5555...เจ้าอัลปากาคิดค่าตัวได้ตลกมาก หัวเราะกันท้องคัดท้องแข็งเลยค่ะ...น้องเก่ง |
น้องอ้อยจ๋า...เมื่อวานยุ่งทั้งวันค่ะ พอถึงกลางคืนก็ง่วงมากๆ วันนี้ก็ต้องไปงานแต่งงานสองงาน เที่ยงและเย็น งานเย็นต้องไปถึงโคราชนู่น พรุ่งนี้จะมาลงต่อนะคะ |
ขอบคุณคร้าบบบบ...พี่สายชลคนขยัน ขับรถปลอดภัยนะคะพี่น้อย แล้วจะเข้ามาปูเสื่อรอคอยใหม่ฮับ...ไปหาชื่อดอกไม้ดีก่า ^____^
|
เข้ามาปูเสื่อรออีกคน พร้อมขนมขบเคี้ยวอีกถาดโต แต่ไม่อยากให้ถึงปัจฉิมบท อยากอ่านและดูภาพไปเรื่อยๆ (พี่ทั้งสองเก็บรายละเอียดและภาพได้เยอะจริงๆ) ขออนุญาตเก็บไว้เป็นไดอารี่การเดินทางไกลอีกครั้งหนึ่งนะครับ
|
ขอบคุณจ้ะ น้องอ้อย...พรุ่งนี้ลงเรื่องต่อนะจ๊ะ...:) ได้เลยค่ะน้องก้อย...ว่าแต่แบ่งขนมให้พี่ทานบ้างสิจ๊ะ...:) |
จักรวรรดิ์อินคา ทำให้ดินแดนแถบเทือกเขาแอนดีสยิ่งใหญ่ และเจริญรุ่งเรื่องมาก มีการก่อสร้างถนนหนทางเชื่อมต่อกันระหว่างเมืองต่างๆบนเทือกเขาเหมือนใยแมงมุม การเกษตรก็เจริญรุ่งเรือง สามารถสร้างผลผลิตได้มากมาย สามารถเก็บไว้กินไว้ใช้ได้หลายปี การเลี้ยงตัวลามาและอัลปากา เพื่อนำขนมาถักทอเป็นผ้า เนื้อใช้กิน และนมใช้ดื่ม ก็เป็นไปด้วยดี การแพทย์ก็น่าทึ่งมาก มีการผลิตยารักษาโรค โดยใช้พืชสมุนไพรที่มีอยู่ มีหลักฐานว่าชาวอินคาเรียนรู้เรื่องการผ่าตัด มาแต่โบราณกาล หมอของอินคาสามารถผ่าตัดสมอง ตัดต่อและปะกระโหลกศรีษะของคนป่วย ได้อย่างน่าทึ่ง http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_13.jpg ด้านการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน วิหาร และราชวังก็ยิ่งใหญ่อลังการ เทียบเท่ากับชาวอียิปต์โบราณ ที่สร้างปิรามิดได้ จนมีคนกล่าวกันว่าไม่ใช่มนุษย์โลกหรอกที่เนรมิตสิ่งก่อสร้างนี้ แต่เป็นมนุษย์ต่างดาวต่างหาก.... http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_15.jpg หินแกรนิตที่นำมาใช้ก่อสร้างนั้นทั้งใหญ่ทั้งหนัก และถูกนำมาจากที่ไกลๆ เพื่อนำมาต่อกันเหมือนกับตัวต่อเลโก้ ซึ่งทั้งสวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อยน่ามหัศจรรย์.. http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_16.jpg น่าทึ่งนะคะ... http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_17.jpg |
ด้านหน้าของหินบางก้อนถูกขัดจนเรียบเนียน หรือเป็นลายตารางเล็กๆ ก่อนนำมาต่อกันกับก้อนอื่นๆ แบบแนบชิดสนิท ไร้ร่องหรือรูให้มองลอดทะลุ... http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_18.jpg ไกด์ชี้ให้เราลองดูเบื้องหลังหินที่ราบเรียบ กับด้านหลังที่เห็นร่องรอยการสกัดออกมา แบบดิบๆไม่ได้ปรุงแต่งสิคะ... http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_21.jpg ไม่ใช่มีแต่การต่อแบบเรียบๆ แต่สามารถเล่นลวดลาย ต่อเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยย่อยลงไปอีก ได้อย่างน่าทึ่ง... http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_22.jpg ตัวอย่างหินที่สกัดออกมา และตกแต่งด้านหน้าให้เรียบแล้ว จะเป็นอย่างนี้... http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_19.jpg |
หินที่จะนำมาต่อกัน มักจะสกัดให้มนตรงขอบๆ ไม่ใช่เรียบเสมอกันทั้งก้อน... http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_23.jpg หินที่นำมาต่อกันด้านบนหรือด้านข้าง โดยไม่ได้ใช้ปูนหรือกาวมาต่อกัน แต่ทำเป็นสลักตัวผู้ตัวเมีย เหมือนตัวต่อเลโก้ http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_26.jpg หินก่อนนี้เห็นสลักที่ถูกเชาะไว้ได้ชัดเจน http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_27.jpg ไกด์พาเราไปชมสลักที่ใช้ล็อคหินให้ติดแน่นกันแบบต่างๆ http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_28.jpg |
วิหารสุริยเทพ หรือ คอริกันชา ถูกสร้างขึ้นเป็นที่สัการบูชาดวงอาทิตย์ และที่พักของนักบวช และนางผู้ถูกเลือก (Chosen Women...เด็กสาวบริสุทธิ์อายุตั้งแต่ 10 ขวบ ที่ถูกเลือกมาให้อาศัยอยู่ในวิหาร เพื่อให้เรียนรู้เรื่องงานบ้านงานเรื่อน ศิลปวัฒนธรรม และเรื่องเกี่ยวกับศาสนาและพิธีการ พอผ่านไปสักสองสามปี ก็จะถูกนำไปให้รับใช้ในวัง บ้านคหบดี หรือถูกนำไปบูชายันต์ ) ฉะนั้นห้องต่างๆในวิหาร จะมีช่องหน้าต่างให้แสงอาทิตย์ลอดผ่านได้ทุกห้อง... http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_24.jpg ช่องที่ให้แสงอาทิตย์ยามรุ่งอรุณลอดผ่าน จะทอดเป็นลำลอดผ่านช่องหน้าต่างเหล่านี้ http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_25.jpg โมเดลแสดงวิหารพระอาทิตย์ ที่ตั้งอยู่บนเนินสูง ด้านหน้าหันไปทางทิศตะวันออก มีสวนขั้นบันไดประดับประดาอยู่ มุมด้านตะวันออกสุดของวิหาร เป็นที่ตั้งแท่นบูชาสุริยเทพ ที่ยื่นออกไปเพื่อให้รับแสงอาทิตย์ยามอรุณรุ่งอย่างเต็มที่ (ด้านซ้ายมือสุดในภาพข้างล่างนี้) หลังจากรัชสมัยของปาชากูตี...จักรวรรดิ์อินคาก็มีความมั่นคงและเจริญรุ่งเรื่องสืบมา และมารุ่งเรืองสูงสุดในสมัยของ จักรพรรดิ์อวยนา กาปัก (Huayna Cápac) ซึ่งเป็นนัดดาของปาชากูตี อาณาเขตของจักรวิรรดิ์อินคาครอบคลุมดินแดนเปรู และโบลิเวีย เกือบทั้งหมดของประเทศเอกวาดอร์ และดินแดนของชิลีจนถึงตอนเหนือของแม่น้ำเมาเล นอกจากนี้ยังกินบริเวณไปถึงอาร์เจนตินาและโคลอมเบียอีกด้วย แต่เขตทางใต้พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย ที่แห้งแล้งกันดาร หาประโยชน์ไม่ค่อยได้ จักรวรรดิ์อินคามาล่มสลาย เมื่อมีการแย่งชิงราชบัลลังก์ระหว่างพี่น้องคือ อวสการ์ กับ อาตาอวลปา ที่พระบิดาสิ้นพระชนม์ โดยมิได้ประกาศยกราชสมบัติให้ใคร บ้านเมืองบอบช็ำมาก ซ้ำยังเเกิดมีโรคฝีดาษระบาด คร่าชีวิตชาวอินคาไปอีกมากมาย และ ในปี 1531 สเปญซึ่งขณะนั้น ได้เข้ายึดครองดินแดนแมกซิโกแล้ว ได้ส่ง ฟรานซิสโก ปีซาร์โร (Francisco Pizarro) พร้อมกำลังพลเพียง 168 คน ปืนใหญ่ 1 กระบอก และม้า 27 ตัว มายึดครอง จักรวรรดิ์อินคาไว้ได้ และจับอาตาอวลปา ที่แย่งสมบัติมาได้และตั้งตัวเป็นจักรพรรดิ์ เป็นตัวประกัน พร้อมกับยึดทรัพย์สินเงินทอง เพชรนิลจินดาของอินคาไปหมด แน่นอนวิหารสุริยเทพก็ถูกเสปญยึดครอง และสร้างโบสถ์คริสต์ครอบลงบนซากวิหารที่ถูกทำลาย ในเวลาต่อมา |
