|
รายงานผลโครงการเก็บขยะ / ตัดอวน / Reef Watch ที่ จ.ชุมพร เดือนมิถุนายน 2553
1 Attachment(s)
รายงานผลโครงการเก็บขยะ / ตัดอวน / Reef Watch ที่ จ.ชุมพร เดือนมิถุนายน 2553 |
1 Attachment(s)
เมื่อมรสุมตะวันตกเริ่มมาเยี่ยมเยือนทะเลด้านอันดามันในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี....เป็นประเพณีที่พวกเราชาว SOS จะย้ายมาทำกิจกรรมดีๆให้กับทะเลฝั่งอ่าวไทย
ปีนี้ก็เช่นกัน....ในระหว่างวันที่ 17 20 มิถุนายน 2553 เราล่องใต้ไปทำกิจกรรมเก็บขยะ ตัดอวน และเริ่มทำกิจกรรมใหม่คือ การทำ Reef Watch ที่เกาะร้านเป็ด เกาะร้านไก่ กองหินสามเหลี่ยม และจุดดำน้ำอื่นๆในเขตอุทยานแห่งชาติทางทะเล หมู่เกาะชุมพร ท้องฟ้าที่ทะเลหน้าเมืองชุมพร ในเช้าวันที่ 18 มิถุนายน 2553 สดใส แสงแดดแผดจ้า พวกเราหลายคนตื่นแต่เช้า มาคอยเวลาทำงานในวันแรกด้วยความกระปรี้กระเปร่า ตามธรรมเนียมปฏิบัติ....เรามีการแนะนำเรื่องการปฏิบัติตัวในการทำงานร่วมกัน การแบ่งงาน แบ่งกลุ่ม และมีการแนะนำตัวเพื่อให้พวกเราที่มาจากต่างถิ่น ต่างที่ ได้รู้จักกันไว้ โดยมีน้องติ่ง...Super_Srinuanray ทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ |
1 Attachment(s)
คุณเสรี....เจ้าของเรือโชคศุลี มาช่วยแนะนำเกี่ยวกับเรื่องเรือและแนะนำให้เรารู้จักกับลูกเรือ |
1 Attachment(s)
น้องติ๊ก...และน้องกบ Angel Frog มาช่วยกันแนะนำเรื่องความปลอดภัยในการดำน้ำ |
1 Attachment(s)
ดูท่าสัญญาณมือของน้องกบสิคะ....งามมาก... |
2 Attachment(s)
สมาชิกตั้งใจฟังกันดี (ถึงมือจะทำนู่นทำนี่อยู่ก็ตาม).... |
1 Attachment(s)
ถึงเวลาลงน้ำทำงานกันแล้วค่ะ.....
หินแพ การดำน้ำในไดฟ์แรกนี้ เราลงดำน้ำกันที่บริเวณ "หินแพ" ซึ่งเป็นหินโผล่เป็นแพอยู่ทางด้านเหนือของเกาะง่ามใหญ่ อทุยานแห่งชาติทางทะเล หมู่เกาะชุมพร โดยเราตั้งใจจะให้ไดฟ์นี้เป็น Check Dive คือให้ Leader ดูสภาพการดำน้ำของสมาชิกในกลุ่ม และทำการเก็บขยะ หรือ ตัดอวน (ถ้ามี) เมื่อกระโดดลงไปในน้ำ....เราก็เห็นน้ำที่ขุ่นจนแทบมองอะไรไม่เห็น แย่แล้วสิคะ แล้วอย่างนี้จะทำงานกันได้อย่างไร และพอลงดำน้ำไป สองสายซึ่งลงไปดำน้ำกับกลุ่มแรกคือกลุ่มของน้องติ๊ก ก็พลัดหลงกันในน้ำทะเลที่ขุ่นข้นเหมือนน้ำราดหน้า..... ดงแส้ทะเลสีแดงเพลิง (Red Sea Whip) ที่อยู่ใกล้ๆยอดหินด้านตะวันออกยังพอเห็นความงามได้ในความขุ่นของน้ำทะเล |
1 Attachment(s)
ปะการังดำ (Black Coral) ที่เคยมีอยู่หนาแน่น บัดนี้เหลืออยู่หรอมแหรม แต่ก็ยังสวยอยู่.... |
1 Attachment(s)
เราไม่อยากจะลงดำน้ำลึกลงไปใกล้พื้นทราย เพราะเกรงจะมองอะไรไม่ค่อยเห็น จึงค่อยๆตีฟินไปช้าๆ ไม่ลึกจากยอดหินที่อยู่ใกล้ผิวน้ำนัก ความลึกจึงอยู่ในระดับเฉลี่ยเพียง 10 - 15 เมตร เท่านั้น.... |
2 Attachment(s)
ในระดับความลึกนั้น....ไม่มีขยะหรือเศษอวนให้เราได้เห็น... แต่ดอกไม้ทะเลและปะการังแข็งชนิดต่างๆ เริ่มมีการฟอกขาว.... |
2 Attachment(s)
ดูสวยงามดีค่ะ....แต่เป็นความงามบนความตายโดยแท้.... ปลาการ์ตูนที่อาศัยอยู่บนดอกไม้ทะเล ดูรุกรี้รุกรน และสีพลอยซีดตามดอกไม้ทะเลไปด้วย.... น่าสงสารจริงๆ....ถ้าดอกไม้ทะเลตาย ปลาการ์ตูนจะไปอาศัยอยู่ที่ไหนนะ... |
1 Attachment(s)
'ปะการังอ่อนหนัง' หรือ 'ปะการังทองหยิบ' (Sarcophyton sp.) ซึ่งมีอยู่ที่หินแพ มีอาการฟอกขาวเป็นแนวยาว... ปะการังฟอกขาวชนิดนี้เอง ที่มีผู้ให้ข่าวว่าเป็น "ปะการังสีทอง" ที่มหัศจรรย์ เป็นที่ฮือฮาเมื่อสองสามปีที่ผ่านมา |
2 Attachment(s)
ปะการังแข็งชนิดต่างๆ ก็เกิดอาการฟอกขาว เช่นเดียวกัน.... |
2 Attachment(s)
ที่เศร้าใจมากๆก็คือการได้เห็น "หอยมือเสือ" ที่เราได้นำไปปล่อยมาหลายครั้งที่หินแพ โดยครั้งหลังสุดคือเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 หรือเพียงสองเดือนเศษที่ผ่านมา เกิดอาการฟอกขาวเกือบทั้งหมด.... |
2 Attachment(s)
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ปะการัง...ดอกไม้ทะเล....หรือ หอยมือเสือ เกิดอาการฟอกขาวนั้น ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า เป็นเพราะ.....
"โดยปกติแล้ว....สัตว์พวกนี้ จะอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึง น้ำทะเลมีอุณหภูมิเหมาะสมประมาณ 18-27 องศาเซลเซียส มีความเค็มประมาณ 30 ppt. (ส่วนในพันส่วน) น้ำใสและมีการไหลเวียนของกระแสน้ำดี ซึ่งมักเป็นแนวปะการังเฉพาะบริเวณเขตอบอุ่นถึงเขตร้อนเท่านั้น แต่เมื่อใดที่สภาพแวดล้อมที่ปะการังอาศัยอยู่ มีความผิดปกติ จนปะการังไม่สามารถทนอยู่ในสภาพแวดล้อมนั้นๆ ได้ เช่น มีน้ำจืดไหลลงทะเลมากทำให้ความเค็มเปลี่ยนแปลงไป หรือการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ เช่น อุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินไป ซึ่งผลการศึกษาพบว่าการที่อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเกินกว่าระดับสูงสุดในภาวะปกติเพียง 1 องศาเซลเซียสก็สามารถก่อให้เกิดปรากฏการณ์ฟอกขาวได้ เช่น อุณหภูมิสูงสุดในอ่าวไทยภาวะปกติอยู่ที่ 30 องศาเซลเซียส หากอุณหภูมิเพิ่มขึ้นเป็น 31 องศาเซลเซียส ในบริเวณอ่าวไทยก็มีโอกาสเกิดปรากฏการณ์ฟอกขาวได้ เมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลง (เช่น อุณหภูมิน้ำสูงขึ้น / ต่ำลง....น้ำลงมากไปจนแนวปะการังโผล่พ้นน้ำ หรือ อยู่ใกล้ผิวน้ำที่แดดแผดจ้า....ฝนตกมากไป จนความเค็มของน้ำลดลงมากผิดปกติ เป็นต้น...สายชล) ปะการัง...ดอกไม้ทะเล...หรือหอยมือเสือ จะทำการปรับตัว โดยสลัดสาหร่ายซูแซนแทลลี (zooxanthelle) ซึ่งเป็นสาหร่ายเซลล์เดียวขนาดเล็ก ทำหน้าที่สร้างสีสันให้ออกไปเหลือเพียงสีที่แท้จริงของตัวปะการัง ดอกไม้ทะเล หรือหอยมือเสือ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสีขาว จึงมักเรียกว่า 'ฟอกขาว' (Bleaching) ซึ่งนักวิทยาศาสตร์บางท่านคิดว่าการฟอกขาว เป็นกระบวนการปรับตัวของปะการังโดยการสลัดสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ออก เพื่อการอยู่รอดที่ดีขึ้น และเมื่อสภาพแวดล้อมบริเวณนั้นมีความเหมาะสม ปะการังก็จะเปิดรับการกลับมาของซูแซนแทลลีอีกครั้ง" ขอบคุณข้อมูลจาก.... http://www.oknation.net/blog/print.php?id=192093 |
1 Attachment(s)
หอยมือเสือบางตัว เพิ่งเริ่มฟอกขาวให้เห็น.... เจ้าประคุ๊ณ....ขอให้อยู่รอด จนน้ำเริ่มเย็นขึ้นด้วยเถิด... |
1 Attachment(s)
น่าประหลาด....ที่มีหอยมือเสือตัวใหญ่ตัวหนึ่ง ที่คาดว่าจะเป็นหอยที่เราปล่อยไว้หลายปีแล้ว และอยู่ใกล้ผิวน้ำมาก กลับอยู่ในสภาพที่สีสันและลวดลายสดใสมาก เช่นเดียวกับปะการังแข็งนานาชนิดที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ก็ไม่มีอาการฟอกขาวเลย.... เห็นแล้ว....สองสายยิ้มปลื้มด้วยความดีใจและสุขใจ... |
1 Attachment(s)
หอยมะระ หรือ หอยหน้ายักษ์ (Murex Sheel) ดูจะไม่ได้รับผลกระทบ จากกรณีอุณหภูมิน้ำที่สูงขึ้นแต่อย่างใด เธอจึงยังเกาะหินหากินอย่างสบายอารมณ์ |
1 Attachment(s)
เป็นอันว่า....ไดฟ์แรกของการทำงานครั้งนี้ สองสายไม่ได้เก็บขยะหรือตัดอวนเลยสักนิด เลยถือว่าเราทำการสำรวจตรวจดูสภาพใต้น้ำของหินแพ หรือที่เรียกว่า "Reef Watch" แบบไปเป็นทางการโดยปริยาย อย่างไรก็ตาม....สมาชิกของ SOS กลุ่มอื่นๆที่ลงดำน้ำไปบริเวณลึกๆ ได้พบเศษอวนให้ได้ตัดกันพอสมควร (ท่านใดมีภาพการตัดอวนที่หินแพ กรุณานำมาลงให้ด้วยนะคะ....ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ) |
1 Attachment(s)
หินกองสามเหลี่ยม จากหินแพ...เรามุ่งขึ้นเหนือตรงไปยัง "หินกองสามเหลี่ยม" ซึ่งเป็นกองหินใต้น้ำที่เราจะพบอวนมากมายคลุมอยู่บนกองหิน ฟ้ายังสดใสอยู่เหมือนช่วงเช้า....และเมื่อเราทิ้งตัวลงไปใต้น้ำเหนือกองหิน ก็ต้องยิ้มอย่างดีใจที่น้ำใสกว่าที่หินแพมาก และดีใจอีกอย่างก็คือ...เราไม่ค่อยเห็นเศษอวน ที่กองหินแห่งนี้มากเหมือนเคย แต่ที่สะดุดตาเรา กลับเป็นยอดปะการังสีขาวโพลน ที่มองเห็นได้ชัดจากผิวน้ำ |
1 Attachment(s)
ดูเหมือนหิมะที่คลุมตามยอดเขานะคะ... |
1 Attachment(s)
ที่ด้านเหนือของกองหิน....มีเศษอวนพันปะการังอยู่ไม่มากนัก เราจึงได้ภาพการทำงานของพวกเรามาอวดค่ะ.... ก้มหน้าตัด....ตัด...ตัด... |
2 Attachment(s)
ตัดอวนกันสนุกสนาน.... |
2 Attachment(s)
ได้เศษอวน...เชือก...สายเบ็ด มาเต็มมือ... |
1 Attachment(s)
ท่าสวยมากค่ะ.... |
1 Attachment(s)
การทำงานเป็นทีม....ทำให้การทำงานสำเร็จได้ด้วยความเรียบร้อยและรวดเร็ว... |
1 Attachment(s)
เชือกปากอวนที่เราเคยพยายามจะเก็บกลับขึ้นเรือในปีก่อนๆ แต่ไม่สำเร็จ บัดนี้มีปะการังถ้วยส้ม...หอย...เพรียง...เกาะติดเต็มไปหมด สวยดีค่ะ |
1 Attachment(s)
เชือกปากอวนสองเส้นที่อยู่ใกล้ยอดกองหิน มีดอกไม้ทะเลเริ่มมาเกาะ และเริ่มมีการฟอกขาวให้เห็น |
1 Attachment(s)
เชือกปากอวนบางส่วนมีปะการังแข็งขึ้นคลุมแล้ว.... |
2 Attachment(s)
บริเวณกองหินด้านตะวันตกที่น้ำค่อนข้างลึก...ปะการังดำขึ้นอยู่เป็นกอและสวยงาม มีปลาหลากหลายชนิดแหวกว่ายอยู่ไปมา.... |
1 Attachment(s)
ปลาที่มีอยู่ชุกชุมในบริเวณกองหินสามเหลี่ยมนี่เอง เป็นที่มาของอวนที่คลุมอยู่ที่กองหินแห่งนี้... |
1 Attachment(s)
สายเบ็ดทั้งเล็กและใหญ่ก็หาได้ไม่ยาก..... |
1 Attachment(s)
นานๆจะได้เห็นปลาสิงโต (Lionfish) ในบริเวณนี้.... |
1 Attachment(s)
หาวววววว......ง่วงจัง.... |
1 Attachment(s)
นี่เป็นปลาสิงโตอีกตัว ที่ว่ายห่างจากตัวแรกกว่าสิบเมตร... สวยสง่างามดีค่ะ... |
1 Attachment(s)
ดอกไม้ทะเลเริ่มมีให้เห็นมากขึ้น... |
2 Attachment(s)
กองสามเหลี่ยมดูสวยงามและสมบูรณ์ขึ้น.... แต่น่าเสียดายที่น้ำมาร้อนขึ้นจนทำให้เกิดการฟอกขาว อย่างไรก็ตาม......ยังดีที่ยังมีปะการังที่ถูกฟอกขาวไม่มากนัก ถ้าอุณหภูมิของน้ำลดต่ำลง ปะการังก็คงฟอกขาวไม่มากจนทำให้กองสามเหลี่ยมหมดสวย... |
1 Attachment(s)
Reef Watch ระหว่างที่เรือแล่นจากกองหินสามเหลี่ยม ไปยังเกาะร้านไก่ซึ่งใช้เวลากว่าสองชั่วโมง เราเริ่มที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการทำ Reef Watch โดยมีสาวสวยน่ารักอารมณ์ดีนาม "น้องลูกหยี"....นิสา เพิ่มศิริวาณิชย์ ตำแหน่งนักวิชาการประมง ส่วนอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาทำหน้าที่บรรยายเรื่องเกี่ยวกับเรื่องการทำ Reef Watch ให้เราได้ฟังกันค่ะ.... |
1 Attachment(s)
ก่อนที่จะพูดถึงเรื่อง Reef Watch ที่น้องลูกหยี จะบรรยายให้เราฟ้ง..สายชลขอเล่าเรื่องที่มาของการที่พวกเราชาว SOS ได้มาทำเรื่อง Reef Watch กันให้พวกเราฟัง เพื่อปูพื้นให้เราได้ทราบกันไว้เพื่อให้เข้าใจถึงที่ไปที่มากันก่อนนะคะ เรื่องก็มีอยู่ว่า..... วันหนึ่งราวๆปลายเดือนสิงหาคม 2552....น้องโด่ง (ดร. ปิ่นสักก์ สุรัสวดี) หัวหน้าของน้องลูกหยี ได้โทรมาบอกว่า ขอให้ทาง SOS เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครดำน้ำสำรวจทรัพยากรธรรมชาติใต้ท้องทะเลไทยบริเวณเกาะร้านเป็ด และ เกาะร้านไก่ ชุมพร ตาม "โครงการสำรวจมรดกทะเลไทย" (ที่มีระยะเวลาในการดำเนินงาน 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2552 ไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2553) โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า รีฟ วอท (Reef Watch) โดยให้เราเขียนเกี่ยวกับ SOS เอง และจุดดำน้ำเป้าหมายคือเกาะร้านเป็ดและร้านไก่ ส่งไปให้น้องโด่งภายในสิ้นเดือนกันยายน 2552 เพื่อที่คณะกรรมการของโครงการจะได้พิจารณาคัดเลือกและให้เจ้าหน้าที่มาจัดฝึกอบรมเทคนิคให้ ณ. จุดที่กำหนดต่อไป น้องโด่งได้แจ้งด้วยว่า การอบรมและการไปทำ Reef Watch ณ.จุดที่กำหนดนั้น ทางโครงการจะออกค่าใช้จ่ายให้บางส่วน และกลุ่มที่ทำ Reef Watch ได้ดีเยี่ยม จะได้รับโล่ห์พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ ด้วย ไม่ได้คิดถึงเรื่องเงินช่วยเหลือ หรือรางวัลที่จะได้รับ.....เมื่อน้องรักอย่างน้องโด่งขอมาอย่างนี้ มีหรือที่เราจะปฏิเสธ....สายชลรีบเขียนเรื่องที่น้องโด่งต้องการส่งไปให้ทันที ทั้งนี้ได้แจ้งให้น้องโด่งทราบว่า การทำงานของเราที่เกาะร้านเป็ดและเกาะร้านไก่นั้น จะทำได้หลังกลางเดือนพฤษภาคมไปแล้ว เพราะเรือโชคศุลีที่เราจะใช้ดำน้ำ จะอ้อมแหลมจากฝั่งอันดามันมาถึงชุมพรที่อยู่ด้านฝั่งอ่าวไทยได้ ในช่วงเวลาดังกล่าว หมายเหตุ....อ่านเรื่อง"โครงการสำรวจมรดกทะเลไทย" และเรื่องการรับสมัคร "นักดำน้ำ" ร่วม "โครงการสำรวจมรดกทะเลไทย" ได้ที่.... http://www.warehouse.mnre.go.th/Port...5/Default.aspx http://www.green.in.th/node/1792 |
3 Attachment(s)
ในวันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2553....เราก็ได้รับ E-mail จากน้องลูกหยี พร้อมกับมีเอกสารแนบมา คือหนังสือจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง แจ้งเรื่องที่เราได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ เช่นเดียวกับนักดำน้ำกลุ่มอื่นๆอีก 17 กลุ่ม พร้อมแจ้งตารางกำหนดเวลาปฏิบัติงานมาให้เราดำเนินการทำ Reef Watch ในช่วงเดือนเมษายน 2553 ด้วย.... เมื่อสายชลได้เห็นตารางการทำงานที่ระบุว่า SOS ต้องไปทำงานที่เกาะร้านเป็ดและร้านไก่ ในช่วงเดือนเมษายน ก็รู้สึกกังวลใจ จึงได้โทรศัพท์ไปหาน้องลูกหยีทันที เพื่อแจ้งให้ทราบว่า SOS ไม่สามารถไปทำงานในช่วงนั้นได้แน่นอน เนื่องจากเรือโชคศุลี ที่เราจะใช้เป็นพาหนะเดินทางไปทำงานนั้น ยังไม่เดินทางมาฝั่งอ่าวไทย และเรือลำอื่นๆที่จะสามารถใช้ไปทำงานได้ ก็ไม่ว่างในช่วงเวลาดังกล่าว ส่วนช่วงที่เราสดวกจะไปทำงานที่สุด ก็คือช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่งน่าจะเลยกำหนดระยะเวลาของ "โครงการสำรวจมรดกทะเลไทย" ที่มีระยะเวลาในการดำเนินงาน 1 ปี คือ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2552 ไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2553 น้องลูกหยีได้ตอบว่า....SOS น่าจะเลื่อนไปทำ Reef Check ในช่วงเดือนมิถุนายนได้ไม่มีปัญหา แม้ว่าจะเลยเวลาที่กำหนดของ "โครงการสำรวจมรดกทะเลไทย" ก็ตามที เพื่อความมั่นใจ...สายชลได้แจ้งเรื่องกำหนดการทำงานของ SOS ไปที่น้องโด่งอีกครั้ง ซึ่งก็ได้รับคำตอบเช่นเดียวกันกับน้องลูกหยี... |
| เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:23 |
vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger