ในที่สุดก็ถึงไฮไลท์ของทริป เวนาปิกชู ที่พวกเราทั้งปีน ป่าย คืบ คลานขึ้นไปจนได้
ยังจำภาพนั้นติดตา หลังจากที่พวกเราคือพี่ไพโรจน์ พี่หมอฮวง อ้อย และติ๋วขึ้นไปบนยอดเวนาิปิกชูแล้ว ยังคุยกันว่าสงสัยพี่สองสายคงไม่ขึ้นมาแล้วแหละ เพราะเส้นทางมันชันสุดๆ พอเวลาผ่านไปพอสมควร ผมกับอ้อยตัดสินใจจะลงจากยอดแล้ว ก็เห็นพี่สองสายกับไกด์เดินทะลุหมอกขึ้นมา สุดจะทึ่งงงงงจริงๆ |
ขอบคุณค่ะ น้องก้อย....ที่มาเป็นกำลังใจโดยตลอด การขึ้นไวนาปิกชูครั้งนี้...เป็นความสุขใจและภูมิใจ ในชีวิตครั้งหนึ่ง ที่สามารถเอาชนะใจและกายของตัวเองได้สำเร็จค่ะ....:) |
นกน้อบตัวกระจิดริดหลายตัว บินร่อนไปร่อนมา แล้วก็ถลาลงมาอยู่ใกล้ๆตัวฉันและนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่นั่งพักอยู่แถวๆระเบียงหินริมหน้าผา มันส่งเสียงร้องจิ๊บๆหวานเสนาะโสต ฉันเข้าใจว่ามันคงบินมาขออาหาร ที่นักท่องเที่ยวเคยให้อยู่เป็นประจำ จนคุ้นชินกับมนุษย์ ไปค้นชื่อเขาดู พบว่าเขาชื่อว่า Rufous-collared Sparrow |
ทางเดินขึ้นยอดเขา เริ่มเป็นบันไดหินสลับกับลานหญ้าบนระเบียง ที่ทำเป็นชั้นๆ เหมือนนาขั้นบันได เห็นการสร้างอาคารและทางเดินบนยอดเขาแห่งนี้แล้ว นับถือความสามารถของชาวอินคาจริงๆค่ะ...ก็แค่เราเดินขึ้นมาถึงนี่ได้ ก็แทบจะม้วยมรณาแล้ว นี่เขาขนหินหนักๆขึ้นเขาสูงชัน มาสร้างอะไรต่อมิอะไรได้อย่างน่ามหัศจรรย์... |
จุดที่ฉันนั่งพัก เมื่อชะโงกหน้าลงไป จะเห็นมุขที่ยื่นออกไปบนหน้าผาสูงชัน ทางด้านติดกับมาชูปิกชู ซึ่งดูออกจะแปลกไปจากที่เคยได้เห็นมา ไกด์บอกว่า ตรงจุดนี้ อาจจะเป็นที่สำหรับยืนส่งสัญญาณไฟสื่อสารกัน ระหว่างไวนาปิกชู กับมาชูปิกชู และยอดเขาอื่นๆ ที่มีทหารรักษาความปลอดภัยประจำอยู่... เมื่อเมฆหมอกเริ่มจากลง เราก็เห็นว่ามุขนั้นยื่นและหันตรงไปทางมาชูปิกชูจริงๆ...จากจุดนี้ นาขั้นบันไดซึ่งอยู่ด้านล่างทางทิศตะวันออกของมาชูปิกชู และถนนซิกแซก ที่รถบัสใช้วิ่งขึ้นลง สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เสียดายที่ยอดมาชูปิกชูยังถูกเมฆหมอกคลุมอยู่มิด http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_77.jpg เมื่อมองขึ้นด้านบน ก็เห็นอาคารที่มีลักษณะสมบูรณ์มาก ตั้งตระหง่านอยู่ริมหน้าผา อาคารนี้นับเป็นอาคารแรกที่เราได้เห็นบนไวนาปิคชู... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_78.jpg |
สองตายายช่วยกันฉุดช่วยกันดึง โดยมีไกด์คอยช่วยเหลือ และเป็นกำลังใจให้เราไปตลอดทาง จนในที่สุด...เราก็ทะลุเมฆขึ้นไปยืนบนจุดสุดท้าย ที่เกือบจะถึงยอดเขาไวนาปิกชู น้องๆอีก 5 คน...ส่งเสียงทักทายต้อนรับเรา ที่สามารถตะเกียกตะกายขึ้นมาถึงจุดนี้ได้สำเร็จ http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_94.jpg กว่าจะไปถึงน้องๆที่อยู่ด้านบนได้...ฉันจำเป็นต้องปีนขึ้นบันได.....แบบนี้... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_92.jpg และ...แบบนี้... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_93.jpg น้องๆต้อนรับเราด้วยผลสตรอเบอรี่่ป่า ที่ขึ้นอยู่บนลานหญ้าของระเบียง ซึ่งแต่เดิม น่าจะเป็นที่ที่ใช้ปลูกผัก หรือไม้ดอกไม้ประดับ...ช่างน่ารักเหลือเกินค่ะ ฉันเห็นแล้วแทบหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_86.jpg |
เมื่อพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว...ไกด์พาเราเดินไปที่โพรงถ้ำแคบๆเล็กๆ แล้วเขาก็เดิน...ที่ถูกน่าจะเรียกว่าแทบจะคลานเข้าไป ฉันโวยวายจะไม่เข้า แต่เขาก็บอกว่าถ้าไม่เข้าทางนี้ เราจะต้องเดินอ้อมและปีนเขาอีกไกล...เอ้าเข้าก็เข้า... ฉันต้องนั่งยองๆตอนจะมุดเข้าโพรงถ้ำเล็กๆที่เปียกแฉะ แล้วค่อยๆขยับเข้ามาในโพรงที่กว้างกว่าปากโพรงเล็กน้อย จึงพอจะยืดขาค้อมตัวเป็นเบ็ดแล้วเดินไปทางปากโพรง ที่ตีบเล็กกว่าปากโพรงอีกด้าน โดยมีไกด์แอบนั่งถ่ายภาพฉันอยุ่กลางโพรงถ้ำ.... กว่าจะลอดออกไปได้...ฉันต้องเหยียดตัวยาว แล้วคลานกระดืบๆออกไป http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_89.jpg บัดดี้ของฉันก็ต้องรอดโพรงถ้ำ และเจอสภาพเดียวกันกับฉัน http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_88.jpg แต่เขากลับหัวเราะร่าด้วยความขบขัน... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_91.jpg ออกมาจากโพรงนั้นแล้วยังไม่พอ เรายังต้องเข้าไปในโพรงหินเล็กๆ แล้วปีนบันไดลิง เพื่อโผล่ไปบนลานหินแกรนิตก้อนใหญ่ๆที่วางเรียงกันเป็นลานกว้างที่เทลงเล้กน้อย ....นี่คือโพรงหินที่เราปีนบันไดลิงแล้วโผล่ขึ้นมาบนลานหิน.... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_87.jpg |
ออกมาจากโพรงหินแล้วก็ต้องป่ายปีนต่อ...ดูภาพแล้วหวาดเสียวดีแท้ (แต่ตอนป่ายปีนกันนั้น ไม่ได้นึกกลัวอะไรกันเลย) http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_95.jpg เราปีนไปนั่งรวมกันอยู่ในร่องระหว่างหินก้อนใหญ่...ฉันเพิ่งมาสังเกตว่าน้องไพโรจน์และน้องหมอฮวงหายไป ได้ทราบจากน้องอ้อยว่า น่าจะลงเขาไปแล้ว http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_98.jpg แต่ไกด์ที่น่ารักบอกเราว่า มาถึงที่นี่แล้วทั้งที เราควรจะปีนขึ้นไปอยู่บนยอดหิน ที่สูงที่สุดของไวนาปิกชู...และแล้วเขาก็ชี้ให้เราปีนขึ้นไปนั่งบนหินก้อนที่อยู่สูงที่สุดในบริเวณนั้น และนั่นหมายถึงยอดที่สูงสุดของไวนาปิกชูด้วย ฉันกับน้องติ๋ว จึงค่อยๆถัดก้นจากร่องหิน ขึ้นไปนั่งอยู่บนยอดหินที่สูงที่สุดนั้นทันที แบบไม่มีอิดเอื้อน http://i835.photobucket.com/albums/z...Picchu_101.jpg จากนั้น...บัดดี้ของฉัน น้องก้อย และน้องอ้อย ก็ตามขึ้นไปนั่งอยู่บนหินก้อนเดียวกัน.. http://i835.photobucket.com/albums/z...Picchu_102.jpg |
อากาศเย็นสบาย...ฉันเชื่อว่าทุกคนมีความสุขกันมาก ความเหน็ดเหนื่อยและเมื้อยล้าจากการปีนเขาขึ้นมานั้น มลายหายไปสิ้น... http://i835.photobucket.com/albums/z...Picchu_103.jpg เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆที่จับจองยอดหิน นั่งๆนอนๆพักผ่อนอย่างสบายใจ... http://i835.photobucket.com/albums/z...Picchu_104.jpg เจ้านก Rufous-collared Sparrow ตัวจ้อย เดินมาอยู่ใกล้ๆเรา พร้อมส่งเสียงหวานเหมือนขับกล่อมเรา (แต่จริงๆมีนคงร้องขออาหารจากเรามากกว่า) http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_96.jpg น่ารักเหลือเกินค่ะ... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_97.jpg |
ฝนเริ่มโปรยปรายเปาะแปะลงมา เสี่ยงเกินไปที่จะอยู่บนที่โล่งอย่างนี้ เราจึงพากันลงจากก้อนหินบนยอดเขาไวนาปิกชู ด้วยความอาลัยอาวรณ์....ไกด์พาฉันและบัดดี้ลงไปนั่ง ที่ระเบียงกว้างด้านที่ติดกับมาชูปิกชู ส่วนน้องๆขอตัวลงไปข้างล่าง เพื่อไปสมทบกับน้องไพโรจน์ และ น้องหมอฮวง ณ.จุดที่เรานั่งกันอยู่ เมื่อเมฆฝนลอยผ่านไป เราก็พอจะได้ชมวิวทิวทัศน์ ที่อยู่เบื้องล่าง.... http://i835.photobucket.com/albums/z...Picchu_108.jpg นั่นไง...อาคารที่ฉันได้เห็น ตอนอยู่ที่ระเบียงด้านล่าง แล้วนั่นต่ำลงไปเบื้องล่าง เป็นเขื่อนกั้นแม่น้ำอูรูบัมบา ที่อยู่ด้านตะวันตกของมาชูปิกชู http://i835.photobucket.com/albums/z...Picchu_105.jpg มาชูปิกชูเริ่มปรากฏให้เห็นลางๆเลือนๆ http://i835.photobucket.com/albums/z...Picchu_107.jpg และแล้วก็เลือนหายไป.. http://i835.photobucket.com/albums/z...Picchu_106.jpg |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:11 |
vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger