![]() |
ที่นี่ ยังมีการลงแขกเก็บเกี่ยวพืชผล มีการเลี้ยงวัวเพื่อใช้ในการเทียมเกวียน เพื่อขนผลิตภัณฑ์การเกษตร ประเภทหัวกระหล่ำ และข้าว ออกมาส่งให้รถบรรทุก http://i1198.photobucket.com/albums/...psb1777a84.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps67ae8a34.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps1b9007bd.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps8a3c50bd.jpg |
รถบรรทุกประเภทรถอีแต๋น เป็นพาหนะที่ใช้ทั้งขนคนและพืชไร่ที่นิยมกันอย่างกว้างขวาง บ้านเรือนของชาวไร่ชาวนามักตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกสวนไร่นา เพื่อสะดวกในการดูแลพืชผล http://i1198.photobucket.com/albums/...psd06fc0ca.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...psf04fbc09.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps2e89f0f2.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps2446c459.jpg |
เรายังคงเห็นการลงแขกเก็บเกี่ยวพืชไร่ไปตลอดทาง...ชีวิตช่างสุขสงบ เอื้ออาทร และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันจนน่าอิจฉา http://i1198.photobucket.com/albums/...ps34b885c1.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps414d96ac.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps351d3196.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...psefc30eb1.jpg |
เส้นทางเล็กๆที่รถของเราแล่นไป ทำให้เราเห็นโลกที่กว้าง และท้องฟ้าที่สดใส http://i1198.photobucket.com/albums/...ps89c52376.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps552152e9.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps018ee641.jpg |
เมื่อเข้าเขตตัวเมือง โดยเฉพาะแถวตลาด....ความวุ่นวายก็บังเกิด... http://i1198.photobucket.com/albums/...pse8e265ca.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps23825144.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...psd46b6df5.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps226985b9.jpg |
เราเข้าเขครัฐฉานแล้ว....หน้าตาของรถม้าโดยสารก็แตกต่างออกไปจากที่ได้เห็นใน พิน อูล วิน นอกจากนี้ยังมีการใช้รถม้าบรรทุกของด้วย http://i1198.photobucket.com/albums/...ps057f7417.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...psc00a6989.jpg |
Main Ma Ye' Tha Khin Ma Mountain ก่อนจะแวะทานอาหารกลางวันที่เมืองอองปาน (Aungpan)....เราแวะไปไหว้พระและชมความงามของวัด Main Ma Ye' Tha Khin Ma Mountain (ชื่อยาวจริง) วัดแห่งนี้อยู่บนเขา มีการสร้างพระพุทธรูปทั้งองค์น้อยองค์ใหญ่ และเจดีย์ จำนวนมากมายอยู่ในที่สูงชัน แสดงให้เห็นถึงศรัทธาของผู้คนที่มีต่อพุทธศาสนาอย่างแก่กล้า... |
บนยอดเขาใกล้ๆกัน มีเจดีย์ หรือสถูปทรงกลม สีทองอร่ามตั้งอยู๋อย่างสง่างาม... http://i1198.photobucket.com/albums/...psa0483962.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...psd2f6734f.jpg |
พวกเราไม่มีเวลาจะปีนขึ้นไปไหว้พระ จึงใช้วิธีไหว้พระระยะไกล และถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน เป็นการช่วยกันทำมาหากิน (อย่างที่น้องอาร์ตและน้องอุ๋ยว่าไว้)... http://i1198.photobucket.com/albums/...ps374e8081.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...pscffb8f1e.jpg |
ตองยี (Taunggyi) เราใช้ทางหลวงหมายเลข 411 มาเรื่อยๆ จนมาตัดกับทางหลวงหมายเลข 41 ถ้ารถเลี้ยวซ้าย เราก็จะไปถึงเมือง พินดายะ (Pindaya) ที่เรามีโปรแกรมจะไปเที่ยว แต่รถวิ่งเลี้ยวขวาเข้าถนนสาย 41 เพื่อตรงไปยังเมืองอองปาน (Aungpan) ที่อยู่ตรงทางแยกที่ทางหลวง 41 ตัดกับทางหลวงหมายเลข 4 ที่ทอดยาวไปถึงเมืองแม่สายของไทย ที่อยู่ห่างออกไปราว 480 กม. หลังทานข้าวเที่ยงที่เมืองอองปานแล้ว....เราใช้เส้นทางหมายเลข 4 ตรงไปยังเมืองตองยี (Taunggyi) เมืองหลวงของรัฐฉานทันที เพียงบ่ายสองโมง เราก็เดินทางถึงเมืองตองยี ซึ่งเร็วกว่่ากำหนดถึง 2 ชั่วโมง เราจึงมีเวลาเช็คอินเข้าพักในโรงแรม และพักผ่อนได้สองชั่วโมงครึ่ง ก่อนจะถึงเวลาออกไปเที่ยวงานเทศกาลโคมลอย (ฺBallon Festival) ที่ยิ่งใหญ่ของพม่า สี่โมงครึ่ง...เราใช้รถแท๊กซี่จากโรงแรม ตรงไปยังงานเทศกาลโคมลอย ที่ต้องรีบไปเร็วก็เพื่อไปจำจองที่นั่งในงาน และหลีกเลี่ยงการจราจรที่วุ่นวายในช่วงค่ำที่วุ่นวาย พระอาทิตย์ยังไม่ตก เราจึงเห็นสภาพที่ตั้งของบริเวณที่จัดงาน ซึ่งช่างเหมือนงานวัดบ้านเราจริงๆ |
พอไปถึงบริเวณงาน เราก็เดินดุ่มๆไปหาที่นั่งในซุ้ม ซึ่งจองไว้แล้วล่วงหน้า ที่แรกที่ไปถึง มุมมองไม่ค่อยจะดีเท่าไรค่ะ http://i1198.photobucket.com/albums/...ps268bbe33.jpg ที่ใหม่นี่มุมดีทีเดียวค่ะ... http://i1198.photobucket.com/albums/...ps1b882d85.jpg เราขึ้นนั่งจำจองในซุ้ม http://i1198.photobucket.com/albums/...ps459f8354.jpg เลือกที่นั่งกันตามสบาย http://i1198.photobucket.com/albums/...ps4a9a0ee5.jpg |
ตากล้องใหญ่ขอนั่งอยู่ด้านหน้า จะได้ไม่มีใครบังกล้อง... http://i1198.photobucket.com/albums/...ps1c9eddf5.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...psd79cb85d.jpg ตากล้องน้อยๆ ขอนั่งยองๆลองกล้อง http://i1198.photobucket.com/albums/...psfee0ac86.jpg ระหว่างรอ ก็หาเรื่องนู้นเรื่องนี้มายืนมานั่งคุยกันเป็นที่สนุกสนาน http://i1198.photobucket.com/albums/...psf9f713ed.jpg |
นั่งคุยกันอยู่นานชักเบื่อ เลยผลัดกันเดินไปทานข้าวค่ะ...ได้เห็นบรรยากาศของานแล้ว คิดถึงานวัดบ้านเราจริงๆค่ะ... http://i1198.photobucket.com/albums/...psb9b28784.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps78747429.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps52ce40ee.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...psf86039b3.jpg |
ของกินก็ไม่ต่างกันเท่าไร...แต่กระเจี๊ยบปิ้ง พะโล้ไข่-เครื่องใน ข้าวผัด และสุกี้พม่า อร่อยมากๆค่ะ... http://i1198.photobucket.com/albums/...ps7fb3c214.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...pse4b2a8a1.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...psb5ce5dc7.jpg |
ตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว...บรรยากาศในงานก็เริ่มเปลี่ยนไป ชิงช้าสวรรค์ เรือไวกิ้ง และร้านค้าต่างๆเปิดไฟฟ้าสีสันแสบซ่าสว่างไสว.... http://i1198.photobucket.com/albums/...ps398cf27c.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps33bdd6a2.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps7be81cfc.jpg |
สองทุ่มเศษๆ...รถขนโคมลอยยักษ์และอุปกรณ์หลายคัน แหวกฝูงชนเข้ามาในงาน พวกเราหลายคน รวมทั้งคุณสายน้ำก็วิ่งจู๊ดออกจากซุ้ม แหวกฝูงชนไปอยู่ไม่ห่างจากที่เขาจะจุดโคมลอยนัก เลยได้เห็นชัดๆว่าเขาจุดโคมลอยกันอย่างไร... คนหลายสิบคนคลี่โคมลอยลูกแรกขนาดรถสิบล้อ เส้นผ่าศูนย์กลางราว 5-8 เมตร ที่นำผ้ามาเย็บต่อกันอย่างประณีตออกมากาง พร้อมกับส่วนหางยาวเฟื้อยที่จะถูกผูกติดกับโคมลอย....ในขณะคนในทีมงานอีกหลายคนกำลังบรรเลงดนตรีประเภทเครื่องเคาะ ทั้งฉิ่งฉับ กรับ กลอง ฆ้อง โม่ง เพิ่มบรรยกาศให้รื่นเริง ครื้นเครง และเร้าอารมณ์ให้ฮึกเหิม |
มีโดมพลาสติกยักษ์กันไว้เผื่อฝนจะตก โคมกระดาษแก้วใส่เทียนที่จุดแล้วหลายร้อยโคม ถูกนำมาแขวนตามจุดที่กำหนดบนโคมลอยยักษ์ และส่วนหางที่ยาวเฟื้อย คนหลายสิบคนช่วยกันจับโคมลอยกางออกเพื่อเตรียมใส่ลมร้อน เช่นเดียวกับการยกหางของโคมลอยขึ้น เพื่อเตรียมประกอบติดกับโคมลอย ก่อนจะปล่อยให้ลอยไปด้วยกันบนท้องฟ้า... http://i1198.photobucket.com/albums/...psb9c08a8c.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...psc9e85b5d.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps58c883a9.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...psd3df5ecb.jpg |
ปากโคมลอยที่เปิดอยู่ถูกเป่าลมร้อนเข้าไป โดยใช้เตาไฟฟู่ตั้งไว้ แล้วใช้พัดลมเป่าเตาฟู่ ทำให้เกิดลมร้อนพัดเข้าไปข้างใน โคมลอยที่มีความหนาแน่นน้อยกว่าอากาศที่อยู่รอบๆค่อยๆพองและลอยขึ้น... http://i1198.photobucket.com/albums/...ps48cc1632.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps4a5a5c2e.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...psc6277a78.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps5f39f956.jpg |
โคมลอยพองเกือบเต็มที่พร้อมจะลอยขึ้นแล้ว หางของโคมลอยถูกนำมาผูก พร้อมกับการเติมลมเข้าไปอีก จนตัวบันลูนลอยสูงขึ้น เมื่อทุกอย่างพร้อม ตัวโคมลอยจึงถูกปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างสวยงาม http://i1198.photobucket.com/albums/...pse62f8972.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps56f3a9be.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps2204ccee.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...psef80e249.jpg |
ลองชมมุมมองของสายชลในแต่ละช่วงของการจุดโคมลอย จากที่นั่งอยู่ในซุ้มบ้างนะคะ... http://i1198.photobucket.com/albums/...ps57ff1c23.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps674a11ba.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps88e171f9.jpg |
เมื่อโคมไฟยักษ์ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างช้าๆนั้น ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน....ก็งามได้ใจทั้งนั้นค่ะ... http://i1198.photobucket.com/albums/...psa86b542a.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps328aa902.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...psbd61d034.jpg |
เทศกาลโคมลอยของเมืองตองยี รัฐฉาน.... เปรียบได้กับการปล่อยโคมลอยแถวๆเชียงใหม่และจังหวัดภาคเหนือของไทย ที่มักจะทำกันในวันเพ็ญเดือนสิบสอง หรือวันลอยกระทง เพียงแต่โคมลอยของเมืองตองยีนั้น โคมลอยจะมีขนาดใหญ่โต พอๆกับบอลลูนจริงๆที่มีใช้กัน จึงเป็นงานที่ยิ่งใหญ่อลังการกว่าบ้านเรามาก โคมลอยยักษ์แบบต่างๆของตองยี มักจะบอกเรื่องราวที่อิงไปทางด้านพุทธศาสนา ปีหนึ่งมีครั้งเดียว อันเป็นงานประกวดประชันโคมลอยที่ยิ่งใหญ่ประจำปีของชาวไตใหญ่แห่งรัฐฉาน ซึ่งจะจัดฉลองในช่วงหลังการออกพรรษา และงานจะมีต่อเนื่องกันยาวนานเป็นอาทิตย์ มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมายไปเที่ยวชมงานนี้ ทั้งชาวพม่าเอง และชาวต่างชาติ สำหรับปีนี้มีขึ้นระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม ไปจนถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน โดยแบ่งโคมไฟที่เข้าประกวดออกเป็น 3 ประเภท คือ โคมลอยที่ปล่อยในเวลากลางวัน จะเป็นรูปสัตว์ ส่วนในเวลากลางคืน จะเป็นโคมลอยรูปเพชรประดับประดาด้วยแสงเทียน และโคมลอยที่ประดับด้วยดอกไม้ไฟและประทัด ซึ่งจะทำได้เห็นสีสันที่สวยงามของโคมลอยและดอกไม้ไฟได้ชัดเจน มาชมภาพความงามของโคมลอยลูกที่สองกันต่อค่ะ... http://i1198.photobucket.com/albums/...psca374392.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps6180c97b.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps838fd66c.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps5cfdf1e7.jpg |
โคมลอยลูกที่สาม ถูกปล่อยลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างสวยงามค่ะ... http://i1198.photobucket.com/albums/...ps270078fc.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...psbfb0d771.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps3b0047ef.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps73940d81.jpg |
โคมลูกที่สี่ ถูกปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้า ในเวลาที่ไล่เลี่ยกับลูกที่สาม... http://i1198.photobucket.com/albums/...ps86cb0230.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps8da0fead.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps6975cdc6.jpg |
เมื่อโคมลอยลูกที่สามและสี่ ลอยอยู่ด้วยกันบนท้องฟ้า...งามและน่าประทับใจมากค่ะ... http://i1198.photobucket.com/albums/...ps067e0132.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps7e03e1f0.jpg |
เราต้องคอยอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง กว่าโคมลอยลูกที่ห้าจะถูกเป่าลมร้อนเข้าไป...แต่เมื่อได้เห็นโคมลอยลูกนี้ที่ใหญ่ที่สุด ลวดลายสวยแปลกตาที่สุด ก็ทำให้เราหายเซ็งกับการรอคอยที่ยาวนานไปได้เลยค่ะ http://i1198.photobucket.com/albums/...ps9293372b.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps58e45b58.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...psbaead81f.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...pse2c1c664.jpg |
เอ๊ะ!...ทำไมมีโฆษณาติดบนโคมลอย ไม่เห็นเป็นภาพพระพูทธรูปประดับด้วยไฟ อย่างที่เราได้เห็นบนโคมลอยลูกอื่นๆ หางก็ไม่สวยงามเลยค่ะ... http://i1198.photobucket.com/albums/...psb4c75dd0.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...psbcee3e05.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps7cb4bd4c.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...psdbaad66e.jpg |
พอโคมลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าได้ไม่นานนัก....เราก็เริ่มจะเข้าใจว่าทำไม่โคมลอยลูกนี้ถึงต้องใหญ่และหางไม่สวย... มีเสียงระเบิดของพลุ และแล้วที่หางของโคมลอยเริ่มส่งพลุผีเสื้อออกมาบินว่อนทั่วท้องฟ้า...เรียกเสียงปรบมือและโห่ร้องดังก้องไปทั่วด้วยความชอบใจ แต่จากนั้นผู้ชมก็ต้องวิ่งเงยหน้าไป หลบเศษไฟจากพลุ ที่ยิงออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ยังลอยไม่สูงนัก แต่พอเห็นว่าโคมลอยอยู่สูงขึ้นไปและปลอดภัยดีขึ้น ก็แหงนหน้าโห่ร้องกันก้องใหม่ รวมทั้งพวกเรา ที่ยอมเสี่ยงตาย วิ่งออกมาดูโคมลอยที่ยังยิงพลุอยู่อย่างต่อเนื่องยาวนาน ทั้งที่ลอยขึ้นไปสูงมากและไกลออกไปทุกทีๆ... ช่างเป็นเรื่องที่ประทับใจ และนำความสุขใจมาให้พวกเราไม่น้อยเลยค่ะ |
สี่ทุ่มเศษแล้ว ขณะที่โคมลอยลูกที่ 5 ยังยิงพลุดังปึงปังอยู่บนฟากฟ้าไกลลิบ และยังมีโคมลอยอีกนับสิบลูก กำลังจะถูกจุดต่อเนื่องไปจนรุ่งสาง....เราต่างเดินกันเป็นคู่ๆ ฝ่าฝูงชนที่หนาแน่นบนถนนที่ผ่ากลางงาน จากซุ้มที่เรานั่งทางด้านใต้ มุ่งไปทางประตูด้านทิศเหนือ เพื่อขึ้นรถกลับโรงแรมที่พัก รวมเวลาราว 5 ชั่วโมง นับจากเรามาถึงสถานที่จัดงาน จนเดินออกจากงาน แต่เรากลับไม่รู้สึกง่วงหรืออ่่อนเพลียกับการใช้เวลาไปหลายชั่วโมง ทั้งนี้ อาจจะเป็นเพราะเรารู้สึกสนุกสนานเพลิดเพลินเจริญใจ กับการได้นั่งพูดคุยกันระหว่างนั่งรอดูโคมลอย...เรารู้สึกตื่นเต้น และประทับใจไปกับโคมลอยสวยๆ ที่ถูกปล่อยลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า...และที่สำคัญ เรารู้สึกหลับไม่ลง ทั้งนี้เพราะมีกลิ่นฉุนจัดของแอมโมเนียธรรมชาติ โชยตามลมขจรขจายมาจากห้องน้ำด้านหลังซุ้ม ซึ่งทำให้เราตาสว่างได้ตลอดเวลาที่นั่งอยู่บริเวณนั้น.... นับเป็นโชคดีของพวกเราเป็นอย่างยิ่ง ที่การไปร่วมงานเทศกาลโคมลอยที่ตองยีครั้งนี้ ผ่านไปด้วยความสุขสนุกสนาน และปลอดภัยดี ฟ้าดินก็ช่างเป็นใจ อากาศเย็นสบาย แม้ฟ้าจะครึ้มก็ไร้ฝน แต่น่าเศร้า ที่คนอีกหลายคนทั้งก่อนและหลังจากวันที่เราไปเที่ยวงานนี้แล้ว ไม่ได้โชคดีเหมือนกับเรา... ข่าวที่เราได้รับในเย็นวันต่อๆมา หลังการไปร่วมเทศกาลโคมลอยที่เชียงตุงแล้ว ทำให้เราตกใจไม่น้อย....ในวันแรกของงาน (สามวันก่อนเราไปถึง) โคมลอยลูกหนึ่งได้เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง จาการอัดอากาศร้อนมากเกินไป เหตุการณ์นี้ มีผู้เสียชีวิตถึง 4 คน และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน แต่มีการปิดข่าวกันเงียบเชียบ อีกข่าวหนึ่งก็คือ ในวันก่อนหน้าที่เราจะไปถึงหนึ่งวัน และหลังจากเราไปแล้วหนึ่งวัน เกิดอาหาศแปรปรวนพายุฝนฟ้าคะนอง และลมแรงมาก ต้นไมัเนื้ออ่อนหลายร้อยต้นหักเสียหาย แม้จะไม่มีใครบาดเจ็บล้มตาย แต่ในวันนั้นงานโคมลอยต้องถูกยกเลิกไปโดยปริยาย.... การระเบิดของโคมลอย ที่เมืองตองยีดูจะถือเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว เพราะปล่อยกันทีเป็นร้อยลูก จะระเบิดสักลูกสองลูกจนมีคนตายและบาดเจ็บบ้างก็ไม่เป็นไร ยังคงปล่อยโคมลอยกันต่อไป จากโบราณกาลจนมาถึงทุกวันนี้... |
วันที่ 4...ตองยี - ยองชเว - ทะเลสาบอินเล เช้าวันใหม่ที่เมืองตองยี....อากาศเย็นสบายจนสายชลแทบไม่อยากจะลุกจากเตียง แต่เมื่อคิดว่าวันนี้เรามีโปรแกรมไปเที่ยว ทะเลสาบอินเล (Inle Lake) ที่เราใฝ่ฝันจะได้ไปเที่ยวสักครั้งหนึ่งในชีวิต ตัวก็ดีดขึ้นจากเตียง อาบน้ำ แต่งตัว ขนกระเป๋าจากชั้นสามลงไปขึ้นรถบัส จากเมืองตองยี รถบัสใช้เส้นทางหมายเลข 4 วิ่งลงเขาไปยังที่ราบลุ่มที่มองเห็นทะเลสาบอินเลอยู่ลิบๆ เวลาผ่านไปยังไม่ถึงชั่วโมงดีก็ถึงเมืองยองชเว (์Nyuangshwe) เมืองเล็กๆที่จะเป็นจุดที่เราจะลงเรือไปเที่ยวทะเลสาบอินเล ก่อนจะเข้าตัวเมือง มีด่านเก็บค่าผ่านทางซึ่งเป็นรายได้ของท้องถิ่นที่เป็นล่ำเป็นสันดีค่ะ เพราะวันหนึ่งๆมีรถผ่านเข้ามาที่นี่มากมาย http://i1198.photobucket.com/albums/...psf303bdaa.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...psc9a24b1b.jpg ยอดเจดีย์ของวัดในเมืองยองชเว เห็นเด่นเป็นสง่าได้แต่ไกล http://i1198.photobucket.com/albums/...pseee85890.jpg |
เมืองยองชเวเป็นเมืองเก่าแก่ บ้านเรือนและร้านค้าส่วนมากยังปลูกสร้างด้วยไม้เก่าๆ คลาสสิคดีค่ะ http://i1198.photobucket.com/albums/...ps34d0ed3a.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps3a19fc21.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...psb0d43a53.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...psc8116b06.jpg |
ก่อนจะลงเรือ....เราแวะทานอาหารเช้าร้านดังของยองชเวค่ะ อาหารหลักก็คือปาท่องโก๋ยักษ์ ซาลาเปา โรตี นาน ดาล ทานกับชาหอมกรุ่น ถ้าใครอยากจะสั่งก๋วยเตี๋ยวพม่า ก็สั่งได้จากร้านข้างๆค่ะ |
ทานอาหารเช้าเสร็จ เข้าห้องน้ำทำธุระเรียบร้อยแล้ว เราก็ขึ้นรถบัสตรงไปท่าเรือที่อยู่ใกล้ๆนั่นเอง...โกตา จองเรือไว้ให้เราแล้ว พอไปถึงเรือก็ค่อยๆแหวกเรือลำอื่นๆที่จอดขวางอยู่ มารับเราไปนั่งอย่างสบายๆลำละ 4 - 5 คน โชคดีที่เป็นเรือที่มีม้านั่งอย่างดีให้เรานั่ง ถ้าขึนนั่งบนเสื่ออย่างที่เห็นในเรือบางลำ สายชลคงขอนอนไปเลยดีกว่า |
เพื่อความปลอดภัย เราควรจะใส่เสื้อชูชีพกันนะคะ.....พร้อมแล้ว เรือที่ใช้เครื่องปั่นไฟ หางเสือสั้นๆใช้บังคับอยู่ด้านหลัง ซึ่งจะไม่เหมือนเรือหางยาวบ้านเรา ที่ใช้เครื่องรถยนต์ และใบพัดติดก้านเหล็กยาวๆใช้แทนหางเสือ แต่เสียงสนั่นแถมควันเยอะพอๆกัน เรือสวนและแซงกันที ต้องรีบปิดตาปิดจมูก.... |
สองฝั่งคลองที่จะไปเชื่อมกับทะเลสาบอินเล มีบ้านไม้ปลูกเรียงรายกันอยู่เต็มไปหมด http://i1198.photobucket.com/albums/...psbe67bedf.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...pscb21ee32.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps9cac029d.jpg |
เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม....ทางตะวันตกที่เป็นที่ตั้งของเมืองตองยี เมฆหนาและมืดดำ ส่วนทางเหนือกับทางใต้มีเมฆสวยบางๆ ส่วนทางตะวันตก ฟ้าใสแทบจะไร้เมฆ.... |
เรือออกจากท่าเรือยองชเว แล้วมุ่งหน้าสู่ด้านใต้ อันเป็นที่ตั้งของทะเลสาบอินเล http://i1198.photobucket.com/albums/...psea9b7144.jpg ทะเลสาบอินเล (พม่า: အင်းလေးကန်, เสียงอ่านภาษาพม่า: [ʔɪ́ɴlé kàɴ] อี๊นเล้ก่าน) เป็นทะเลสาบน้ำจืดตั้งอยู่ในรัฐฉาน อยู่ห่างจากเมืองตองยีประมาณ 25 กิโลเมตร เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองของพม่า มีพื้นที่ 116.3 ตร.กม.สูงจากระดับน้ำทะเล 884 เมตร ระดับความลึกเฉลี่ย 1.52 เมตร ความลึกสูงสุด 3.7 เมตร ทะเลสาบแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชนที่เรียกตนเองว่า ชาว อินทา หรือ อินตา (Intha) ที่แปลว่า "บุตรแห่งทะเลสาบ" ชนเผ่านี้อาศัยอยู่ในทะเลสาบอินเลมานานนับร้อยปีแล้ว โดยใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางการทำการเกษตรบนเกาะวัชพืชที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเองกลางลำน้ำในทะเลสาบ ปัจจุบัน ชาวอินดาอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน 17 หมู่บ้าน กระจายอยู่รอบๆทะเลสาบอินเล โดยมีทั้งบ้านใต้ถุนสูงปักอยู่ในน้ำ หรือไม่ก็ตั้งอยู่บนดินที่เกิดจากทะเลสาบที่ตื้นเขิน |
แล่นเรือลัดเลาะไปตามลำคลองได้สักพักหนึ่ง เรือเริ่มแล่นเข้าเขตทะเลสาบอินเล...บ้านเรือนผู้คนเริ่มหายไป กลายเป็นดงต้นกกและพืชน้ำ http://i1198.photobucket.com/albums/...ps60b05d3c.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps0be6c43a.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps8d971be7.jpg http://i1198.photobucket.com/albums/...ps883f51cb.jpg |
เข้าไปในเขตทะเลสาบได้ไม่นาน เราก็เห็นเรือลำเล็กๆ 3-4 ลำ มีคนใส่เสื้อขาวกางเกงสีน้ำตาลอ่อน ยืนอยู่หัวเรือบ้างท้ายเรือบ้าง กลางลำเรือมีลอบจับปลาใหญ่ๆยาวๆวางกองอยู่ http://i1198.photobucket.com/albums/...pse67516f8.jpg "เอ้าาาาาา....ทำงานได้" เสียงน้องอาร์ตที่นั่งอยู่หลังสองสาย มีโกตาพ่วงท้าย ดังแหวกเสียงเรือและเสียงลมดังมาถึงหูสายชลที่นั่งอยู่หน้าสุด http://i1198.photobucket.com/albums/...psded1da84.jpg พอสิ้นเสียงของน้องอาร์ต...เจ้าหนุ่มที่ยืนอยู่หัวเรือ ก็เริ่มต้นพายเรือด้วยเท้าเหยงๆ http://i1198.photobucket.com/albums/...pseb976560.jpg |
การพายเรือด้วยขาและเท้าของชาวอินตา เพื่อจับปลามากินมาขายนั้น ดำเนินมาแต่ครั้งโบราณกาล ถือเป็นจุดเด่นของที่นี่ ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน จนเป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาที่ทะเลสาบอินเล แต่เนื่องปลาและสัตว์น้ำมีน้อยลง (คงรำคาญเสียงเรือที่ดังลั่นทั้งวันทั้งคืน) การทำประมงจึงลดลง ชาวประมงที่ยืนพายเรือด้วยขาและเท้าจึงลดตามไปด้วย ทางการเลยต้องไปจ้างคนแต่งเครื่องแบบเหมือนๆกัน มาพายเรือให้นักท่องเที่ยวชม |
| เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:50 |
vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger