหมนี่


ถ้าไม่รอดจะร้องไห้ เพราะเสียดายเงินที่ต้องจ่ายไปหลายพัน


ตอนนี้ยิ้มได้แล้วค่ะ...เพราะใบต้นจันทร์กระพ้อที่ถูกแมลงเจาะพรุน เริ่มร่วงหล่นเกือบหมด มีใบใหม่แตกยอดออกมา เพราะได้ฝนที่ตกมาเกือบทุกวันในช่วงนี้


ถ้าเป็นอย่างที่คนขายบอกว่าสองต้นนี้จันทร์กระพ้อแท้ ไม่ใช่ไม้ป่า ปีหน้าสายชลจะรอลุ้นดอกที่จะออกมาให้ชมและดอมดมค่ะ