SaveOurSea.NET

SaveOurSea.NET (http://www.saveoursea.net/forums/index.php)
-   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม (http://www.saveoursea.net/forums/forumdisplay.php?f=13)
-   -   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2565 (http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=5960)

สายน้ำ 24-06-2022 02:31

สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2565
 
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ชาวเรือ ในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 24 - 27 มิ.ย. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในขณะที่มีลมใต้พัดปกคลุมภาคกลางตอนล่างรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง กับมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้

ส่วนในช่วงวันที่ 28-29 มิ.ย. 65 ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตราย ฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง



https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds

สายน้ำ 24-06-2022 03:14

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


5 หน่วยงานแจงห้ามขายอาหาร หาดนาจอมเทียน ดีเดย์ 27 มิ.ย.65 จับจริง!

5 หน่วยงานภาครัฐ เทศบาลตำบลนาจอมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ สภ.นาจอมเทียน และ สำนักงานเจ้าท่าพัทยา ร่วมประชุมหารือได้ข้อสรุป วันที่ 27 มิ.ย. 65 เริ่มจับจริงร้านอาหารตั้งขายในหาดนาจอมเทียน

https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds

จากกรณีเรื่องพิพาทระหว่างเทศบาลตำบลนาจอมเทียน กับผู้ประกอบการที่มาจับจองพื้นที่ชายหาดนาจอมเทียน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อเปิดร้านค้า ร้านอาหาร แสวงหาผลประโยชน์บนพื้นที่สาธารณะส่วนรวม ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ได้มีการประชุมร่วม 5 หน่วยงาน จนได้ข้อสรุปห้ามผู้ประกอบการมาจับจองพื้นที่จัดตั้งร้านค้าเพื่อทวงคืนพื้นที่ชายหาดนาจอมเทียน ให้คงความเป็นธรรมชาติที่สวยงาม ประชาชนสามารถใช้พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก ชายหาดนาจอมเทียนอยู่ในเขตพื้นที่หมู่ 1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังกรมเจ้าท่า ได้ทุ่มงบประมาณราว 600 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูคืนชีพหาดทรายขาว ให้คงความเป็นธรรมชาติที่สวยงาม เป็นพื้นที่สาธารณะให้ประชาชน และนักท่องเที่ยว เข้ามาพักผ่อนหย่อนใจหลังดำเนินการใกล้แล้วเสร็จได้ส่งมอบให้อยู่ด้วยความดูแลของเทศบาลตำบลนาจอมเทียน

ภายหลังมีพ่อค้าแม่ค้ามาจับจองพื้นที่ บนพื้นหาดทรายขาว ทางเท้า และริมฟุตปาธตลอดแนวชายหาด จัดตั้งเป็นร้านค้า ติดตั้งอุปกรณ์ไฟ ชุดม้านั่งต่าง ๆ เพื่อไว้คอยให้บริการกับลูกค้า ด้วยเหตุนี้ ส่งผลให้เกิดปัญหาต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะการหาผลประโยชน์จากทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต การตั้งร้านบนทางเท้าและบนถนน กีดขวางจราจรเกิดปัญหารถติด อีกทั้ง ปัญหาการทะเลาะวิวาทขัดแย้งระหว่างผู้ค้าด้วยกัน ที่สำคัญทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ไม่สามารถใช้พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจได้ ทำให้เกิดสภาพพื้นที่เสื่อมโทรม โดยเฉพาะปัญหาขยะในแต่ละวัน

ล่าสุดเทศบาลตำบลนาจอมเทียน ได้ร่วมกับ ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ สภ.นาจอมเทียน และสำนักงานเจ้าท่าพัทยา ร่วมประชุมหารือได้ข้อสรุป จึงออกหนังสือประกาศห้ามผู้ประกอบการ จับจองพื้นที่ชายหาด ทางเท้า ผิวจราจร จำหน่ายสินค้าเพื่อหาผลประโยชน์ ทั้งนี้ หากผู้ใดฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมาย โดยมีกำลังจาก 5 หน่วยงาน เข้าตรวจสอบจับกุมผู้ฝ่าฝืนดำเนินคดีตามกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 65 เป็นต้นไป


https://www.dailynews.co.th/news/1178891/


สายน้ำ 24-06-2022 03:18

ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ


เมื่อ "ต้นตะบัน" แห่ง "เกาะขายหัวเราะ" ต้องเสียหายหนักจากการท่องเที่ยว

https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds

เมื่อ "ต้นตะบัน" บนเกาะแห่งหนึ่งใน จ.ตราด ที่ถูกขนานนามว่า "เกาะขายหัวเราะ" กำลังเผชิญปัญหาอย่างหนักจากการท่องเที่ยว อะไรคือแนวทางที่จะทำให้สถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความทรงจำและความสุขนี้ยังอยู่

ถ้าคุณเคยอ่านการ์ตูน "ขายหัวเราะ" คุณก็น่าจะคุ้นเคยกับ "แก๊กติดเกาะ" ที่เป็นแก๊กตลกที่เคยเห็นประจำ ทั้งยังเป็นแก๊กในตำนานที่อยู่คู่กับการ์ตูนขายหัวเราะมาหลายสิบปี

แก๊กตลกติดเกาะ แตกต่างจากแก๊กคลาสสิคอื่นๆ อย่าง โจรมุมตึก, เมียหลวงเมียน้อย, แซว บ.ก. และอีกสารพัดแก๊กในการ์ตูน เพราะ "เกาะร้าง" ซึ่งเป็นที่มาของแก๊กติดเกาะนี้ มีอยู่จริงๆ และเป็นพื้นที่ซึ่งเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสัมผัสได้ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตราด ก็ได้ผนึกกำลังกับขายหัวเราะ โหมโรงเป็นสถานท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ

ถึงเช่นนั้น พลันที่เกาะแห่งนี้ฮอตฮิตติดตลาดนักท่องเที่ยว "ต้นตะบัน" ต้นไม้เพียงต้นเดียวของเกาะที่อยู่ท่ามกลางทะเลและเป็นไฮไลต์ของเกาะขายหัวเราะก็เริ่มมีปัญหา และมีรายงานล่าสุดว่า ต้นตะบัน ในปัจจุบันมีสภาพกิ่งหัก รากช้ำ ซึ่งคาดว่าส่วนหนึ่งเกิดจากการเดินอย่างไม่ระมัดระวังของนักท่องเที่ยว เนื่องจากบนเกาะมีส่วนที่เป็นพื้นดินค่อนข้างน้อย

เมื่อ "ต้นตะบัน" แห่ง "เกาะขายหัวเราะ" ต้องเสียหายหนักจากการท่องเที่ยวภาพเกาะร้างจากการ์ตูนขายหัวเราะที่ผู้อ่านจำได้ติดตา


การดูแลรักษา "ต้นตะบัน" บนเกาะหนึ่งเดียว

นายนิพนธ์ สุทธิธนากุล ประธานชมรมท่องเที่ยวเกาะหมาก เคยให้สัมภาษณ์ว่า ต้นตะบัน บนเกาะขายหัวเราะ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องยอมรับด้วยว่าการได้รับความสนใจนี้ ทำให้ "เกาะขายหัวเราะ" เกิดความเสียหาย

"ความเสียหายนี้มาจากปัจจัยภายนอกและปัจจัยทางธรรมชาติ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจำนวนมาก และไม่เข้าใจในการเดินทางเข้าไปชมแบบอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่รู้ถึงการเข้าหาต้นตะบันอย่างถูกวิธี ทำให้กิ่งต้นตะบันหักรวมถึงรากช้ำเนื่องจากมีลมพัดกิ่ง และมีนักท่องเที่ยวมาโหนหรือเหยียบรากไม้เพื่อถ่ายรูป"

ทั้งหมดจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องสร้างความเข้าใจให้ถูกต้องกับนักท่องเที่ยว ที่มาเยือนเกาะหมากซึ่งเป็นที่ตั้งของเกาะขายหัวเราะแห่งนี้ โดยเฉพาะต้นตะบันต้นดังกล่าวซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 70 - 80 ปี

อีกทั้งในความจริงแล้วเกาะขายหัวเราะนั้นรับนักท่องเที่ยวได้เพียงรอบละ 5 คน เท่านั้น แต่เมื่อความโด่งดังแพร่หลายออกไปจึงไม่สามารถควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวได้ ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายมากไปกว่านี้ ทาง ททท. ตราด และ อบต.เกาะหมาก จึงได้มีการพูดคุยหารือกันในเรื่องนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นไม้ต้นเดียวของเกาะจะต้องสูญหายไป


เรื่องราวของต้นตะบัน

ต้นตะบัน นั้นเป็นไม้ป่าชายเลนชนิดหนึ่งในจำนวนพันธุ์ไม้ป่าชายเลนที่มีในประเทศไทยมากกว่า 70 ชนิด มีลักษณะเป็นไม้ที่มีกิ่งก้านแผ่กว้างให้ร่มเงาเป็นอย่างดี รูปทรงมักบิดงอสวยงาม ชอบขึ้นตามชายหาดที่เป็นหาดทรายแนวโขดหิน ซึ่งในปัจจุบันจัดว่าเป็นไม้ป่าชายเลนที่หายากชนิดหนึ่ง

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตราด ได้นำเสนอ "เกาะขายหัวเราะ" เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ โดยได้ทำงานร่วมกับกลุ่มบริษัทในเครือบันลือกรุ๊ป ผู้ผลิตหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ ซึ่งเป็นเจ้าของคำว่า "ขายหัวเราะ"

ผู้เกี่ยวข้องได้ทำให้เกาะขายหัวเราะและต้นตะบันแห่งนี้ กลายเป็นหมุดหมายของการท่องเที่ยวในจ.ตราด เป็น Soft Power ของจังหวัดที่ใครๆก็อยากมาเยี่ยมเยียนสักครั้ง

อย่าลืมว่าภาพชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนเกาะกลางทะเลโดยมีต้นไม้ซึ่งคือ "ต้นตะบัน" อยู่ฉากหลัง เป็นภาพที่ผู้คนจดจำขึ้นใจ เป็นภาพที่มีพลังแห่งอารมณ์ขันที่ห้วนนึกถึงและมีความสุข และกลุ่มคนอ่านการ์ตูนขายหัวเราะเมื่อครั้งในอดีตก็ได้กลายเป็นกลุ่มวัยทำงานที่มีกำลังทรัพย์ในการท่องเที่ยว

การมีเกาะขายหัวเราะ จึงถือเป็นการเชื่อมโลกแห่งความจริงเข้ากับโลกของการ์ตูนที่คนไทยคุ้นเคยกันมายาวนาน เชื่อมโลกอดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนอกจากเกาะขายหัวเราะแล้ว การมี Soft Power เช่นนี้จะ ช่วยกระจายนักท่องเที่ยวไปตามเกาะอื่นๆ อาทิ เกาะหมาก เกาะกระดาด ได้อีกด้วย และแน่นนอนว่าจะเชื่อมโยงให้เกิดเส้นทางสร้างรายได้ลงสู่พื้นที่นั้นอย่างทั่วถึง

แม้ผู้คนจะยังอยากมาเที่ยว แต่ในวันที่ธรรมชาติกำลังบอบช้ำ นั่นก็ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงการดูแลสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นกระแส โดยเฉพาะต้นตะบันกลางทะเลที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์แห่งนี้ เพราะ ถ้าหากไม่เร่งรักษา เราอาจจะไม่มีต้นตะบันอยู่กลางทะเลแห่งนี้อีก

อาจเป็นจุดจบของ "เกาะขายหัวเราะ" และเป็นอวสานแห่งตำนานและแก๊กตลกคลาสสิคอันมีอยู่จริง ที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนไทยมาตลอดหลายสิบปี


https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/1011698



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:39

vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger