PDA

View Full Version : รู้จัก "วาฬเพชฌฆาต"


สายน้ำ
01-03-2010, 07:20
รู้จัก "วาฬเพชฌฆาต" มฤตยูตัวร้ายหรือสหายขี้เล่น?

http://pics.manager.co.th/Images/553000002991401.JPEG
วาฬเพชฌฆาต สายพันธุ์อพยพ ขณะกระโดดขึ้นเหนือผิวน้ำบริเวณนอกชายฝั่งของอลาสกา (ภาพประกอบจาก NOAA)

"ฟรีวิลลี" (Free Willy) ภาพยนตร์ดังเมื่อสิบกว่าปีก่อน ทำให้คนทั่วโลกประทับใจในความน่ารักและแสนรู้ของ "วาฬเพชฌฆาต" แต่เมื่อมีข่าวว่าวาฬเพชฌฆาตในสวนสัตว์น้ำทำร้ายครูฝึกจนถึงแก่ชีวิต ก็สร้างความตกตะลึงและความเคลือบแคลงสงสัยให้คนทั่วไปไม่น้อยว่า เหตุใดวาฬเพชฌฆาตที่ได้รับการฝึกหัดอย่างดี ถึงก่อเหตุสะเทือนขวัญได้เช่นนี้

"ออร์กา" (Orca) หรือ "วาฬเพชฌฆาต" (Killer whales) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ อยู่ในวงศ์โลมา (Delphinidae) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ออคินัส ออกา (Orcinus orca) วาฬเพชฌฆาตอาศัยอยู่ในมหาสมุทรได้ทั่วโลก ตั้งแต่อาร์กติกเรื่อยไปจนถึงแอนตาร์กติก รวมทั้งในทะเลแถบเขตร้อน

นักวิทยาศาสตร์จำแนกวาฬเพชฌฆาตออกเป็น 3 สายพันธุ์หลัก ได้แก่

- สายพันธุ์ทั่วไป (Resident) ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก อยู่รวมกันเป็นครอบครัวอย่างเหนียวแน่น

- สายพันธุ์อพยพ (Transient) มักเดินทางไปทั่วตามชายฝั่งทะเล รวมกลุ่มกันเล็กๆ ราว 2-6 ตัว แต่ไม่เป็นครอบครัวเหนียวแน่นและมีพฤติกรรมไม่ซับซ้อนเท่าสายพันธุ์ทั่วไป

- สายพันธุ์ทะเลลึก (Offshore) นักวิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบวาฬเพชฌฆาตสายพันธุ์นี้เมื่อปี 1988 ซึ่งมีพันธุกรรมแยกออกจาก 2 สายพันธุ์ข้างต้นอย่างชัดเจน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในทะเลเปิด มักรวมตัวกันเป็นฝูงขนาดใหญ่ประมาณ 60 ตัว แต่พฤติกรรมอื่นๆยังมีข้อมูลน้อยมาก

http://pics.manager.co.th/Images/553000002991402.JPEG
วาฬเพชฌฆาต สัตว์สังคมที่มีพฤติกรรมซับซ้อน (ภาพประกอบจาก NOAA)

ลักษณะเด่นของวาฬเพชฌฆาตคือ มีสีดำบริเวณส่วนหลัง และมีส่วนอกและท้องเป็นสีขาว รวมทั้งบางส่วนของด้านข้างลำตัวและด้านหลังดวงตาที่มีสีขาวเช่นกัน ลำตัวขนาดใหญ่และแข็งแรงมาก มีครีบหลังขนาดใหญ่คล้ายรูปสามเหลี่ยมมสูงถึง 2 เมตร โดยทั่วไปวาฬเพชฌฆาตตัวผู้จะมีความยาว 6-8 เมตร และมีน้ำหนักประมาณ 6-7 ตัน ส่วนตัวเมียมีขนาดเล็กกว่าไม่มาก แต่วาฬเพชฌฆาตบางตัวอาจมีความยาวได้สูงสุดเกือบ 10 เมตร และหนักถึง 10 ตัน ซึ่งวาฬเพชฌฆาตสามารถว่ายน้ำได้เร็วกว่า 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

วาฬเพชฌฆาตเป็นสัตว์สังคมที่มีพฤติกรรมซับซ้อน มีตัวเมียเป็นจ่าฝูง หากมีชีวิตอยู่ในธรรมชาติ วาฬเพชฌฆาตเพศเมียจะมีอายุยืนเฉลี่ย 50-60 ปี หรืออาจยืนยาวถึง 90 ปี ขณะที่วาฬเพชฌฆาตเพศผู้จะมีอายุเฉลี่ยที่ 29 ปี และอายุยืนสูงสุดได้ถึง 60 ปี แต่หากเป็นวาฬเพชฌฆาตที่ถูกเลี้ยงไว้ในสวนสัตว์น้ำ จะมีช่วงอายุสั้นกว่าพวกเดียวกันที่อยู่ในธรรมชาติอย่างมาก บางตัวอาจอยู่ได้ไม่เกิน 25 ปีก็มี

เหตุที่ได้ชื่อว่า "วาฬเพชฌฆาต" เพราะวาฬชนิดนี้กินสัตว์ทะเลอื่นๆ เป็นอาหาร รวมทั้งฉลาม โลมา แมวน้ำ สิงโตทะเล เพนกวิน หรือแม้แต่วาฬต่างสปีชีส์ที่มีขนาดใหญ่กว่า จึงได้ชื่อว่าเป็นวาฬชนิดที่ดุร้ายที่สุดในโลก ซึ่งเทคนิคการล่าเหยื่อของวาฬเพชฌฆาตมีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับชนิดของเหยื่อผู้โชคร้าย แต่โดยทั่วไปวาฬเพชฌฆาตในธรรมชาติจะไม่ทำร้ายมนุษย์ เว้นแต่กรณีของวาฬเพชฌฆาตที่ถูกนำมากักขังและเลี้ยงไว้ตามสวนสัตว์น้ำต่างๆ ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง

http://pics.manager.co.th/Images/553000002991403.JPEG
ลักษณะรูปร่างที่น่ารักของวาฬเพชฌฆาต ยากจะบอกได้ว่ามีนิสัยก้าวร้าวหรือขี้เล่น (ภาพประกอบจาก NOAA)

ล่าสุดวาฬเพชฌฆาตชื่อ "ทิลิคัม" (Tilikum) ก่อเหตุทำร้ายครูฝึกจนถึงแก่ชีวิตภายในสวนสัตว์น้ำซีเวิลด์ (SeaWorld) ในเมืองออร์แลนโด มลรัฐฟลอริดา สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา สร้างความตกตะลึงให้กับคนทั่วโลก และทำให้หลายคนเกิดข้อสงสัย ว่าเหตุใดวาฬที่ได้รับการฝึกและเลี้ยงดูมาอย่างดีจึงมีพฤติกรรมก้าวร้าวและเป็นอันตรายต่อมนุษย์

แบรด แฮนสัน (Brad Hanson) นักชีววิทยาประจำศูนย์วิทยาศาสตร์การประมงตะวันตกเฉียงเหนือ (Northwest Fisheries Science Center) ขององค์การมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งสหรัฐฯ (National Oceanic and Atmospheric Administration) ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ได้ศึกษาพฤติกรรมของวาฬเพชฌฆาตในธรรมชาติ ได้ให้สัมภาษณ์แก่ไซเอนติฟิคอเมริกันว่า ด้วยขนาดและฟันของวาฬเพชฌฆาต มันถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อล่าเหยื่อที่มีขนาดเล็กกว่า และสามารถทำอันตรายต่ออะไรก็ตามได้ในเวลาอันรวดเร็ว

"เท่าที่เคยรู้มา ไม่เคยมีเหตุการณ์วาฬเพชฌฆาตที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติทำร้ายมนุษย์มาก่อนเลย แต่หนังสือพิมพ์เคยรายงานข่าวกรณีนักเล่นกระดานโต้คลื่นถูกสัตว์ทะเลทำร้ายบริเวณนอกชายฝั่งรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 1972 ซึ่งบริเวณนั้นก็มีเหตุการณ์มนุษย์ถูกฉลามทำร้ายหลายครั้ง แต่กรณีนี้ไม่ทราบแน่ชัดว่าเขาถูกอะไรกัดกันแน่ และจากร่องรอยบาดแผลแล้วสันนิษฐานว่าอาจไม่ใช่ฉลาม" แฮนสัน เผย

http://pics.manager.co.th/Images/553000002991404.JPEG
พละกำลังที่มหาศาลของวาฬเพชฌฆาต อาจพิฆาตมนุษย์ที่มันหยอกล้อเล่นด้วยได้ง่ายๆ (ภาพประกอบจาก Scientific American)

เป็นไปได้หรือไม่ที่สภาพแวดล้อมในสวนสัตว์น้ำอาจเป็นมูลเหตุให้วาฬ เพชฌฆาตทำร้ายคนบ่อยครั้ง แฮนสันบอกว่า มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่เราต้องระลึกไว้เสมอว่า "วาฬ เพชฌฆาตเป็นสัตว์สังคม" พวกมันมีความผูกพันทางสังคมที่เหนียวแน่นมาก ไม่เพียงจำเพาะเจาะจงต่อสปีชีส์เดียวกันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คนที่พวกมันใช้ชีวิตอยู่ด้วยในสถานที่ที่พวกมันได้รับการเลี้ยงดูมา

แม้ในสภาพธรรมชาติ วาฬเพชฌฆาตจะแสดงพฤติกรรมออกไปในทางที่ทำให้เราตกใจกลัว ซึ่งพวกมันมักใช้ฟันของมันแสดงปฏิสัมพันธ์กับสัตว์ชนิดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกของความก้าวร้าวหรือความขี้เล่น มันก็ยากที่จะบอกได้จากสิ่งที่เห็น ส่วนหนึ่งนั้นเป็นเพราะเราเห็นวาฬเพชฌฆาตในธรรมชาติในช่วงเวลากที่จำกัดมาก เมื่อมันขึ้นแหวกว่ายอยู่บริเวณผิวน้ำ แต่เราแทบไม่รู้เลยว่าเมื่อมันอยู่มันอยู่ลึกลงไปใต้น้ำนั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

"วาฬเพชฌฆาตเป็นสัตว์ขนาดใหญ่และแข็งแรงมาก หากมันแสดงพละกำลังต่อสิ่งใดหรือสัตว์ชนิดใดที่มีขนาดใหญ่พอฟัดพอเหวี่ยงกับมัน เหมือนอย่างที่มันแสดงออกต่อพวกเดียวกัน ก็คงไม่มีผลอะไรมากนัก แต่หากทำอย่างนั้นต่อมนุษย์ ย่อมต้องส่งผลกระทบอย่างมากแน่นอน" แฮนสัน กล่าว.



จาก : ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553

สายน้ำ
01-03-2010, 07:28
วาฬเพชฌฆาตฆ่าคน ปัญหาอยู่ที่มนุษย์หรือสัตว์?

http://www.komchadluek.net/media/img/size1/2010/02/28/7k9dcgkk85ij6acbbeaba.jpg

หนึ่งในอาชีพในฝันของคนรักสัตว์น่าจะเป็นครูฝึกสัตว์น้ำที่ได้เข้าร่วมการแสดงโชว์ด้วย และการแสดงโชว์ของสัตว์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดอย่างหนึ่งคือ การแสดงของวาฬเพชฌฆาต หรือออร์กา สุดยอดนักล่าแห่งท้องทะเลที่แสนจะฉลาดเฉลียว

ทว่าการเสียชีวิตของ ดอว์น บรันโช ครูฝึกวัย 40 ปี ที่ถูกวาฬเพชฌฆาต ชื่อ "ติลิคุม" ซึ่งเคยมีประวัติทำร้ายครูฝึกเสียชีวิตมาแล้ว ทำร้ายจนเสียชีวิตหลังเสร็จสิ้นการแสดงโชว์ ทำให้เกิดข้อกังขาเรื่องความสัมพันธ์ของมนุษย์และสุดยอดนักล่าจากทะเลตัวนี้อีกครั้ง ว่าเหมาะสมหรือไม่ที่เราควรจะไปใกล้ชิดกับสัตว์ขนาดยักษ์ที่มีความเป็นเพชฌฆาตนี้

ไม่มีใครรู้ได้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์สลดใจนี้ขึ้น แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญยังยอมรับว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะค้นหาคำตอบว่า เหตุใดเจ้าติลิคุม ซึ่งแปลว่า "เพื่อน" ในภาษาอินเดียนแดงเผ่าชีนุก ถึงได้ทำเช่นนี้

อีกทั้งยังทำให้เกิดกระแสถกเถียงกันว่าจะทำอย่างไรกับเหล่าออร์กาที่ยัง คงถูกขังอยู่ในสวนน้ำต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งมีมากถึง 42 ตัว ในจำนวนนี้ 10 ตัวเกิดในที่คุมขัง

http://www.komchadluek.net/media/img/size1/2010/02/28/fj8bdf6bb9dfeaafhjj8j.jpg

"วาฬเพชฌฆาต เป็นสัตว์ที่มีการเข้าสังคมสูงมากและเกาะกลุ่มอยู่ด้วยกัน ดังนั้น การจับมันมาขังให้อยู่ในที่แคบๆ จึงค่อนข้างเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมจอมปลอมให้ออร์กา" แอนดรูว์ ฟุต ผู้เชี่ยวชาญด้านวาฬเพชฌฆาตตามธรรมชาติจากมหาวิทยาลัยอเบอร์ดีน ประเทศอังกฤษกล่าว

ขณะที่ แดนนี โกรฟส์ จาก สมาคมอนุรักษ์วาฬและ โลมา (ดับเบิลยูดีซีเอส) กล่าวว่า โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นย้ำเตือนให้เราตระหนักว่าออร์กานั้นเป็นสัตว์ป่าผู้ แข็งแกร่ง และคาดเดาไม่ค่อยได้ โดยที่ผ่านมา มีสถิติวาฬเพชฌฆาตที่ถูกขังไว้ทำร้ายคนราว 24 ครั้ง

เปรียบเทียบกับกลุ่มที่อยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งมีสถิติทำร้ายมนุษยเช่นกัน แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

หนึ่งในผู้เกือบตกเป็นหยื่อคือ คริส เพียร์พอยท์ นักวิจัยจากสมาคมสังเกตการณ์สัตว์น้ำ ซึ่งเคยทำงานในแอนตาร์กติกแถบขั้วโลกใต้ เผยว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยตกเป็นเหยื่อในแผนการล่าอันแยบยลของกลุ่มวาฬเพชฌฆาต

การล่าเหยื่อในธรรมชาติของออร์กา ซึ่งกินแมวน้ำเป็นอาหาร จะใช้วิธีว่ายน้ำพร้อมกันตรงดิ่งไปหาแมวน้ำที่นอนผึ่งตัวบนแผ่นน้ำแข็ง ก่อนจะใช้ร่างอันใหญ่โตทำให้เกิดคลื่นยักษ์ซัดแมวน้ำเคราะห์ร้ายให้ตกลงไปในน้ำเป็นอาหารพร้อมเสิร์ฟ ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับที่เพียร์พอยท์เจอ แต่โชคดีที่เขาไม่ได้ตกน้ำ

ส่วนเหตุการณ์ออร์กาล่าเหยื่อที่โด่งดังที่สุดเกิดขึ้นเมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว เมื่อนักเล่นกระดานโต้คลื่นถูกออร์กาผลักให้ตกน้ำ แต่สุดท้ายเจ้าวาฬก็ไม่ได้กัดเขาแม้แต่แผลเดียว ส่วนเด็กคนหนึ่งในอลาสกา ก็เคยรายงานว่าเกือบจะถูกออร์กาทำร้ายขณะกำลังว่ายน้ำ โดยเขาเห็นฝูงออร์กาว่ายตรงดิ่งมาหา แต่เปลี่ยนใจไม่ทำร้ายเขาในนาทีสุดท้าย

หนึ่งในแนวคิดที่อธิบายเหตุการณ์เหล่านี้คือฟองอากาศที่เกิดจากชุดยางเทียมของมนุษย์นั้น อาจทำให้ประสาทรับเสียงของออร์กาสับสน และไม่ทราบว่ากำลังตรงเข้าหามนุษย์

กระนั้น เหตุการณ์ทำร้ายตามธรรมชาติก็เกิดขึ้นน้อยมากเสียจนผู้เชี่ยวชาญยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แท้จริงได้

"แต่ละครั้งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างโดดๆ เพราะปกติวาฬเพชฌฆาตอาศัยอยู่ในน้ำเย็นจัด ดังนั้น จึงไม่ค่อยเจอกับมนุษย์มากเท่าใดนัก" ดร.ฟุตกล่าว

อีกทั้งเหตุการณ์ออร์กาที่ถูกคุมขังทำร้ายครูฝึกครั้งล่าสุดนี้ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่า เรารู้เรื่องเกี่ยวกับสุดยอดนักล่าแห่งท้องทะเลชนิดนี้น้อยเหลือเกิน โดยเรารู้เพียงแค่วาฬเพชฌฆาตเหล่านี้แสนเฉลียวฉลาด และมีความซับซ้อนทางสังคมของมันเองมากเพียงใด

ส่วนการศึกษาวาฬที่ถูกขัง แม้จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาพฤติกรรมการฟังเสียงของออร์กาได้ แต่ก็ไม่สามารถศึกษาเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของวาฬที่ถูกขังได้อย่างแท้จริง

"สิ่งหนึ่งที่ผมหวังคือเหตุการณ์สลดใจครั้งนี้จะนำไปสู่การพูดคุยเรื่อง ยกเลิกการแสดงของสวนน้ำเหล่านี้ในที่สุด" ดร.ฟุตกล่าวอย่างมีความหวัง

ขณะที่แนวทางเบื้องต้นในการป้องกันการเสียชีวิตนี้ ก็มีอยู่ 2-3 แนวทาง โดยแนวทางแรกคือการจำกัดไม่ให้ครูฝึกเข้าไปใกล้สระน้ำที่วาฬอาศัยอยู่มากเกินไป ส่วนอีกแนวทางคือการฆ่าวาฬที่มองว่าอาจเป็นอันตรายหากเลี้ยงต่อไป

ส่วนแนวทางสุดท้าย ซึ่งดูเหมือนจะเป็นที่พอใจสำหรับนักสิทธิสัตว์คือ การปล่อยวาฬเพชฌฆาตที่ถูกขังไว้ให้กลับไปอยู่ตามธรรมชาติในทะเลอันกว้างใหญ่

ที่ผ่านมา ดับเบิลยูดีซีเอสมักเรียกร้องให้สวนน้ำต่างๆ นำวาฬที่ขังไว้ไปปล่อย เพราะการขังวาฬเอาไว้ทำให้อายุขัยของมันสั้นลงตามไปด้วย

http://www.komchadluek.net/media/img/size1/2010/02/28/hiafa6ae8gbcdeja78c5h.jpg

แต่การทำเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

ผลการศึกษาที่นักวิทยาศาสตร์ชาวสหรัฐ และเดนมาร์กนำออกเผยแพร่ทางวารสารวิทยาศาสตร์สัตว์น้ำเมื่อปีที่แล้วแสดงให้ เห็นว่า การพยายามนำ เคอิโกะ วาฬเพชฌฆาตชื่อดังผู้เคยแสดงหนังเรื่อง ฟรี วิลลี ไปปล่อยกลับคืนสู่ท้องทะเลนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ด้วยอายุเกือบ 2 ขวบ เคอิโกะถูกมนุษย์จับมาขังไว้ตั้งแต่ปี 2522 ก่อนจะมีโอกาสได้ไปร่วมแสดงหนังเรื่องฟรี วิลลี เมื่อปี 2536 ซึ่งความโด่งดังของหนังทำให้เกิดกระแสกดดันให้ปล่อยเคอิโกะกลับคืนสู่ธรรมชาติ ซึ่งเริ่มต้นด้วยการฝึกให้เคอิโกะคุ้นเคยกับสภาพท้องทะเลในปี 2539 ก่อนที่ปี 2543 ครูฝึกได้พาเคอิโกะลงสู่ท้องทะเลเปิดที่ได้รับการทำขึ้นมาเพื่อเตรียมตัวเคอิโกะให้พร้อมก่อนกลับคืนสู่ชีวิตตามธรรมชาติ

แต่สุดท้าย เคอิโกะซึ่งเป็นวาฬเพศผู้ ไม่สามารถสื่อสารกับออร์กาที่อยู่ตามธรรมชาติได้ และไม่สามารถเข้าร่วมกับออร์กากลุ่มอื่นๆได้ อีกทั้งยังลำบากในการเรียนรู้ที่จะล่า และมักจะอยู่บนผิวน้ำหรือดำน้ำได้ตื้นกว่าวาฬตามธรรมชาติ

ที่สำคัญ แม้ครูฝึกจะพยายามอย่างเต็มที่ เคอิโกะก็ยังไม่สามารถตัดขาดการติดต่อกับมนุษย์ได้ และยังคงติดตามหรือว่ายกลับมายังเรือของครูฝึกอยู่เสมอ จนท้ายที่สุด เคอิโกะหมดลมหายใจขณะอาศัยอยู่ในทะเลแบบกึ่งถูกขัง ขณะอายุได้ 26 ปี

"การปล่อยเคอิโกะกลับสู่ธรรมชาติพิสูจน์ให้เห็นว่า การปล่อยสัตว์ที่ถูกขังมานานนั้นเป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก เพราะในขณะที่เราต้องการปล่อยสัตว์ที่ถูกจองจำเป็นเวลานานเหล่านี้กลับคืนสู่ธรรมชาติ แต่ความอยู่รอดและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของมันก็ต้องได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงในการทำเช่นนั้นเหมือนกัน" ผลการศึกษาสรุป

ส่วนความคืบหน้าของเจ้าติลิคุม ซึ่งเป็นวาฬเพชฌฆาตตัวใหญ่ที่สุดและอายุมากที่สุดที่ถูกคุมขังอยู่นั้น ล่าสุดทางซีเวิลด์ตัดสินใจให้มันอาศัยอยู่กับสวนน้ำต่อไป แต่ยังคงระงับการโชว์วาฬเพชฌฆาตออกไปอย่างไม่มีกำหนด



จาก : คม ชัด ลึก วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553

สายน้ำ
01-03-2010, 07:32
นักวิจัยชี้ล่าวาฬทำให้โลกร้อน วาฬเพชฌฆาตอยู่ต่อแม้เพิ่งฆ่าครูฝึก

http://www.naewna.com/cgi-bin/27-2-2010/12b.gif
เพชร ฆาตของจริง : ภาพล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีของเจ้าทิลิคุม วาฬเพชรฆาตที่สวนน้ำซีเวิลด์ ปาร์ค ในนครออร์ลันโด รัฐฟลอริด้า ล่าสุด ทางสวนน้ำยืนยันที่จะดูแลเจ้าทิลิคุมต่อไป แม้มันจะเพิ่งก่อเหตุลากครูฝึกลงน้ำและสะบัดอย่างรุนแรง จนทำให้ครูฝึกเสียชีวิตเมื่อหลายวันก่อน (เอพี)


นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า การล่าวาฬซึ่งมนุษย์ทำมานานนับร้อยปี อาจเป็นตัวการปล่อยก๊าซคาร์บอน 100 ล้านตันขึ้นสู่บรรยากาศ เพราะวาฬเป็นสัตว์ใหญ่ที่เก็บกักก๊าซชนิดนี้ไว้มากในร่างกาย ซึ่งเมื่อพวกมันถูกฆ่าก็จะปลดปล่อยออกสู่บรรยากาศไม่แตกต่างจากการทำลายป่า

พอร์ตแลนด์/ ออร์ลันโด (เอพี/บีบีซี นิวส์) - นักวิทยาศาสตร์สหรัฐ เปิดเผยข้อมูลนี้ในการประชุมวิทยาศาสตร์ทางทะเลครั้งสำคัญที่สหรัฐ โดย ดร.แอนดรูว์ เพอร์ชิง จากมหาวิทยาลัยเมน กล่าวว่า วาฬก็เปรียบเหมือนป่าไม้ของมหาสมุทร ซึ่งเมื่อใดที่พวกมันถูกฆ่าและนำตัวขึ้นมาบนเรือหรือบนฝั่ง ก๊าซคาร์บอนที่สะสมไว้ในตัวก็จะถูกปลดปล่อยออกมาสู่บรรยากาศโลก ดร.แอนดรูว์ บอกว่า ผลการคำนวนเบื้องต้นพบว่า การล่าวาฬในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา ทำให้ก๊าซคาร์บอนลอยสู่บรรยากาศเท่ากับการเผาป่าเนื้อที่ 13,000 ตารางกิโลเมตร แต่ก็ยังนับว่าเล็กน้อยเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับก๊าซคาร์บอนที่มนุษย์สร้างขึ้นหลายพันล้านตันในทุกๆปี แต่งานวิจัยนี้ก็ชี้ให้เห็นบทบาทสำคัญของวาฬในการเก็บกักก๊าซคาร์บอนในระบบ นิเวศน์ทางทะเล

นักวิชาการเสนอว่าแผนการซื้อขายสิทธิ์ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับวาฬเพื่อปกป้องและเพิ่มจำนวนวาฬในมหาสมุทร เราอาจใช้การซื้อขายสิทธิ์นี้เป็นแรงจูงใจลดการจับวาฬหรือส่งเสริมให้เกิดการอนุรักษ์วาฬได้

ขณะที่นายจิม แอตชิสัน ประธานซีเวิลด์ ปาร์ค แอนด์ เอนเตอร์เทนเมนท์ กล่าวว่า ครูฝึกจะไม่ลงไปอยู่ในน้ำร่วมกับเจ้าทิลิคุม วาฬเพชฌฆาตในระหว่างที่ยังไม่ได้ข้อสรุปการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงการเสียชีวิตของดอว์น แบรนโช ครูฝึกวัย 40 ปี จิมบอกว่าขณะนี้มีความเชื่อว่า เจ้าทิลิคุม วาฬเพชฌฆาตน้ำหนัก 5 ตันเป็นผู้ฆ่าครูฝึก โดยลากเธอลงไปใต้น้ำขณะมีการแสดง ผลตรวจทางการแพทย์ชี้ว่าครูฝึกน่าจะเสียชีวิตจากบาดแผลหลายแห่งและจมน้ำ ก่อนหน้านี้ เคยมีกรณี "ทิลิคุม" เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของคน 2 คนตั้งแต่ปี 2534 เป็นต้นมา แต่ประธานซีเวิลด์บอกว่าจากเหตุการณ์ล่าสุด จะไม่ลงโทษหรือจับทิลิคุมแยกโดดเดี่ยว และจะให้ทิลิคุมเป็นสมาชิกอยู่ในทีมการแสดงวาฬเพชฌฆาตต่อไป



จาก : แนวหน้า วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553

alice
27-09-2010, 19:19
สองสายคอยเช็คอากาศอยู่ตลอด ซึ่งแน่นอนว่าลมค่อนข้างแรง ในวันแรกคงเป็นไปตามกำหนดได้ แต่วันที่สอง คงต้องเปลี่ยนแผนจากที่จะไปเกาะริ้น ก็เปลี่ยนเป็นไปเกาะใกล้แทน

ส่วนความแรงของน้ำ .... ตามตารางบอกไว้ว่า เป็นช่วงน้ำขึ้นตลอดวัน เบาบ้างแรงบ้างสลับกันไป คงจะพอไหวกับการทำกิจกรรมของเรา

ตุ๊กแกผา
27-09-2010, 20:46
แหะๆๆสงสัยค่ะ........ลงผิดกระทู้อ๊ะเป่าค๊าบบบบบ

สายชล
27-09-2010, 22:05
:confused:.....งงๆอยู่เหมือนกันค่ะ ไปอย่างไรมาอย่างไรกันคะนี่....:confused:

หอยกะทิ
02-10-2010, 15:36
ให้ 1 อมยิ้มครับ ตัดอารมณ์กันแบบสุดๆอ่ะ อ่านๆมากำลังเคลิ้ม