SaveOurSea.NET

SaveOurSea.NET (http://www.saveoursea.net/forums/index.php)
-   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม (http://www.saveoursea.net/forums/forumdisplay.php?f=13)
-   -   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564 (http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=5519)

สายน้ำ 23-04-2021 03:31

สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564
 
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เนื่องจากความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อน ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นจากทะเลอันดามันและอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดไว้ด้วย สำหรับลมตะวันตกพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะนี้

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 26 - 29 เม.ย. 64 ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน สำหรับพายุไต้ฝุ่น ?ซูรีแค? บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกหรือทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศฟิลิปปินส์มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือโดยจะออกห่างจากประเทศฟิลิปปินส์มากยิ่งขึ้น พายุนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 23 - 25 เม.ย. 64 บริเวณประเทศไทยมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันกับมีอากาศร้อนในหลายพื้นที่ และมีอากาศร้อนจัด ในภาคเหนือ โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเกิดขึ้นบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้งนี้เนื่องจากความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลอันดามันและอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมบริเวณดังกล่าว

ส่วนในช่วงวันที่ 26 - 28 เม.ย. 64 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามัน อ่าวไทย และภาคใต้ มีลมตะวันตกพัดปกคลุมตลอดช่วง ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น "ซูรีแค" บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกหรือทางด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือ โดยจะออกห่างจากประเทศฟิลิปปินส์มากยิ่งขึ้น พายุนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 23-? 25 เม.ย. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 26 - 28 เม.ย. 2564 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร



https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds

สายน้ำ 23-04-2021 04:10

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ผู้นำอิเหนาสั่งทุ่มเต็มที่ค้นหาเรือดำน้ำที่สูญหาย ห่วง 53 ลูกเรือขณะ'ออกซิเจน' พอใช้ถึงแค่เสาร์นี้

https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds
เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ของอินโดนีเซีย เตรียมตัวเข้าร่วมการปฏิบัติการค้นหาเรือดำน้ำ เคอาร์ไอ นังกาลา-402 ของกองทัพเรือแดนอิเหนาที่สูญหายไป ณ ท่าเรือเซลูคัน บาวัง ในจังหวัด บูเลเลง ของอินโดนีเซีย วันพฤหัสบดี (22 เม.ย.)

ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ของอินโดนีเซียออกคำสั่งในวันพฤหัสบดี (22 เม.ย.) ให้ทุ่มเทใช้ความพยายามแบบสุดๆ ในการทำงานแข่งกับเวลาเพื่อค้นหาเรือดำน้ำลำหนึ่งของกองทัพที่สูญหายไประหว่างการฝึกซ้อมในทะเล ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับชะตากรรมของลูกเรือจำนวน 53 คน โดยที่ผู้บัญชาการทหารเรือระบุว่าออกซิเจนภายในเรือจะมีใช้ได้แค่ถึงวันเสาร์ (24) นี้

อินโดนีเซียได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ และเรือ 5 ลำออกค้นหาบริเวณน่านน้ำนอกชายฝั่งตอนเหนือของเกาะบาหลี แต่ยังไม่พบสัญญาณใดๆ ของเรือดำน้ำ เคอาร์ไอ นังกาลา-402(KRI Nanggala-402) ลำนี้ ซึ่งสูญหายไปอย่างไร้รอยเมื่อวันพุธ (21) ขณะออกฝึกซ้อมยิงตอร์ปิโดที่บริเวณน่านน้ำดังกล่าว

ด้าน โยโด มาร์โกโน ผู้บัญชาการทหารเรือแถลงว่า การค้นหาในตอนนี้ไม่ประสบความยุ่งยากอะไร เนื่องจากท้องทะเลสงบราบเรียบ อย่างไรก็ดี ออกซิเจนบนเรือดำน้ำจะใช้ได้นานที่สุดแค่ถึงวันเสาร์

ตั้งแต่วันพุธ จากการบินสำรวจทางอากาศได้พบคราบน้ำมันใกล้จุดที่เรือดำน้ำดำลงไป กระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียระบุว่าได้ส่งคำขอความอนุเคราะห์ไปยังออสเตรเลีย สิงคโปร์ และอินเดีย ซึ่งทั้งหมดก็ตอบรับเข้าช่วยเหลือ

ฮาร์ดี ทยาห์ยันโต ผู้บัญชาการทหารของอินโดนีเซีย เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ผ่านข้อความทางโทรศัพท์มือถือในวันพุธว่า เรือดำน้ำขาดการติดต่อตอนเวลา 04.30 น. และเวลานี้กำลังดำเนินหน้าค้นหาเรือดำน้ำบริเวณห่างจากชายฝั่งเกาะบาหลี ประมาณ 96 กิโลเมตร

กองทัพเรือระบุในถ้อยแถลงว่า ?มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดไฟฟ้าดับตอนที่เรือดำน้ำดำลง ดังนั้นจึงสูญเสียการควบคุมและขั้นตอนฉุกเฉินไม่สามารถดำเนินการได้ จากนั้นเรือก็หล่นสู่ความลึก 600-700 เมตร?

ข้อสันนิษฐานดังกล่าวก่อความกังวลอย่างยิ่ง เนื่องจากเจ้าหน้าที่รายหนึ่งเผยว่าเรือดำน้ำลำนี้สามารถต้านทานแรงดันต่อเนื่อง ณ ความลึกสุดแค่ราวๆ 250 เมตรเท่านั้น

ขณะเดียวกัน กองทัพเรือยังสันนิษฐานว่าคราบน้ำมันที่พบบริเวณพื้นผิวทะเลอาจหมายความว่าเรือดำน้ำอาจเกิดความเสียหายบริเวณถังเชื้อเพลิง แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่ามันจะเป็นการส่งสัญญาณจากลูกเรือ

จากข้อมูลของกระทรวงกลาโหม ระบุว่า เรือดำน้ำเคอาร์ไอ นังกาลา-402 ซึ่งมีน้ำหนัก 1,395 ตัน ถูกสร้างในเยอรมนีในปี 1977 และเข้าประจำการในกองทัพเรืออินโดนีเซียในปี 1981 เรือลำนี้เคยผ่านการยกเครื่องปรับปรุงเป็นเวลา 2 ปีในเกาหลีใต้ ซึ่งแล้วเสร็จในปี 2012

ในอดีตอินโดนีเซียเคยมีกองเรือดำน้ำ 12 ลำที่ซื้อจากสหภาพโซเวียตมาใช้ตรวจการณ์น่านน้ำรอบหมู่เกาะกว้างไกลของประเทศ แต่ปัจจุบันอินโดนีเซียเหลือเรือดำน้ำเพียง 5 ลำ รวมถึง 2 ลำที่เป็นเรือดำน้ำแบบ 209 ที่ต่อโดยเยอรมนี และเรือดำน้ำที่ใหม่กว่าจำนวน 3 ลำจากเกาหลีใต้


https://mgronline.com/around/detail/9640000038464



สายน้ำ 23-04-2021 04:12

ขอบคุณข่าวจาก BBCThai


มลภาวะไมโครพลาสติกกระจายทั่วทุกทวีป ลอยไปกับกระแสอากาศที่ไหลเวียนรอบโลก

https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds

ผลวิจัยล่าสุดชี้ ปัญหามลภาวะจากไมโครพลาสติกเข้าขั้นวิกฤตแล้ว หลังพบอนุภาคพลาสติกจำนวนมหาศาลฝังตัวเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของกระแสอากาศที่ไหลเวียนไปรอบโลก เสมือนกับว่ามันเป็นสสารในธรรมชาติอย่างก๊าซออกซิเจนหรือน้ำเลยทีเดียว

ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร PNAS ฉบับเดือนเมษายนนี้ ระบุว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติได้ค้นพบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวงจรชีวิตของไมโครพลาสติก ซึ่งได้กระจายตัวไปปนเปื้อนอยู่ทั่วทุกหนแห่งของโลก ทั้งบนบก ในน้ำ และในอากาศ

"เราพบมลภาวะจากไมโครพลาสติกที่สะสมตัวมานานหลายสิบปีเป็นจำนวนมหาศาล อนุภาคพลาสติกเหล่านี้ไม่ใช่ของใหม่ แต่เป็นสิ่งที่มนุษย์ทิ้งไว้ให้ตกค้างอยู่ในสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่หลายทศวรรษก่อน" ผศ.ดร. แจนิซ บราห์นีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรธรรมชาติ และหนึ่งในผู้นำทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยยูทาห์สเตตของสหรัฐฯ กล่าว

ทีมวิจัยของผศ.ดร. บราห์นีย์ ได้ตรวจสอบปริมาณและที่มาของไมโครพลาสติกที่พบในภูมิภาคทางตะวันตกของสหรัฐฯ ระหว่างเดือนธ.ค. 2017 ถึงเดือนม.ค. 2019 ทำให้ทราบว่าอนุภาคพลาสติกส่วนใหญ่ในพื้นที่ดังกล่าวถูกพัดพามาจากแหล่งกำเนิดในที่อื่น ๆ โดยปะปนมากับฝุ่นละอองที่ลอยฟุ้งตามท้องถนน 84% มากับละอองน้ำในมหาสมุทรที่ถูกพัดขึ้นบก 11% และอีก 5% มากับฝุ่นดินจากพื้นที่การเกษตร

https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds
ภาพจากกล้องจุลทรรศน์แสดงให้เห็นชิ้นส่วนพลาสติกสีฟ้า ปะปนอยู่กับฝุ่นและเส้นใยที่กรองได้จากอากาศ

เมื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาสร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์ ทีมผู้วิจัยพบว่าแหล่งกำเนิดสำคัญของไมโครพลาสติก ซึ่งกระแสลมกรดได้พัดพาให้กระจายตัวไปยังทุกทวีปทั่วโลกนั้น มาจากการสลายตัวของแพขยะขนาดยักษ์ในมหาสมุทรเป็นหลัก

ขยะพลาสติกที่ถูกคลื่นลมบดขยี้จนกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จะถูกลมพัดให้ล่องลอยขึ้นไปอยู่ในบรรยากาศได้เป็นเวลานานหลายชั่วโมงไปจนถึงเกือบหนึ่งสัปดาห์เลยทีเดียว ซึ่งนับว่านานเพียงพอที่จะทำให้มันเดินทางไกลข้ามทวีปได้

ผลวิจัยยังพบว่า มลภาวะจากไมโครพลาสติกไม่ได้มีอยู่แค่ในเมืองใหญ่เท่านั้น หากแต่ยังปรากฏในพื้นที่ห่างไกลผู้คน เช่นในเขตป่าลึกของอุทยานแห่งชาติอีกด้วย เนื่องจากอนุภาคพลาสติกนั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบกระแสอากาศโลกที่พัดไหลเวียนไปได้ทั่วทุกแห่ง

นับแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา มนุษย์ทั่วโลกได้ผลิตพลาสติกขึ้นมาแล้วถึง 1 หมื่นล้านตัน แต่ในจำนวนนี้มีเพียง 12% - 18% เท่านั้นที่ถูกกำจัดด้วยการเผา นำไปถมดิน หรือเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล ดังนั้นเรายังคงมีขยะพลาสติกตกค้างจำนวนมหาศาลที่ไม่รู้ว่ากระจัดกระจายไปอยู่กันในที่ใดบ้าง ซึ่งเศษพลาสติกเหล่านี้อาจกำลังก่อปัญหาใหญ่หลวงให้กับระบบนิเวศอยู่ก็เป็นได้


https://www.bbc.com/thai/international-56842245



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:11

vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger