SaveOurSea.NET

SaveOurSea.NET (http://www.saveoursea.net/forums/index.php)
-   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม (http://www.saveoursea.net/forums/forumdisplay.php?f=13)
-   -   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม 2565 (http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=5920)

สายน้ำ 10-05-2022 03:18

สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม 2565
 
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยทะเลอันดามันคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนอ่าวไทยคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

อนึ่ง พายุไซโคลนกำลังแรง "อัสนี" บริเวณชายฝั่งประเทศอินเดียตอนกลาง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศอินเดียตอนกลางในช่วงวันที่ 10-11 พ.ค. 65 พายุนี้จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย แต่จะทำให้ลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังค่อนข้างแรง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในวันที่ 9 -10 พ.ค. 65 ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทย อ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง และยังคงมีฝนตกต่อเนื่องบริเวณประเทศไทยตอนบน เนื่องจากพายุไซโคลน ?อัสนี? ที่ปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลาง ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลนกำลังแรงแล้ว และมีแนวโน้มเคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือสู่บริเวณอ่าวเบงกอลตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร และอ่าวไทย มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 11-15 พ.ค. 65 ลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย ทะเลอันดามัน และอ่าวไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำฉลับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วยตลอดช่วง ส่วนชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วยในช่วงวันที่ 9 ? 10 พ.ค. 65



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุ "อัสนี" บริเวณอ่าวเบงกอล" ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2565

เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (10 พฤษภาคม 2565) พายุไซโคลนกำลังแรง "อัสนี" บริเวณชายฝั่งประเทศอินเดียตอนกลาง หรือมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 14.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 84.3 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 14 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศอินเดียตอนกลางในช่วงวันที่ 10-11 พ.ค. 65 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย แต่จะทำให้ลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบริเวณภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยทะเลอันดามันคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนอ่าวไทยคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง



https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds

สายน้ำ 10-05-2022 03:54

ขอบคุณข่าวจาก BBCThai


โลกรวน : ข้อมูลดาวเทียมชี้ วัฏจักรน้ำของโลกเปลี่ยนแปลงเกินคาด ส่งผลแล้ง-ฝน รุนแรงกว่าเดิม

https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds
ภาพถ่ายดาวเทียมของพายุเฮอริเคน Dorian เมื่อปี 2019 ... ที่มาของภาพ,GETTY IMAGES

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้วัฏจักรของน้ำ (water cycle) ระดับโลก ซึ่งเป็นกระบวนการที่น้ำระเหยกลายเป็นไอในชั้นบรรยากาศและควบแน่นตกลงมาเป็นฝน เริ่มหมุนเวียนไปจนครบรอบอย่างรวดเร็วและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้พื้นที่ประสบภัยแล้งจะขาดแคลนน้ำยิ่งขึ้น ส่วนเขตมรสุมพายุฝนจะรุนแรงกว่าเก่าและเกิดอุทกภัยหนักขึ้น

ผลการศึกษาข้างต้นเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลล่าสุดจากดาวเทียม โดยทีมนักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลหลายแห่งของสเปน ซึ่งตีพิมพ์รายงานดังกล่าวลงในวารสาร Scientific Reports

ผลการศึกษาพบว่า การวัดค่าความเค็มหรือความเข้มข้นของแร่ธาตุ (salinity) ที่ผิวน้ำทะเล โดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ติดอยู่กับทุ่นลอยน้ำในมหาสมุทรนั้น มีความคลาดเคลื่อนโดยต่ำกว่าค่าความเค็มที่แท้จริงอย่างมาก ซึ่งปัจจุบันเราตรวจวัดค่าดังกล่าวได้แม่นยำขึ้น ด้วยการสำรวจอุณหภูมิและการระเหยของน้ำทางดาวเทียม

ทีมผู้วิจัยระบุว่า ค่าความเค็มของผิวน้ำทะเลที่เปลี่ยนแปลงไปโดยเพิ่มสูงขึ้นอย่างผิดปกตินั้น ชี้ถึงการที่ภาวะโลกร้อนทำให้บริเวณที่น้ำทะเลมีอุณหภูมิสูง เกิดการระเหยกลายเป็นไอของผิวน้ำด้านบนมากขึ้นและรวดเร็วขึ้น เพิ่มความชื้นในชั้นบรรยากาศ ซึ่งจะรวมตัวกันเป็นพายุฝนในเขตใกล้เส้นศูนย์สูตรและขั้วโลกทั้งสองมากขึ้น

วัฏจักรของน้ำที่แปรปรวนดังกล่าว เป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในรูปแบบที่เรียกได้ว่า "พื้นที่ชุ่มชื้นจะเปียกมากขึ้น พื้นที่แห้งก็จะแล้งยิ่งขึ้น"

https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds
ทุ่นสำหรับตรวจวัดค่าความเค็มของน้ำทะเล .... ที่มาของภาพ,WHOI

แหล่งน้ำในส่วนต่าง ๆ ของโลกก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยน้ำในแหล่งน้ำจืดจะมีแร่ธาตุเจือจางและมีรสจืดกว่าเดิมเพราะปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้น ส่วนน้ำทะเลนั้นจะยิ่งมีความเข้มข้นของแร่ธาตุสูง และมีรสเค็มมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากน้ำระเหยกลายเป็นไอในอัตราที่สูงขึ้น แต่ไม่ตกกลับลงมาเป็นฝนในที่เดิมซึ่งมีอุณหภูมิสูง

ดร. เอสเตรลลา ออลเมโด หนึ่งในทีมผู้วิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลแห่งนครบาร์เซโลนา กล่าวแสดงความกังวลถึงสภาพการณ์ข้างต้นว่า "การที่มีปริมาณไอน้ำในชั้นบรรยากาศมากขึ้น และมีไอน้ำหมุนเวียนในวัฏจักรน้ำเพิ่มขึ้นนั้น จะทำให้มีฝนตกชุกในแถบขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ หิมะและแผ่นน้ำแข็งที่เหลืออยู่จะละลายไปอย่างรวดเร็ว เพราะมีฝนตกลงมาแทนที่จะเป็นหิมะเหมือนแต่ก่อน"

ข้อมูลจากดาวเทียมล่าสุดนี้ สอดคล้องกับการทำนายด้วยแบบจำลองภูมิอากาศโลก ซึ่งเคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ในทุก 1 องศาเซลเซียสที่โลกร้อนขึ้น จะส่งผลให้วัฏจักรของน้ำหมุนเวียนอย่างรวดเร็วและรุนแรงขึ้นราว 7% ซึ่งหมายถึงว่าพื้นที่ชุ่มชื้นจะเผชิญพายุฝนหนักกว่าเก่า 7% โดยเฉลี่ย และพื้นที่แห้งแล้งจะยิ่งเผชิญสภาพอากาศที่แห้งผากกว่าเดิม 7% โดยเฉลี่ยนั่นเอง


https://www.bbc.com/thai/international-61299458



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:35

vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger