SaveOurSea.NET

SaveOurSea.NET (http://www.saveoursea.net/forums/index.php)
-   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม (http://www.saveoursea.net/forums/forumdisplay.php?f=13)
-   -   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม 2566 (http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=6269)

สายน้ำ 08-05-2023 03:05

สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม 2566
 
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ไม่ควรสวมใส่โลหะ และหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร และอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย

ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในวันนี้ (8 พ.ค. 66) ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด

อนึ่ง ช่วงวันที่ 8-14 พ.ค. 66 ลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง ทำให้บริเวณภาคใต้จะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น ส่วนบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 29-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 8 - 10 พ.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่

ส่วนในช่วงวันที่ 11 - 13 พ.ค. 66 ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

สำหรับภาคใต้ในช่วงวันที่ 7 - 8 พ.ค. 66 ลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ส่วนในช่วงวันที่ 9 - 13 พ.ค. 66 ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2 ? 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 8 ? 13 พ.ค. 66 หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อน คาดว่าจะเคลื่อนผ่านอ่าวเบงกอลตอนกลาง และทะเลอันดามันตอนบน หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11 ? 13 พ.ค. 66 จะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเมียนมา


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 8 - 10 พ.ค. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ไม่ควรสวมใส่โลหะ และหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง ส่วนในช่วงวันที่ 11 ? 13 พ.ค. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 9 - 13 พ.ค. 66



******************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 4 (133/2566) (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 8 - 10 พฤษภาคม 2566)

ในช่วงวันที่ 8 - 10 พ.ค. 2566 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ไม่ควรสวมใส่โลหะ และหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในวันนี้ (8 พ.ค. 66) ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด

โดยจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้


วันที่ 8 พฤษภาคม 2566

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด


วันที่ 9 พฤษภาคม 2566

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด


วันที่ 10 พฤษภาคม 2566

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง ตาก และกำแพงเพชร

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดอุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 8 - 14 พ.ค. 66 หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อน คาดว่าจะเคลื่อนผ่านอ่าวเบงกอลตอนกลาง และทะเลอันดามันตอนบน หลังจากนั้นจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเมียนมา ส่งผลทำให้ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากทะเลอันดามันเข้ามาปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 11 ? 14 พ.ค. 66 ประเทศไทยจะมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย



https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds

สายน้ำ 08-05-2023 03:27

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


โคลอมเบียทลายประมงเถื่อน ยึดปลากว่า 300 ตันในรอบ 10 ปี

โคลอมเบียยึดปลาฉลาม ปลากระเบน และปลาสายพันธุ์อื่นๆ ที่ถูกจับอย่างผิดกฎหมายมากกว่า 334 ตัน ระหว่างปี 2555-2565

https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds
เครดิตภาพ : AFP.

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ว่า กระทรวงกลาโหมโคลอมเบีย กล่าวในแถลงการณ์ว่า การยึดปลาส่วนใหญ่เกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก บริเวณรอบเกาะมัลเปโล และเกาะกอร์โกนาอันห่างไกล ซึ่งทั้งสองแห่งเป็นอุทยานธรรมชาติที่ได้รับการคุ้มครอง เนื่องจากความหลากหลายทางชีวภาพถูกคุกคามอย่างหนัก

น.อ.จาเวียร์ ออกุสโต เบอร์มูเดซ ของกองทัพเรือโคลอมเบีย กล่าวว่า ภูมิภาคแปซิฟิกเป็นแหล่ง "อาชญากรรมสิ่งแวดล้อมหลายด้าน" ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับชาวประมงผิดกฎหมาย และผู้ลักลอบค้าท่อนไม้ อีกทั้งพืชและสัตว์นอกชายฝั่งแคริบเบียน ก็ถูกคุกคามอย่างมากเช่นกัน

อีกทั้งในแม่น้ำสายต่างๆ เช่น แม่น้ำโอริโนโก ที่พาดผ่านโคลอมเบีย กับ เวเนซุเอลา โลมาสีชมพูที่อาศัยอยู่ยังตกเป็นเหยื่อของการประมงผิดกฎหมายด้วย

ภาพถ่ายซึ่งเผยแพร่โดยกระทรวงกลาโหมโคลอมเบีย แสดงให้เห็นปลาหัวขาดหลายสิบตัวที่ทางการเก็บรวบรวมเป็นประจำ

ทั้งนี้ กฎหมายของโคลอมเบียกำหนดโทษจำคุกสูงสุด 9 ปี สำหรับผู้ที่ทำประมงอย่างผิดกฎหมาย

ข้อมูลจากสถาบันฮัมโบลต์ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงสิ่งแวดล้อมโคลอมเบีย ระบุว่า ในโคลอมเบีย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศมีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในโลก มีสัตว์อาศัยอยู่ในน้ำจืดมากกว่า 1,400 สายพันธุ์ และอาศัยอยู่ในทะเลอย่างน้อย 2,000 สายพันธุ์.


https://www.dailynews.co.th/news/2302174/


สายน้ำ 08-05-2023 03:29

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ


ฉลามวาฬยักษ์ใหญ่ใจดีโผล่ทักทายนักท่องเที่ยวในอ่าวมาหยา จ.กระบี่

https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds

กระบี่ -นักท่องเที่ยวต่างชาติสุดตื่นเต้น ฉลาวาฬยักษ์ใหญ่ใจดีโผล่หน้าอ่าวมาหยา ว่ายตามเรือหางยาวมองเห็นชัดเจนนานกว่า 10 นาที คาดทะเลอ่าวมาหยามีความอุดมสมบูรณ์หลังปิดอ่าวฟื้นฟูทรัพยากร

ขณะนี้มีการแชร์ภาพฉลามวาฬ ขนาดใหญ่ความยาวกว่า 5 เมตร กำลังว่ายตามเรือหางยาวที่พานักท่องเที่ยวมุ่งหน้าไปหน้าอ่าวมาหยา เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ สร้างความตื่นเต้นแก่นักท่องเที่ยวที่อยู่บนเรือลำดังกล่าวเป็นอย่างมาก เนื่องจากฉลามวาฬ ตัวดังกล่าวได้ว่ายมาใกล้เรือ ทำให้มองเห็นลำตัวได้อย่างชัดเจน นักท่องเที่ยวส่งเรียงร้องด้วยความดีใจ พร้อมบันทึกภาพและคลิปไว้เป็นที่ระลึก ก่อนแชร์ในโลกออนไลน์

นายวินิจ โต๊ะหลาง อายุ 50 ปี คนขับเรือหางยาว ชื่อโลมาบิน และเป็นผู้ที่ถ่ายคลิปดังกล่าว เล่าว่า ก่อนที่จะเจอฉลามวาฬตัวดังกล่าว เมื่อช่วงประมาณบ่ายโมง วันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังขับเรือหางยาวพานักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 สามีภรรยาออกจากอ่าวโล๊ะซามะ เกาะพีพี มุ่งหน้าไปอ่าวมาหยา ระหว่างที่เรือกำลังแล่นผ่านหัวแหลมห่างจากอ่าวมาหยาประมาณ 500 เมตร สังเกตเห็นฉลามวาฬโผล่ขึ้นมาพอดี ทำให้ตนและนักท่องเที่ยวที่อยู่บนเรือต่างตื่นเต้นเป็นอย่างมากเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน

เท่านั้นยังไม่พอ ฉลามวาฬตัวดังกล่าวยังว่ายเข้ามาใกล้ๆ เรือ ห่างกันไม่ถึง 1 เมตร โดยไม่มีท่าทีดุร้ายแต่อย่างใด สามารถมองเห็นหลังและลายจุดชัดเจน และสังเกตเห็นปลาช่อนทะเลประมาณ 4-5 ตัว ว่ายตามประกบใต้ท้องฉลามวาฬตลอดเวลา

ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างตื่นเต้นไม่แพ้กัน เพราะไม่คิดว่าจะได้เห็นสัตว์ทะเลขนาดใหญ่แบบนี้มาก่อน จึงได้รีบบันทึกภาพไว้ โดยฉลามวาฬปรากฏตัวอยู่นานประมาณ 10 นาที ก่อนที่จะดำน้ำหายไปในทะเลลึก

นายวินิจ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมายังไม่เคยเห็นฉลามวาฬตัวจริงๆ มาก่อน วันนี้นับว่าโชคดีมาก คาดว่าบริเวณทะเลอ่าวมาหยามีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น จากการที่มีการปิดอ่าวมาหยา และอยู่ในช่วงของการปิดอ่าวทะเลอันดามันในฤดูปลาวางไข่ เพื่อฟื้นฟูทรัพยากร มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ของฉลามวาฬ รวมทั้งสัตว์ทะเลอื่นๆ ที่หายาก


https://mgronline.com/south/detail/9660000041890



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:09

vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger