SaveOurSea.NET

SaveOurSea.NET (http://www.saveoursea.net/forums/index.php)
-   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม (http://www.saveoursea.net/forums/forumdisplay.php?f=13)
-   -   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม 2563 (http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=5133)

สายน้ำ 12-05-2020 03:12

สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม 2563
 
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 11 - 13 พ.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวจะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น โดยจะมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่า ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก

ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 17 พ.ค. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้น เนื่องจากลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นเข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 11 - 13 พ.ค. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก รวมทั้งฟ้าผ่าไว้ด้วย




*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 13 พฤษภาคม 2563)" ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2563

ในช่วงวันที่ 12-13 พฤษภาคม 2563 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้


ในช่วงวันที่ 12-13 พฤษภาคม 2563

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี ชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา อุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และราชบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด



https://i1198.photobucket.com/albums...psfz5y2yf7.jpg


https://i1198.photobucket.com/albums...pshfldpdqw.jpg


https://i1198.photobucket.com/albums...pszmy5rhol.jpg


https://i1198.photobucket.com/albums...psdsnl4qtf.jpg

สายน้ำ 12-05-2020 04:08

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


นักดำน้ำตื่นตาฟ้าสวยน้ำใส เห็นฉลามวาฬโผล่ว่ายหากิน ในทะเลที่ระยอง

นักดำน้ำที่ระยองพบฉลามวาฬตัวยักษ์ ว่ายน้ำออกหากินในทะเล บริเวณหินเพลิง ห่างจากฝั่งตำบลกร่ำ อ.แกลง 13 ไมล์ทะเล ท่ามกลางทะเลที่เป็นใจ ฟ้าสวยน้ำใส คลื่นลมราบเรียบ



เมื่อวันที่ 11 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีนักดำน้ำพบฉลามวาฬบริเวณหินเอาว์บา (หินเพลิง) ในเขตจังหวัดระยอง ห่างจากฝั่งตำบลกร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง ระยะทางประมาณ 13 ไมล์ทะเล ไปตรวจสอบพร้อมนักดำน้ำโดยเรือของบริษัทเดอะทอย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ช่วงนี้ทะเลคลื่นลมราบเรียบ น้ำทะเลสีใส ท้องฟ้าปลอดโปร่ง บริเวณหินเพลิงเป็นกองหินธรรมชาติใต้ทะเล มีอยู่ด้วยกัน 2 กอง กองตะวันตกจะเป็นหินสูง เวลาน้ำลงหินจะโผล่มองเห็น (ชาวบ้านเรียกหินเล่นน้ำ มองเห็นแต่ไกล)

ส่วนกองตะวันออกเป็นหินจม ความลึกของน้ำบริเวณนี้อยู่ที่ 15-20 ฟุต เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำนาๆชนิด เพราะเรืออวนลากไม่สามารถเข้าไปลากได้ จึงเป็นที่อยู่ของปลา มีแพลงก์ตอน แมงกะพรุน อาหารสำหรับปลา โดยเฉพาะฉลามวาฬ ซึ่งมักจะพบเห็นฉลามวาฬบริเวณนี้ปีละไม่เกิน 2-3 ครั้ง ในช่วงทะเลราบเรียบหรือช่วงเดือน ก.พ.-พ.ค. ก่อนจะเข้าฤดูมรสุม หลังจากที่ได้ลงดำน้ำอยู่ในช่วงบ่ายๆ

ขณะที่นักดำน้ำตามหาเจ้าฉลามวาฬ ก็ได้พบฉลามวาฬว่ายน้ำแบบเงียบๆ ช้าๆ มีฝูงปลาเล็กว่ายตามมาจำนวนมาก ความยาวประมาณ 5-6 เมตร ว่ายเข้ามาให้เก็บภาพอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมง นักดำน้ำต่างได้ชมฉลามวาฬกันอย่างตื่นตาตื่นใจ ด้วยความที่หาตัวพบได้ยาก ต่างได้ภาพไว้เป็นระลึก จากนั้นฉลามวาฬก็ว่ายน้ำหายไปในท้องทะเลลึก

ลักษณะของฉลามวาฬที่แตกต่างจากฉลามส่วนใหญ่ คือ หัวที่ใหญ่โตมากเมื่อเทียบกับขนาดลำตัว และปากที่อยู่ด้านหน้าแทนที่จะอยู่ด้านล่าง ฉลามวาฬ เกือบทั้งหมดที่พบมีขนาดใหญ่กว่า 3.5 เมตร ใช้เหงือกในการหายใจ มีช่องเหงือก 5 ช่อง มีครีบอก 2 อัน ครีบหาง 2 อัน และครีบก้น (หาง) 1 อัน หางของปลาฉลามวาฬอยู่ในแนวตั้งฉาก และโบกไปมาในแนวซ้าย-ขวา แตกต่างจากสัตว์เลือดอุ่นในทะเลที่หางอยู่ในแนวขนานและหายใจด้วยปอด อาทิ วาฬ, โลมา หรือพะยูน เป็นต้น และกินแพลงก์ตอนเป็นอาหาร โดยใช้วิธีกรอง ฉลามวาฬปกติเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำลึก และจะขึ้นมากินแพลงก์ตอนในเวลากลางคืนบริเวณผิวน้ำ โดยใช้การดูดน้ำเข้าปากแล้วผ่านช่องกรอง โดยจะทิ้งตัวเป็นแนวดิ่งกับพื้นน้ำ

มีข้อมูลว่าที่เมืองออสลอบ ในจังหวัดเซบู ของฟิลิปปินส์ ชาวพื้นเมืองที่นั่นซึ่งดั้งเดิมมีอาชีพประมงจับปลาทั่วไป ตั้งแต่ปี ค.ศ.2010 เป็นต้นมา ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตด้วยการโปรยอาหารเลี้ยงฉลามวาฬ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจนกลายเป็นไฮไลต์ของการท่องเที่ยวดำน้ำของที่นี่ โดยอาหารที่ป้อนนั้น คือ เคย และจะมีช่วงเวลาที่ป้อนตั้งแต่ 05.00 หรือ 06.00-13.00 น. ในแต่ละวัน จากนั้นฉลามวาฬก็จะว่ายออกไปทะเลลึกเพื่อหากินเอง ซึ่งเชื่อว่าวิธีการแบบนี้จะไม่ทำให้พฤติกรรมของฉลามวาฬเปลี่ยนไป.


https://www.thairath.co.th/news/local/east/1841564


*********************************************************************************************************************************************************


หนุ่มแคลิฟอร์เนียฝืนล็อกดาวน์ โต้คลื่นในทะเล ถูกฉลามขย้ำดับสลด

ชายหนุ่มฝ่าฝืนมาตรการล็อกดาวน์ควบคุมโควิด ออกโต้คลื่นในทะเลแคลิฟอร์เนีย ก่อนถูกฉลามทำร้ายจนเสียชีวิต

https://i1198.photobucket.com/albums...psmdp8sm0s.jpg

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชายหนุ่มวัย 26 ปี ซึ่งไม่มีการเปิดเผยชื่อ ออกโต้คลื่นในทะเลนอกหาดแมนเซรา สเตต บีช ในเขต ซานตา ครูซ เคาน์ตี ทางเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อเวลาประมาณ 13:30 น. วันเสาร์ที่ 9 พ.ค. ก่อนที่เขาจะถูกฉลามจู่โจมขณะอยู่ห่างจากชายฝั่งราว 100 หลา

ตามการเปิดเผยของสำนักงานสวนสาธารณะและสันทนาการ ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ชายหนุ่มคนนี้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าฉลามสายพันธ์ุใดที่ทำร้ายเขา อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานออกคำสั่งปิดหาดเป็นเวลา 5 วัน จนถึงวันพฤหัสบดีเพื่อความปลอดภัยแล้ว พร้อมทั้งติดป้ายเตือนระวังฉลามเอาไว้ด้วย

อนึ่ง แม้ยังไม่มีการยืนยันว่า ฉลามที่ก่อเหตุเป็นสายพันธ์ุใด แต่เป็นที่รู้กันว่าเคยมีฉลามขาวยักษ์มาปรากฏตัวในน่านน้ำแถบนี้ แต่อยู่ห่างจากชายฝั่งมาก อย่างไรก็ตาม ช่างภาพสมัครเล่นหลายคนบอกกับสื่อท้องถิ่นว่า นับตั้งแต่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 จำนวนฉลามในบริเวณนี้ก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งนี้ มาตรการควบคุมไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ของเขต ซานตา ครูซ เคาน์ตี กำหนดให้ปิดหาดระหว่างเวลา 11:00 น. ถึง 17:00 น. โดยอนุญาตให้ประชาชนลงไปเดินตามชายหาด หรือลงน้ำในระดับตื้น แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่าง


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1841003

สายน้ำ 12-05-2020 04:19

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ใช้ข้อมูลดาวเทียมตรวจจับพลาสติกในทะเล

https://i1198.photobucket.com/albums...psbrcgqfbl.jpg

ขยะลอยทะเลได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ของโลกที่ดูจะยืดเยื้อยาวนาน นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยจำนวนมากพยายามค้นหาวิธีแก้ปัญหามลพิษเหล่านี้ การใช้ดาวเทียมมาช่วยก็คือแนวทางหนึ่ง โดยเฉพาะการตรวจหาพลาสติกชิ้นขนาดใหญ่ในสภาพแวดล้อมทางทะเล ซึ่งพลาสติกประเภทนี้เมื่ออยู่ในทะเลนานๆก็จะแตกหักย่อยสลาย

ความคิดการใช้ข้อมูลจากดาวเทียมสำรวจทรัพยากรขององค์การอวกาศยุโรปในโครงการ Sentinel-2 ถูกเสนอขึ้น เนื่องจากสามารถแยกแยะพลาสติกจากวัสดุอื่นได้อย่างแม่นยำ ดาวเทียมดังกล่าวจะตรวจวัดความยาวคลื่นของแสงที่มองเห็นและแสงอินฟราเรดที่ดูดกลืนและสะท้อนออกมา

https://i1198.photobucket.com/albums...pse2obesur.jpg
Credit : CC0 Public Domain

นักวิทยาศาสตร์ได้ทดสอบวิธีการจากข้อมูลใน Sentinel-2 ตรงน่านน้ำชายฝั่ง 4 แห่งที่แตกต่างกันคือ กรุงอักกราของกานา, หมู่เกาะซานฮวนในแคนาดา, เมืองดานังในเวียดนาม และตะวันออกของสกอตแลนด์

พบว่าวิธีการนี้ประสบความสำเร็จในการแยกแยะพลาสติกจากวัสดุอื่นๆที่ลอยน้ำหรือน้ำทะเล มีความแม่นยำเฉลี่ย 86% และจากทั้ง 4 ตำแหน่ง มีความแม่นยำ 100% จากหมู่เกาะซานฮวน ซึ่งคาดหวังว่าจะสามารถใช้วิธีนี้กับโดรนหรือดาวเทียมความละเอียดสูง เพื่อปรับปรุงการติดตามเกี่ยวกับการทิ้งขยะพลาสติกในทะเลทั่วโลกและช่วยในการทำให้สภาพแวดล้อมสะอาดขึ้น.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1840769


*********************************************************************************************************************************************************


ฟอสซิลกระดูกฉลามยักษ์ยุคไดโนเสาร์

https://i1198.photobucket.com/albums...psvzres9aw.jpg

ในปี พ.ศ.2539 มีนักบรรพชีวินวิทยาค้นพบซากดึกดำบรรพ์ หรือฟอสซิลโครงกระดูกของฉลามยักษ์ทางชายฝั่งตอนเหนือของสเปนใกล้กับเมืองซันตันเดร์ ชายฝั่งแถบนี้มีกำแพงหินปูนสูงราวๆเมตร ซึ่งทับถมมานานนับจากยุคครีเตเชียสเมื่อประมาณ 85 ล้านปีก่อนในช่วงที่ไดโนเสาร์ยังคงครองดินแดนบนบกทั่วโลก

ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเวียนนา ในออสเตรีย ได้ตรวจสอบบางส่วนของกระดูกสันหลังของฉลามดังกล่าว ระบุได้ว่าอยู่ในกลุ่ม Ptychodontidae คือฉลามที่สูญพันธุ์ไปแล้ว นักวิทยาศาสตร์เผยว่าฟันและกระดูกสันหลังของฉลามจะมีข้อมูลทางชีวภาพ เช่น ขนาดร่างกาย การเติบโต และอายุ ซึ่งกระดูกสันหลังทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆเกี่ยวกับชีววิทยาของกลุ่มฉลามลึกลับนี้ที่หายตัวไปก่อนเหตุการณ์สูญพันธุ์ครั้งใหญ่

นอกจากกระดูกสันหลังแล้วยังพบเกล็ดแบบแพลคอยด์ (placoid scales) ซึ่งมีลักษณะคล้ายฟันที่หายากกว่าฟอสซิลฟัน ช่วยให้สามารถถอดรหัสข้อมูลและสร้างระบบนิเวศของกลุ่มฉลาม Ptychodontidae ขึ้นมา จากแบบจำลองที่สร้างขึ้น นักวิทยาศาสตร์คำนวณว่ามันน่าจะมีขนาดได้ 4-7 เมตร และอายุ 30 ปี ที่น่าประหลาดใจคือฉลามตัวนี้ยังไม่โตเต็มที่เมื่อมันตาย แม้ว่ามันจะแก่ขึ้นก็ตาม.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1840763

สายน้ำ 12-05-2020 04:24

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


สุดประทับใจ ทีมดำน้ำพบ "ฉลามวาฬ" แหวกว่ายโชว์ตัวบริเวณเกาะเต่า

https://i1198.photobucket.com/albums...psmwfybmek.jpg
ฉลามวาฬแหวกว่ายโชว์ตัวที่เกาะเต่า (ภาพ : Koh Tao Thai Divers Team - KTDT)

เพจ Environman ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิปวิดีโอ ระบุว่า "ฉลามวาฬ สัตว์สงวน ใกล้สูญพันธุ์ตัวใหญ่ทักทาย ทีมดำน้ำ Koh Tao Thai Divers Team - KTDT บริเวณหินเขียว เกาะเต่า

10 พฤษภาคม 2563 ครูสอนดำน้ำเกาะเต่าออกสำรวจสภาพแนวปะการังตามกองหินต่างๆ โดยขณะสำรวจพบฉลามวาฬ ขนาดความยาวประมาณ 4-6 เมตร บริเวณหินเขียว หรือ Green Rock ในระดับความลึก 16.3 เมตร สภาพน้ำใสมาก

ฉลามวาฬ Whale Shark เป็นสัตว์สงวนของไทย และมีสถานะ ใกล้สูญพันธุ์ใน IUCN Redlist เป็นปลาที่ขนาดใหญ่ที่สุด ฉลามวาฬพบได้ในทะเลเขตร้อนและอบอุ่น อาศัยอยู่ในทะเลเปิด มีช่วงอายุประมาณ 70 ปีฉลามชนิดนี้กำเนิดเมื่อประมาณ 60 ล้านปีมาแล้ว อาหารหลักของฉลามวาฬคือแพลงก์ตอน

การดูแลรักษาทะเลกำลังดำเนินการต่อเนื่องทั้งในทุกฝ่าย ทั้งประชาชน และภาครัฐ ที่กำลังดำเนินมาตรการแผนต่างๆเพื่อรักษาความสวยงามท้องทะเลไทย"

โดยเนื้อหาในคลิป เป็นฉลามวาฬ สัตว์สงวน ใกล้สูญพันธุ์ตัวใหญ่ทักทาย โดยมีทีมดำน้ำ Koh Tao Thai Divers Team - KTDT พบเจอและถ่ายคลิปที่บริเวณหินเขียว เกาะ ทั้งนี้หลังทางเพจฯ ได้โพสต์คลิปได้มีชาวโซเชียลแห่เข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมกันเป็นจำนวนมาก


https://mgronline.com/travel/detail/9630000049040


*********************************************************************************************************************************************************


คนรักทะเลเฮ! อธิบดีอุทยานฯ เดินหน้าหนุนปิดอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศปีละ 2 เดือน พร้อมจำกัดนักท่องเที่ยว

https://i1198.photobucket.com/albums...psn6n5qrfl.jpg

อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เดินหน้าปิดอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ 133 แห่ง ปีละไม่น้อยกว่า 2 เดือน หรือมากกว่านั้น พร้อมผลักดันการคุมปริมาณนักท่องเที่ยวไม่ให้มากจนเกินไป จนกระทบกับการฟื้นตัวทรัพยากรธรรมชาติ

จากกรณี ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์สนับสนุนแนวคิด นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้สั่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เร่งทำตารางกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับปิดอุทยานแห่งชาติ 157 แห่ง เพื่อฟื้นฟูความสมบูรณ์ของผืนป่าทรัพยากรธรรมชาติ และสัตว์ป่า เป็นเวลา 3 เดือนในทุกปี

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (11 พ.ค.) ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวอีกครั้ง โดยได้ระบุข้อความ โดยได้ยกเกาะยูงที่ถูกปิดถาวร และการปิดอ่าวมาหยา จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ทำให้ระบบนิเวศบริเวณโดยรอบดีขึ้นตามลำดับ พบเห็นสัตว์หายากบริเวณรอบๆ เกาะ ทั้งนี้ ดร.ธรณ์ ได้ระบุข้อความว่า

"ผลจากโควิดทำให้คนรักทะเลยิ้มแป้นเลยครับ อะไรที่เคยฝันกัน เช่น ปิดอุทยานบางช่วง/บางพื้นที่ จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว ตอนนี้ท่าน รมต.สั่งการ อุทยานขานรับกันแล้วครับ ท่านอธิบดีธัญญา บอกว่า จะเน้นทั้งการปิด/จำกัดจำนวน และจะเร่งให้อุทยานโชว์ให้ดูว่าก่อนปิด/หลังปิด มีผลดีอย่างไร

ผมจึงนำ พีพีโมเดล มาเป็นตัวอย่าง ที่นั่นเราปิดเกาะยูงถาวร และปิดอ่าวมาหยาจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ที่เกาะยูง ปะการังโตพรึ่บ พื้นที่ปะการังน้ำตื้นเพิ่มขึ้นทุกปี 4 ปีติดต่อกัน ล่าสุด มีฉลามหูดำเข้ามาเพียบ ลองย้อนไปดูคลิป 21 วินาที มีฉลาม 3 ตัว ว่ายผ่านที่อ่าวมาหยา ดูภาพประกอบได้ ผมนำมาให้ดูเป็นตัวอย่าง

หากมีแต่เรือเช่นนั้น คงไม่มีคลิปฝูงฉลามว่ายเกยฝั่ง จนเป็นข่าวกระหึ่มไปทั่วไทยทั่วโลก ยังมีฉลามที่เกาะตาชัยที่ปิดถาวร รวมถึงเรื่องดีๆ จากสิมิลัน ผมสนับสนุนแนวทางเช่นนี้แน่นอน เพราะเป็นแนวทางที่บอกไว้หลายต่อหลายหน ว่า อุทยานทางทะเลต้องมี

- มีแผนจัดการ 3-5 ปี และทำตามแผนอย่างเคร่งครัด
- มีพื้นที่ปิดเพื่อเป็นเขตสงวน
- มีพื้นที่เปิดปิดเป็นระยะเพื่อให้ทะเลพัก
- มีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวแต่ละจุดให้ชัดเจนและปฏิบัติได้

แต่ทั้งหมดนี้ ต้องรอบคอบ และมีการนำเสนอแผนเพื่อช่วยกันคิดกับหน่วยงานในพื้นที่/ผู้ประกอบการ/ชาวบ้าน ฯลฯ ซึ่งกลไกอุทยานมีคณะที่ปรึกษาประจำอุทยานแต่ละแห่งอยู่แล้ว ควรเร่งให้มีการดำเนินการ และรับฟังให้ถ้วนถี่ ไม่เช่นนั้น จะเกิดปัญหาภายหลัง เท่าที่ทราบ กรมทรัพยากรทางทะเลฯ ก็กำลังเร่งทำแผนอยู่เช่นกันครับ มีข่าวคืบหน้าอย่างไรจะรีบนำมาบอกเพื่อนธรณ์

ชอบครับชอบ ทั้งอุทยาน ทั้งกรมทะเล ทำงานแข็งขัน ดีใจมากที่ความฝันของคนรักทะเลไทยเริ่มใกล้ความจริง และอยากเห็นการเดินหน้าเต็มกำลังในช่วง 1-3 เดือนต่อจากนี้ เดี๋ยวจะหาภาพที่เกาะยูงมาโพสต์ให้ดูครับ"

นอกจากนี้ ทางเพจ "I Green" ได้รายงานเพิ่มเติมว่า นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชได้มีการประชุมและมีข้อสรุปว่าให้แต่ละอุทยานทั่วประเทศ จำนวน 133 แห่ง จัดทำแผนการปิดอุทยานตามนโยบายของนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยให้พิจารณาปิดไม่ต่ำกว่า 2 เดือนต่อปีหรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่

อีกนโยบายที่จะนำมาพิจารณาควบคู่กัน คือ การจำกัดนักท่องเที่ยวไม่ให้มากจนเกินไป แม้ที่ผ่านมาจะมีรายได้มาก โดยเฉพาะอุทยานทางทะเล แต่จะพบว่าจำนวนมากนักท่องเที่ยวมากจนเกินไป ซึ่งไม่สอดคล้องกับนโยบาย ดังนั้น นอกจากปิดแล้วจะจำกัดปริมาณด้วย เพราะอุทยานไม่ได้ต้องการรายได้เป็นหลัก แต่เน้นการฟื้นฟูของทรัพยากรธรรมชาติด้วย


https://mgronline.com/onlinesection/.../9630000049103


สายน้ำ 12-05-2020 04:26

ขอบคุณข่าวจาก คม ชัด ลึก


"นายกตุ้ย"โพสต์ภาพความมักง่ายของประชาชน หลังจับกลุ่มใกล้ชิดกินอาหารริมหาด ป้ายใหญ่เท่าบ้านก็ไม่สน

นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวหลังพบประชาชนจำนวนมากนั่งจับกลุ่มกันรับประทานอาหารริมหาดบางแสน ถึงแม้จะมีป้ายประกาศขอให้งดการรวมกลุ่มใกล้ชิด และ งดการบริโภคอาหารเครื่องดื่มทุกประเภทในลักษณะรวมตัวนั่งดื่มกินก็ตาม

https://i1198.photobucket.com/albums...psiphfliah.jpg

นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังประชาชนจำนวนมาก ที่มาเดินเล่นริมหาดบางแสน ต่างรวมตัวกันนั่งรับประทานอาหารริมหาด ถึงแม้จะมีการประชาสัมพันธ์ หรือ ติดป้ายไว้ริมหาด ก็ยังคงมีบางกล่มคนที่ไม่ปฏิบัติตาม

สงสัยการบอกกล่าวและ ประชาสัมพันธ์อาจไม่ทั่วถึง มีป้ายอยู่ตลอดแนวแต่คงไม่เพียงพอครับ พื้นที่ริมถนนเรียบชายหาด และ ข้างเคียงได้มีการผ่อนปรนให้ประชาชนมาใช้พื้นที่ ในการออกกำลังกาย เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน และ พักผ่อน ได้บ้าง และขอให้งดการรวมกลุ่มใกล้ชิด และ งดการบริโภคอาหารเครื่องดื่มทุกประเภทในลักษณะรวมตัวนั่งดื่มกิน แต่ที่ผ่านมา ก็มีทั้งผู้ที่ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามระเบียบ และ อีกจำนวนนึงที่ไม่ได้สนใจอะไร อาจจะไม่ทราบหรือ ไม่ให้ความร่วมมือก็มีบ้างพอสมควร และยังมีขยะที่ผู้มาเยี่ยมเยือนชายหาดยังคงทิ้งขยะไว้ที่พื้นบ้างพอสมควรแต่ลดลงหลังจากที่มีการโพสต์ว่าขยะมากเมื่อเปิดให้คนมาใช้พื้นที่ หลังมีมาตรการผ่อนปรนครับ

ขณะนี้ทาง จนท. ตำรวจ และ ประชาชนส่วนหนึ่งได้นำเสนอขอให้ปิดถนนสำหรับรถยนต์ ทุกประเภท ไม่ให้เข้าในพื้นที่ ถนนตลอดแนวชายหาดทั้งหมด ตั้งแต่ หาดวอน- บางแสนสาย1 รวมถึง แหลมแท่น เขาสามมุข (บางส่วน) อีกรอบ แต่ยังคงเปิดถนนพื้นที่เรียบทะเลให้ได้ออกกำลังกาย และ พักผ่อนได้เหมือนเดิม เนื่องจาก ปัจจุบัน จนท. ไม่เพียงพอและทำให้ ไม่สามารถรวบคุมผู้ฝ่าฝืนกฏได้ทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะเสี่ยงภัยจากการกลับมาระบาดของ โควิด-19 อีกก็เป็นได้
ขณะนี้จะรอนำเรียนปรึกษาทางจังหวัดอีกครั้งครับ หากพวกเราไม่ให้ความร่วมมือร่วมใจปฏิบัติตามกฏต่างๆในช่วงนี้ ก็อาจมีความจำเป็นที่จะต้องปิดถนนอีกครั้งครับ

นอกจากนี้ ทางเทศบาลมีแผนที่จะเปิดชายหาดทั้งหมด ในเดือน มิถุนายน นี้หากสถานการณ์ของจังหวัดชลบุรียังคงควบคุมได้ และ มีคำสั่งอนุญาต และ เทศบาลกำลังเร่งการจัดระเบียบ ชายหาดของผู้ประกอบการชายหาดให้แล้วเสร็จก่อนเปิดชายหาดด้วยครับ จะแจ้งให้ทราบผลการพิจารณาต่อไปครับ


https://www.komchadluek.net/news/reg...&utm_campaign=



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:49

vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger