สีสัน "สัตว์โลกใต้ทะเล" สวยงามแปลกตายิ่งกว่าในหนังไซไฟ

[สายน้ำ]

สีสัน "สัตว์โลกใต้ทะเล" สวยงามแปลกตายิ่งกว่าในหนังไซไฟ

ทีมข่าวเอิร์ธนิวส์ของบีบีซี เผยแพร่เผยแพร่ภาพนานาสัตว์แปลกประหลาดในโลกใต้ทะเลลึกแถวแอตแลนติกเหนือ ซึ่งบางชนิดสีสันสวยงามแปลกตา จนไม่อยากจะเชื่อสายตาว่า สิ่งมีชีวิตแบบนี้ก็มีอยู่บนโลกด้วยเหมือนกัน

ทั้งนี้ ภาพทั้งหมดนี้มาจาก ไวด์ไลฟ์ทรัสต์ (Wildlife Trusts) ในโครงการลิฟวิงซี (Living Seas) ที่มีเป้าหมายฟื้นฟูและคืนความมีชีวิตชีวาให้ชายฝั่งและท้องทะเลรอบเกาะ อังกฤษให้เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตนานาพันธุ์ภายใน 20 ปีนี้


http://pics.manager.co.th/Images/553000000895201.JPEG

ปูเสฉวน (hermit crab) ตัวน้อยแบกดอกไม้ทะเลโคลค (cloak anemone) ไว้บนหลังตลอดเวลา เพื่อใช้เป็นเกราะกำบังอันตรายจากศัตรูผู้ล่า ขณะเดียวกันก็เป็นฝ่ายช่วยหาอาหารให้กับดอกไม้ทะเลไปด้วยในตัว



http://pics.manager.co.th/Images/553000000895202.JPEG

เพรียงชนิดหนึ่ง เพศผู้มีอวัยวะเพศยาวที่สุดเมื่อเทียบกับขนาดตัวของมัน ซึ่งยาวกว่าความสูงของตัวมันถึง 10 เท่า



http://pics.manager.co.th/Images/553000000895203.JPEG

เพรียง เมื่อมีขนาดโตเต็มวัย จะยึดติดตัวมันเองไว้กับหินด้วยปูนและไม่สามารถเคลื่อนที่ไปไหนได้อีก โดยคลี่อวัยวะเพศออกแผ่ไปรอบตัวเพื่อหาคู่



http://pics.manager.co.th/Images/553000000895204.JPEG

ดาวทะเล ในขณะกินอาหาร มันจะขย้อนกระเพาะอาหารของมันออกมาทางปากที่อยู่ด้านล่างของตัวมัน และดูดกินหอยที่เป็นเหยื่อจากข้างในเปลือก ถ้าหากว่ามันถูกโจมตีในขณะที่กำลังเอร็ดอร่อยอยู่นั้น มันจะกัดกระเพาะของมันออกทิ้งแล้วหนีเอาตัวรอดไปทันที แต่ไม่นานกระเพาะใหม่ของมันก็จะงอกออกมาดังเดิม

[สายน้ำ]

http://pics.manager.co.th/Images/553000000895205.JPEG

ปลาทะเลชนิดหนึ่งสีสันสดสวย ปลา Cuckoo wrasse หากเป็นเพศเมียจะมีสีส้ม ส่วนเพศผู้จะสีฟ้านีออน ซึ่งปลาชนิดจะเกิดมาเป็นเพศเมียทุกตัว และเพศเมียสามารถเปลี่ยนไปเป็นเพศผู้ได้เมื่อไม่มีหรือมีเพศผู้จำนวนน้อยกว่ามาก



http://pics.manager.co.th/Images/553000000895206.JPEG

ปลา cuckoo wrasse อาจแสดงออกเป็นเพศผู้แบบซ่อนเร้นได้ โดยเปลี่ยนเพศแต่ไม่เปลี่ยนสี แต่ก็สามารถผสมพันธุ์กับเพศเมียได้เช่นกัน



http://pics.manager.co.th/Images/553000000895207.JPEG

เพรียงหัวหอม (Sea squirts) ขณะเป็นตัวอ่อนจะมีลักษณะคล้ายลูกอ๊อด และมีระบบประสาทที่ซับซ้อน แต่เมื่อโตเต็มวัยจะซับซ้อนน้อยลง และจะเกาะติดแน่นกับพื้นใต้ทะเล และเมื่อสมองไม่จำเป็นสำหรับมันอีกต่อไป มันก็จะทำการย่อยระบบประสาทไปเสีย



http://pics.manager.co.th/Images/553000000895208.JPEG

กระต่ายทะเล (Sea hares) หรือที่รู้จักกันดีในนาม ทากทะเล (sea slug) ซึ่งเป็นสัตว์กะเทย คือมีทั้งสองเพศในตัวเดียวกัน และสามารถจับคู่ต่อๆกันเป็นสายโซ่ได้อย่างน่าอัศจรรย์ หรืออาจม้วนเข้าหากันจนเป็นวงกลมได้เลย

