|
ไปสำรวจปะการังเทียม....นราธิวาส
ในระหว่างวันที่ 15-17 สิงหาคม 2555....สองสายได้รับการเชิญชวนจาก พ.อ.(พิเศษ) สุชาติ จันทรวงศ์ ประจำศููนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (Thailand Mine Action Center : TMAC) ให้ไปร่วมการติดตามความก้าวหน้าของ โครงการ "ฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ" (ปะการังเทียม) ณ.ชายฝั่งทะเล ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งจัดโดยกองทัพบก |
วันพุธที่ 15 สิงหาคม...เราออกจากบ้านแต่เช้า มุ่งหน้าไปยังสนามบินดอนเมือง แต่กว่าจะหาทางเข้าลานจอดเครื่องบินของกรมการขนส่งทหารบก (ขสทบ.) ได้ ก็วนไปวนมา เลยไปเลยมา เพราะไม่มีป้ายบอกทาง เลี้ยวเข้าไปแล้วก็ตกใจ เพราะมีการตั้งแถวกองเกียรติยศใหญ่โต นึกว่าเรามาช้าไป เครื่องบินจะออกแล้วเสียอีกค่ะ ใจชื้นเมื่อเห็นน้องผู้พันสุชาติของเรา ยืนยิ้มเผล่รับอยู่ที่ลานจอดรถที่อยู่ลึกเข้าไป น้องผู้พันสุชาติ พาเราเข้าไปในห้องพักรับรอง ซึ่งที่นั่น พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด หรือ เสธ.ไก่อู และคณะนายทหารกำลังรับประทานโจ๊กกับปาท่องโก๋แกล้มกาแฟกันอยู่ น้องผู้พันได้แนะนำสองสายกับคณะ และพอเราเข้าไปนั่งบนเก้าอี้รับรอง อาหารเช้าก็ถูกนำมาจัดวางหน้าเราทันที โดยเจ้าหน้าทีที่สวยน่ารักและมารยาทดี |
หลังจากนักข่าวเดินทางมาครบ และ ทุกคนได้รับประทานอาหารเช้าแล้ว...เสธ.ไก่อู ก็ได้กล่าวถึงภารกิจสำคัญที่เราจะต้องไปทำในครั้งนี้ ซึ่งคือการลงดำน้ำสำรวจปะการังเทียมที่บริเวณทะเลอ่าวไทย หน้าเมืองนราธิวาส ซึ่งมีทั้งรถถังที่ทางทหารบกได้นำไปจมไว้ รวมทั้งตู้รถไฟ และรถขยะ ซึ่งรายละเอียดจะได้แจ้งให้ทราบอีกครั้งในภายหลัง |
ก่อนจะถึงเวลาออกเดินทาง พวกเราทะยอยกันเดินเข้าห้องน้ำ แล้วก็ออกเดินไปเตรียมตัวขึ้นเครื่องบินบท 41 (Jetstream 41) ที่ทางกองทัพบกได้จัดให้เราใช้เดินทางไปนราธิวาส คุณสายน้ำเห็นเครื่องบินแล้ว ก็ทำหน้าพิกล ไม่แน่ใจว่าเป็นหน้าเก๊กหล่อของท่าน หรือ ท่ากลัวเมาเครื่องบินกันแน่...:p |
เมื่อทุกอย่างพร้อม...เครื่องบินลำน่ารักก็เคลื่อนจากหน้าโรงจอดของ ขสทบ. แล่นผ่านลานจอดของตำรวจทหารเรือ ทหารอากาศ ออกทางวิ่งเล็ก ผ่านสนามกอล์ฟ ออกไปทางรันเวย์ใหญ่หน้าอาคารที่พักผู้โดยสารของท่าอากาศยานดอนเมือง แล้วก็เร่งเครื่องทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า.... กัปตันเก่งหรือเครื่องบินดีก็ไม่ทราบได้...เป็นการทะยานขึ้นฟ้าที่นิ่มนวลเหลือเกินค่ะ ท้องฟ้าเหนือเมืองกรุงสลัวมัวซัว มีม่านเมฆลอยต่ำๆ แต่พอเครื่องบินร่อนออกไปเหนือทะเลอ่าวไทย ฟ้าก็แจ้งจางปาง มองเห็นวิวทิวทัศน์ชัดเจน เมื่ออยู่เหนือปากแม่น้ำท่าจีน สายชลพยายามกวาดตาลงไปในทะเล เผื่อจะเห็นวาฬบรูด้าในทะเล ในบริเวณที่เราเพิ่งไปเห็นเมื่อไม่กี่วัน ก่อนการเดินทางครั้งนี้ มองเท่าไรก็ไม่เห็นสักตัวค่ะ... |
เครื่องบินขึ้นไปได้สักครึ่งชั่วโมง....เสธ.นก รูปหล่อ ผู้ช่วยของเสธ.ไก่อู ก็ยืนขึ้นมาเพื่อแจ้งให้เราทราบถึงกำหนดการคร่าวๆของการไปดำน้ำทำงานของพวกเรา ที่จะเริ่มทันทีเมื่อลงจากเครื่องบิน เดินทางเข้าที่พัก ในเขตพระราชฐานชั้นกลาง ของ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศ แล้วต้องรีบเดินทางไปลง เรือวีนัส ที่จอดคอยเราอยู่ที่ท่าเรือแล้ว วันแรก...เราจะดำน้ำทำงานกันสองไดฟ์ แล้วก็กลับขึ้นฝั่งขึ้นไปพักในเขตพระตำหนักฯ วันที่สอง...เราจะดำน้ำทำงานกันทั้งวัน ตั้งใจว่าจะให้ได้ 4 ไดฟ์ แล้วกลับไปพักในเขตพระตำหนักฯ วันที่สาม...เราจะดำน้ำกันหนึ่งไดฟ์ แล้วก็กลับที่พัก เพื่อเตรียมตัวบินกลับในสายวันรุ่งขึ้น.. บนเครื่องบิน...มีสจ๊วตแต่งชุดทหารมาเสริฟน้ำ และ เครื่องดื่มให้เราทานบนเครื่องบินด้วย แต่ขออภัยค่ะ...ไม่มีห้องน้ำให้เข้า พวกเราบางคนจึงนั่งบิดไปบิดมา เกือบสองชั่วโมงกว่าจะถึงนราธิวาส.... |
ชายฝั่งนราธิวาสขาวสะอาดยาวเหยียด คอยเราอยู่เบื้องล่าง เครื่องบินร่อนต่ำลงและลงแตะพื้นรันเวย์อย่างนิ่มนวล พวกเราทยอยลงจากเครื่องบิน บางคนอ้อยอิ่งถ่ายภาพกับเครื่องบินเป็นที่ระลึก แต่บางคน...วิ่งตรงรี่เข้าห้องน้ำ ซึ่งเป็นห้องน้ำใหญ่ แต่ไม่แยกหญิงชาย ผู้ชายยืนทำธุระอยู่ ฝ่ายหญิงที่ทนไม่ได้ ก็ทำเมินไม่มอง วิ่งเข้าห้องน้ำไป... |
ทหารนำรถกระบะมีหลังคา ซึ่งทำเป็นรถสองแถว (มีม้านั่นหันหลังชนกันอยู่ตรงกลาง) มาช่วยบรรทุกกระเป๋าเครื่องมือดำน้ำใบใหญ่ๆของเราขึ้นรถ ส่วนเราพร้อมกับกระเป๋าใบเล็กขึ้นรถตู้ ออกจากสนามบินนราธิวาสที่สวยงาม แต่ดูเงียบเหงา ผ่านเข้าไปในเมืองนราธิวาส ซึ่งดูคึกคัก ผู้คนเดินกันขวั่กไขว่ ไม่เห็นน่ากลัวอย่างที่มีข่าวร้ายๆออกมา รถแล่นออกไปทางเมืองตากใบ ที่สองทางมีบ้านเรือนสลับกับดงไม้เขียวขจี เราข้ามสะพานที่ทอดผ่านแม่น้ำบางนรา ตรงไปอีกเล็กน้อยก็ถึงหน้าพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์...พอเข้าไปในเขตพระตำหนักฯ เราก็พบกับความร่มรื่นด้วยแมกไม้ สงบสุข และ ร่มเย็น.... |
ส่วนที่เราจะพัก...เป็นเขตพระราชฐานชั้นกลาง ที่อยู่ติดกับชายหาดยาว ที่มีทรายขาวละเอียด และน้ำทะเลสีมรกตกว้างไกลสุดสายตา... http://i835.photobucket.com/albums/z.../Others_06.jpg ที่เห็นยืนตรงเด่นเป็นสง่าหน้าที่พักของเรา เป็นต้นไม่เถาเลื้อยขนาดใหญ่ ที่ขึ้นไปพันอยู่กับต้นไม้อื่น ใบรูปหัวใจสีทองที่มองเห็นเด่นชัด ทำให้เรารู้ได้ว่านี่คือ "ต้นไม้ใบสีทอง" หรือ "ต้นย่านดาโอ๊ะ" ที่พี่สุพจน์ หรือลุงไมโลผู้ล่วงลับที่พวกเรารักและเคารพ ได้เคยเล่าให้เราฟังนั่นเอง |
เรายังไม่มีเวลาชื่นชมความงามของบริเวณรอบที่พัก เพราะต้องรีบนำเสื้อผ้าของใช้ไปเก็บ แล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อเตรียมตัวไปลงเรือ ที่ท่าเทียบเรือประมงนราธิวาส รถตู้ที่เรานั่ง แล่นกลับไปทางเข้าตัวเมืองนราธิวาส พอข้ามแม่น้ำบางนราไปไม่ถึงห้านาที ก็ถึงท่าเทียบเรือ ซึ่งที่นั่น เรือวีนัสจอดคอยเราอยู่แล้วค่ะ.. คณะทำงานถ่ายภาพร่วมกันหน่อยนะคะ... |
เมื่อขึ้นไปบนเรือวีนัส...ก็เห็นแก้วก้านยาว เรียงไว้อย่างสวยงาม พอคนมาพร้อม ก็มีน้ำมะนาวเย็นๆมาให้รินดื่ม สดชื่น หายร้อนเลยค่ะ http://i835.photobucket.com/albums/z.../Others_44.jpg เรือแล่นออกจากท่าเรือประมง ล่องออกปากแมน้ำบางนรา สองข้างทางสวยงามด้วยบ้านเรือน และต้นไม้ มองไปข้างหลัง เห็นเขาตันหยงมัส ที่ตั้งพระตำหนักทักษิณ ที่เราเพิ่งจากมา... http://i835.photobucket.com/albums/z.../Others_45.jpg |
เมื่อออกไปพ้นปากแม่น้ำบางนารา...ทะเลเรียบเป็นกระจก น้ำดูจะใสกว่าที่เคยเห็น และไม่มีแมงกะพรุน ลอยให้เห็นสักตัว เรารีบไปเตรียมประกอบอุปกรณ์ และเปลี่ยนมาใส่เสื้อที่ทางเสธ.ไก่อู ให้น้องทหารนำมาแจก และกำชับให้ใส่ แล้วขึ้นมารอการบรี๊ฟถึงเรื่องเรือและการดำน้ำ การบรี๊ฟของ น้องผู้พันสุชาติ...น้องดนัย ฟูตระกูล (จากชมรมคนรักษ์เล) และ น้องณี (ผู้จัดการเรือวีนัส) http://i835.photobucket.com/albums/z.../Others_30.jpg ตั้งใจฟังบรี๊ฟกันมาก.... http://i835.photobucket.com/albums/z.../Others_31.jpg การบรี๊ฟเสร็จสิ้นลง...เราเริ่มการพูดจาพาที ถ้อยทีถ้อยอาศัย เป็นการผูกสัมพันธไมตรีที่ดีที่สุด ในระหว่างรอเวลาลงดำน้ำไดฟ์แรก ที่จะเริ่มขึ้นหลังอาหารเที่ยง... http://i835.photobucket.com/albums/z.../Others_29.jpg ทานอาหารเที่ยงเสร็จ ใกล้เวลาจะลงน้ำ เตรียมทาครีมกันแดดกันหน่อยนะคะ...พอกครีมกันแดดมากไปหรือเปล่าคะ น้องเสธ.ไก่อู.... http://i835.photobucket.com/albums/z.../Others_32.jpg |
พี่จ๋อมเมาเครื่องบินหรือเปล่าครับ
|
อ้างอิง:
|
น่าชื่นชมพี่น้อยพี่จ๋อมที่สุดค่ะ ทำงานเพื่อทะเลและทำงานเพื่อชาติด้วย
แอบอิจฉาเล็กๆ ที่ได้ทำงานใหญ่ ...อยากไปแอบในกระเป๋าดำน้ำของพี่น้อยด้วย จะได้ไปดำน้ำด้วยค่ะ |
หนูติ่งจ๋า...อย่าอิจฉาเลยจ้ะ นานๆจะได้ไปรับใช้ชาติ ผ่านทางกองทัพบกสักครั้งหนึ่งค่ะ เพราะงานดำน้ำของทหารบกไม่ค่อยมีให้ทำมากนัก ที่เป็นงานของหน่วยราชการอื่นๆนอกจากนี้ เขาก็มีงานดำน้ำทำกันอยู่เป็นประจำ แต่ส่วนมากจะมีพวกพ้อง เส้นสาย หรือกลุ่มก๊วนในสังกัดให้เรียกระดมพลได้สะดวกอยู่แล้ว... ว่างเมื่อไร...ก็แจ้งไปนะจ๊ะ เผื่อจะมีจังหวะตรงกัน ได้ไปดำน้ำรับใช้ชาติด้วยกันบ้างจ้ะ.. :) |
ในระหว่างนั่งรอเวลาดำน้ำ...สายชลนึกย้อนรำลึกถึงที่ไปที่มาของ "โครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเล อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดปัตตานีและจังหวัดนร าธิวาส" ซึ่งเริ่มต้น จากการที่ชาวประมงพื้นบ้าน แห่ง บ้านละเวง อำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานความช่วยเหลือ จาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ให้ทรงพิจารณาช่วยฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำใต้ท้องทะเล ที่ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว สาเหตุสำคัญที่ปริมาณสัตว์น้ำที่ลดลงนั้น เกิดมาจากการทำประมงอย่างผิดวิธี กล่าวคือ มีการใช้เครื่องมือ ประเภท อวนลาก และอวนรุน ที่ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ แหล่งที่อยู่อาศัย และแหล่งหลบภัยตามธรรมชาติของสัตว์น้ำวัยอ่อน ส่งผลให้ระบบนิเวศสัตว์น้ำเกิดความเสื่อมโทรม จำนวนสัตว์น้ำลดลง ประชาชนที่ประกอบอาชีพประมง ต้องประสบปัญหารายได้ลดลงตามไปด้วย ทำให้เดือดร้อนกันไปทั่ว.. โครงการดังกล่าว จึงถูกตั้งขึ้นมา โดยมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูระบบนิเวศสัตว์ น้ำ โดยการจัดสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเลหรือปะการังเทียม ซึ่งจะใช้วัสดุจำพวกคอนกรีต ท่อระบายน้ำ ซากเรือ หรือวัสดุขนาดใหญ่ที่ไม่ใช้งานแล้ว เพื่อเป็นที่อาศัยของสัตว์น้ำชายฝั่ง เมื่อจำนวนสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นก็จะทำให้มีแหล่งการทำการประมง ของชาวประมงขนาดเล็กเพิ่มขึ้น ในปี 2545-2547...กรมประมงได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน รวมทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ได้มอบตู้รถไฟเก่าจำนวนรวม 608 ตู้ มาวางในทะเลเขตจังหวัดปัตตานีและนราธิวาส ซึ่งส่งผลให้ปริมาณสัตว์น้ำในทะเลบริเวณตู้รถไฟ เพิ่มปริมาณขึ้นมากมาย |
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2552...ในโอกาสที่คณะบุคคลต่างๆ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล ในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำรัสใจความว่า
"ปีนี้ ประมงพื้นบ้านตั้งแต่ปัตตานีจนถึงนราธิวาสหลายร้อยคน เขียนจดหมายถึงข้าพเจ้า แล้วก็เซ็นชื่อเป็นบัญชีหางว่าวเลย ขอให้ข้าพเจ้าช่วยจัดทำปะการังเทียมเพิ่มเติมขึ้นอีก แล้วตอนนี้ใครจะช่วยข้าพเจ้า ตอนนี้จะเอาอะไรไปทิ้งให้ปลามันอยู่ ข้าพเจ้าจึงนำมาเล่าให้ท่านทั้งหลายฟังว่า ปะการังเทียมนั้นใช้ได้ผลจริงๆ น่าภูมิใจแทนหน่วยงานทั้งหลาย ที่ช่วยเหลือประชาชนประสบผลสำเร็จ และข้าพเจ้าก็เลยขอถือโอกาสนี้ ส่งข่าวถึงกลุ่มประมงพื้นบ้าน ที่เขาเขียนจดหมายถึงข้าพเจ้าขอปะการังเทียมเพิ่มเติมด้วยว่า ข้าพเจ้าจะพยายามขอร้องให้ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และทุกแห่งช่วยกันประสานงาน เชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอ ก็คงจะเริ่มจัดสร้างพื้นที่บริเวณปะการังเทียมได้อีก เพื่อประชาชนจะได้ไปตกปลา ไปทำมาหากินได้เพิ่ม" จากพระราชเสาวนีย์ดังกล่าวข้างต้น และเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 78 พระชนมพรรษา ในปี 2553 กรมประมงจึงได้สานต่อ “โครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเล อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดปัตตานีและนราธิวาส” ขึ้นอีกครั้ง เป็นการนำวัสดุที่ไม่ใช้งานหรือปลดประจำการกลับมาใช้ ประโยชน์อีกครั้ง เพื่อจัดสร้างเป็นที่อยู่อาศัยให้กับสัตว์ทะเล ทางกรมประมง จึงได้พิจารณานำวัสดุเหลือใช้ที่ได้รับการบริจาคมา คือ รถถัง 25 คัน รุ่น 30 T 69-2 จากทางกองทัพบก...ตู้รถสินค้า จำนวน 273 ตู้ จากกระทรวงคมนาคมโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย...รถยนต์เก็บขยะมูลฝอย จำนวน 198 คัน จากกรุงเทพมหานคร...และ รถยนต์ 3 คัน จากกองทัพไทย รวมรถทั้งสิ้น 499 คัน เพื่อทำเป็นปะการังเทียม และแนวกันคลื่น สำหรับเหตุผลที่กองทัพบก ได้ส่งมอบรถถังให้กรมปะมงนำไปใช้ทำปะการังเทียมนั้น สรุปความได้ว่า.... กองทัพบก ซึ่งมีรถถังขนาดกลาง รุ่น 30 T 69-2 จำนวน 25 คัน ที่เคยใช้งานอยู่แถบชายแดนประเทศไทย ซึ่งเป็นรถถังที่ผลิตขึ้นในประเทศจีน และถูกนำมาประจำการที่กองพันทหารม้า ที่ 16 จังหวัดนครศรีธรรมราช กองทัพบกไทย ตั้งแต่เมื่อปี 2530 ก่อนที่เสื่อมสภาพและถูกนำมาซ่อมบำรุงที่ กรซย.ศซส.สพ.ทบ. เมื่อปี 2547 แต่ไม่สามารถทำการซ่อมแซมได้ เนื่องจากประเมินความเสียหายแล้วเกิน 60% และไม่คุ้มค่ากับการซ่อมแซม ทางกองทัพบกได้พิจารณาแล้วว่า หากนำรถถังไปพัฒนาฟื้นฟูทะเล จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อชาวประมงพื้นบ้าน สร้างความสมบูรณ์ของท้องทะเลมากกว่าอย่างอื่น จึงได้ประสานงานกับกรมประมง เพื่อนำรถถังทั้ง 25 คัน ไปทิ้งลงทะเลเพื่อเป็นปะการังเทียมที่ทะเลหน้าเมืองนราธิวาส แผนงานครั้งนี้ ต้องใช้เรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ 2 ลำ ขนรถทั้งหมดที่ได้รับบริจาคไปทิ้ง โดยใช้เครนยกรถทั้งหลาย ลงเรือโป๊ะบรรทุก ซึ่งเป็นเรือท้องแบนที่ใช้ขนของหนัก (Barge) ที่จอดรออยู่บริเวณท่าเรือคลองเตย ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2553 เพื่อเดินทางไปจังวัดนราธิวาสและปัตตานี เมื่อไปถึงจุดหมายปลายทาง...รถแบ๊กโฮก็ดันรถทั้งหลาย (ยกเว้นรถถัง) ลงทะเล ณ จุดที่กำหนดวางลงทะเล 15 จุด ทั้งที่จังหวัดปัตตานีและนราธิวาส คือในวันที่ 3 สิงหาคม 2553 กำหนดจัดวางวัสดุในพื้นที่อำเภอปะนาเระ สายบุรี และอำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี และในวันที่ 9 สิงหาคม 2553 กำหนดวางรถถังทั้ง 25 คัน บริเวณ อำเภอเมือง และอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ขอบคุณข้อมูลจาก...http://www.nicaonline.com และ http://www.thaipost.net |
ถึงเวลาดำน้ำแล้วค่ะ... ในวันแรก..เราดำน้ำได้เพียงสองไดฟ์ คือไดฟ์แรกที่บริเวณรถถังปะการังเทียม และอีกไดฟ์หนึ่งที่บริเวณ รถขยะปะการังเทียม ส่วนในวันที่สอง..เราลงดำน้ำสามไดฟ์ สองไดฟ์แรก ที่รถถังปะการังเทียม และไดฟ์ที่สาม ที่ตู้รถไฟปะการังเทียม และในวันสุดท้าย ที่เรามีเวลาดำน้ำเพียงไดฟ์แดียวนั้น เราลงดำน้ำซ้ำอีกครั้ง ที่รถถังปะการังเทียม... รวมเป็นการดำน้ำทั้งหมด 6 ไดฟ์ เป็นการลงดำน้ำที่รถถังปะการังเทียม มากที่สุด คือ 4 ไดฟ์ และที่ รถขยะปะการังเทียม และ ตู้รถไฟปะการังเทียม ที่ละเพียงหนึ่งไดฟ์เท่านั้น เป็นไปตามวัตถุประสงค์หลักของการมาสำรวจปะการังเทียมครั้งนี้ ที่ต้องการเน้นหนักการสำรวจรถถังปะการังเทียม ซึ่งทางกองทัพบก ได้ส่งมอบและร่วมดำเนินการวางลงในทะเล มาตั้งแต่เมื่อสองปีที่ผ่านมา.. |
รถถังปะการังเทียม
รถถังขนาดกลาง รุ่น 30 T 69-2 จำนวน 25 คัน ที่ได้ถูกนำมาวางในทะเลอ่าวไทย เขตตำบลกะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2553 นั้น ได้รับการวางแผน ให้วางเรียงกันเป็นวงกลม โดยมีรถถังหมายเลข 12 ซึ่งตรงกับวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินาถ เป็นรถถังคันแรก ที่ถูกวางลงไป แต่ในการปฏิบัติการจริง การนำรถถัง ลงสู่พื้นทรายเบื้องล่าง โดยการใช้รถแบ๊กโฮดันรถถังลงทะเล ตรงบริเวณพิกัดที่กำหนด ไม่ได้ง่ายเหมือนที่คิด เพราะเมื่อไปกระทบน้ำแล้ว เกิดมีการแฉลบและเจอแรงต้านจากน้ำเข้า รถถังทั้ง 25 คัน ก็ลงไปกองอยู่บนพื้น ในลักษณะที่น้องแก่น (Kaenscuba) ได้ทำแผนภูมิไว้ดังข้างล่างนี้... |
วันแรกและไดฟ์แรกที่เราลงดำน้ำที่รถถังปะการังเทียม....เรากระโดดลงจากเรือ และทิ้งตัวลงใต้ผิวน้ำ ตามแนวสายทุ่นที่ผูกติดกับกระบอกปืนของรถถังหมายเลข 12 เราพบว่าน้ำใสพอควร แต่มีตะกอนและแพลงก์ตอนลอยฟ่องอยู่บางๆ ทัศนวิสัยใต้น้ำราว 10 เมตร กระแสน้ำที่ดูมาจากมาตราน้ำ บอกว่าระด้บน้ำในช่วงหนึ่งชั่วโมงที่เราลงดำน้ำนั้น เปลี่ยนแปลงเพียง 1 เด(ซิเมตร) แต่ในความเป็นจริง กระแสน้ำแรงได้เหนื่อยเชียวละค่ะ ดูเหมือนจะไม่ใช่เด.เดียว แต่น่าจะ 2-3 เด.เป็นอย่างน้อย ลงดำน้ำไปได้ลึกสัก 10 เมตร ก็มองเห็นรถถังตะคุ่มๆอยู่ที่พื้นทรายใต้น้ำ รู้สึกใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นดีใจ ทั้งที่เป็นครั้งที่สองแล้ว ที่สองสายได้ลงดำน้ำณ.ที่นี้ http://i835.photobucket.com/albums/z...s/Tank_104.jpg เมื่อลงไปถึงตัวรถถังได้ สายชลก็ขอไปนั่งที่พื้นทรายข้างรถถังหมายเลข 12 ความลึก 22 เมตร แล้วก็ยกมือไหว้ แสดงความคารวะ รู้สึกอิ่มเอมใจ ที่รถถังกลายเป็นปะการังเทียมที่สวยงาม เนื้อเหล็กของตัวรถถังไม่มีให้เห็น เพราะมีสัตว์เกาะติด ทั้งหอย เพรียง และไฮดรอยด์มาเกาะเต็ม ปลาในแนวปะการังว่ายกันขวั่กไขว่ http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_89.jpg นั่งไปถ่ายภาพไป สักพัก ปลากลางน้ำก็เข้ามาว่ายวนเวียน หากินอยู่เต็มไปหมด... http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_03.jpg เห็นแล้วมีความสุขมากค่ะ... อยากนั่งดู อยู่อย่างนี้นานๆ... http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_16.jpg |
ฝูงปลาว่ายผ่านไปหากินทางรถถังคันอื่น http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_01.jpg สายชลเริ่มว่ายวนเวียนสำรวจรถถัง เห็นกระบอกปืนใหญ่ที่เคยเกลี้ยงเกลานั้น บัดนี้มีหอย เพรียง และไฮดรอยด์มาเกาะติดเต็มไปหมด...ไม่เว้นแม้ในลำกล้องปืนใหญ่.. http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_02.jpg ฝาเปิดเข้าในตัวรถถัง ยังเปิดค้างอยู่ http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_10.jpg ด้านหลังรถถัง ที่เป็นเหมือนกะบะ ยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ เป็นที่อาศัยของปลาตัวเล็กๆ ประเภทปลาสลิดหิน และ ปลาทอง... http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_13.jpg |
ทางทิศเหนือ...ไม่ห่างมากนักกับรถถังคันที่ 12 มีรถถังอีกคันจอดอยู่....นี่ขนาดไม่ค่อยจะมีที่ให้หลบซ่อนนะคะ...ยังมีปลามากกมายมาอาศัยหากินกันอยู่ขวั่กไขว่... http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_06.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_07.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_18.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_19.jpg |
ที่พื้นทรายด้านหน้ารถถังคันนี้ มีเห็ดหลุบตัวโตอยู่บนพื้นทราย บนเห็ดหลุบเป็นที่อาศัยของ ปลาการ์ตูนอานม้า (Saddleback anemonefish หรือ Saddleback clownfish ชื่อวิทยาศาสตร์: Amphiprion polymnus) ครอบครัวหนึ่ง ซึ่งมีสมาชิก 5 ตัว อาศัยอยู่ http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_04.jpg เห็นแล้วต้องไปทักทายเจ้าปลาการ์ตูน ที่ตัวใหญ่สุดสองตัว ว่ายออกมาเชิญชวนหรือขับไล่เรา ไกลจากตัวเห็ดหลุบมาก... http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_21.jpg น่ารักจริงๆค่ะ... http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_22.jpg อยู่ในตำแหน่ง "ล่อเป้า" เลยนะจ๊ะ เจ้าการ์ตูนอานม้า.. http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_23.jpg |
ได้ยินมาว่า เจ้าปลาการ์ตูนอานม้าครอบครัวนี้ อยู่มาก่อนที่จะนำรถถังมาวางเสียอีกนะคะ http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_30.jpg โชคดีจริงๆ ที่ไม่ถูกรถถังทับแบนแต๋ดแต๋ จนไม่เหลือให้เราได้เห็นในวันนี้... http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_31.jpg |
ปลาปักเป้ายักษ์ (Star Puffer, Arothron Stellatus) ขนาดฟุตเศษ ว่ายผ่านมาที่รถถัง สายชลจึงผละจากปลากร์ตูนอานม้า ไปทักทายเจ้าปักเป้าทันที http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_28.jpg ตัวใหญ่และเชื่องมากค่ะ... http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_29.jpg สวยสง่างาม.. http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_58.jpg จากนั้น...เราไปที่ไหน เราก็เห็นปักเป้ายักษ์ว่ายอวดโฉมตลอดทุกไดฟ์... http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_59.jpg |
สายชลกำลังง่วนอยู่กับเจ้าปักเป้ายักษ์ คุณสายน้ำก็มาสะกิดให้ตามไป....ไปถีงก็ตะลึงกับภาพลอบดักปลาเก่าๆ ขนาด 2X3 เมตร ที่มีปลาติดอยู่เต็ม... http://i835.photobucket.com/albums/z...s/Tank_105.jpg ปลาที่อยู่ในนั้นดูท่าทางอ่อนล้าเต็มที...ปลาที่เห็น มี ฉลามกบ (Brownbanded bamboo shark หรือ Banded cat shark, Chiloscyllium punctatum ขนาดเกือบเมตรอยู่ 2 ตัว...ปลาไหลมอเร่ย์ยักษ์ (Giant Moray Eel, Gymnothorax javanicus) 1 ตัว...ปลากระเบนจุดฟ้า (Bluespotted stingray,Neotrygon kuhlii) 1 ตัว...ปลาปักเป้ายักษ์ (Star Puffer, Arothron Stellatus) 1 ตัว...ปลาเก๋าขนาดเกือบฟุต 1 ตัว...ปลากล้วย ปลาข้างเหลือง ปลาสลิดทะเล ปลากะพง และปลาอื่นๆอีกหลายสิบตัว... http://i835.photobucket.com/albums/z...s/Tank_106.jpg ปลาบางตัวพยายามจะหนีออกจากลอบ...แต่ไปไม่รอด ติดตายอยู่อย่างน่าอนาถ http://i835.photobucket.com/albums/z...s/Tank_107.jpg |
เห็นภาพอย่างนี้...จะทนไหวหรือคะ.. http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_26.jpg แม้แต่ฉลามก็ผอม... และเริ่มไม่มีแรงจะขยับแล้ว.... http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_27.jpg |
น้องดนัย..น้องทหาร และน้องนักข่าวอีกหลายคน ว่ายตามมาสมทบที่ลอบเก่าที่ถูกทิ้งร้าง และว่ายวนสำรวจสภาพปลาในลอบ http://i835.photobucket.com/albums/z...s/Tank_108.jpg เรามองหน้ากัน แล้วก็ให้สัญญาณมือ เป็นภาพกรรไกร ...สายชลรีบวางกล้องบนหลังลอบ http://i835.photobucket.com/albums/z...s/Tank_111.jpg แล้วก็ปลดกรรไกรออกมา ตัดเชือกตาข่ายของลอบฉับๆ... http://i835.photobucket.com/albums/z...s/Tank_112.jpg ตัดด้านเดียวไม่พอ เพราะปลาบางตัวไม่ยอมขยับตัวแล้ว ต้องตัดตาข่ายที่อยู่ใกล้ๆตัวปลา เพื่อจะให้ปลาออกไปได้สะดวก โดยไม่ต้องใช้แรงมากมาย.. http://i835.photobucket.com/albums/z...s/Tank_110.jpg |
ปลาบางตัวแทบไม่มีแรงจะว่ายออกจากลอบ เราต้องเคาะกระตุ้น ให้ว่ายออกไปจากลอบได้ในที่สุด.. http://i835.photobucket.com/albums/z...s/Tank_109.jpg ปลาที่ว่ายออกไปแล้ว ต่างพากันว่ายไปหลบซ่อนตัวแถวรถถัง ที่อยู่ใกล้ๆ อย่างเช่นฉลามกบตัวนี้ เข้าไปซุกหน้าหลบซ่อนอยู่ใต้ตีนตะขาบของรถถัง ปล่อยให้หางโผล่ออกมาให้เห็น... http://i835.photobucket.com/albums/z...s/Tank_138.jpg ส่วนปลาปักเป้ายักษ์ ว่ายรี่หนีไปว่ายอยู่แถวตัวรถถัง แต่หน้าตาท่าทางยังทำท่าสยดสยองอยู่ไม่หาย... http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_97.jpg |
ในวันที่สองของการดำน้ำ เราได้ลงดำน้ำที่รถถังกันอีกสองไดฟ์...คราวนี้เป็นการลงไปถ่ายภาพหมู่กันหน้าป้ายไวนิล ที่น้องทหารนำลงไปใต้น้ำ และนำไปกางผูกไว้กับรถถังคันที่ 12 http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_25.jpg แต่เพราะเชือกสายทุ่น ทำให้ภาพออกมาไม่สวย เราเลยต้องย้ายไปยังรถถังคันที่อยู่ใกล้ๆกันนั้น...ได้ถ่ายภาพหมู่แบบไม่มีตะกอนมากวนซะที http://i835.photobucket.com/albums/z...s_Group_02.jpg แห่ะๆ...เหมือนจับปูใส่กระด้งเลยค่ะ กว่าจะได้ภาพนี้มา http://i835.photobucket.com/albums/z...athiwat_03.jpg |
ภาระกิจถ่ายภาพสมาชิก อยู่ในสองไดฟ์ของวันที่สองเช่นกันค่ะ น้องผู้พันสุชาติ หรือ เสธ.ปื๊ด ครูของนักดำน้ำหลายร้อยคน http://i835.photobucket.com/albums/z...MajSuchart.jpg เสธ.ไก่อู ที่น่ารัก http://i835.photobucket.com/albums/z...s_MajKai-U.jpg เสธ.นก สุดหล่อ http://i835.photobucket.com/albums/z...ers_MajNok.jpg |
เสธ.ไก่อู กับน้องเอ๋...หวานใจ http://i835.photobucket.com/albums/z...ajKai-U_02.jpg น้องเมย์กับน้องบอย http://i835.photobucket.com/albums/z...ers_BoyMay.jpg น้องแดง จ่าทหารครูสอนดำน้ำ ในสังกัดของน้องผุ้พันสุชาติ http://i835.photobucket.com/albums/z...bers_Daeng.jpg น้องแดงหิ้วน้องเอ๋ ร่อนไปร่อนมา... http://i835.photobucket.com/albums/z...Members_Ae.jpg |
|
น้องโรจน์...ตากล้องช่อง 9 อสมท. http://i835.photobucket.com/albums/z...embers_Roj.jpg น้องแจ๊ส...นักข่าวช่อง 9 อสมท. http://i835.photobucket.com/albums/z...mbers_Jask.jpg น้องโจ๊ก...นักข่าวช่อง 3 http://i835.photobucket.com/albums/z...mbers_Joke.jpg น้องลูกปัด...นักข่าวช่อง 7 สี http://i835.photobucket.com/albums/z...rs_Lookpud.jpg |
น้องพัต...ช่อง 9 อสมท. http://i835.photobucket.com/albums/z...Unknown_01.jpg น้องฐา...ช่างภาพช่อง5 http://i835.photobucket.com/albums/z...Unknown_02.jpg |
หลังเก็บภาพหมู่ และ ภาพเดี่ยวของผู้ร่วมโครงการแล้ว ยังมีเวลาออกสำรวจรถถังปะการังเทียม และสรรพชีวิตที่อาศัยอยู่ที่นี่อีกค่ะ... http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_41.jpg ปลากล่อง เพศเมีย (Female Spotted boxfish, Ostracion meleagris) ว่ายสบัดหางไปมา http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_38.jpg ฝูงปลาสลิดหิน (Damselfish) และ ปลากะรังจิ๋ว (Basslet) หลากหลายพันธุ์ ว่ายว่อนอยู่รอบๆรถถัง สายชลชอบเฝ้าดูอย่างเพลิดเพลิน ที่ดูจะมีมากเป็นพิเศษ เห็นจะเป็นปลาสลิดหินตัวเล็กๆ ที่มีจุดสีขาวเล็กๆที่โคนหางด้านบน ที่เรียกว่า ปลาสลิดหิน Regal damsel (Neopomacentrus cyanomos) ทำให้ที่นี่ดูมีชีวิตชีวามาก http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_39.jpg ปลากล้วยฟ้าหลังเหลือง (Yellow-back fusilier, Caesio terres) ฝูงใหญ่แหวกว่ายหากินอยู่ทั่วไป http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_40.jpg |
ยิ่งว่ายออกไปรอบนอก ฝูงปลากล้วยก็ยิ่งชุมนุมกันหนาแน่น http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_42.jpg ปลากะพงข้างปาน (Russell's snapper , Lutjanus russellii) ก็มาหลบภัยอยู่ที่รถถัง... http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_75.jpg ปลาเหล่านี้เป็นปลาที่ช่วยให้ชาวประมงพื้นบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น พอเลี้ยงปากแลี้ยงท้องของครอบครัวตัวเองได้ http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_43.jpg เห็นแล้วดีใจ ที่โครงการนี้สำเร็จผลตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้... http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_50.jpg |
ว่ายไปทางด้านตะวันออก ของรถถังหมายเลข 12 ไม่ไกลนัก ก็พบรถถังหงายท้องอยู่ http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_44.jpg ตอนที่ถูกดันให้ตกลงไปในน้ำ คงจะแรงไปหน่อย รถถังเลยหมุนคว้าง หงายเอาท้องขึ้นฟ้า... http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_45.jpg เห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้ค่ะ.. http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_46.jpg ปลาก็คงชอบรถถังหงายท้องคันนี้เหมือนสายชล... http://i835.photobucket.com/albums/z...ks/Tank_48.jpg |
นอกจากรถถังหงายท้องแล้ว ยังมีรถถังเกยกันด้วยค่ะ... http://i835.photobucket.com/albums/z...s/Tank_100.jpg ก่อนที่จะดันรถถังลงน้ำ ก็วางแผนให้รถถังอยู่ห่างๆกันแล้ว แต่พอลงมาก็มาเกยกันอย่างนี้ได้ เป็นภาพน่ารัก ที่เรียกรอยยิ้มของสายชลได้อีกภาพหนึ่งค่ะ... http://i835.photobucket.com/albums/z...s/Tank_101.jpg พอซ้อนกัน ก็มีโพรงเพิ่มขึ้น ให้ปลามีที่หลบภัยได้เพิ่มขึ้น... http://i835.photobucket.com/albums/z...s/Tank_102.jpg |
| เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:19 |
vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger