ร่องรอยสัตว์ป่าก็มีให้เห็นตลอดตามทางในรูปจะเป็นรอยขุดดินของหมูป่ารอยเม่นแทะต้นไม้
รอยเท้าช้างที่ใหญ่มาก(จากโคนต้นใผ่ในรูปถึงข้างเท้าด้านขวาของผม)พี่บุญยิ่งกะขนาดตัวใว้ที่สูงถึงหลัง2.5เมตรขึ้นไป:eek:
และรอยหมีปีนต้นไม้

ตรงนี้เฟิร์นขึ้นตาม2ข้างทางเหมือนในหนังเรื่องจูแรสสิกปาร์คเลย

ออกมาถึงทุ่งหญ้าแล้ว:dตรงนี้เคยเป็นทีทำไร่ของชาวบ้านสมัยที่ยังไม่มีการตั้งอุทยานและมีการตั้งชุมชนทำไร่ทำนาขึ้น
เมื่อมีการตั้งอุทยานก็ได้ให้ชาวบ้านลงไปทำมาหากินด้านล่างพื้นที่เพาะปลูกจึงกลายเป็นทุ่งหญ้าที่นี่จากตรงนี้สามารถมองเห็นหอดูสัตว์หนองผักชีแล้ว

ตรงนี้เป็นโป่งเทียมที่เจ้าหน้าที่อุทยานมาทำให้ครับมีรอยสัตว์มากมายข้างล่างเป็นขี้หมาในสังเกตุได้จากขนสัตว์ข้างในและรอยกีบเท้าของสัตว์ที่โป่งเทียมครับ

หนองผักชีเป็นหนองน้ำที่มีน้ำอยู่ทุกฤดูกาลจึงเป็นเส้นเลือดสายสำคัญที่หล่อเลี้ยงสัตว์ในบริเวณนี้

หอดูสัตว์หนองผักชีเป็นหอดูสัตว์ขนาดใหญ่ประมาณตึก3ชั้นสามารถมองเห็นโป่งเทียมทุ่งหญ้าและหนองน้ำได้อย่างชัดเจนเป็นที่เฝ้าดูนกและสัตว์ป่าที่สะดวกสบาบรวมทั้งเป็นจุดแวะพักหลังจากเดินป่าด้วยแต่ก่อนด้านล่างจะมีห้องน้ำแต่เนื่องจากเวลาน้ำหมดไม่มีคนไปหาบน้ำขึ้นมาจึงปิดไป

พักเหนื่อยเดินทางต่ออีก700เมตรเพื่อขึ้นรถกลับที่ทำการแนะนำว่าผู้ที่จะเดินป่าเส้นทางนี้ควรเดินตอนเย็นหรือหน้าหนาว
เนื่องจากเส้นทางช่วงทุ่งหญ้าและระยะทาง700เมตรนี้จะร้อนมากถ้าเหนื่อยมากๆอาจจะเป็นลมไปเลยก็ได้ระหว่างทางมีรอยเผาหญ้าให้หญ้าแตกใหม่(หญ้าระบัด)
มีฝูงกวางมากินหญ้าอยู่ไกลๆนกกระเบื้องผาตัวดำเกาะอยู่ที่ป้ายระหว่างทางมีนกเงือกกรามช้างบินผ่านไป

กลับมาถึงที่ทำการมีเก้ง2ตัวเดินก้มๆเง้ยๆหาอาหารอยู่ข้างทาง

ช่วงเวลาที่ทุกคกินข้าวผมใช้เวลาเดินไปที่น้ำตกกองแก้วด้านหลังที่ทำการอุทยานระหว่างทางมีนกหัวขวาน2-3ตัวกระโดดไปๆมาๆระหว่างกิ่งไม่ถ่ายรูปยากมากเนื่องจากทั้งไวและแสงน้อย

น้ำตกกองแก้วเป็นน้ำตกขนาดเล็กแต่สวยงามในหน้าฝนน้ำน่าจะเต็มพื้นที่และเดินไปไม่ได้อย่างตอนนี้