[สายน้ำ]

http://pics.manager.co.th/Images/553000000895209.JPEG

หอยทากทะเล (slipper limpet) ก็เป็นสัตว์ทะเลอีกชนิดหนึ่งที่สามารถจับคู่ต่อๆกันจนเป็นสายโซ่ในแนวตั้งได้ โดยสามารถจับคู่ต่อกันได้ถึง 25 ตัว ซึ่งตัวที่อยู่ด้านล่างสุดมักเป็นหอยเพศเมียเสมอ และเมื่อตัวเมียที่อยู่ล่างสุดตายลง ตัวผู้ที่อยู่ถัดขึ้นมาจะเปลี่ยนเป็นเพศเมีย และตัวที่อยู่ถัดๆไปก็จะเปลี่ยนเพศต่อๆกันไปด้วยเช่นกัน



http://pics.manager.co.th/Images/553000000895210.JPEG

ด้วยดวงตาที่ใหญ่ มีหลายเขี้ยว และลำตัวยาวมากกว่า 1 เมตร ดูดุร้ายคล้ายสุนัขป่าใต้ทะเล ทำให้ปลาชนิดนี้ได้ชื่อว่า วูล์ฟฟิช (wolf fish) แต่อาหารสุดโปรดของพวกมันคือหอยเม่น ปู ทากทะเล




จาก : ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 20 มกราคม 2553

[เบิ๊ด]

อู้วววว...น่างงงวย มหัศจรรย์ แอนด์พิศดารจริงจริงด้วยคร๊าบ

[ดอกปีบ]

ของแปลกแบบนี้ ผมว่าทะเลไทยก็มีสู้ทะเลถิ่นผู้ดีเค้าได้นะครับ ..


แต่รูปเพรียงนี่คงถูกใจพี่สายชลไม่น้อย อิอิ ..

[สายชล]

รู้ใจอีกแล้ว....น้องปี๊บ....:p


ทราบไหมคะ....นักวิทยาศาสตร์พบว่า เพรียงหัวหอมเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในทะเลที่มีวิวัฒนาการสูง ทั้งที่ในความเป็นจริงเพรียงหัวหอมอยู่ใน Phylum Chordata ตอนเป็นตัวอ่อนยังมีกระดูกสันหลังอยู่ แต่เมื่อโตเต็มวัย กลับไม่มีโครงสร้างของกระดูกสันหลังเหลืออยู่เลย


มีทฤษฎีที่กล่าวว่าเพรียงหัวหอมเป็นต้นกำเนิดของสัตว์มีกระดูกสันหลัง หรือเพรียงหัวหอมเป็นสัตว์เชื่อมต่อกันระหว่างสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง และสัตว์มีกระดูกสันหลัง อาจบอกได้ว่าเป็น บรรพบุรุษของมนุษย์นั้นเอง


เพรียงหัวหอมยังมีอวัยวะต่างๆ เช่นหัวใจ ระบบประสาท กระเพาะอาหาร ลำไส้ ขนคล้ายขนจมูกในคน หรือแม้แต่อวัยวะสืบพันธุ์ แต่เพรียงหัวหอมเป็นสัตว์ 2 เพศ ผสมพันธุ์ภายในตัวเอง บางชนิดสืบพันธุ์ได้หลากหลาย เช่น แบ่งตัว หรือแตกหน่อคล้ายต้นกล้วย นั่นทำให้เพรียงหัวหอมมีความสามารถในการดำรงเผ่าพันธุ์ได้ดี

หมายเหตุ....ข้อมูลจาก http://www.biotec.or.th



http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=1797.0;attach=23723;image

[สายชล]

