30 นาทีผ่านไป...ไวเหมือนโกหก( เห็นม๊ะ...ไม่ใช่เราคนเดียวน๊ะที่รับประทานอาหารเร็ว)

ก็ไปต่อกันเลย....สถานที่แรกที่จะพาไปอยู่ในเมืองนี่แหล่ะค่ะ....ก็เลยต้องพาเข้าเมืองแบบนี้ (ไม่มีใครมองออกว่า นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อของเมืองAlexandria อันเก่าแก่)

ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที รถก็พาเรามาที่นี่ค่ะ

"หลุมฝังศพใต้ดินแห่งอเล็กซ์ซานเดรีย" (Catacombs)

เป็นที่ฝังศพใต้ดินโบราณ หลังยุคปิรามิด และเนื่องจากไม่สามารถนำกล้องเข้าไปได้....พวกเราจึงพร้อมใจกันฝากไว้ด้านบน (คนขับรถเฝ้าให้) แล้วเดินลงไป

ก่อนไปที่หลุมดังกล่าว มีอาคารหลังเล็กๆโทรมๆ อยู่ด้านหน้า magdy บอกว่า นี่เป็น museum เล็กๆ ของที่นี่ เป็นที่เก็บประวัติการค้นพบ-การขุด-ข่าว ฯลฯของหลุมนี้

อึม! เล็กจริงๆด้วย....เดี๋ยวตอนขึ้นมาค่อยเข้าไปดูละเอียด (คิดไว้ว่างั้น) เพราะMagdy เรียกแล้ว

ใจจริงอยากนำรูปสถานที่รอบๆมาให้ดูแล้วให้ทายว่าอยู่ตรงไหน.....เกรงว่าจะทายถูกกันหมด ก็เลยจะเฉลยเลยยยย

และอย่างที่บอก....ห้ามบันทึกภาพ เราจึงต้องพรรณาโวหาร (แบบของเราเอง เลียนแบบยาก เพราะทำยากมาก ที่ทำให้อ่านแล้ว....งงมากขึ้น55555)

นั่นแหล่ะที่เหมือนฝาชีนั่นแหล่ะ หลังคาครอบทางเข้าอยู่....ไปตามไปดูกัน เอ้า!เริ่มจินตนาการตามเลยยยยยย

ที่นี่มีระเบียบระบบชัดเจน ต้องเดินลงไปอย่างช้าๆ อาจจะเนื่องจากลงลึก(เหมือนดำน้ำ) และที่สำคัญเป็นบันไดหิน เวียนลงไปเรื่อยๆ ( นึกภาพแก้วน้ำขนาดใหญ่ เราอยู่ที่ปากแก้ว มีบันไดวนรอบๆแก้ว เพื่อนำเราไปสู่ระดับเดียวกับก้นแก้ว สรุปง่ายๆคือ คล้ายการทำบ่อน้ำบาดาลบ้านเราสำหรับโพงน้ำขึ้นมาใช้ แต่บ่อที่ว่ามีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบ 10 เมตร ไม่มีน้ำแล้ว (ม่งั้นคงต้องแบกTANK กันลงไปดูกันทีเดียว5555) และพื้นที่รอบนอกของบ่อ เขาทำบันไดเวียนลงไปนั่นแหล่ะ) ถ้าก้าวพลาด ก็เจ็บตัวแน่ๆ (ไม่ว่าจะเก็บคองอเข่ายังไงก็เจ็บ) ระหว่างทางเดินลง มีการเจาะช่องขนาดเท่าหน้าต่าง เป็นระยะๆด้วย ( วัตถุประสงค์น่าจะเพื่อการระบายอากาศประการหนึ่ง ช่องสำหรับดูด้วยประการหนึ่ง และ การช่วยเวลามีการขนศพลงมาด้วยอีกประการหนึ่ง )

พอถึงก้นบ่อ ( ความลึกประมาณตึก 4-5 ชั้นน๊ะ) ตรงกลางเป็นแท่นที่ใช้วางโลงที่ใส่ศพมา (ตอนที่ดู เป็นแท่นเปล่าๆ) มีการทำลวดลาย ที่Magdy บอกว่า เป็นตราประจำตระกูล(หรืออะไรประมาณนั้น เพราะเขาบอกว่าเป็นสัญลักษณ์ของครอบครัวเจ้านายคนนั้น) รอบๆ มีช่องเดินไปต่อ (เหมือนช่องทางของท่อระบายน้ำใต้ดินนั่นแหล่ะ แต่ละช่องที่เดินเข้าไป จะมีทางแยก ทางแยก ทางแยก แล้วก็ทางแยก เต็มไปหมด เส้นทางเดินทุกเส้น ที่ผนังมีการเจาะรูเป็นช่องๆ ขนาดประมาณ 2 x 2 x 7 ฟุต เดาออกกันแล้วใช่ม๊าว่ามันคืออะไร? อ้อ! ลืมอีกอย่าง มีฝาเอ้ย!มีแผ่นหินปิดอยู่ด้านนอกด้วย (ที่ทราบเพราะมีรอยถูกกระเทาะออก บางช่องยังมีแผ่หินบางส่วนอยู่....ไม่บอกก็รู้ว่า ผู้ทำการเปิดแรกๆเนี่ย หวังอะไรจากการเปิดแต่ละแผ่นออก....(ที่ไหนๆในโลกก็เหมือนกัน ต้องมีคนบางกลุ่มที่อยากได้ของคนอื่นเหมือนกันหมดเลยยยย )

ตอนที่ลงไปดู เขาทำทางเดิน(เป็นยกพื้นที่ทำมาจากไม้ (คล้ายๆบ้านเรา ถนนที่น้ำท่วมแล้วทำยกพื้นเป็นไม้ให้เราเดินไป-มาได้นั่นแหล่ะ) เป็นการบังคับกลายๆให้เดินตามนั้น ห้ามเพ่นพ่าน(อันนี้คิดเอาเอง) เพราะพื้นหินจริงๆนั้น บางส่วนมีน้ำท่วมขังอยู่) ไว้ เราเดินไปตามทางเดินนั้นๆ แหล่ะ

มีอยู่2-3 ห้องที่น่าสนใจ

ห้องแรก........(จะเรียกว่าช่องก็ได้) ขนาดใหญ่กว่าปกติประมาณ6เท่า เขาบอกว่าเป็นที่ทำมัมมี่

ห้องต่อไป......ทำเป็นห้องเฉพาะ มีลวดลายสวยงามตามผนังห้อง หลายคน(หรือแทบทุกคน)เดาออกว่า เป็นช่องใส่มัมมี่ของบุคคลสำคัญในตระกูล

ห้องต่อไปอีก....เป็นห้องเฉพาะ มีช่องเดียว ลวดลายไม่ต้องพูดถึง....งามนัก
และปากทางเข้ามีรูปวาดผู้ดูแลซ๊ะด้วย ลวดลายที่เห็นปัจจุบัน มีให้เห็นบ้าง บางส่วนหายไปแล้ว จาก...( Top secret อีกนั่นแหล่ะ)

มีเรื่องตื่นเต้นๆๆๆๆที่นี่มาเล่าให้ฟังด้วยแหล่ะ....เรื่องมีอยู่ว่า

ระหว่างที่เรากำลังคุยกันเรื่องหลุม ช่องใส่มัมมี่บริวาร ที่ตั้งศพที่ขนลงมาอยู่นั้น ก็ปรากฏแสงแฟรชวูบวาบๆๆๆๆๆๆๆๆ ออกมาจากห้องที่เป็นHi-light ของที่นี่ (เฮ้ย! เขาไม่ให้ถ่ายรูปนี่นา แล้วแสงที่ว่ามันมาจากไหนฟ๊ะ????.....ความคิดของเราและผองเพื่อน)

สิ่งที่เราไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น.... Magdy เอ่ยขอตัวกับพวกเรา เดินลับหายไปในช่องดังกล่าว มีเสียงโต้เถียงกันเล็กน้อยดังออกมา สักพักนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่(ขอบอกว่าใหญ่ม๊ากกกกก) ก็เดินออกมา โดยมีมัคคุเทศก์ชาวอียิปต์เดินนำออกมา..... รีบเดินขึ้นข้างบนทันที แต่ช้ากว่า Magdy ที่ล่วงหน้าไปบอกเจ้าหน้าที่ก่อนนั้นแล้ว(....เป็นยังไงหล่ะมัคคุเทศก์ของเรา...เดี๋ยวเล่าต่อตอนสุดท้ายว่าเป็นไง หลายคนขัดใจว่า....อยากรู้อ๊ะ)

อ๊ะๆ เล่าเลยก็ได้(จริงๆเล่นตัวไปอย่างนั้นแหล่ะ5555) จากคำบอกเล่าของหัวหน้าทริปที่คุยกับMagdy ภายหลังมาเล่าให้เราฟัง ( มัคคุเทศก์เรานี่มารยาทดีจริงๆ ไม่เคยอารมณ์เสีย หรือโวยวายให้พวกเราเห็นเลย ) ว่าMagdy ไปบอกผู้ดูแลข้างหน้าให้ทราบไว้....เขาก็น่ารักน๊ะ ดำเนินการทันทีเลย มีการตรวจกล้องนักท่องเที่ยว....ลบภาพที่ถ่ายในหลุมนั้นทิ้งไป(ตามความคิดเราคือ จะหมดทุกกล้องรึเปล่า?ไม่รู้) แล้วที่มาของการนำกล้องลงไปในนั้นก็เป็นไปตามที่คิดไว้........ธนบัตรรัฐบาลอียิปต์นี่เอง ส่วนใครจะให้ใคร ก็ต้องคิดเอาล่ะค่ะ.....

ต่อๆๆๆๆๆๆๆ

magdy ย้อนกลับมาเล่าให้เราฟังต่อ (Spirit แรงกล้าจริงๆเลย มัคคุเทศก์ของเรา) ว่า วิธีการคือ การหย่อนศพลงมาจากด้านบน ลงมาที่ใจกลางของหลุมนั้น มีพิธีการต่างๆ (รอบๆจะมีแท่น เป็นที่วางของใช้และเครื่องบูชาของเขา.....( เขาเล่าว่า ตามตำนานกล่าวว่าทุกๆปี บรรดาญาติของคนตาย จะมากราบไหว้บรรพบุรุษ(เหมือนบ้านเราเลย) ก็จะทำพิธีกันที่นี่เลย) หลังจากนั้น จะมีผุ้นำเอาศพไปทำมัมมี่ที่ห้องทำมัมมี่ แล้วนำมาเก็บไว้ตามช่องต่างๆ นั่นเอง

หลังจากที่เราดูกันจุใจแล้ว เหมือนเดิมเลย.....เดินขึ้นน๊ะสิ

ตอนเดินลงไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไหร่....ตอนขึ้นได้เหงื่อมานิดหน่อย(ขนาดค่อยๆเดินน๊ะเนี่ย) แต่พอขึ้นมาถึงข้างบน.....เฮ้อ! อากาศดีจังเยย หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

เดินดูรอบๆที่นี่ดีกว่า เราเดินได้ประมาณ 15 นาที เพราะ magdy บอกว่าดูหรือถ่ายรูปไปก่อน ค่อยคุยกันบนรถ เพราะต้องรีบไป pompey's Pillar ก่อนจะปิด.....เราเลยต้องโบกมือลาที่นี่ไปก่อน

ขึ้นรถได้ดูนาฬิกา.....โอ๋ย! เราอยู่ที่นี่ชั่วโมงกว่าๆเชียวหรือนี่ มิน่าMagdy เร่งจังเลย555555

ก่อนเดินทางต่อ....มาดูข้าวของที่ขุดมาได้(บางส่วน เพราะส่วนใหญ่ จะย้ายไปอยู่พิพิธภัณฑ์หมดแล้ว)

อันนี้เด่นมั่กๆ...เราชอบรายละเอียด

แวะไปดูชาวบ้านร้านตลาดของ Alexandria กันก่อนดีกว่า....