PDA

View Full Version : ฉลามวาฬ


สายน้ำ
13-05-2010, 07:09
ฉลามวาฬ


เช้าวันที่ 11 พ.ค. ชาวบ้านและกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ช่วยตัดอวนที่ติดอยู่รอบตัวฉลามวาฬ ลำตัวยาว 4-5 เมตร ที่ลอยมาติดอวนที่หาดดอนสำราญ ก่อนนำออกไปสู่ทะเลอย่างปลอดภัย

ฉลามวาฬโผล่ให้ชาวบ้านแถบนี้เห็นมานานเกือบ 1 ปีแล้ว

ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2552 ที่ชายหาดบ้านหนองมงคลกับหาดบ้านดอนสำราญ ต.แม่รำพึง ชาวประมงพบฉลามวาฬ 2 ตัว ตัวแรกยาว 10 เมตร อีกตัวยาว 6 เมตร กำลังกินแพลงตอนและลูกปลา กระทั่งชาวบ้านช่วยกันทำจุดชมวาฬ เมื่อวันที่ 13 เม.ย.


"ฉลามวาฬ" เป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ปากกว้างใกล้เคียงกับความกว้างของหัว ตัวมีสีตั้งแต่สีเทาดำ จนถึงสีน้ำตาลแดง หรือน้ำตาลออกเขียว

มีจุดกลมๆถี่ๆ สีขาว หรือสีเหลือง เรียงเป็นแนวตามลำตัว จุดเล็กที่สุดจะอยู่บริเวณหัว ที่อื่นๆอาจจะพบไม่ถี่มาก อาจมีแถบเส้นแคบๆสีขาวหรือสีเหลืองพาดตามขวาง ท้องและส่วนล่างมีสีขาวหรือเหลืองอ่อน

ตัวที่มีขนาด 12 เมตร จะมีน้ำหนัก 12,500 กิโลกรัม

ฉลามแบ่งออกเป็น 8 ชนิด ตามลักษณะกายวิภาค ฉลามวาฬถูกจัดอยู่ในชนิด Orectolobiformes มีช่องเหงือก 5 อัน มีครีบก้น มีครีบหลัง 2 ตอน ไม่มีหนามที่ครีบ ปากอยู่ตรงด้านหน้าของตา

ครีบหางมีร่องบุ๋ม ที่ฐานโคนหางด้านบน และมีสันนูน แต่ละด้านของโคนหางมีครีบหลังแบ่งเป็น 2 ตอน มีปากขนาดใหญ่ อาจถึง 5 ฟุต มีฟันเล็กๆ รูปทรงกรวยโค้ง

ตาขนาดเล็กไม่มีเยื่อหุ้มปิดตา มีเหงือกเป็นท่อขนาดเล็ก หายใจโดยใช้แรงดันน้ำผ่านเหงือกเมื่อปากปิด

อาหารพวกแพลงตอนจะถูกกรองโดยเหงือกกักเก็บไว้เป็นก้อนๆ แล้วกลืนลงไป

หัวด้านบนแบนมาก และไม่พบจงอยปากชัดเจน ต่างจากปากของปลาฉลามชนิดอื่น ฟันเหมือนกันทั้งบนและล่าง แถวละประมาณ 300 ซี่ มี 10 แถว แถวที่ 10-15 ฟันคล้ายตะไบใหญ่

หนังส่วนหลังของฉลามวาฬจะหยาบและเหนียวกว่าสัตว์ชนิดอื่นในโลก ผิวชั้นนอกคลุมทับซ้อนกันระหว่างเกล็ดแข็งๆที่สารคล้ายสารเคลือบฟันเหมือนชุดเกราะ

เกล็ดแต่ละอันมีขนาดกว้าง 0.5 มิลลิเมตร ยาว 0.75 มิลลิเมตร มีปลายแหลมยื่นออกมาลู่ไปทางด้านหลัง หนังชั้นในมีความหนาถึง 14 ซ.ม. หนังท้องอ่อนบาง หนาเพียง 2 ใน 3 ของด้านหลัง

ฉลามวาฬอยู่ในทะเลเขตร้อนทั่วโลก ยกเว้นทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มักอาศัยบริเวณที่น้ำมีอุณหภูมิ 21-26 องศาเซลเซียส ในเขตที่มวลน้ำอุ่นปะทะกับน้ำเย็นและมีแพลงตอนมาก

ในเมืองไทยส่วนใหญ่พบตามกองหินใต้น้ำในบริเวณทะเลเปิด ความลึก 30 เมตรขึ้นไป อาทิ หินริเชลิว อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา หินม่วง หินแดง จ.กระบี่ กองตุ้งกู จ.ชุมพร เกาะโลซิน จ.ปัตตานี ฯลฯ

นักดำน้ำจากทั่วโลกยอมเสียเงินเดินทางข้ามโลก เพียงเพื่อได้เห็นหรือมีโอกาสว่ายน้ำเคียงคู่กับปลาใหญ่ที่สุดในโลกสักครั้งในชีวิต

เคยมีการสำรวจพบว่า ฉลามวาฬหนึ่งตัวที่หินริเชลิวทำรายได้ให้ประเทศไทยประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี

ในอ่าวไทยมีชาวประมงและนักดำน้ำพบฉลามวาฬเป็นประจำในช่วงเดือนต.ค.-ก.พ.ของ ทุกปี ส่วนใหญ่จะเข้ามากินอาหาร ได้แก่ ลูกกุ้ง เคย ที่ชุกชุม

มีรายงานการพบฉลามวาฬในอ่าวไทยหลายครั้ง

2 ม.ค.2546 ที่เกาะรัง จ.ตราด

17 ม.ค.2546 ที่หินเพลิง จ.ระยอง

และ 22 พ.ค.2548 พบเกยตื้นที่หาดแหลมแม่พิมพ์ จ.ระยอง




จาก : ข่าวสด คอลัมน์ คอลัมน์ที่13 วันที่ 13 พฤษภาคม 2553

chickykai
13-05-2010, 08:15
ดีใจที่ชาวบ้านช่วยปลดปล่อยฉลามวาฬออกจากอวนได้อย่างปลอดภัยค่ะ แต่ขณะเดียวกันก็เสียใจด้วยที่เกิดเรื่องติดอวน ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเป็นอวนยังไง อยู่ตรงไหนค่ะ

ตุ๊กแกผา
13-05-2010, 08:21
เย้ๆๆๆๆๆๆๆ ข่าวดีๆๆๆๆๆๆๆ

เฮ่อ!!!!อยากให้เป็นข่าวดีบ่อยๆจัง

moohin+
13-05-2010, 08:27
ดีครับดี ชาวบ้านคงทราบเรื่องการอนุรักษ์เป็นอย่างดี

Super_Srinuanray
13-05-2010, 08:57
น่ายกย่องชมเชย ที่เริ่มเห็นประโยชน์และคุณค่าของฉลามวาฬแล้ว
และได้นำสู่ท้องทะเลอย่างปลอดภัย

คิดว่า ประชาชนทั่วไปหากให้ความรู้ และ สื่อเรื่องประโยชน์ ให้ชัดเจน ก็น่าจะเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้นะคะ เป็นกำลังใจให้ กลุ่มบัวโผล่น้ำ ค่ะ

Kungkings
13-05-2010, 09:18
ตอนดูข่าว เห็นชาวบ้านรีบช่วยกันตัดอวนให้... ทุกคนคงคิดเหมือนกันว่าฉลามวาฬมันคงอึดอัดมากเหมือนกับเราแค่เห็นยังอึดอัดเลย ท่าทางมันเหนื่อยล้ามาก แอบคิดว่ามันก็ฉลาดเหมือนกัน ว่ายเข้ามาขอความช่วยเหลือจากคนได้ ...
สู้ๆ นะจ๊ะ เจ้าฉลามวาฬที่น่ารักไว้เจอกันในทะเลไทย...

-Oo-
13-05-2010, 09:50
เป็นข่าวที่ดีที่สุด ในช่วงนี้

เบลูก้าน้อย
13-05-2010, 09:56
ภาพข่าวจาก Nation ค่ะ

..

Villagers and wildlife activists yesterday untangle a whaleshark from a fishing net and set it out to sea at the Don Samran beach in Prachuap Khiri Khan province. ...

koy
13-05-2010, 10:06
น่ายกย่องชมเชย ที่เริ่มเห็นประโยชน์และคุณค่าของฉลามวาฬแล้ว
และได้นำสู่ท้องทะเลอย่างปลอดภัย

คิดว่า ประชาชนทั่วไปหากให้ความรู้ และ สื่อเรื่องประโยชน์ ให้ชัดเจน ก็น่าจะเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้นะคะ เป็นกำลังใจให้ กลุ่มบัวโผล่น้ำ ค่ะ

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ถ้าชาวบ้าน/ชาวประมงรู้และเข้าใจดีถึงความหมายและความสำคัญของทรัพยากร ก็จะเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนกว่าวิธีการต่างๆที่หน่วยงานทำกันเพื่ออนุรักษ์ทะเลไทย เพราะทะเล ปลาและอื่นๆคือวิถีชีวิตที่พวกเขาต้องอยู่และเจอทุกวี่ทุกวัน

angel frog
13-05-2010, 10:51
ข่าวดี ในรอบสัปดาห์
...น่ารักมากกกกก

Super_Srinuanray
13-05-2010, 10:54
น้องก้อย...คม มากครับ...

koy
13-05-2010, 11:28
น้องก้อย...คม มากครับ...

แฮ่ะ แฮ่ะ ก็ต่อยอดจากไอเดียพี่ติ่งนั่นแหละ

Super_Srinuanray
13-05-2010, 11:49
คนที่มีความคิดเหมือนๆ หรือคล้ายๆ กัน เมื่อมาเจอกัน ก็เหมือนว่ารู้จักกันมานานแรมปี
ดังนั้น ก็ไม่ต้องอาย หรือ ไม่กล้า ใช่ไหมค่ะ ยืนยันค่ะ บ้านนี้ น่าอยู่จริงๆๆ

พี่ๆ น้องๆ ทุกคนน่ารักมากๆๆๆ ถึงแม้บางคนอาจจะติดธุระ ไม่สามารถเข้ามาในเวป ได้บ่อยๆๆ แต่เมื่อถึงเวลาคับขัน พวกเราเน้นแฟ้น กันจริงๆๆ ค่ะ เพราะพวกเรามีเสาหลัก อย่างพี่น้อย พี่จ๋อม เป็นที่ยึดเหนี่ยว จริงไหมค่ะพี่น้อง...

ดอกปีบ
13-05-2010, 12:29
ร่วมชื่นชมเรื่องดีๆด้วยคนครับ .. เรื่องดีๆแบบนี้ยิ่งต้องเผยแพร่

สายชล
13-05-2010, 17:12
ขอบคุณชาวประมงและกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง ที่ช่วยฉลามวาฬตัวนี้ให้อยู่รอดปลอดภัยค่ะ


และน่าดีใจที่มีผู้รู้และเห็นคุณค่าของสัตว์หายากอย่างฉลามวาฬมากขึ้น



ถ้าฉลามวาฬเป็นปลาแห่งเทพเจ้าจริงๆ........ขอให้เทพเจ้าอำนวยพรให้ผู้ช่วยเหลือฉลามวาฬตัวนี้ทุกท่าน มีความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไปนะคะ

แม่หอย
13-05-2010, 17:31
ชาวบ้านที่บางสะพานน้อยนั้น มีกลุ่มอนุรักษ์ฯ ที่เหนียวแน่นอยู่แล้วค่ะ
ชาวประมงชายฝั่งพื้นบ้านก็มีการรวมกลุ่มกันร่วมจัดการดูแลทรัพยากรประมงอย่างแข็งขัน
เพิ่งได้ไปร่วมกิจกรรมโครงการด้านประมงในชุมชนเมื่อวันศุกร์สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง ได้ยินข่าวว่าฉลามวาฬเพิ่งเข้ามาชายทะเลที่นั่นในวันสองวันนั้นเอง ..
มาได้ยินอีกที ติดอวนซะแล้ว โชคดีที่มีคนร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือจนรอดชีวิตกลับสู่ทะเลได้ในที่สุดนะคะ

Birdie
13-05-2010, 18:52
ดีจัง.. ชาวบ้านน่ารักมาก.. ถ้าเป็นแถวจีน สงสัยครีบหาย ตายแหงแก๋

แฟ้มบุคคลขอปรบมือให้...

KENG@SK
30-05-2010, 13:26
ดีจังเลยครับถ้าทุกคนช่วยกันอย่างงี้ฉลามวาฬคงไม่หายไปจากประเทศไทยแน่ๆ