อารยธรรมโบราณนี่น่าทึ่งกว่าสมัยนี้มากเลยนะครับ....แต่ยิ่งเทคโนโลยียิ่งทันสมัยธรรมชาติก็ยิ่งถูกทำลายลงเร็วขึ้นซะงั้น หรือว่าจิตใจมนุษย์ต่างหากนะที่เสื่อมถอยกันแน่
|
สิ่งที่เหลืออยู่ของวิหารสุริยเทพ...แท่นบูชาสุริยเทพ (ไม่แน่ใจว่าสร้างขึ้นใหม่ หรือ เป็นของเดิม) http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_42.jpg การโบกปูนทับกำแพงวิหารสุริยเทพ เพื่อแปลงเป็นโบสถ์ซานโต โดมิงโก http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_33.jpg มีทั้งรื้อเอาหินมาใช้ก่อสร้างโบสถ์ http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_35.jpg |
ภายในโบสถ์ซานโต โดมิงโก...ที่ไม่เหลือเค้าโครงของวิหารสุริยเทพเลย http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_34.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_30.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_31.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_32.jpg |
ประตูด้านตะวันออกของโบสถ์ซานโต โดมิงโก ที่มองออกไปเห็นบ้านเรือนของชาวคุสโก http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_36.jpg สนามหญ้าด้านตะวันออกของโบสถ์ซานโต โดมิงโก ที่อยู่ต่ำลงไปจากตัวที่ตั้งโบสถ์ http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_37.jpg เมืองคุสโกด้านตะวันออก มองจากโบสถ์ซานโต โดมิงโก http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_38.jpg ด้านข้างของโบสถ์ซานโต โดมิงโก มองจากแท่นบูชาสุริยเทพ http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_39.jpg |
สวนสวยด้านตะวันออกของโบสถ์ซานโต โดมิงโก http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_40.jpg คนสวยกับวิวสวยๆของคุสโก (เสียดายที่เจ้าเสาอากาศสูงโด่เด่ อยู่ผิดที่ไปหน่อยนะคะ) http://i835.photobucket.com/albums/z...icancha_41.jpg |
จิตใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง....และมนุษย์ คือผู้ทำลายที่แท้จริง เข้าที่ไหนก็บรรลัยที่นั่นค่ะ...น้องเก่ง |
อินคาไม่มีภาษาเขียน....ประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิ์อินคาที่เราได้ทราบกันนั้นจึงมิได้ถูกบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร แต่เป็นการเล่าต่อๆกันมา แบบปากต่อปาก แล้วนำมาประกอบกับหลักฐาน ที่ได้มีการค้นพบเพิ่มเติมของนักโบราณคดี และนักประวัติศาสตร์.... เราเดินออกจากวิหารสุริยเทพ คอริกันชา หรือที่ปัจจุบันกลายเป็นโบสถ์ซานโต โดมิงโก ไปแล้ว ด้วยความรู้สึกที่ประสมปนเป ทั้งเศร้า...ทึ่ง...และประทับใจ ไกด์พาเราเดินไปตามทางที่มุ่งหน้ากลับไปทางจตุรัสเดอาร์มาส ซึ่งพอออกมาถึงถนนใหญ่ เราพบนักท่องเที่ยวและชาวเมืองคุสโกเดินกันขวั่กไขว่ ดูวุ่นวาย... http://i835.photobucket.com/albums/z...n-View_114.jpg ตามถนนเล็กๆ ผู้คนและรถราก็ยังมีให้เห็น.. http://i835.photobucket.com/albums/z...n-View_115.jpg ไกด์ที่น่ารักของเรา จึงพาเราซอกแชกไปตามถนนหนทางแคบๆที่อ้อมไปทางด้านตะวันตก ขนานไปกับเส้นทางหลักที่เราเคยใช้ตอนขาไป ผู้คนบนถนนลดน้อยลง จนทำให้เรารู้สึกปลอดโปร่ง เดินไปถ่ายภาพไปได้อย่างสบายใจ... เจ้าหมาน้อยตัวนี้ นอนหัวยื่นออกมาจากรอยแตกของประตูผุๆ ไม่แน่ใจว่ามันติดแล้วออกไม่ได้ หรือตั้งใจจะนอนโชว์หัวอยู่อย่างนั้น... http://i835.photobucket.com/albums/z...n-View_105.jpg ส่วนประตูบานนี้ ท่าทางแข็งแรง มีหัวสิงห์ทองเหลืองสง่างามติดอยู่ http://i835.photobucket.com/albums/z...n-View_107.jpg |
ถึงจะเป็นถนนเล็กๆ ร้านค้าขายของที่ระลึก และร้านอาหารก็ยังไปตั้งดักนักท่องเที่ยว ฉันไม่ค่อยสนใจสินค้าหรืออาหาร แต่สนใจระเบียงไม้ของอาคารมากกว่า เพราะสวยถูกใจมาก... http://i835.photobucket.com/albums/z...n-View_108.jpg ระเบียงของบ้างตึก ยื่นออกมาเป็นมุข ทำให้ดูเก๋และใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า http://i835.photobucket.com/albums/z...n-View_109.jpg ระเบียงนี้ถ่ายผิดมุมไปหน่อย http://i835.photobucket.com/albums/z...n-View_117.jpg |
กำแพงบ้านและอาคารต่างๆของคุสโกก็น่าสนใจดีค่ะ ....ถ้าเป็นกำแพงของอาคารใหญ่ๆรุ่นใหม่หน่อย ก็จะนำหินมาเรียงกันโดยใช้ปูนยึดติดไว้ http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_64.jpg อีกแบบหนึ่งของกำแพงหิน ที่สร้างขึ้นใหม่ http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_83.jpg กำแพงอิฐฉาบปูน หรือดินเหนียว ที่เป็นของคนยากคนจน หรือร้านค้าของพื้นเมือง http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_63.jpg ไกด์กับกำแพงหินแบบอินคา http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_69.jpg |
แต่กำแพงที่ไหนๆ ก็ไม่ดังเท่ากำแพงของ Museum of Religious Art....ซึ่งที่นี่เคยเป็นพระราชวัง Inca Roca ที่ตั้งอยู่บนหัวมุมถนน Palacio ตัดกับถนน Hatunrumiyoc เมื่อเราเดินเข้าไปบนถนนแคบๆของ Hatunrumiyoc เราจะเห็นกำแพงที่ทำขึ้นใหม่ นำเอาหินมาเรียงๆต่อกัน ยึดติดด้วยปูน ซึ่งไม่น่าดูเลยค่ะ ส่วนอีกด้านหนึ่งของถนน ก็เป็นกำแพงอิฐฉาบปูน เก่าๆโทรมๆ เราสงสัยว่าไกด์จะพาเราไปดูอะไรกันนะ.... แต่พอถึงหัวมุมที่จะเลี้ยวไปด้านหลังพิพิธภัณฑ์ เราเริ่มเห็นแนวกำแพงโบราณ ที่มีหินก้อนใหญ่ๆวางเรียงกันอยู่ด้านล่าง ด้วยเทคนิคแบบอินคาโบราณ ส่วนด้านบนเป็นหินรุ่นใหม่ ที่ถูกนำมาเรียงไว้แบบไร้ฝีมือ ... พอเลี้ยวซ้ายไปตามถนนด้านหลังพิพิธภัณฑ์ กำแพงที่มีหินก้อนใหญ่หลากหลายรูปทรง ก็ปรากฎขึ้นทางด้านซ้ายมือ ส่วนด้านขวามือ เป็นร้านค้าของพื้นเมือง ที่กำแพงอาคารเป็นเพียงอิฐฉาบดินเหนียวหรือปูน สภาพโทรมๆ มีร่องรอยการถูกพ่นด้วยสีเต็มกำแพง |
กำแพงโบราณของอินคาที่จุดนี้ หน้าตาไม่เหมือนที่อื่น....กล่าวคือหินแต่ละก่อนที่นำมาวางเรียงกันนั้น มีรูปทรงและขนาดไม่เหมือนกัน หรือเท่ากันเลยสักก้อนเดียว และถ้ามองให้ดีๆ หินกลุ่มหนึ่ง เรียงตัวกันเป็นเสือพูมา สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของชาวอินคา http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_66.jpg มีหินก่อนหนึ่ง ที่มีมุมถึง 12 มุม จนถูกเรียกว่า “Stone of Twelve Angles” ถูกนำมาเรียงให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ในความสามารถของชาวอินคาได้เป็นอย่างดี http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_71.jpg ลองดูก้อนหิน 12 มุม ให้ชัดๆอีกครั้งนะคะ http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_70.jpg |
ไกด์ของเรา...ภูมิใจกับกำแพงอินคาแห่งนี้มาก เช่นเดียวกับชาวพื้นเมืองของที่นี่ http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_78.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_76.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_79.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_80.jpg |
กลุ่มหินอีกกลุ่มหนึ่ง ที่มีเหลี่ยมมุมที่สวยงาม น่าชม... http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_72.jpg โดยเฉพาะหินก้อนนี้ที่มีมุมหนึ่งที่เป็นมุมแหลม อย่างที่ไม่มีหินก้อนใดเหมือน.. http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_73.jpg บางก้อนมีเหลี่ยมมุมที่ต่อกันได้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะก้อนนี้ ที่เรียกว่า " หินสิบสองมุม (Stone of Twelve Angles) ที่ไม่เหมือนหินก่อนอื่นๆ http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_74.jpg ความแตกต่างระหว่างฝีมือการต่อหินระหว่างชาวอินคา กับไม่ใช่ชาวอินคา เห็นได้ชัดเจนจากภาพนี้ http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_75.jpg |
ช่างเป็นถนนที่มีเสน่ห์จริงๆค่ะ.... http://i835.photobucket.com/albums/z...n-View_681.jpg ขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันหน่อยนะคะ... http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_81.jpg น้องหมอฮวง ชอบกำแพงหินแห่งนี้มาก เช่นเดียวกับเราทุกคน....ภาพนี้ น้องหมอสวยมากนะคะ http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_82.jpg |
มีชาวพื้นเมืองอาศัยกำแพง นั่งทำมาหากิน.....มีทั้งวนิพกตาบอด เป่าขลุ่ยเพื่อขอรับบริจาคเงิน http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_84.jpg หญิงชรา...นั่งขายของ แต่คงเหนื่อยมาก จึงพิงประตูหลับไป... http://i835.photobucket.com/albums/z...n-View_110.jpg สาวไทยคนนี้...ไม่ได้มาขายของหรือขอทาน แต่เธอชื่นชมในความงามและประทับใจกับความงามของบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง ศิลปวัฒนธรรม ของเมืองคุสโก เป็นอย่างยิ่ง.. http://i835.photobucket.com/albums/z...-View_1071.jpg |
สี่ชั่วโมงผ่านไป และใกล้อาทิตย์อัสดง....เราเดินออกจากถนน Hatunrumiyoc เข้าสู่ถนนด้านข้าง The Cathedral มาพบกับความวุ่นวายที่ จตุรัสเดอาร์มาสอีกครั้ง แล้วก็เดินกลับโรงแรมเพื่อพักผ่อนขาที่ปวดเมื่อยไปหมดแล้ว ก่อนที่จะออกไปทานอาหารพื้นเมือง พร้อมชมการแสดงพื้นเมืองไปด้วย... ร้านอาหารของเรา ตั้งอยู่บนตึกแถว ติดกับจัตุรัสเดอาร์มาสนั่นเอง อาหารค่ำในคืนแรกที่คุสโก เป็นอาหารแบบบุฟเฟต์ เราเลือกโต๊ะนั่งใกล้เตาผิง เพื่อให้ความอบอุ่นกับร่างกาย อาหารที่นี่อร่อยใช้ได้ที่เดียวค่ะ มีทั้งอาหารที่ทำด้วยเนื้ออัลปากา เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อปลา และเนื้อหนูพุก (Guinea Pig) ที่ชาวพื้นเมืองเรียกว่าคุ่ย (Cuy) อาหารที่ฉันชอบที่สุด คือจานที่เรียกว่า Ceviche ที่ทำจากปลา หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วบีบมะนาว ใส่พริกขี้หนูสด หัวหอม และผักชี ทานแล้วเหมือนอาหารยำบ้านเรา...เสียดาย ไม่ได้ถ่ายภาพมาให้ชมค่ะ http://i835.photobucket.com/albums/z..._Dinner_08.jpg ระหว่างทานอาหาร มีการขับกล่อมและเต็นระบำพื้นเมืองให้เราชมด้วย http://i835.photobucket.com/albums/z..._Dinner_03.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z..._Dinner_01.jpg |
ฉันชอบเครื่องแต่งกายที่สีสันสดใส ของนักร้องและนักแสดงมาก เพลงที่บันเลงก็ไพเราะเพราะพริ้ง โดยเฉพาะเสียงเครื่องเป่าหลายรูปแบบ ที่หวานแว่วเสนาะโสตเหลือเกิน เชิญฟังเพลงพื้นเมืองของอินคาได้ที่นี่ค่ะ...http://jaimetorres.narod.ru/cusco/ap...ute_battle.mp3 http://i835.photobucket.com/albums/z..._Dinner_04.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z..._Dinner_06.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z..._Dinner_05.jpg |
เขาบอกว่า...ยามอาทิตย์อัสดงเป็นต้นไป จัตุรัสเดอาร์มาสจะงดงามที่สุด ดังนั้น หลังอาหารค่ำแล้ว เราเลยมาถ่ายภาพของจัตุรัสแห่งนี้กันต่อ อย่างมีความสุข (ทั้งที่ทั้งเหนื่อยทั้งง่วง) http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_43.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_36.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_37.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_39.jpg |
จริงของเขาค่ะ...ที่นี่ในยามค่ำคืนช่างงดงามเหลือเกิน... มองเห็นรูบปั้นพระเยซูสีขาวสะอ้าน บนยอดเขาลิบๆนู่นไหมคะ...เราจะได้ขึ้นไปชมรูปปั้นพระเยซูบนยอดเขากันในโอกาสต่อไปค่ะ... http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_46.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_40.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_47.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_48.jpg |
เราเดินกลับโรงแรมกันอย่างกระปลกกระเปลี้ยเพลียแรง....พอเดินผ่านสวนสวยหน้าโรงแรม ฉันขอนั่งพักสักครู่ ก่อนจะขึ้นไปที่ห้องพัก อาบน้ำและนอนหลับสนิทอย่างสบายไปตลอดทั้งคืน... http://i835.photobucket.com/albums/z...wn-View_04.jpg |
มาชูปิกชู (Machu Pichu) เช้าวันรุ่งขึ้น...เราต้องตื่นกันแต่เช้ามืด เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปมาชูปิกชู หลังอาหารเช้าที่โรงแรม Royal Inka I เราได้ฝากกระเป่าเสื้อผ้าที่ใช้ไปแล้ว และที่จะกลับมาใช้อีกตอนขากลับ ไว้ที่โรงแรม จากนั้นก็นั่งรถมินิบัส ข้ามเขาขึ้นไปทางเหนือของคุสโก ผ่านเมือง อูรูบัมบา (Urubamba) ไปยังจุดหมายปลายทางคือเมือง โอยันไตตัมโบ (Ollantaytambo) เพื่อจะต่อรถไฟ เดินทางสู่เชิงเขา ที่ตั้งของมาชูปิกชู http://i835.photobucket.com/albums/z...cchu-Map_1.jpg รถมินิบัสแล่นคดเคี้ยวเลี้ยวลด ไปตามยอดเขาสูงๆต่ำๆ ที่มียอดสูงที่สุด 3,400 เมตร จากระดับน้ำทะเล เมฆหมอกผ่านเราไปฉิวๆ... http://i835.photobucket.com/albums/z...ad-View_03.jpg บริเวณที่ราบสูงระหว่างยอดเขา...ธรรมชาติของทุ่งหญ้าและพืชไร่ ที่อยู่สองข้างทางช่างงดงามเหลือเกิน จนฉันร้องกรี๊ดกร๊าดด้วยความสุขใจที่ได้เห็นไปตลอดทาง http://i835.photobucket.com/albums/z...ad-View_01.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...ad-View_02.jpg |
เก็บรายละเอียดได้อย่างน่าทึ่งมากเลยค่ะพี่น้อย ขนาดบันทึกลับหายนะคะเนี่ย...อ่านเพลินยิ่งกว่าดูแรงเงาอีกก๊าบบบ.....
|
สนุกมากเลยค่ะพี่น้อย พี่จ๋อม รูปสวย เรื่อง สนุก อ่านแล้วเหมือนได้ไปเองค่ะ เห็นแล้วอยากกลับไปรื้อฟื้นภาษาสเปนเลยค่ะ อิอิอิ อยากไปท่องโลกมั่ง
|
บ้านเรือนที่อยู่แถวนี้ ส่วนมากเป็นบ้านดิน ที่สวยงามและน่าพักอาศัยมาก http://i835.photobucket.com/albums/z...ad-View_06.jpg การทำเกษตรในบริเวณนี้ได้ผลดีมาก เพราะดินดี และน้ำท่าอุดมสมบูรณ์ ผลผลิตของที่นี่ ส่งไปเลี้ยงเมืองต่างๆทั่วเปรู http://i835.photobucket.com/albums/z...ad-View_05.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...ad-View_07.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...ad-View_08.jpg |
|
เมืองในหุบเขาแถวนี้ อากาศเย็นสบายตลอดปี อาชีพหลักของผู้คนที่นี่คือ การทำเกษตรเมืองหนาว และการเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะการเลี้ยงอัลปากา เพื่อใช้ขนมาทำเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม และเนื้อใช้บริโภคและส่งขาย |
รถค่อยๆลงจากเขาสูง สู่ที่ราบของเมือง อูรูบัมบา (Urubamba) ซึ่งในภาษาพื้นเมือง แปลว่า "ดินแดนแห่งที่ราบแมงมุม (Flat land of Spiders)" ทั้งนี้เนื่องจากตัวเมืองตั้งอยู่บนที่ราบก้นกะทะ นับเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในหุบเขาที่เรียกว่า หุบเขาศักดิ์สิทธิ์ (Sacred Valley) ที่เราจะมาเที่ยวตอนขากลับไปคุสโก ที่นี่มีเขาสูงล้อมรอบ โดยยอดเขาที่สูงที่สุด ชื่อชิคอน (Chicón) ซึ่งมีหิมะปกคลุมเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำอูรูบัมบา ซึ่งจะไหลขึ้นเหนือผ่านโอยันไตตำโบและมาชูปิคชู แล้วไหลไปร่วมกับแม่น้ำอเมซอนที่ชายแดนบราซิล เมื่อปี 2554...เกิดฝนตกหนัก จนแม่น้ำอูรูแบมบาไหลบ่าท่วมเมือง ที่อยู่ริมแม่น้ำแห่งนี้ ซึ่งรวมทั้งอูรูบัมบา และทางรถไฟที่ทอดขนานไปกับแม่น้ำ ที่มุ่งไปสู่มาชูปิคชูด้วย เรายังได้เห็นร่องรอยของน้ำที่ท่วมที่ดินริมแม่น้ำและทางรถไฟได้อย่างชัดเจน |
55555...
น้องอ้อย lazyoctopussy เจ้าขา พี่น่ะเปิดทั้งหนังสือ ตำรา และเวปหาข้อมูลมาผสมปนเปกับความจำในสมองคนแก่ จึงออกมาเป็นเรื่องอย่างที่เขียนจ้ะ ยังไม่ได้อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล รอให้จบ่ก่อน ค่อยลงทีเดียว (เหนื่อยเหมือนกันนะคะเนี่ย) น้องก้อย delfinablanca จ๋า...ขอบคุณจ้ะ ค่อยมีกำลังใจลงเรื่องลงรูปหน่อย ถ้าพูดสเปญได้อย่างนี้ ไปเที่ยวอเมริกาใต้สบายเลยจ้ะ ไว้ไปเที่ยวด้วยกันในอนาคต (ไม่รู้จะใกล้หรือไกลนะจ๊ะ) |
รถมินิบัสลัดเลาะไปตามริมแม่น้ำอูรูบัมบา จนถึงเมืองโอยันไตตัมโบ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ผู้คนเดินขวักไขว่ รถของเรามุ่งตรงไปยังสถานีรถไฟ ซึ่งอยู่ออกไปทางเหนือของตัวเมือง http://i835.photobucket.com/albums/z...erurail_01.jpg ถึงแล้วค่ะ...สถานีรถไฟเมืองโอยันไตตำโบ ซึ่งเล็กๆแต่น่ารักดีค่ะ มีร้านขายของสองฟากทางเข้าสถานี http://i835.photobucket.com/albums/z...erurail_02.jpg เราไม่สนใจของ...แต่สนใจข้าวโพดต้มเม็ดโต ที่แม่ค้าใส่ถาดมาขายมากกว่า ในถาดไม่เอา แม่ค้าเลยต้องไปนำข้าวโพดที่ต้มร้อนๆ นำมาขายให้เราคนละฝัก http://i835.photobucket.com/albums/z...erurail_03.jpg ในถาดมีทั้งเนยและเกลือมาให้ทาให้โรย....แต่แม่ค้ากลับจับข้าวโพดที่มีเปลือกหุ้มใส่ถุง โดยไม่มีทั้งเกลือและเนยใส่ไปให้เราด้วย http://i835.photobucket.com/albums/z...erurail_04.jpg |
รถสามล้อเครื่องแบบเปรู http://i835.photobucket.com/albums/z...erurail_33.jpg รถไฟขบวนของ Perurail มาจอดคอยเราอยู่แล้วค่ะ...ถึงไม่หรูเท่า Orient Express แต่ก็สะอาดสะอ้านดีทีเดียวค่ะ http://i835.photobucket.com/albums/z...erurail_05.jpg ประตูรั้วเข้าชานชาลาเปิด...เราลากของเดินไปขึ้นรถไฟกันค่ะ... http://i835.photobucket.com/albums/z...erurail_06.jpg มีการตรวจตั๋วโดยสารอย่างละเอียด เสียเวลาไปเล็กน้อยกว่าเราจะขึ้นไปบนรถไฟได้ http://i835.photobucket.com/albums/z...erurail_07.jpg |
เย้ๆ...ได้ขึ้นรถไฟไปมาชูปิคชูแล้วค่ะ http://i835.photobucket.com/albums/z...erurail_08.jpg ข้าวโพดต้มเม็ดโตๆ พร้อมเสริฟ... http://i835.photobucket.com/albums/z...erurail_09.jpg ว้า...ไม่อร่อยเลยค่ะ จืดสนืท เพราะไม่มีทั้งเนยและเกลือมาทามาโรย http://i835.photobucket.com/albums/z...erurail_10.jpg |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:32 |
vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger