SaveOurSea.NET - รายงานผลโครงการเก็บขยะ / ตัดอวน / Reef Watch ที่ จ.ชุมพร เดือนมิถุนายน 2553

SaveOurSea.NET (http://www.saveoursea.net/forums/index.php)

ปลาที่มีอยู่ชุกชุมในบริเวณกองหินสามเหลี่ยมนี่เอง เป็นที่มาของอวนที่คลุมอยู่ที่กองหินแห่งนี้...

สายเบ็ดทั้งเล็กและใหญ่ก็หาได้ไม่ยาก.....

นานๆจะได้เห็นปลาสิงโต (Lionfish) ในบริเวณนี้....

หาวววววว......ง่วงจัง....

นี่เป็นปลาสิงโตอีกตัว ที่ว่ายห่างจากตัวแรกกว่าสิบเมตร...

สวยสง่างามดีค่ะ...

ดอกไม้ทะเลเริ่มมีให้เห็นมากขึ้น...

กองสามเหลี่ยมดูสวยงามและสมบูรณ์ขึ้น....

แต่น่าเสียดายที่น้ำมาร้อนขึ้นจนทำให้เกิดการฟอกขาว อย่างไรก็ตาม......ยังดีที่ยังมีปะการังที่ถูกฟอกขาวไม่มากนัก

ถ้าอุณหภูมิของน้ำลดต่ำลง ปะการังก็คงฟอกขาวไม่มากจนทำให้กองสามเหลี่ยมหมดสวย...

Reef Watch

ระหว่างที่เรือแล่นจากกองหินสามเหลี่ยม ไปยังเกาะร้านไก่ซึ่งใช้เวลากว่าสองชั่วโมง เราเริ่มที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการทำ Reef Watch โดยมีสาวสวยน่ารักอารมณ์ดีนาม "น้องลูกหยี"....นิสา เพิ่มศิริวาณิชย์ ตำแหน่งนักวิชาการประมง ส่วนอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาทำหน้าที่บรรยายเรื่องเกี่ยวกับเรื่องการทำ Reef Watch ให้เราได้ฟังกันค่ะ....

ก่อนที่จะพูดถึงเรื่อง Reef Watch ที่น้องลูกหยี จะบรรยายให้เราฟ้ง..สายชลขอเล่าเรื่องที่มาของการที่พวกเราชาว SOS ได้มาทำเรื่อง Reef Watch กันให้พวกเราฟัง เพื่อปูพื้นให้เราได้ทราบกันไว้เพื่อให้เข้าใจถึงที่ไปที่มากันก่อนนะคะ

เรื่องก็มีอยู่ว่า.....

วันหนึ่งราวๆปลายเดือนสิงหาคม 2552....น้องโด่ง (ดร. ปิ่นสักก์ สุรัสวดี) หัวหน้าของน้องลูกหยี ได้โทรมาบอกว่า ขอให้ทาง SOS เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครดำน้ำสำรวจทรัพยากรธรรมชาติใต้ท้องทะเลไทยบริเวณเกาะร้านเป็ด และ เกาะร้านไก่ ชุมพร ตาม "โครงการสำรวจมรดกทะเลไทย" (ที่มีระยะเวลาในการดำเนินงาน 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2552 ไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2553) โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า รีฟ วอท (Reef Watch) โดยให้เราเขียนเกี่ยวกับ SOS เอง และจุดดำน้ำเป้าหมายคือเกาะร้านเป็ดและร้านไก่ ส่งไปให้น้องโด่งภายในสิ้นเดือนกันยายน 2552 เพื่อที่คณะกรรมการของโครงการจะได้พิจารณาคัดเลือกและให้เจ้าหน้าที่มาจัดฝึกอบรมเทคนิคให้ ณ. จุดที่กำหนดต่อไป

น้องโด่งได้แจ้งด้วยว่า การอบรมและการไปทำ Reef Watch ณ.จุดที่กำหนดนั้น ทางโครงการจะออกค่าใช้จ่ายให้บางส่วน และกลุ่มที่ทำ Reef Watch ได้ดีเยี่ยม จะได้รับโล่ห์พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ ด้วย

ไม่ได้คิดถึงเรื่องเงินช่วยเหลือ หรือรางวัลที่จะได้รับ.....เมื่อน้องรักอย่างน้องโด่งขอมาอย่างนี้ มีหรือที่เราจะปฏิเสธ....สายชลรีบเขียนเรื่องที่น้องโด่งต้องการส่งไปให้ทันที ทั้งนี้ได้แจ้งให้น้องโด่งทราบว่า การทำงานของเราที่เกาะร้านเป็ดและเกาะร้านไก่นั้น จะทำได้หลังกลางเดือนพฤษภาคมไปแล้ว เพราะเรือโชคศุลีที่เราจะใช้ดำน้ำ จะอ้อมแหลมจากฝั่งอันดามันมาถึงชุมพรที่อยู่ด้านฝั่งอ่าวไทยได้ ในช่วงเวลาดังกล่าว

หมายเหตุ....อ่านเรื่อง"โครงการสำรวจมรดกทะเลไทย" และเรื่องการรับสมัคร "นักดำน้ำ" ร่วม "โครงการสำรวจมรดกทะเลไทย" ได้ที่....

http://www.warehouse.mnre.go.th/Port...5/Default.aspx

http://www.green.in.th/node/1792

ในวันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2553....เราก็ได้รับ E-mail จากน้องลูกหยี พร้อมกับมีเอกสารแนบมา คือหนังสือจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง แจ้งเรื่องที่เราได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ เช่นเดียวกับนักดำน้ำกลุ่มอื่นๆอีก 17 กลุ่ม พร้อมแจ้งตารางกำหนดเวลาปฏิบัติงานมาให้เราดำเนินการทำ Reef Watch ในช่วงเดือนเมษายน 2553 ด้วย....

เมื่อสายชลได้เห็นตารางการทำงานที่ระบุว่า SOS ต้องไปทำงานที่เกาะร้านเป็ดและร้านไก่ ในช่วงเดือนเมษายน ก็รู้สึกกังวลใจ จึงได้โทรศัพท์ไปหาน้องลูกหยีทันที เพื่อแจ้งให้ทราบว่า SOS ไม่สามารถไปทำงานในช่วงนั้นได้แน่นอน เนื่องจากเรือโชคศุลี ที่เราจะใช้เป็นพาหนะเดินทางไปทำงานนั้น ยังไม่เดินทางมาฝั่งอ่าวไทย และเรือลำอื่นๆที่จะสามารถใช้ไปทำงานได้ ก็ไม่ว่างในช่วงเวลาดังกล่าว ส่วนช่วงที่เราสดวกจะไปทำงานที่สุด ก็คือช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่งน่าจะเลยกำหนดระยะเวลาของ "โครงการสำรวจมรดกทะเลไทย" ที่มีระยะเวลาในการดำเนินงาน 1 ปี คือ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2552 ไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2553

น้องลูกหยีได้ตอบว่า....SOS น่าจะเลื่อนไปทำ Reef Check ในช่วงเดือนมิถุนายนได้ไม่มีปัญหา แม้ว่าจะเลยเวลาที่กำหนดของ "โครงการสำรวจมรดกทะเลไทย" ก็ตามที

เพื่อความมั่นใจ...สายชลได้แจ้งเรื่องกำหนดการทำงานของ SOS ไปที่น้องโด่งอีกครั้ง ซึ่งก็ได้รับคำตอบเช่นเดียวกันกับน้องลูกหยี...