เพรียงหัวหอม (tunicates) หรีอ sea squirts จัด อยู่ใน Subphylum Urochordata มีเปลือกแข็งหุ้มตัว เรียกว่า tunic และที่เรียก sea squirts เพราะไปถูกตัวมันจะพ่นน้ำออกทางรู 2 รูที่อยู่ทางด้านบน ซึ่งรูหนึ่งเป็นทางน้ำเข้าและอีกรูหนึ่งเป็นทางน้ำออก


รูปร่างหลากหลาย บางชนิดเป็นแผ่นรูปวงรีเรียงต่อกัน บางชนิดเป็นแผ่นแบนเคลือบบน หิน บางชนิดเป็นทรงถุง ผิวนุ่มและหยุ่น หดตัวได้เมื่อถูกสัมผัส มีทางน้ำเข้าออก สังเกตเห็นได้ชัดเจน เกาะติดอยู่บนหิน หรือพื้นแข็ง


พบได้ทั่วไปในแนวน้ำขึ้นน้ำลงจนถึงทะเลลึก มี 2 จำพวกคือ พวกที่อาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม และพวกที่แยกอยู่ตัวเดี่ยว กินอาหารด้วยการกรองแพลงก์ตอนและตะกอนที่ลอยอยู่ในน้ำผ่านช่องสูบน้ำเข้าและ ถ่ายออกทางช่องน้ำออก เพรียงหัวหอมเป็นสัตว์ที่มีสองเพศในตัวเดียวกัน สามารถขยายพันธุ์ได้สองวิธีคือการผสมพันธุ์ภายในตัวเอง และจากการแตกหน่อออกจากส่วนโคนหรือจากด้านข้างกลางลำตัว เพรียงหัวหอมนับได้ว่ามีความสำคัญต่อระบบนิเวศวิทยามาก เพราะเพรียงหัวหอมหนึ่งตัวขนาด 2 – 3 เซนติเมตร สามารถกรองตะกอนในน้ำทะเลได้ถึง 170 ลิตร ต่อวัน


สัตว์กลุ่มนี้เกาะกับวัตถุใต้น้ำในระดับน้ำที่ไม่ลึกมากนัก อาจอยู่เป็นโคโลนี(colony) หรืออิสระตัวเต็มวัยมีเปลือกแข็ง (tunic)หุ้ม ซึ่งผลิตจากเนื้อเยื่อ epidermis ที่อยู่ใต้เปลือก ด้านล่างของเปลือกเกาะกับวัตถุ ด้านบนมีรูให้น้ำเข้า (incurent siphon) น้ำเข้าสู่ปาก ผ่านไปยัง pharynxซึ่งพองออกเป็นกระเปาะ และมีช่องเหงือกเป็นรูเล็กๆจำนวนมาก จากช่องเหงือกน้ำไหลสู่ atrial cavity หรือ pharynx sac และออกทางรูน้ำออก(excurent cavity)


Pharynx นอกจากทำหน้าที่กรองอาหารแล้ว ยังทำหน้าที่หายใจ ในขณะที่น้ำไหลผ่านมีการแลกเปลี่ยนระหว่าง CO2 และ O2ที่ ผนังของ pharynx พร้อมๆกัน อาหารที่กรองได้จะเข้าสู่กระเพาะและลำไส้ กากอาหารออกทางทวารหนักซึ่งเปิดออกบริเวณ pharyngeal sac แล้วปล่อยออกนอกร่างกายทาง excurent siphon


เพรียงหัวหอมมีระบบหมุนเวียนโลหิตประกอบด้วยหัวใจอยู่ใต้คอหอย มีเส้นเลือด 2 เส้นออกจากปลายทั้งสอลและแตกแขนงไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย เมื่อหัวใจฉีดโลหิตไหลไปตามเส้นเลือดเมื่อหยุดฉีดเลือดจะไหลกลับ สลับกันไปมา


การสืบพันธุ์ เพรียงหัวหอมเป็นสัตว์รวมเพศ(monoeciuos) แต่เพศหนึ่งจะเป็นหมัน จึงมีการผสมข้ามตัว อวัยวะสืบพันธุ์อยู่ใกล้ลำไส้ จาก testis และ ovary จะมีท่อนำไปเปิดที่ atrial cavity ไข่และ อสุจิออกไปทางช่องน้ำออก การปฏิสนธิเกิดในน้ำ zygote เจริญเป็นตัวอ่อน เรียกว่า tadpole larva เพรียง หัวหอมบางชนิดปล่อยไข่กับสเปิร์มไปผสมกันในน้ำแต่อีกหลายชนิดนำสเปิร์มเข้า มาเก็บไว้ก่อนผสมกับไข่ในตัวเอง ลูกเพรียงหัวหอมเมื่อเกิดจะดำรงชีวิตเป็นแพลงก์ตอนล่องลอยตามกระแส เป็นหนึ่งในกลุ่มสัตว์ที่ตัวอ่อนพัฒนาได้เร็วที่สุด บางชนิดใช้เวลาเพียงสองสามชั่วโมงเพรียงตัวน้อยพร้อมลงสู่พื้นเพื่อเกาะและ เติบโตเป็นเพรียงใหญ่ต่อไป

tadpole larva ลักษณะคล้ายลูกอ๊อด มีลักษณะของ สัตว์มีกระดูกสันหลังสมบูรณ์ คือ

1.notochord

2.nerve cord อยู่เหนือ notochord มีสองทางด้านหัวมี ocellus 1 อัน ทำหน้าที่เป็นตา มี statolith ทำหน้าที่เป็นหู และมี

3.มี gill slits ตรงบริเวณหลอดอาหารที่พองออกเป็นกระเปาะ


ต่อมาตัวอ่อนพัฒนาเป็นตัวเต็มวัยเกาะกับวัตถุใด้น้ำ notochord สลายไป nerve cord ลดขนาดเหลือเพียง nerve ganglion



ข้อมูลจาก....http://www.nstlearning.com


http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=1797.0;attach=23681;image

[conundrum]

โอ้! บรรพบุรุษแห่งมวลมนุษยชาติ :eek:

ม่ายรู้ชาติก่อนจะเคยเกิดเป็นเพรียงหัวหอมหรือเปล่าเนี่ย! :D (จำม่ายด้ายแล้วง่ะ)

[chickykai]

กรี๊ดดดด ตกลงที่แผ่ๆออกมาจากเพรียงคือxxมันเหรอคะเนี่ย นึกว่าขนหรือแขนดักอาหารเหมือนดาวขนนก หรือหนอนฉัตรซะอีก

ส่วนเจ้า cuckoo นี่ดูไปดูมาคล้ายๆชาวนาวีใน Avatar เหมือนกันนะเนี่ย

ป.ล.กระต่ายทะเล=ทากทะเล=นูดี้ใช่มั้ยค้า หลายชื่อจริงเชียวตัวแค่นี้

[Birdie]

ขอบคุณค่ะพี่น้อย ได้ความรู้อีกมากมาย.. เพรียงหัวหอมมีเส้นเลือดด้วยอ่ะ.. จึ๋ยส์ แต่มันน่ารักจริง ๆ นะเนี่ย..

อืมม์ นูดี้..มีหลายนาม

[สายชล]

"Sea Squirt"" หรือ ในชื่อไทยว่า "เพรียงหัวหอม นั้น ตามความเข้าใจของคนทั่วไป อาจคิดว่าเป็นสัตว์กลุ่มเดียวกับ เพรียงหิน หรือแม่เพรียง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย


นิยามของชื่อ "เพรียงหัวหอม" อาจเกิดจากในช่วงแรกที่มีการพบ Sea Squirtในประเทศไทยนั้น เกิดไปพบ Sea Squirt ที่อยู่แบบ(โดด)เดี่ยว (Solitary) เกาะติดอยู่บริเวณน้ำขึ้นน้ำลง หรือบริเวณกองหินติดหาดทราย มีผิวหนังอ่อนนุ่ม ดำรงชีวิตแบบเดียวกับเพรียง แต่รูปทรงคล้ายหัวหอม จึงตั้งชื่อตามสิ่งที่พบเห็นว่า "เพรียงหัวหอม"

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เพรียงหัวหอมรูปร่างแบบนั้น มีอยู่แค่ 20 % ของประชากรทั้งหมดของ Sea Squirt ส่วนใหญ่ที่มีรูปร่างแบบอยู่กันเป็นกลุ่ม (Colony) มากกว่า ดังนั้นการนิยามศัพท์ขึ้นมาว่า "Sea Squirt" คือเพรียงหัวหอมนั้น ไม่สามารถบอกถึงลักษณะของ Sea Squirt ทุกประเภท แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า "Sea Squirt" ในชื่อไทยว่า "เพรียงหัวหอม" ที่ได้เรียกขานกันมานาน


เรียบเรียงข้อมูลจาก....http://www.biotec.or.th