SaveOurSea.NET

SaveOurSea.NET (http://www.saveoursea.net/forums/index.php)
-   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม (http://www.saveoursea.net/forums/forumdisplay.php?f=13)
-   -   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2564 (http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=5437)

สายน้ำ 29-01-2021 03:32

สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2564
 
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว และจะแผ่ขยายเข้าปกคลุมภาคกลาง และภาคตะวันออก ในเวลาต่อไป ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ในขณะที่คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจะคลื่อนผ่านประเทศเมียนมาเข้าปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นเป็นบางพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆบางส่วน อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 29 ม.ค. - 1 ก.พ. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นกับมีลมแรง โดยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ประกอบกับในช่วงวันที่ 29 - 31 ม.ค. 64 จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกเกิดเป็นบางพื้นที่เกิดขึ้นได้ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น

ส่วนในช่วงวันที่ 2-3 ก.พ. 64 บริเวณความกดอากาศสูงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศเย็นอย่างต่อเนื่อง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 29 ม.ค. ? 1 ก.พ. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย



https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

สายน้ำ 29-01-2021 04:41

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


บ้านสาหร่ายทะเล เทคโนโลยี 300 ปี ของชาวชายฝั่งซานตง

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds
บังกะโลสาหร่ายทะเล ซึ่งที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองอันไม่เหมือนใคร ในหรงเฉิงเวยไห่ มณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน (ภาพซินหัว)

ซินหัว (28 ม.ค.) - ชมภาพบังกะโลสาหร่ายทะเล ซึ่งที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองอันไม่เหมือนใคร ในหรงเฉิงเวยไห่ มณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน

บ้านสาหร่ายทะเลที่เก่าแก่ที่สุดนั้น มีอายุย้อนไปกว่า 300 ปี โดยทำจากสาหร่ายทะเลแห้งที่เติบโตในน้ำตื้นตามชายฝั่งของคาบสมุทรเจียวตง

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

ภูมิปัญญาในการสร้างบ้านโดยใช้ส่วนประกอบต่าง ๆ จากธรรมชาติ เป็นความรู้ที่สืบทอดกันมานาน การสร้างหลังคาบ้านด้วยสาหร่ายธรรมชาติก็เป็นหนึ่งในลักษณะพิเศษของบ้านชายฝั่ง (พบเห็นได้ในหลาย ๆ ที่ของโลก รวมถึง เกาะแลร์เซอ ประเทศเดนมาร์ก) เนื่องจากสาหร่ายมีเกลือ หลังคาจึงไม่ผุพังง่ายและสามารถอยู่ได้นานหลายร้อยปี เมื่อหลังคามีอายุมากขึ้นจะแข็งตัวเป็นมวลแข็งก้อนเดียวที่ไม่เพียงแต่กันน้ำ แต่ยังกันไฟได้อีกด้วย มีความแข็งแรงสามารถเหยียบทับได้โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย

ผู้เชี่ยวชาญฯ กล่าวว่า ศิลปะการมุงหลังคาจากสาหร่ายทะเลประมาณการว่าต้องใช้สาหร่าย 300 กิโลกรัมในการมุงหลังคาเพียงหนึ่งตารางเมตร


https://mgronline.com/china/detail/9640000008728


*********************************************************************************************************************************************************


คึกคัก! ชาวท้ายเหมือง จ.พังงา แห่จับ "จักจั่นทะเล" นำมาประกอบเมนูเด็ด

พังงา - ชาวบ้านแห่จับ "จักจั่นทะเล" ที่หาดท้ายเหมือง จ.พังงา คักคัก! นำมาประกอบเมนูเด็ด ขายร้านอาหาร ทำรายได้งาม

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

หาดท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา กลับมาคึกคักและมีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังพบว่ามีชาวบ้านจำนวนมากออกมาเล่นน้ำ และจับสัตว์ทะเลที่เรียกกันว่า "จักจั่นทะเล" เพื่อนำไปประกอบอาหารและขายเป็นรายได้เสริม หลังจากก่อนหน้านี้ ชายหาดดังกล่าวเงียบเหงาไร้เงานักท่องเที่ยวเนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระบาด

โดยชาวบ้านจะออกไปยืนเรียงหน้าที่ริมทะเลหันหน้าขึ้นหาชายหาดรอจังหวะคลื่นซัดน้ำทะเลขึ้นมาและม้วนกลับลงไป ก็มีการใช้มือคุ้ยลงไปในผืนทรายเพื่อจับ "จักจั่นทะเล" ที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาบนชายหาด โดยจักจั่นทะเล มีรูปร่างคล้ายปูและกุ้ง นับเป็นสัตว์ทะเลเฉพาะถิ่นมีมากในพื้นที่จังหวัดพังงา ภูเก็ต ช่วงที่คลื่นซัดน้ำทะเลขึ้นมาจักจั่นจะออกจากผืนทรายหากินสาหร่ายและแพลงก์ตอน เมื่อคลื่นม้วนกลับก็จะรีบมุดลงไปซ่อนตัวในผืนทรายทันที คนที่จับจะต้องอาศัยความชำนาญจึงจะจับได้ม ซึ่งช่วงนี้กำลังเป็นฤดูกาลที่จักจั่นทะเลขึ้นมาวางไข่และหากินตามริมชายหาดเป็นจำนวนมาก ทำให้ในแต่ละวันจะมีชาวบ้านในพื้นที่และใกล้เคียงมาจับจักจั่นทะเลเพื่อนำไปประกอบอาหารกินนเอง และนำไปจำหน่ายเป็นอาชีพเสริมกันเป็นจำนวนมาก โดยเมนูเด็ดที่นำไปประกอบอาหารคือ เมนูจักจั่นทะเลชุบแป้งทอด ซึ่งจะนำตัวจักจั่นไปล้างด้วยน้ำจืด จากนั้นก็แกะกระดองออกนำไปชุบแป้งลงทอดในน้ำมันร้อนๆ แล้วนำมาจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟูด

นายรวยชัย กิตติพรหมวงศ์ ชาวอำเภอท้ายเหมือง กล่าวว่า จักจั่นทะเลเป็นสัตว์ทะเลประจำถิ่น พบได้มากในพื้นที่ชายหาดท้ายเหมือง จ.พังงา และหาดไม้ขาว จ.ภูเก็ต ในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี จะเป็นช่วงที่จักจั่นขึ้นมาริมทะเลเป็นจำนวนมาก จึงมีชาวบ้านในพื้นที่ชักชวนกันออกมาจับจักจั่นทะเลไปประกอบอาหาร บางคนก็ทำเป็นอาชีพ โดยนำไปขายให้แก่ร้านอาหารได้ตัวละ 1 บาท ส่วนในร้านอาหารได้ซื้อตัวสดไปทำเป็นเมนูเด็ดประจำร้านกันเกือบทุกร้าน

นายรวยชัย กล่าวว่า การที่มีตัวจักจั่นขึ้นมามากนั้นบ่งชี้ถึงความอุดสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ของหาดท้ายเหมือง จึงอยากจะวิงวอนให้ ช่วยกันอนุรักษ์ไว้อย่านำเครื่องมือที่สามารถจับจักจั่นได้ครั้งละมากๆ มาใช้ สำหรับตัวจักจั่นทะเลเป็นสัตว์ทะเลที่ไม่มีกระดูกสันหลัง เป็นสัตว์ในวงศ์ของปู โดยใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hippoidea มีรูปร่างคล้ายจักจั่นที่เป็นแมลงบนบก มีขนาดเล็กเท่าหัวแม่มือ มีกระดองไม่แข็งมากคล้ายปู มีขาทั้งหมด 10 ขา แบ่งเป็น 5 คู่ ขาทั้งหมดไม่ได้ใช้ในการว่ายน้ำเนื่องจากจักจั่นทะเลจะอยู่ในทรายที่มีน้ำขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา ขาจึงใช้ในการขุดคุ้ยทรายเพื่อพยุงตัวหรือมุดลงไปซ่อนตัวในทราย หัวมีกรีแต่ไม่แหลมและแข็งเหมือนกุ้ง ไม่มีก้ามหนีบเหมือนปู เป็นสัตว์ที่กินแพลงก์ตอน สัตว์น้ำขนาดเล็ก และพืชน้ำจำพวกสาหร่ายที่ลอยมากับกระแสน้ำเป็นอาหาร


https://mgronline.com/south/detail/9640000008901


สายน้ำ 29-01-2021 04:44

ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์


คมนาคมเปิดแผนศึกษาแลนด์บริดจ์เชื่อมอ่าวไทย-อันดามัน

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

29 ม.ค.2564 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานผ่านการประชุมระบบทางไกล VDO CONFERENCE เรื่องแนวทางและแผนการดำเนินงาน โครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบื้องตัน ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและวิเคราะห์รูปแบบโมเดล การพัฒนาการลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน หรือแลนด์บริดจ์ (Land Bridge) ว่าการดำเนินโครงการได้คำนึงถึงความหมาะสมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ และให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมต่อการดำเนินโครงการ

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ในปี 2564 นี้ จะดำเนินการศึกษา 6 ส่วน คือ 1.งานคัดเลือกที่ตั้งท่าเรือน้ำลึกแห่งใหม่ที่ จ.ชุมพร และจ.ระนอง 2.งานศึกษาเปรียบเทียบทางเลือกโครงการในรูปแบบต่างๆ 3.งานออกแบบแนวคิดโครงการแลนด์บริดจ์ ประกอบด้วย ท่าเรือ ทางรถไฟ และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) 4.งานศึกษาความเหมาะสมโครงการทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม 5.งานศึกษารูปแบบการดำเนินธุรกิจ และทางเลือกการให้เอกชนร่วมลงทุน (PPP)

และ 6.ส่วนร่วมของภาคประชาชน ตลอดระยะเวลาโครงการ เพื่อจะนำไปสู่การทดสอบความสนใจของนักลงทุน (Market sounding) ในขั้นต่อไป นอกจากนี้จะทำการออกแบบเบื้องต้นท่าเรือน้ำลึกทั้ง 2 แห่ง รวมทั้งการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ตลอดจนจัดทำรายงานการวิเคราะห์โครงการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ พ.ศ.2562 เพื่อให้มีรายละเอียดเพียงพอสำหรับการดำเนินการประกวดราคาในลำดับต่อไป

ทั้งนี้ได้สั่งการให้กรมเจ้าท่า และ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ศึกษาเพิ่มเติมเรื่องการบริหารจัดการท่าเรือแบบอัตโนมัติ (Fully Automate Port) รวมทั้งให้ สนข. จัดทำรายละเอียดของเนื้องาน โดยเฉพาะการคัดเลือกทำเลที่ตั้งของท่าเรือน้ำลึก และงบประมาณที่จะดำเนินงานใน 64 ให้ชัดเจน และศึกษาหน่วยงานหลักที่จะรับผิดชอบพัฒนาโครงการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ดำเนินการในขั้นต่อไปเป็นไปตามนโยบายที่กำหนดไว้ รวมทั้งประสานกับกระทรวงพลังงาน เพื่อศึกษาแนวทางเรื่องการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทางท่อต่อไปด้วย


https://www.thaipost.net/main/detail/91315


สายน้ำ 29-01-2021 04:47

ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย


กรมประมงจัดระเบียบการเก็บลูกหอยแครงจังหวัดชลบุรี

กรุงเทพฯ 28 ม.ค.- รองอธิบดีกรมประมงเตรียมลงพื้นที่จังหวัดชลบุรีเพื่อคลี่คลายข้อพิพาทเรือประมงหอยแครง ย้ำต้องไม่มีการทำประมงผิดกฎหมาย เพื่อให้มีทรัพยากรใช้อย่างยั่งยืน

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมงเปิดเผยว่า วันนี้ (28 ม.ค.) จะเดินทางไปยังจังหวัดชลบุรีเพื่อร่วมหาแนวทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่มีกลุ่มเรือประมงผิดกฎหมายจากพื้นที่คลองตำหรุหลายสิบลำเข้าขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าตรวจการประมง ด้วยการล้อมเรือ และขับเรือพุ่งชน ขณะเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลชลบุรีกำลังตรวจสอบเหตุลักลอบทำการประมงหอยแครงบริเวณกลางอ่าวบางปะกง เป็นเหตุให้เรือตรวจการประมงเสียหาย และเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 3 นาย

ทั้งนี้ในวันเกิดเหตุ หน่วยงานของกรมประมงได้รับรายงานว่า มีเรือประมงกว่า 20 ลำ กำลังทำการประมงลูกหอยแครง บริเวณเขตทะเลชายฝั่งด้วยเครื่องมือผิดกฎหมาย ทั้งเครื่องมือคราดลูกหอยแครง อวนลากคานถ่างที่ใช้มุ้งทำถุงอวนลากเก็บลูกหอยแครง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเข้าตรวจสอบ และแจ้งให้เรือหยุดทำการประมง แต่เรือเหล่านั้นกลับไม่ยอมหยุด และพยายามขับเรือพุ่งชนเรือของเจ้าหน้าที่ จนเป็นเหตุให้เรือตรวจการประมง 106 ได้รับความเสียหาย น้ำรั่วเข้าภายในตัวเรือ และมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย

หลังจากนั้น ศูนย์ประสานการปฏิบัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1 (ศรชล. ภาค 1) ได้ส่งเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง 268 พร้อมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งพบกลุ่มเรือประมง ประมาณ 40 ? 50 ลำ ทั้งจากพื้นที่คลองตำหรุ จังหวัดชลบุรี แสมขาว จังหวัดฉะเชิงเทรา ปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ มหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร และคลองโคน จังหวัดสมุทรสงคราม หลายสิบลำ พร้อมลูกเรือกว่า 100 คนที่พยายามขับไล่และล้อมเรือของเจ้าหน้าที่ และพยายามขอเจรจาทำประมงต่อ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันให้หยุดทำการประมงดังกล่าว เนื่องจากเป็นการทำประมงที่ผิดกฎหมาย และยังเป็นการทำประมงที่สร้างความเสียหายให้กับทรัพยากรสัตว์น้ำหน้าดินอย่างมาก โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณกลางอ่าวบางปะกง จังหวัดชลบุรีนี้ เป็นพื้นที่ชุกชุมของลูกหอยแครง เพราะดินบริเวณชายฝั่งทะเลมีสภาพเป็นหาดโคลนหรือพื้นดินเลนละเอียด ซึ่งเป็นแหล่งที่หอยแครงชอบฝังตัว

นายบัญชากล่าวต่อว่า จากข้อมูลทางวิชาการพบว่า หอยแครงสามารถวางไข่ได้ตลอดปี แต่ช่วงที่วางไข่มากจะอยู่ระหว่างช่วง ต.ค. ? ธ.ค. และช่วง มี.ค. ? ส.ค. ซึ่งเมื่อวางไข่แล้วลูกหอยแครงจะมีโอกาสแพร่กระจายไปตามกระแสน้ำที่พัดพาในรัศมี 10 กิโลเมตรจากปากแม่น้ำ และจะตกลงพื้นเคลื่อนตัวเพื่อหาแหล่งอาหารหรือสภาพที่เหมาะสมในการดำรงชีวิตเพื่อเติบโตเป็นหอยแครงเต็มวัยต่อไป

ปัจจุบัน ชาวประมงพื้นบ้านจะเก็บรวบรวมลูกหอยแครงขนาด 18,000 ? 20,000 ตัว/กิโลกรัม ขายเพื่อนำไปเลี้ยงต่อ 8 เดือน ? 1 ปี จนตัวเต็มวัยแล้วจึงส่งขายตลาด โดยราคาลูกหอยแครง จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 800 ? 1,000 บาท ซึ่งถือว่ามีมูลค่าสูงทางเศรษฐกิจ ดังนั้น การทำประมงลูกหอยแครงจึงเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่กำหนด โดยมาตรการในการอนุรักษ์หอยแครง เดิมเป็นมาตรการที่ออกตามความในพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 ได้กำหนดห้ามมิให้ทำการประมงคราดหอยประกอบเรือกล ในเขต 3,000 เมตร นับจากฝั่ง และห้ามจับลูกหอยแครง ที่มีขนาดต่ำกว่า 6 มิลลิเมตรไม่ว่าด้วยวิธีการใดๆ ต่อมาเมื่อมี พ.ร.ก. การประมง พ.ศ. 2558 ออกมาบังคับใช้ กำหนดให้สามารถทำการประมงหอยแครงในเขตทะเลชายฝั่งได้โดยการจับด้วยมือหรือเครื่องมือที่ไม่ใช้ประกอบเรือกล แต่ ยังคงห้ามเครื่องมืออวนลากหรือคราดหอยในเขตทะเลชายฝั่ง ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการทำลายล้างสูงเช่นเดิม

ส่วนในเขตทะเลนอกชายฝั่งให้ใช้คราดหอยประกอบเรือกลได้ แต่ต้องได้รับใบอนุญาตทำการประมงประมงพาณิชย์เท่านั้น ซึ่งเป็นการผ่อนผันให้มีความสอดคล้องกับวิถีประมงในปัจจุบัน และสอดคล้องกับข้อมูลทางวิชาการในการบริหารทรัพยากรสัตว์น้ำของลูกหอยแครง ที่จำเป็นต้องมีวิธีการกระจายปริมาณลูกหอยแครงไปยังแหล่งต่างๆ จึงจะก่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากลูกหอยแครงได้อย่างสูงสุด โดยใช้กฎหมายควบคุมเพื่อไม่ให้เกิดการแย่งชิงทรัพยากรทำให้เกิดความเป็นธรรมในการใช้ทรัพยากรอย่างทั่วถึง

เบื้องต้นได้หารือกับชาวประมงที่มีส่วนได้ส่วนเสีย แล้วเห็นร่วมกันว่า จะมีการกำหนดแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรหอยแครงอย่างยั่งยืน โดยใช้รูปแบบการขับเคลื่อนของคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดในการกำหนดมาตรการต่างๆ เช่น การกำหนดเครื่องมือ วิธี และพื้นที่ทำการประมงให้เหมาะสม ภายใต้พระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 อีกทั้ง จะมีการส่งเสริมให้มีการรวมกลุ่มจัดตั้งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นในชุมชน และประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกฎหมาย พ.ร.ก.ประมง 2558 เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการทรัพยากรลูกหอยแครงในธรรมชาติซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะให้ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้อย่างเหมาะสมต่อไป .


https://tna.mcot.net/latest-news-626464



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:32

vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger