SaveOurSea.NET

SaveOurSea.NET (http://www.saveoursea.net/forums/index.php)
-   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม (http://www.saveoursea.net/forums/forumdisplay.php?f=13)
-   -   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 4 มกราคม 2565 (http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=5775)

สายน้ำ 04-01-2022 02:58

สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 4 มกราคม 2565
 
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส และยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงในระยะนี้ไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรง ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน โดยอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 4 ? 9 ม.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 4 ? 9 ม.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย



https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds

สายน้ำ 04-01-2022 03:48

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ปลาลัง..เรืออวนลากต้นแบบ รักษ์แรงงานลดต้นทุนเชื้อเพลิง

https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds

หลังจากศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAFDEC) ใช้เวลา 1 ปีเต็มในการปรับปรุงเรือปลาลัง ที่ กรมประมง สนับสนุนงบประมาณ 2 ล้านบาท ซื้อเรืออวนล้อมมือสองมาเมื่อตุลาคม 2563 เพื่อปรับปรุงให้เป็นเรืออวนลากต้นแบบให้ชาวประมงนำไปประยุกต์ใช้กับเรือประมงของตนเองได้อย่างเหมาะสม ที่จะช่วยลดต้นทุนด้านแรงงาน เชื้อเพลิง และรักษาคุณภาพสัตว์น้ำบนเรือประมง บัดนี้เรือปลาลังพร้อมที่จะให้ชาวประมงเข้าไปศึกษาดูงานแล้ว

นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมประมง เผยว่า เรือปลาลังที่ได้รับการปรับปรุงมานี้ เป็นเรือที่สามารถใช้ทำการประมงได้หลายรูปแบบ ทั้งอวนลาก อวนลอย อวนจม และวางลอบ ที่มีการนำเครื่องทุ่นแรงระบบไฮดรอลิกใน การทำประมง นอกจากจะช่วยแรงงานบนเรือ ทำงานได้เบาแรง ไม่เหมือนการทำงานบนเรือแบบเก่าแล้ว ยังมีการปรับปรุงพื้นที่ใช้สอยภายในเรือที่ถูกสุขลักษณะ มีห้องน้ำ ห้องนอนที่ติดแอร์ มีห้องครัว ห้องรับประทานอาหารสำหรับลูกเรือ ทำให้ลูกเรือมีความสะดวกสบาย ปลอดภัย ไม่แออัด และพักผ่อนได้เต็มที่ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานประมงได้ เพราะความสะดวกสบาย ได้พักผ่อนจะจูงใจให้แรงงานมาทำงานด้านประมงมากขึ้น

นางมาลินี สมิทธิ์ฤทธี เลขาธิการและผู้อำนวยการฝ่ายฝึกอบรมศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า เรือปลาลังเป็นเรือที่ปรับปรุงมาเพื่อใช้ทดแทนเรือปลาลัง 1 ที่ใช้งานมานานกว่า 40 ปี โดยรัฐบาลญี่ปุ่นได้สนับสนุนงบประมาณ 2 ล้านบาทในการปรับปรุงเรือแบบเก่ามือสอง ให้มีห้องนอนที่อยู่อาศัยสำหรับลูกเรือที่สะดวกสบายกว่าเก่า พร้อมทั้งเพิ่มเครื่องมือทุ่นแรงในการทำประมง ที่มีทั้งกว้านเก็บกู้อวนด้วยระบบบไฮดรอลิก มีระบบเครนพ่วงต่อการประมงในรูปอื่นๆทำได้ที่เบ็ดราว อวนลอย อวนจม และวางลอบ

"นอกจากนั้น เรายังมีการปรับปรุงแผ่นตะเฆ่ใหม่ จากเดิมที่ชาวประมงใช้แผ่นไม้สี่เหลี่ยม มาเป็นตะเฆ่รูปตัววี ที่ช่วยถ่างปากอวนในกว้างกว่าเดิม และยังมีการติดตั้งระบบทำความเย็นรักษาคุณภาพสัตว์น้ำ แทนการใช้น้ำแข็ง ที่แต่เดิมการออกไปทำประมงแต่ละครั้งนาน 7-10 วัน เรือประมงต้องบรรทุกน้ำแข็งไปเป็นจำนวนมาก ทำให้เรือต้องแบกน้ำหนักมาก สิ้นเปลืองพลังงาน เมื่อมีระบบทำความเย็น เรือแบกน้ำหนักน้อยลง จะช่วยประหยัดค่าน้ำมันเชื้อเพลิงไปได้ในตัว"


https://www.thairath.co.th/news/local/2274870



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:35

vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger