รถไฟเริ่มเคลื่อนขบวนขึ้นเหนือ เลาะเลียบแม่น้ำอูรูบัมบาที่เชี่ยวกราก... http://i835.photobucket.com/albums/z...erurail_11.jpg เกาะแก่งน้ำเชี่ยวกรากไหลโครมคราม...ในช่วงหน้าร้อน ที่น้ำไม่ไหลเชี่ยวกรากอย่างช่วงนี้ จะมีการล่องเรือคะยักในแม่น้ำนี้ด้วย http://i835.photobucket.com/albums/z...erurail_14.jpg ระหว่างทาง...ทั้งสองฟากแม่น้ำ มีชากโบราณสถานของอินคาให้เห็นเป็นระยะๆ ทั้งตามเชิงเขา และบนภูผา http://i835.photobucket.com/albums/z...erurail_13.jpg ไม่มีใครง่วงเหงาหาวนอน เพราะตื่นเต้นกับภาพสวยงามที่ได้เห็น http://i835.photobucket.com/albums/z...erurail_15.jpg |
ระหว่างทาง...แม้ไม่มีสถานี รถไฟก็จอดให้นักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ ลงจากรถไฟ เพื่อใช้เส้นทางเดินเท้าตามทางเดินของอินคา (Inca Trail) เพื่อเดินจากจุดนี้ไปยังมาชูปิคชู เส้นทางเดินเท้าของอินคานั้น มีหลายเส้นทาง ใช้เวลาแตกต่างกันไป เส้นทางที่ไกลที่สุด คือ จากคุสโกจนถึงมาชูปิคชู ใช้เวลา 4-7 วัน หรือ เส้นทางที่สั้นที่สุด ก็คือ เส้นทางที่เราเห็นนักท่องเที่ยวเดินลงจากรถไฟ (กม. 104) ไปถึงมาชูปิกชู ซึ่งจะใช้เวลาราว 3-4 ชั่วโมง http://i835.photobucket.com/albums/z...Inca-Trail.jpg ถ้าสนใจเข้าไปอ่านได้ที่นี่ค่ะ... http://www.incatrailperu.com/ http://www.andeantravelweb.com/peru/...ncatrail4.html |
อยากกลับไปอีกกกกกก
|
อยากกลับไปด้วย...:) |
ระหว่างทาง...เราเห็นร่องรอยพังทลายของทางรถไฟ และตลิ่งริมน้ำ ที่ถูกน้ำท่วมหนักในปี 2553 ซึ่งครั้งนั้น ทางการต้องสั่งปิดมาชูปิกชู เนื่องจาก การเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเขตมาชูปิกชูไม่สะดวก ในครั้งนั้น มีนักท่องเทียวติดอยู่ที่มาชูปิกชูเป็นพันคน ต้องมีการอพยพออกไปโดยใช้เฮลิคอปเตอร์ เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกับ 45 นาที และแล้ว...เราก็เดินทางมาถึงสถานีรถไฟของหมู่บ้าน Agaus Calientes ที่อยู่ใกล้ๆเชิงเขาอันเป็นที่ตั้งของมาชูปิกชู ที่นั่น มีเด็กจากโรงแรมมารอรับเรา พร้อมกับรถเข็นกระเป๋าอีกหนึ่งคัน แล้วเขาก็บอกให้เราเดินตามเขาไปโรงแรม El Santuario Inca ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำอูรูบัมบา ไม่ไกลจากสถานีรถไฟนัก http://i835.photobucket.com/albums/z...erurail_18.jpg แม่น้ำอูรูรัมบาที่ไหลผ่านหมู่บ้านแห่งนี้ ยิ่งไหลแรงกว่าที่เราเห็นมาแล้วมากมายนัก เสียงดังโครมครามๆ จนเราต้องตะโกนคุยกัน http://i835.photobucket.com/albums/z...erurail_17.jpg |
ถึงแล้วค่ะ โรงแรม El Santuario Inca...เป็นโรงแรมที่อยู่ใกล้เชิงเขาที่ตั้งของมาชูปิกชูเกือบที่สุด ถึงจะเป็นตึกแถว แต่สภาพดีและสะอาดมากค่ะ http://i835.photobucket.com/albums/z...el-View_02.jpg เราลงทะเบียนเสร็จ ก็นำสัมภาระขึ้นไปเก็บบนห้องพัก ที่ใหญ่ใช้ได้ทีเดียวค่ะ http://i835.photobucket.com/albums/z...el-View_05.jpg ฉันชอบผ้าเช็ดตัว ที่ถูกพับเป็นรูปสัตว์ต่างๆ น่ารักมากๆค่ะ... http://i835.photobucket.com/albums/z...el-View_07.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...el-View_08.jpg |
จากห้องพัก...ฉันได้ยินเสียงแม่น้ำอูรูบัมบาส่งเเสียงครืนครัน จนอดจะเปิดประตูระเบียงออกไปดูไม่ได้...โอ้ แม่เจ้า !!! แก่งน้ำเกรี้ยวกราดจริงๆค่ะ... http://i835.photobucket.com/albums/z...el-View_15.jpg จากมุมนี้...มองเห็นเขาที่ตั้งของมาชูปิกชู ที่อยู่ระหว่างช่องเขา ได้ชัดเจนทีเดียวค่ะ เสียดายวันนี้หมอกจัด เลยไม่เห็นมาชูปิกชูที่อยู่บนยอดเขา... http://i835.photobucket.com/albums/z...el-View_16.jpg มีรถบัสที่เป็นพาหนะใช้ขึ้นลงมาชูปิกชู วิ่งผ่านโรงแรมไปๆมาๆ... http://i835.photobucket.com/albums/z...el-View_18.jpg เรารีบเก็บของเข้าห้องน้ำ แล้วเตรียมไปขึ้นรถบัสที่จอดรออยู่ใกล้สะพานรถไฟ เพื่อขึ้นสู่ยอดเขา ไปเยี่ยมเยือนมาชูปิกชูกัน... http://i835.photobucket.com/albums/z...el-View_17.jpg |
ไกด์มารับเราไปขึ้นรถบัส ที่จอดคอยอยู่ พอผู้โดยสารนั่งเต็มรถ คนขับก็เริ่มเคลื่อนรถออกไปตามถนน ผ่านหน้าโรงแรมเรา ข้ามสะพานไปยังอีกฝั่งหนึ่ง แล้วก็เริ่มไต่ขึ้นเขาไปตามถนนเล็กๆ ซึ่งเหมือนผ้าพับไปพับมา พอมีรถสวนมา รถคันใดคันหนึ่ง ต้องหาที่หลบในเวิ้งที่ทำไว้... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_02.jpg กว่าจะถึงบริเวณที่จอดรถเชิงมาชูปิกชูได้ ก็เล่นเอาลุ้นแทบตาย เพราะถนนไต่เขาขึ้นไปแบบเสียวไส้ แม้คนขับจะเก่งมากๆก็ตามค่ะ... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_03.jpg มีโรงแรมและร้านอาหาร ตั้งอยู่ที่เชิงเขาก่อนจะขึ้นมาชูปิกชู ซึ่งเป็นของทางเขตอนุรักษ์มาชูปิกชูเอง เราผ่านป้ายที่ยูเนสโกประกาศว่า มาชูปิกชูได้เป็นมรดกโลกของมนุษยชาติ มาพร้อมกับเมืองคุสโก มาตั้งแต่ปี 2526 เราผ่านประตูเก็บตั๋วเข้าไป...ทราบว่าทางการได้จำกัดคนเข้าเยี่ยมชมมาชูปิกชู ไม่เกินวันละ 500 คน เพื่อให้การจัดการควบคุมดูแลผุ้เข้าชมได้ง่าย ไม่ให้แออัดยัดเยียด และไม่ให้มาชูปิกชูบอบช้ำจนเกินไป เข้าไปแล้ว เรายังต้องเข้าคิวเพื่อรอเข้าไปเยี่ยมชม ซึ่ง ณ.จุดนี้ เราไม่สามารถเห็นมาชูปิกชู เราจึงใช้เวลาว่าง ถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ที่เห็นอยู่เบื้องหน้าและเบื้องล่างฆ่าเวลาไป.... |
เราซูมลงไป จึงเห็นว่าข้างล่างนั่น เป็นสะพานข้ามแม่น้ำอูรูบัมบา ที่เราเพิ่งข้ามผ่านมา และหน่วยบำรุงรถไฟและที่พักรถไฟ ที่ให้บริการเดินทางกับนักท่องเที่ยว... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_06.jpg ถึงคิวเราเดินเข้ามาชูปิกชูแล้วค่ะ...ไกด์พาเราเดินขึ้นไปตามทางเล็กๆ จนถึงด้านบน ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างของป้อมปราการ ที่ยังอยู่ในสภาพที่ดีและสวยงามมาก http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_07.jpg ณ.จุดนี้ เราก็ยังมองไม่เห็นภาพมาชูปิกชูอยู่ดี... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_08.jpg |
แต่พอไกด์นำเราไปยืนตรงชะง่อนผาที่ยื่นออกไป...เราก็ตะลึงกับภาพ ที่เห็นอยู่เบื้องหน้า ช่างสวยมหัศจรรย์เสียจริงๆค่ะ http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_09.jpg มาชูปิกชู ซึ่งภาษาพื้นเมือง แปลว่า "ยอดเขาผู้ชรา หรือ ยอดเขาเก่า (Old Peak)" ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าฉัน http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_10.jpg |
ไปอีก...ไปด้วยไปด้วย!!!!
|
555555....ไปค่ะไปกัน...:) |
มีคนเรียกชื่อมาชูปิกชูอีกอย่างหนึ่งว่า "เมืองที่สาปสูญของอินคา (The Lost City of Inca)"...ซึ่งไกด์ที่น่ารักของเรา ได้เล่าให้ฟังถึงที่ไปที่มาของชื่อนี้ว่า... ในราวปี ค.ศ.1450 จักรพรรดิ์ปาชากูตี (Pachacuti) ผู้ยิ่งใหญ่ผู้รวบรวมดินแดนในแถบเทือกเขาแอนดิส ตั้งจักรวรรดิ์อินคาขึ้น โดยได้ตั้งเมืองคุสโกเป็นเมืองเอก จักรวรรดิ์อินคาแผ่ไพศาลเรื่อยมา จนูถึงวันล่มสลาย ในปี ค.ศ.1572 จากการบุกยึดครองของชาวสเปญ เชื่อกันว่า...ในระหว่างที่มีพระชนม์ชีพอยู่ จักรพรรดิ์ปาชากูตี เป็นผุ้สร้างมาชูปิกชูขึ้นมา บนยอดเขาสูงราว 2,430 เมตร (7,970 ฟุต) ในหุบเขาแห่งลุ่มน้ำอูรูบัมบา แต่ชาวสเปญผู้รุกราน ก็ไม่เคยรู้ว่ามีสิ่งมหัศจรรย์นี้อยู่บนโลก จนถึงวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 1911 นักประวัติศาสตร์ชาวอเมริกันชื่อ ไฮรัม บิงแฮม ที่สาม (Hiram Bingham the III) ได้ค้นพบมาชูปิกชู ในสภาพที่ถูกทิ้งร้าง และรกรุงรัง เขาขนานนามมาชูปิกชูว่า "เมืองที่สาปสูญของอินคา (The Lost City of Incas)" |
คนที่นั่นดูเค้าใส่ใจกับบ้านเมืองเค้าดีนะครับ....น่าอยู่ไปอีกแบบจัง
|
มีการสันนิษฐานกันว่า "มาชูปิกชู สร้างขึ้นเพื่ออะไร"...บ้างก็ว่า เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์..เป็นวิหารสุริยเทพ...เป็นที่อยู่ของนักบวชและนางผู้ถูกเลือก...เป็นป้อมปราการ ไว้ต่อสู้ขัดขวางศัตรูผุ้รุกราน และ ฯลฯ แต่ในที่สุด ก็สรุปได้ว่า ที่นี่เป็น พระราชวังฤดูร้อนของจักรพรรดิ์ ที่สร้างไว้ใหญ่โต เพื่อให้จุคนได้ถึง 1,200 คน สำหรับทั้งราชวงศ์ ข้าราชบริพาร นักบวช หญิงรับใช้ และคนงานที่ทำหน้าที่ปลูกข้าว พืชผัก ผลไม้ และเลี้ยงสัตว์ เพื่อนำมาใช้เลี้ยงดูผู้คน ที่อาศัยอยู่ในพระราชวังแห่งนี้... ความที่อยู่ในที่ห่างไกล...จึงมีการทำเส้นทางเดินโยงใยกับมาชูปิกชู โดยมีเส้นทางหลัก คือเส้นทางที่ออกมาจากตัวเมืองคุสโก ที่อยู่ไกลออกไป 80 กม. และสร้างเส้นทางเดินจากหมู่บ้านต่างๆมาเชื่อมต่อ กลายเป็นเส้นทางเดินของชาวอินคา (Inca Trail) ที่อยู่มาจนถึงปัจจุบันนี้... ทางเข้าหลักของมาชูปิกชู คือด้านที่เป็นป้อมปราการด้านใต้ ที่เรียกว่า House of the Terrace Caretaker ที่ไกด์ได้พาเราเข้ามานั่นเอง...การที่มาชูปิกชูตั้งอยู่ในหุบผา และการที่จะเข้ามายังมาชูปิกชูได้ ต้องเข้ามาจากด้านที่สูงกว่าเท่านั้น จึงอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้มาชูปิกชูอยู่พ้นสายตาของผู้คนมาช้านาน |
ไกด์ที่น่ารักของเรา ได้อธิบายถึงผังเมืองของมาชูให้เราได้รับทราบ http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_30.jpg อาณาบริเวณของมาชูปิกชู นั้น แบ่งออกเป็น 3 เขต ใหญ่ๆ.... เขตแรก...เป็นส่วนเกษตรกรรม ที่ใช้ทำนาและปลูกพืชผักผลไม้ โดยทำเป็นนาขั้นบันได ตามยอดเขาและไหล่เขา และเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นพวกลามา อัลปากา และ วิกุนยา ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่อยู่ด้านบนยอดเนิน และด้านล่างที่เป็นหน้าผา |
ส่วนนี้จะเป็นที่อยู่อาศัยของพวกเกษตรกร ที่ทำนาทำไร่ เพื่อนำผลผลิตมาเลี้ยงคนทั้งเมืองด้วย http://i835.photobucket.com/albums/z...Picchu_129.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_59.jpg |
เขตที่สอง...เป็นเขตของนักบวชและหญิงบริสุทธิ์ผู้ถูกเลือก ซึ่งมีบ้านพักอยู่บนยอดเขา "ไวนาปิคชู (Wayna Picchu)" ซึ่งแปลว่า "ยอดเขาผู้เยาว์วัย (Young Peak) ที่อยู่สูง 2,720 เมตร (8,920 ฟุต) จากระดับน้ำทะเล หรือสูงกว่ามาชูปิคชู ราว 360 เมตร ซึ่ง ณ.จุดนี้ถ้าปีนขึ้นไปบนยอดเขาได้ เราจะมองเห็นมาชูปิคชูและหุบเขาอูรูบัมบาได้อย่างชัดเจน... โอ้...ช่างเป็นเขาที่สูงและชันอะไรอย่างนั้น...ฉันบอกกับไกด์ว่า ฉันอยากถ่ายภาพมาชูปิคชูที่มองจากมุมสูง ฉันจะขอปีนขึ้นไปบนยอดเขาเล็กๆเตี้ยๆ ที่ชื่อ ฮวยนาปิคชู (Huayna Picchu) ที่ตั้งอยู่ข้างๆไวนาปิคชูก็พอแล้ว เพราะคนแก่ๆอย่างฉัน คงไม่สามารถขึ้นไปพิชิตยอดเขาไวนาปิคชู ที่สูงชันได้... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_54.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_41.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_13.jpg |
เขตที่สาม...เป็นเขตในเมือง ซึ่งมีกำแพงกั้นระหว่างเขตเกษตรกรรม และเขตศาสนา ภายในเขตเมือง ยังแบ่งเป็นเขตที่ประทับของกษัตริย์ ราชวงศ์...เขตศักดิ์สิทธ์ ที่เป็นที่ตั้งของวิหารสุริยเทพ...เขตบ้านพักข้าราชบริพาร โรงครัว โรงอาบน้ำ ฯลฯ ตรงกลางเป็นลานกว้าง สิ่งปลูกสร้างตั้งอยู่บนทางลาดลดหลั่นกันไป ตามความสำคัญ มีการสำรวจ และพบว่าในเขตเมืองนี้ มีสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดราว 140 หลัง http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_24.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_23.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_11.jpg |
สถานที่ที่น่าสนใจในเขตราชฐานของมาชูปิกชูที่จะต้องไปชม คือ "วิหารสุริยเทพ" Temple of the Sun) ซึ่งเป็นสถานที่สักดิ์สิทธิ์ ที่เดิมเข้าไปได้เฉพาะนักบวชและชาวอินคา เท่านั้น ตัวอาคารเป็นรูปทรงพระจันทร์ครึ่งดวง ภายใน จะมีหินที่ใช้สำหรับนำสัตว์มาบูชายันต์ มีหน้าต่างที่ยามปลายฤดูหนาว-เริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ แสงแดดจะส่องลงมาต้องแผ่นหิน ที่มีการบูชายันต์สัตว์ เพื่อขอให้สุริยเทพอำนวยพร ให้การเพาะปลูกได้ผลดี http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_38.jpg สถานที่ที่น่าสนใจอีกที่หนึ่งของมาชูปิกชู คือ "ลานศักดิ์สิทธิ์ (Sacred Plaza)" ซึ่งเป็นลานกว้าง มีหินวางไว้เป็นจุดๆ ไกด์บอกว่าหินที่ปลายตัดและขัดเรียบนั้นคือ "นาฬิกาแดด" http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_40.jpg ฝนเริ่มตกปรอยๆลงมา เราเลยนั่งพักกันตรงลานศักดิ์สิทธิ์ และฟังไกด์อธิบายเกี่ยวกับลานแห่งนี้ไปด้วย http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_44.jpg "นาฬิกาแดด" ตอนนี้คงใช้ไม่ได้ เพราะไม่มีแดดส่องลอดเมฆฝนมาให้เราเห็นเลย... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_47.jpg |
วิหารสามด้าน (The Temple of the Three Sides) ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกของ "ลานศักดิ์สิทธิ์ (Sacred Plaza) http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_45.jpg วิหารแห่งหน้าต่างสามบาน (Temple of the Three Windows) อยู่ทางด้านตะวันออกของจัตุรัสศักดิ์สิทธิ์ เมื่อวันสิ้นสุดฤดูหนาว และจะเป็นวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ แสงอาทิตย์จะส่องต้องหน้าต่างสามบานนี้ http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_46.jpg ภาพหน้าต่างทั้งสามบานของวิหารฯ http://i835.photobucket.com/albums/z...icchu_46_1.jpg ช่องหน้าต่างของอาคารส่วนที่ไม่ได้ห้ามเราเข้าไป (ลํกษณะคล้ายกับหน้าต่างในวิหารฯ) เมื่อมองผ่านหน้าต่างออกไป...จะเห็นทิวทัศน์ภายนอก ที่สวยงามมาก... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_50.jpg |
ใกล้ถึงไคลแมกซ์ของทริปแล้ว....
|
เหนือลานศักดิ์สิทธิ์...เป็นเนินเขาสูงขึ้นไป ฉันเห็นแล้วแทบไม่อยากจะขึ้น เพราะปวดเท้าปวดขาไปหมดแล้ว แต่บัดดี้ของฉันก็คะยั้นคะยอให้ขึ้นไป เอ้าขึ้นก็ขึ้น พอเห็นสิ่งที่อยู่ยอดเนิน ก็ถือว่าคุ้มกับการปีนบันไดสูงๆชันๆมาก เพราะข้างบนนั้นมีหินเป็นแท่งรูปทรงประหลาด ทำเป็นหินชั้นๆ 3 ชั้น ไกด์บอกว่านั่นเป็นทั้ง นาฬิกาแดด และ ปฎิทิน ของอินคา หรือที่เรียกในภาษาพื้นเมืองว่า Intihuatana Stone ในภาษาพื้นเมือง "inti" แปลว่า "พระอาทิตย์"...."huata" แปลว่า "ผูก" เมื่อรวมกัน Intihuatana Stone จึงหมายถึงหินที่ผูกเข้ากับ(การเดินทางของ) ดวงอาทิตย์ ซึ่งก็หมายถึง นาฬิกาบอกเวลา และ ปฏิทินตามสุริยคตินั่นเอง การใช้ Intihuatana Stone จึงใช้แสงแดดที่ส่องผ่านหินก่อนนี้ ซึ่งจะเป็นทั้งเป็น นาฬิกาแดด ที่บอกเวลาของวัน และ ขณะเดียวกัน ก็เป็น ปฏิทิน ซึ่งจะบอกฤดูกาลของปี คือ ดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งตรงได้ฉากกับเส้นศูนย์สูตรของโลกพอดี เป็นวันที่กลางวันและกลางคืนเท่ากัน หรือที่เรียกว่า Equinox ซึ่งจะตกในราววันที่ 21 มีนาคม และ 21 กันยายน ของปี ในขณะเดียวกัน ก็บอกช่วงระยะเวลาของปี ที่ดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรมากที่สุด หรือที่เรียกว่า Solstice ซึ่งตกในราววันที่ 21 มิถุนายน และ 22 ธันวาคม ซึ่งจะเป็นช่วงที่กลางวันนานกว่ากลางคืน ในวันนี้ แสงแดดจะส่องทั่วหินอันที่อยู่สูงที่สุด เป็นเวลานานที่สุด ซึ่งชาวอินคาจะทำพิธีผูกพระอาทิตย์ไว้ ไม่ให้เคลื่อนที่ไป จนกว่าจะทำพิธีกรรมบูชา และขอพรจากพระอาทิตย์สำเร็จเสร็จสิ้น |
บนยอดเนิน Intihuatana Stone...เมื่อมองผ่านหน้าต่าง ส่วนที่ไม่ได้ห้ามเราเข้าไป จะเห็นทิวทัศน์ภายนอก ที่สวยงามมาก... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_50.jpg เขตพระราชฐาน ที่มองเห็นจากยอดเนิน http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_41.jpg เราเดินลงจากเนินเพื่อลงไปดูส่วนที่เป็นราชฐาน และที่พักของข้าราชบริพาร http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_36.jpg อาคารที่พักซึ่งทำเหมือนเรือนแถวอยู่ริมหน้าผาด้านตะวันออก... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_35.jpg |
ห้องอาบน้ำรวม ที่ผันน้ำมาจากน้ำแหล่งน้ำซับใต้ดิน ที่อยู่บนยอดเขาด้านตะวันตกของมาชูปิกชู http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_37.jpg น้ำบนมาชูปิกชูไหลรินตลอดปีตลอดชาติ ไม่มีวันเหือดหาย แสดงถึงความเป็นอัจฉริยะของชาวอินคาได้เป็นอย่างดี มีบ่อพักน้ำ ในแต่ละชั้น ลดหลั่นจากด้านบนมาด้านล่าง... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_60.jpg ยอดเขาที่เป็นแหล่งต้นกำเนิดของน้ำ ที่นำมาใช้หล่อเลี้ยงผู้คนในมาชูปิกชู... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_59.jpg |
กองหินระเกะระกะ ที่ตั้งอยู่ปลายเนินด้านใต้ของที่ตั้งปฏิทินสุริยคตินั้น ไกด์บอกว่าเป็นหินที่ถูกขนมาไว้ที่นี่ เพื่อใช้สร้างพระราชวัง อาคารและกำแพง ที่อยู่บนมาชูปิกชุ แต่จะตัดหินและขนมาได้อย่างไร ยังเป็นเรื่องที่เป็นปริศนาอยู่ http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_64.jpg หินแต่ละก้อนไม่ใช่เล็กๆเลยนะคะ http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_65.jpg แล้วยังจะตัด ขัด และทำสลักหินแต่ละก้อนอีก ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย การต่อหินแต่ละก้อนที่สนิทแนบกันมาก ขนาดสอดบัตรเครดิตเข้าไปไม่ได้นี้ เป็นเทคนิคที่ชาวอินคาใช้ เชื่อกันว่าเมื่อเกิดแผ่นดินไหว หินพวกนี้จะไม่ล้มหรือแยกจากกัน แต่จะเคลื่อนไปตามแรงไหวของแผ่นดิน และกลับมาตั้งดั่งเดิม เมื่อแผ่นดินหยุดไหว... นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมอาคารต่างๆบนมาชูปิกชู จึงไม่พังทลายหรือเสียหาย ทั้งที่ในเขตนี้ของเปรู เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงมาแล้วหลายครั้ง หลังจากมาชูปิกชูถูกสร้างขึ้นมา... |
พวกเราทุกคนต่างประทับใจ ในความมหัศจรรย์ของมาชูปิคชู ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นมรดกโลก และเป็นสิ่งมหัศจรรย์ใหม่ 1 ใน 7 ของโลก....เวลาที่เราได้ใช้ไปเพียงครึ่งวันสำหรับวันนี้ ไม่เพียงพอเลย สำหรับการได้มาเยี่ยมเยือนมาชูปิกชู เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้...เราจะให้เวลาทั้งวันกับมาชูปิกชู..... http://i835.photobucket.com/albums/z...hu_17-Copy.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_14.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_20.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_57.jpg เย็นนั้น...พอลงจากมาชูปิกชู ถึงที่พักแล้ว ฉันหมดแรงที่จะขยับเขยือนไปไหนได้อีก ฉันและบัดดี้ลาน้องๆ(ที่จะไปเดินหาอาหารเย็นอร่อยๆทานกัน) แล้วก็เข้าห้องพัก อาบน้ำแล้วขึ้นเตียงสลบไสลไม่ได้สติไปตลอดคืน |
ไวนาปิคชู (Wayna Picchu) เช้าวันใหม่...เรามีนัดกับไกด์ เพื่อไปเยือนมาชูปิคชูกันอีกรอบ เป้าหมายสำคัญคือการไปปีนยอดเขา ฮวยนาปิคชู (Hauyna Picchu) สำหรับฉันและบัดดี้ และ ไวนาปิคชู (Wayna Picchu) สำหรับน้องๆที่เหลือ... หลังอาหารเช้า เราขึ้นสู่มาชูปิคชูด้วยรถบัสเช่นเคย วันนี้ ดูทุกคนจะกระปรี้กระเปร่า หลังจากที่ได้นอนหลับสนิทกันมาทั้งคืน http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_04.jpg คิวที่จะเข้าไปชมมาชูปิคชูในรอบเช้านี้ มากมายทีเดียวค่ะ... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_05.jpg ผ่านเข้าประตูไปได้ เราโชคดีที่ไม่ต้องปีนขึ้นไปที่ป้อมปราการ House of the Terrace Caretaker แต่แยกเดินลงไปด้านล่าง ที่เมื่อวานยังไม่ได้เดินลงไปเที่ยวชม... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_07.jpg |
ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองด้านบน..เป็นมุมมองใหม่ๆที่ไม่ได้เห็นเมื่อวันวาน ดูช่างยิ่งใหญ่อลังการไปอีกแบบหนึ่ง http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_08.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_10.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_09.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_11.jpg |
เราเดินไปบนหญ้า ตามทางที่กั้นเชือกไว้ไป สลับกับการมองขึ้นมองลง ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างเพลิดเพลิน... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_12.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_13.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_14.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_19.jpg |
|
สวยอย่างนี้ อดใจที่จะขอถ่ายภาพหมู่ไม่ได้... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_24.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_25.jpg |
ตัวลามาและอัลปากา และเล็มหญ้ากิน อยู่ในบริเวณนาขั้นบันไดอย่างสบายใจ... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_20.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_21.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_17.jpg |
ส่วนที่เป็นลานศักดิ์สิทธิ์และเนินปฏิทินสุริยคติ ในอีกมุมมองหนึ่ง http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_26.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_27.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_28.jpg |
เราเดินผ่านมาชูปิคชูขึ้นไปทางเหนือ จนถึงทางดินปนหินขรุขระ ซึ่งเป็นทางผ่านเข้าไปยังฮวยนาปิคชู และ ไวนาปิคชู ฉันเห็นทางที่จะไปแล้ว ชักจะเริ่มสยอง.... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_29.jpg ประตูทางเข้า มีรั้วรอบขอบชิด http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_30.jpg ในแต่ละวัน จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าได้ 2 รอบๆละไม่เกิน 200 คน รวมทั้งวันไม่เกิน 400 คน ผู้ที่จะเข้าไปได้จะต้องมีตั๋ว ลงทะเบียน เซ็นชื่อทั้งขาเข้าและขาออก http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_31.jpg แผนที่การเดินทางที่ติดไว้ข้างประตูทางเข้า http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_32.jpg |
พอพ้นประตูไปได้...เราจะต้องเดินต่ำลงไปในหุบผา ที่สองข้างทางเป็นป่ารกรุงรัง http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_33.jpg เดินลง...แล้วก็เดินขึ้นไปตามถนนแคบๆ ที่พอเดินสวนกันได้ บางที่ทำเป็นบันไดไว้ให้ แต่บางที่ก็เป็นหินหรือดินให้ป้ายปีนขึ้นไป ข้างหนึ่งเป็นเหวลึก ข้างหนึ่งเป็นหน้าผาหรือป่าทึบ http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_34.jpg ป่าไม้ที่นี่เป็นป่าดึกดำบรรพ์ ที่มีไม้แปลกๆให้เห็นไปตลอดทาง http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_35.jpg |
เดินขึ้นๆลงๆไปสัก 15 นาที ก็ถึงทางแยก ไกด์บอกฉันว่า ถ้าเราเลี้ยวซ้าย...จะไปฮวยนาปิคชู ซึ่งเป็นยอดเขาเล็กๆ ความสูงจากจุดที่เรายืนเพียง 100 เมตร ใช้เวลาไปกลับราว 1ชั่วโมง แต่ถ้าเลือกที่จะเดินตรงไป ก็จะไปไวนาปิคชู ซึ่งจะต้องปีนเขาขึ้นไปในแนวดิ่ง สูงราว 300 เมตร จะต้องใช้เวลาราว 2-3 ชั่วโมง เขาถามฉันว่าจะเลือกทางไหน จากที่ตั้งใจจะไปฮวยนาปิคชู...ฉันเปลี่ยนใจ จะเดินไปไวนาปิคชูแทน เพราะคิดว่าไหนๆก็มาทั้งที ต้องให้สุดๆไปเลย น้องๆขึ้นไวนาปิคชูได้ ฉันก็น่าจะขึ้นได้เหมือนกัน บัดดี้ของฉันทำท่าไม่เห็นด้วย แต่คงไม่อยากถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว จึงยอมเดินตามฉัน ปีนขึ้นไวนาปิคชูด้วยกัน http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_38.jpg เดินไปได้สักพักเดียว ฉันกับบัดดี้ก็เริ่มเหนื่อยและเมื่อยขา จนต้องหยุดยืนพักริมทาง ที่วิวข้างล่างเป็นแม่น้ำอูรูรัมบา กำลังไหลผ่านโตรกเขาสูงตะหง่าน http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_40.jpg ขณะฉันยังยืนหอบแฮ่กๆอยู่นั้น น้องๆเดินลงไปถึงช่องเขาข้างล่าง ที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างมาชูปิคชูและไวนาปิคชู... http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_36.jpg จากจุดนี้....เราจะต้องเริ่มไต่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อไปให้ถึงยอดเขาไวนาปิคชู ฉันเห็นเมฆหมอกลอยระเรี่ย ลงมาปกคลุมในบริเวณนั้นหนาขึ้นทุกที http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_37.jpg |
ไกด์คงสงสารคนแก่อย่างฉัน จึงอาสาสะพายกระเป๋าสัมภาระของฉัน เหลือให้ฉันถือกล้องเพียงอย่างเดียว...แต่แค่กล้อง ฉันก็รู้สึกหนักอึ้งเหลือเกิน http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_41.jpg ฉันยังยืนพักเหนื่อยชมวิวอยู่....มองไปทางขวามือ เห็นทางซิกแซก ที่รสบัสขับขึ้นมาบนยอดมาชูปิกชู ช่างตัดถนนเก่งจริงๆนะคะ http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_42.jpg อู้ววววว...ออกเดินทางต่อ แต่ลงเขามาจนสุด พอจะเริ่มต้นปีนขึ้นเขาในแวดิ่ง ฉันขอหายใจลึกๆยาวๆหน่อย http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_43.jpg เดินต่อค่ะ...มองลงไปเห็นจุดที่เคยยืนพัก และทางที่เดินผ่านมาแล้ว โอ้ ขึ้นมาได้อย่างไรกันคะเนี่ย http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_52.jpg |
มองสูงในระดับสายตา...ฉันเห็นมาชูอยู่ในสายหมอก นี่แสดงว่าเกือบชั่วโมงที่เดินมา ฉันเดินลงจากยอดมาชูปิกชู แล้วก็ไต่ขึ้นมาบนไวนาปิกชูได้เท่าระดับยอดมาชูปิกชูเท่านั้นเอง นั่นแสดงว่า ระยะทางที่ฉันจะปีนขึ้นยอดไวนาปิคชู ไม่ใช่เพียง 360 เมตร (ความสูงของยอดไวนาปิกชู ลบด้วยความสูงของยอดมาชูปิกชู) ซะแล้วล่ะค่ะ http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_54.jpg ยิ่งขึ้นไปสูงเท่าไร ทางก็ยิ่งแคบมากขึ้นทุกทีๆ....เราเห็นคนที่ขึ้นไปถึงยอดไวนาปิคชู หรือไม่ก็ไม่ทราบ เดินสวนกลับลงไป เราต้องแอบข้างทาง (ด้านที่ไม่ใช่เหว) ให้ พวกเขาที่ยิ้มและบอกให้เราทราบว่า... "เหลืออีกครึ่งทางเอง เดี๋ยวก็ถึงแล้ว" http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_55.jpg อูยยยยย....ขอบคุณมากค่ะ แต่โอ้...พระเจ้าช่วยกล้วยทอด เหลืออีกตั้งครึ่งทาง และน่าจะเป็นครึ่งทางที่น่าจะโหดกว่าที่ผ่านมามาก http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_62.jpg |
อากาศเริ่มเย็นลง แต่เราไม่รู้สึกเย็นตามไปด้วย ระหว่างที่พักเหนื่อย เราเห็นไม้ดอกไม้ใบสองข้างทาง สวยงามมากค่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราใช้เวลาหนุดพัก ถ่ายภาพดอกไม้ ใบไม้ข้างทางไปด้วย....สวยและสีสันสดใสมากๆค่ะ http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_46.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...-Picchu_44.jpg |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:13 |
vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger