SaveOurSea.NET

SaveOurSea.NET (http://www.saveoursea.net/forums/index.php)
-   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม (http://www.saveoursea.net/forums/forumdisplay.php?f=13)
-   -   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 27 เมษายน 2564 (http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=5523)

สายน้ำ 27-04-2021 03:24

สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 27 เมษายน 2564
 
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทยและทะเลจีนใต้แล้ว ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ประกอบกับมีลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย สำหรับลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมบริเวณภาคใต้ ทำให้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในระยะนี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 27 เม.ย. ? 1 พ.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง หลังจากนั้น ลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับบริเวณทะเลอันดามัน อ่าวไทย และภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 27 เม.ย. ? 1 พ.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย



https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds

สายน้ำ 27-04-2021 03:26

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


เผยภาพซากเรือดำน้ำอินโดนีเซีย แตก 3 ท่อน จมก้นทะเล ดับสลดยกลำ 53

เผยภาพซากเรือดำน้ำอินโดนีเซียแตกเป็น 3 ท่อน จมก้นทะเลทางตอนเหนือของเกาะบาหลี ลูกเรือดับทั้งลำ 53 ศพ หลังสูญหายสัปดาห์ที่แล้ว

https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds

เมื่อ 26 เมษายน 64 สำนักข่าวต่างประเทศ และเว็บไซต์เดลี่เมลรายงาน กองทัพอินโดนีเซียเผยแพร่ภาพชิ้นส่วนเรือดำน้ำเคอาร์ไอ นังกาลา-402 บริเวณก้นทะเล ห่างจากตอนเหนือของเกาะบาหลี ประมาณ 100 กิโลเมตร โดยพบเรือดำน้ำแตกเป็น 3 ท่อน ทำให้ลูกเรือเสียชีวิตทั้งหมด 53 ศพ ขณะเดียวกันกองทัพอินโดนีเซียได้ดำเนินการกู้สิ่งของต่างๆของเรือดำน้ำขึ้นมาใต้ท้องทะเลได้มากขึ้น รวมทั้ง สมอเรือ และเสื้อชูชีพ

ผู้บัญชาการกองทัพเรืออินโดนีเซีย ยูโด มาร์โกโน แถลงข่าวถึงโศกนาฏกรรมครั้งนี้ว่า เรือดำน้ำเคอาร์ไอ นังกาลา-402 ได้แตกเป็นสามท่อน โดยลำเรือ ท้ายเรือ และส่วนสำคัญของเรือดำน้ำได้แตกออกจากกัน อีกทั้งยังพบรอยแตกที่บริเวณส่วนสำคัญของเรือด้วย

ผู้บัญชาการกองทัพเรืออินโดนีเซีย กล่าวว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ใช่ความผิดพลาดของลูกเรือ แต่เป็นเพราะเรือดำน้ำเคอาร์ไอ นังกาลา-402 ไม่เคยประสบเหตุเครื่องยนต์ดับมาก่อน อุบัติเหตุครั้งนี้จึงถือว่าเกิดจากปัจจัยธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ทางการอินโดนีเซียยังไม่ยืนยันสาเหตุแน่ชัดที่ทำให้เรือดำน้ำ เคอาร์ไอ นังกาลา-402 ซึ่งใช้งานมานาน 44 ปี จมสู่ก้นทะเลในระดับความลึกจากผิวน้ำทะเล ประมาณ 800 เมตร

ทั้งนี้ การพบซากชิ้นส่วนเรือดำน้ำอินโดนีเซียลำนี้ เกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากกองทัพเรืออินโดนีเซียได้ยืนยันว่าเรือดำน้ำเคอาร์ไอ นังกาลา-402 ได้จมสู่ก้นทะเล หลังจากได้สูญหายระหว่างฝึกซ้อมยิงตอร์ปิโด เมื่อช่วงเช้าวันพุธ ที่ 21 เมษายน

กองทัพเรืออินโดนีเซีย ได้ส่งทีมค้นหา เฮลิคอปเตอร์ และเรือรบเร่งค้นหา พร้อมกับได้ขอความช่วยเหลือไปยังออสเตรเลีย และ สิงคโปร์ ในการมาช่วยค้นหาด้วย เพื่อพยายามช่วยชีวิตลูกเรือ ก่อนที่ออกซิเจนในเรือดำน้ำจะหมดลงภายใน 72 ชั่วโมง หรือเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2077631



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:55

vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger