SaveOurSea.NET

SaveOurSea.NET (http://www.saveoursea.net/forums/index.php)
-   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม (http://www.saveoursea.net/forums/forumdisplay.php?f=13)
-   -   พายุหมุนเขตร้อน - พายุสุริยะ (http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=1653)

สายชล 10-08-2011 12:51

พายุหมุนเขตร้อน - พายุสุริยะ
 


ไปอ่านจากเวปบอร์ดของกรมอุตุนิยมวิทยามา เป็นการพยากรณ์ที่น่าสนใจ


รู้ไว้ใช่ว่า...ใส่บ่าแบกหาบ


ลองอ่านดูนะคะ....



...................................


พายุหมุนเขตร้อน - พายุสุริยะ

โดย...คุณ TC-2011


ปัจจุบันโลกเราได้เปลี่ยนไปมากเเล้ว ข้อมูลจากเเผ่นดินไหว เมื่อปี 2002-2003 โดยเฉลี้ย มีเเผ่นดินไหวทั่วโลกรวมประมาณปีละ 400-500 ครั้ง เเต่ข้ามไปปี 2010 เมื่อปีที่เเล้วนี่เอง ไม่ถึงทศวรรษ มีเเผ่นดินไหวทั่วโลก พุ่งสูงขึ้นถึง 3000-5000 ครั้ง นี่เป็นเรื่องผิดปกติมาก



จากข้อมูลนี้คาดว่ามาจาก เเกนโลกเราเปลี่ยนเเปลงไป เมื่อนเเกนเปลี่ยน สนามเเม่เหล็กที่คอยปกป้องคุ้มครองโลก ที่คอยสะทอนอนุภาครังสีจากดวงอาทิตย์ อย่าง พายุสุริยะ ก็ลดลง ทำให้พายุสุริยะทะลุเข้ามาโลกมากขึ้น ส่งผลให้เปลือกโลกขยับ เเละสภาพอากาศเเปรปรวน


เเละเนื่องจากพายุสุริยะที่หลุดทะลุเข้ามายังโลกเพิ่มมากขึ้นทำให้ความร้อนเพิ่มสูงขึ้นด้วย โดยล่าสุด ปี 2011 ผลจากพายุสุริยะ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เร่งน้ำเเข็งที่ปกคลุมภูเขาหิมาลัยใกล้หมดลงเร็วขึ้น สังเกตได้ว่าระยะหลัง เเม่น้ำโขงเเห้งอย่างชัดเจนในระยะ1-2 ปีที่ผ่านมา ชนิดที่เดินข้ามฝั่งไปมา หรือเตะผลได้เลย


เเละน้ำเเข็งบริเวณต่างทั่วโลกตามข่าว เเละสารคดี ละลายเร็วขึ้นหลายเท่าตัว ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นโดยเฉพาะบริเวณเเปซิฟิค เเต่เเค่น้ำสูงขึ้นยังไม่พอ การละลายของน้ำเเขง ส่งผลให้มีปริมาณน้ำจึดเยอะขึ้น ทำให้ความเค็มของมหาสมุทรลดลง


ความเค็มของน้ำทะเล นั้น เป็นตัวกำหนดทำให้ความเร็วในการเคลื่อนตัวของกระเเสน้ำใต้มหาสมุทร ยิ่งมีความเค็มมากการเคลื่อนตัวก็จะเร็วมาก เเต่เนื่องจากความเค็มที่มากนี้เองทำให้กระเเสน้ำไหลเปลี่ยนหมุนเววียนเร็วยิ่งขึ้นทำให้ อุุณหภูมิที่น้ำทะเลโดยเฉลี่ยจะไม่ร้อนมากเพราะมีการถ่ายเทตลอดเวลา


เเต่ในปัจจุบัน ความเค็มของมหาสมุทร มีน้อยลง เพราะปริมาณนำ้จืดที่มากขึ้น ทำให้ความเร็วในการเคลื่อนตัวของกระเเสน้ำใต้มหาสมุทรเริ่มช้าลง ... เเละเมื่อช้าลงการถ่ายเทของกระเเสน้ำ ก็จะเก็บความร้อนได้มากขึ้น เเละมากขึ้น


ทั้งนี้คาดการณ์ว่า นับเเต่นี้เป็นต้นไปโดยเฉพาะ มหาสมุทรเเปซิฟิคไต้ฝุ่น นอกจากระดับนำ้ทะเลที่สูงกว่ามหาสมุทรบริเวณอื่นเเล้ว ก็จะมีความร้อนเพิ่มสูงขึ้น ... จากเดิมที่มีจำนวนพายุหมุนเขตร้อนก่อตัวมากที่สุดในโลกอยู่เเล้ว ก็จะยิ่งมีพายุหมุนเขตร้อนก่อตัวเพิ่มมากขึ้นไปอีกโดยเฉลี่ย 30-40 ต่อไป


บางทีในอนาคตอาจทะลุถึง 50 ลูก ในประวัติศาสตร์(นับตั้งเเต่ไม่รวมหย่อมความกดอากาศตำ้ในอดีต)ก็เป็นได้


จากนี้ไปเราจะได้เห็นพายุหมุนเขตร้อนก่อตัวไม่เว้นอาทิตย์ ในช่วงฤดูกาลหลักไต้ฝุ่น

เเละประเทศไทยมีเเนวโน้มสูงที่จะได้รับอิทธิพลจากพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวผ่านมากขึ้นด้วย


ที่กล่าวมานี้เป็นเพียงผลทางอ้อมของพายุสุริยะที่มีผลต่อ พายุหมุนเขตร้อนดังที่ได้อธิบายไว้


เเต่ก็ยังมีผลโดยตรงต่อพายุหมุนเขตร้อนด้วย ตรงนี้ผมยังมีข้อมูลไม่มากนักเเละยังทราบว่าพายุสุริยะจะผลกระทบโดยตรงต่อพายุหมุนเขตร้อนอย่างไร ปัจจัยอะไรของพายุสุริยะ ที่จะเป็นปัจจัยต่อพายุพายุหมุนเขตร้อน ซึ่งก็ขี้เกียจจะศึกษา ไว้จะหาเวลา


เเต่เท่าที่สังเกตในปีนี้พายุสุริยะมาถึงโลกทีไร พายุหมุนเขตร้อนรวมทั้งหย่อมความกดอากาศตำ่ส่วนใหญ่ไม่อ่อนกำลังลง ก็ทวีกำลังขึ้น ... ตรงนี้ละที่บอกว่ามันเป็นปัจจัยโดยตรงอย่างไร


ช่วงนี้ผมกำลังอินเทรนพายุสุริยะอยู่ เพิ่งมาสนใจปีนี้เอง ไปอ่านจากเว็บต่าง ๆ จากข่าว เเละจากสารคดี คิดว่านี้เป็นเรื่องใหญ่ ... เป็นปัญหาใหญ่ยิ่งกว่าพายุหมุนเขตร้อนเสียอีก เทียบกันเเล้วเล็กนิดเดียว


ข้อมูลล่าสุด อิทธิพลจากพายุสุริยะก็เป็นสาเหตุหนึ่งของการเริ่มปะทุของภูเขาไฟในฮาวาย ซึ่งนักธรณีวิทยาสหรัฐคาดว่า เกาะฮาวายจะขยายใหญ่ขึ้นเนื่องจากธารลาวาที่ไหลออกนอกชายฝั่ง ทำให้เเผ่นดินขยายออกไปมากขึ้น เเละจะปะทุใหญ่ในอนาคตอันไกล้นี้ ซึ่งตรงกับการทำนายเเละนิมิตตามข่าวที่ว่าก็ฮาวายจะใหญ่ขึ้น ...


เเต่เท่าที่กล่าวทั้งหมดยังไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่สุด เเต่เรื่องใหญ่ที่สุดเท่าที่อ่านเเละวิเคราะห์ได้คือ


จากพุทธทำนายตอนหนึ่งที่กล่าวที่กับเรื่องภัยพิบัติจากธรรมชาตื ช่วงหลังกึ่งพุทธกาลว่า ฯ



"ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาทโลก ดินฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเลโลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ"
เมื่อเเกะข้อความเเล้ว คำว่า "ยักษ์หิน" น่าจะหมายถึงเเผ่นเปลีอกโลก ที่ทำให้เเผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด คำว่า "เเผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล" น่าจะหมายถึงเเผ่นดินทรุดตัวลง ทำให้น้ำทะเลไหลเอ่อเข้ามา จากพุทธทำนายมันก็เป็นจริงในปัจจุบัน


เเละประโยคหนึ่งที่ท่าน ได้กล่าวไว้ในพุทธทำนายคือ "ดูก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อยมาก" พอเเกะเเล้ว คำว่าเวลานั้น ก็คือช่วงหลังกึ่งพุทธกาล คือปี 2500 เป็นต้นไป เเละคำว่า "เวลานั้นพลโลกเหลือน้อยมาก" ก็น่าจะหมายความว่ามีอยู่สิบคน รอดอยู่ประมาณ 1 คน 2 คน คือท่านใช้คำว่าน้อยมาก เเต่ถ้าน้อย เฉย ๆ ก็น่าจะ 3 คน 4 คน เเละประโยคที่ยกมาว่่านี้ ก็เป็นประโยคที่กล่าวหลังเรื่องเกี่ยวกัยภัยพิบัติธรรมชาติ เเละภัยจากมนษย์เสียด้วย


เเต่ผมอ่านดูเต็มเรื่องพุทธทำนายเเล้ว ไม่ว่าจะเรื่องภัยพิบัติจากมนุษย์ เเละภัยพิบัติจากธรรมชาติ เมื่อเเกะเเต่คำ ที่ท่านอุปมา - อุปมัย ดูเเล้ว เเสดงให้เห็นความเเม่นยำของพุทธองค์ว่า ที่คาดการณ์ไปเเล้วนั้น ถูกไปเเล้ว 100 เปอร์เซนต์ เหลือเพียงเเต่อุปมามัยที่ผมเเปลเอาว่า น่าจะหมายถึงสงครามโลกครั้งที่ 3 ข้อเดียวเท่านั้น



ไปๆมาๆ จากเรื่องพายุสุริยะกลายเป็นพุทธทำนาย ได้นะครับ งงตัวเองเหมือนกัน



...................................


ขอบคุณข้อมูลจาก....http://www2.tmd.go.th/webboard/show....ology&No=10998

lazyoctopussy 11-08-2011 05:54

ขอบคุณนะคร๊าบบบ...อีกหนึ่งความรู้ที่เอาไว้เพิ่มรอยหยักในสมองของน้องหมึก...ขอเอาไปเล่าให้บรรดาลุงๆป้าๆบนรถทัวร์ฟังบ้างนะก๊าบ ^____^

สายชล 12-08-2011 20:17



ด้วยความยินดีจ้ะน้องอ้อย...:)



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:02

vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger