6 knights in Taal Volcano
ชื่อเรื่องดูตื่นเต้นดีมั้ย อิอิ
ตอนแรกได้ทำรูปเล่าเรื่องฉบับการ์ตูนเรื่องเที่ยวที่ภูเขาไฟตาอัลเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ตัดสินใจเขียนเรื่องขึ้นมาใหม่จะดีกว่าเพราะ พอมาย้อนอ่านดูแล้วมันแปลกๆ ด้วยความ พยายามที่จะทำให้เรื่องราวมันดูสนุกสนานรื่นเริงบันเทิงใจ แต่ความทรงจำตอนไปเที่ยวมันไม่ ค่อยสนุกเท่าไหร่อ่ะ เรื่องมันก็เลยออกมาแป๊กมากๆ เอาเป็นว่าเขียนเรื่องใหม่ลงจะดีกว่านะ การไปเที่ยวครั้งนี้ออกจะแปลกประหลาดอยู่ซักหน่อยตรง ที่ไปเที่ยวก็ไปพร้อมกัน มีคนนึงมีความสุขสนุกสนานสุดขีด แต่ก็มีอีกคนนึงเครียดวิตกกังวลตื่น กลัวสุดขีดอีกเหมือนกัน ส่วนคนอื่นๆก็หลดหลั่นกันลงมา เรื่องราวจะเป็นยังไง มาติดตามดูกันค่ะ |
1 Attachment(s)
ภูเขาไฟตาอัล
ขี่ม้าชมยอดปล่องภูเขาไฟตาอัล นี่เป็นการเที่ยวต่อเนื่องหลังจากการดำน้ำที่ Puerto Galera และ Anilao พวกเรามีสมาชิก 6 คนด้วยกันที่จองตั๋วเครื่องบินกลับให้ล่าช้าไปอีกหนึ่งวัน เพราะจะได้ ราคาถูกกว่า เลยทำให้เรามีเวลาว่างสำหรับอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ได้อีก 1 วัน โดยเอาส่วนต่าง ราคาค่าตั๋วมาเที่ยวแทน แผนการท่องเที่ยวที่นี่จึงเกิดขึ้น เริ่มจากหาข้อมูลค่ะ เราจะไปเที่ยวไหนดีที่อยู่ในระหว่างเส้นทางกลับจาก Anilao มา สนามบินนิ นอย เมืองมะนิลา เปิดแผนที่ดูแล้วก็ลากเส้นทางย้อนกลับมา ในแผนที่จะเห็นทะเลสาบกว้างใหญ่อยู่อันนึงใกล้ๆกับ เส้นทางกลับของเราพอดี ทะเลสาบนี้มีชื่อว่า Taal Lake อืมดูน่าสนใจ แล้วก็หาข้อมูลต่อไป Taal Lake นี้ เป็นทะเลสาบที่ล้อมรอบภูเขาไฟตาอัล ( Taal Volcano) แล้วที่น่าสนใจเข้าไปอีกก็ คือที่ยอดปล่องภูเขาไฟตาอัลนี้ก็ยังมีเป็นทะเลสาบอีกชั้นนึงด้วย จากรูปที่ลองค้นดูในอินเตอร์เนต ได้นั้นดูดึงดูดใจให้ไปเที่ยวชมเป็นอย่างมาก |
1 Attachment(s)
ที่ฟิลิปปินส์นี่ นอกจากจะเป็นประเทศพันเกาะ แล้วที่นี่ก็ยังเป็นประเทศที่มีภูเขาไฟอยู่เยอะแยะ
มากมาย มีทั้งที่ดับแล้ว และยังไม่ดับ ภูเขาไฟตาอัลนี่ก็เป็นภูเขาไฟอีกหนึ่งที่ที่ยังไม่ดับ ซึ่งหมาย ความว่า วันดีคืนดีก็อาจจะปะทุขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ก็ได้ เรื่องราว รูปภาพและประวัติชักน่าสนใจ น่าจะไปเปิดหูเปิดตาซักครั้งนึงในชีวิตนะเนี่ย หลังจากเสนอแหล่งเที่ยววันสุดท้ายให้กับเพื่อนๆ เมื่อได้รับความเห็นชอบกลับมาแล้ว ก็เริ่มวาง แผนจองที่พัก ค้นหาทัวร์สำหรับพาเที่ยวชมยอดปล่องภูเขาไฟ และรถรับส่งก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา โดยมีแผนการคร่าวๆ คือ เช้าวันที่ 16 ออกเดินทางจากรีสอร์ทที่อนิเลา แล้วปีนขึ้นไปเที่ยวชมยอด ภูเขาไฟกัน หลังจากนั้นก็พักค้างคืนกันหนึ่งคืนที่รีสอร์ทแถวๆนั้น เช้าวันรุ่งขึ้นก็ต่อรถกลับไป สนามบิน กลับกรุงเทพกัน อืม ฟังดูดี ฟังดูดี เหมือนจะง่ายดายแต่การหาข้อมูลและจองที่พักที่นี่จะเรียกว่ายากก็ได้ เพราะ กว่าจะลงตัว ใช้เวลาหาข้อมูลเป็นเดือน เฮ้อ นานจริง คงเป็นเพราะว่าที่นี่ไม่ได้เป็นที่โด่งดังเป็นที่ รู้จักมาก แต่สุดท้ายก็ลงตัวในที่สุดแต่ก็ฉิวเฉียดก่อนเวลาเดินทางจริงไม่ถึง 2 อาทิตย์ดี ด้วยใจ ตุ้มๆต่อม |
1 Attachment(s)
เจ็ดโมงเช้าของวันที่ 16 ที่ Balai Resort รถตู้ที่ที่นัดไว้ก็มารับพวกเราอย่างตรงเวลา พอคนขับรถ
เห็นกองสัมภาระของเราทั้ง 6 คนแล้วก็ตกตะลึงในความอลังการ ถึงขนาดใส่ในรถไม่พอต้องเอา ขึ้นหลังคากันเลยทีเดียว |
1 Attachment(s)
ยกสัมภาระเสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินทางกันได้ เส้นทางที่รถขับผ่านไปจะเลาะเรียบไปตามยอดเขา
สันเขาบ้าง ยิ่งขับก็ยิ่งลดเลี้ยว ชวนให้เมารถเป็นอย่างยิ่ง เลยตัดสินใจว่า หลับๆไปดีกว่า ไม่งั้นได้ มีการขอถุงมารองปากผูกคอไว้แน่ๆ หุหุ ระหว่างทางคนขับรถก็แวะให้จอดชมวิวบ้างเป็นระยะๆ แถมคนขับรถก็ยังหันมาสบตาหวานเยิ้ม กับพี่ติ่งเป็นระยะๆ อีกด้วย ... อึ๋ย ... มันยังไงกันแน่นะ รถสองคันนี่เป็นรถพื้นถิ่นหน้าตาเก๋ไก๋มาก |
รูปเปิดสวยจัง
รอชมต่อจ้า |
1 Attachment(s)
พอ 9 โมงเช้า รถก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่ T House Resort ในเมือง ตะไกไต (Taygay) เป็นบูติครีสอร์ทเล็กๆ ที่น่ารักเก๋ไก๋อีกแล้ว
เห็นแล้วชื่นชอบใจจัง แวะเช็คอินและเคลียร์เรื่องเงินๆทองๆ กันอยู่ซักพักนึง แล้วก็รีบลากสัมภาระกองโตๆ เข้าไปเก็บของในห้อง วางของและเข้าห้องน้ำเรียบร้อยแล้วพวกเราก็รีบออกเดินทางเพื่อไปเที่ยว เพราะกลัวว่าแดดจะร้อน |
1 Attachment(s)
แล้วความขลุกขลักก็เริ่มเกิดขึ้น
เพราะหลังจากนี้ต่อไปก็ไม่รู้ข้อมูลอะไรอีกแล้ว เรียกว่าเที่ยวกันแบบมั่วๆนิดนึง ต้องขออภัยอัศวินทั้งหกไว้ณ ที่นี้ด้วยนะคะ พวกเราก็เลยใชิวิธีพยายามถามเอาจากคนขับรถซึ่งก็บอกอะไรเราได้ไม่มาก แล้วเค้าก็มาส่งเราที่ริมทะเลสาบแนะนำให้รู้จักคุณป้าคนนึงแล้วคนขับรถก็หายตัวไป คุณป้าที่มารับช่วงต่อ ถือเสื้อชูชีพมาแจกคนละตัว แล้วก็หมวกคนละใบเอามาขาย แต่ก็ไม่ได้มีการแนะนำอะไรมากมาย เค้ารางเริ่มเห็นท่าจะไม่ดีพวกเราเลยรีบต้องซักถามโปรแกรมและกำหนดการกันเป็น การใหญ่ และที่จองมานี่ก็ไม่มีอาหารกลางวันรวมอยู่ด้วยมองไปรอบด้านก็ไม่เห็นมีที่พอจะให้กินข้าวกันได้ ก็สอบถามคุณป้าไปว่าจะทานได้ที่ไหนบ้าง คุณป้าก็บอกว่าที่นี่ก็มีขายให้สั่งเอาไว้แล้ว พอกลับลงมาก็จะได้ทานกันได้เลย พวกเราก็ค่อยโล่งใจหน่อย ... เง้อ แล้วทำไมไม่รวมมาในแพคเกจด้วยเนี่ย ในรูปนี่คือริมฝั่งทะเลสาบที่เราจะนั่งเรือข้ามไปยังภูเขาไฟตรงกลาง |
อุ๊ย รีสอร์ตน่ารัก ฮิปมาก
|
1 Attachment(s)
หลังจากการเจรจาที่ดูตามมีตามเกิด เสร็จสิ้นลงพร้อมได้เสบียงและน้ำดื่มจากร้านค้าเล็กๆฝั่ง
ตรงข้าม แล้วก็คว้าเสื้อชูชีพคนละตัวใส่เสร็จก็เดินลงเรือที่มาจอดรออยู่ริมท่าเรียบร้อยแล้ว เรือที่นี่ก็หน้าตาคล้ายๆเรือบังก้า ที่เราใช้กันตอนไปดำน้ำนั่นแหล่ะ แต่จะแตกต่างหน่อยก็ตรงที่รูป ทรงของหัวเรือกับท้ายเรือของที่นี่ดูจะตั้งฉากเก๋ไก๋ไปอีกแบบ เอิ๊ก ชอบใจ |
1 Attachment(s)
ดูภายนอกแล้วเรือดูกว้างใหญ่แต่พอเข้ามานั่งภายในตัวเรือจริงๆแล้ว คับแคบมาก กว้างแค่ให้ 2
คนพอนั่งได้เท่านั้นเอง แล้วเรือก็ออกจากฝั่งมุ่งหน้าไปสู่ใจกลางทะเลสาบที่เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟ ตาอัลกัน |
1 Attachment(s)
เรือค่อยๆถอยออกมาจากท่า น้ำในทะเลนี่ใสเหมือนกันนะ ใต้น้ำก็มีต้นไม้ขึ้นเขียวเต็มไปหมดดู
แปลกตาดี |
1 Attachment(s)
มองออกไปยังผืนน้ำใสสีเขียว ทะเลสาบแห่งนี้ช่างกว้างใหญ่มากเหลือเกิน น่าเสียดายที่อากาศ
วันนี้เป็นฝ้าๆ เหมือนมีหมอกจางๆคลุมอยู่ ทำให้มองเห็นภูเขาไฟไม่ชัดนัก ในระหว่างที่ชมวิวไป เรื่อยก็หันไปสังเกตพี่ติ่งว่าทำไมเงียบผิดปรกติ แถมทำหน้ามุ่ยๆ อีก งุงิ ลองส่งขนมที่ซื้อมาให้กินดูซิว่าจะเป็นยังไง อืม ... ก็รับไปกินแต่โดยดี สงสัยง่วงนอน เดี๋ยวก็หาย |
1 Attachment(s)
นั่งเรือชมวิวมาได้ซักพัก เรือก็มาเข้าเทียบชายฝั่งของภูเขาไฟตาอัล แต่ยังไม่ทันที่เรือจะจอดเข้าฝั่งดีก็ได้ยินเสียงตะโกนเอะอะโหวกเหวกโวยวายมาจากบนฝั่งพร้อมทั้งเห็นคนวิ่งกันวุ่นวาย .....
เอ้อ มันอะไรกันเนี่ย แล้วก็ได้ยินเสียงใครซักคนถามขึ้นมาว่า " นี่เค้าตะโกนอะไรกันนี่ " แล้วเสียงคำตอบที่ ตามมาจากพี่จ๋อมก็คือ "หมูมาแล้ว หมูมาแล้ว" เอิ๊ก ในรูปจะเห็นยอดภูเขาไฟอยู่ทางขวามือ |
1 Attachment(s)
เนื่องด้วยทัวร์ภูเขาไฟนี่ เป็นทัวร์ที่หน้าวิตกกังวลที่สุดเลย เพราะหลังจากที่หาข้อมูลและอ่าน กิตติศัพท์อันลือลั่นของที่นี่ ประกอบกับคำเตือนของพี่จ๋อมแล้วว่า จะซื้อทัวร์จองทัวร์ที่นี่จะมีลูก
เล่นตุกติกมากมายให้ระวังให้ดี มีถึงขนาดตกลงจ้างม้าขึ้นภูเขาแล้ว แต่ถ้าลงจากม้าก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มไม่งั้นไม่ให้ลง พอมาถึงได้ยินเสียงโวยวายประกอบกับได้ยินเสียงพี่จ๋อมว่างั้น ก็ใจแป้วหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เอาไงดีเนี่ย .... พี่จ๋อมก็พูดต่อว่า ไม่เป็นไร ถ้ามีอะไรเราค่อยไปเฉ่งกันที่โรงแรม พลางคิดในใจว่า เราจะได้กลับมั้ยอ่ะโรงแรมเนี่ย .... ไม่ดี ไม่ดี คิดในทางที่ดีไว้สิหวานเอ๋ย ว่าแล้วก็ก้าวลงจากเรือขึ้นไปเหยียบผืนดินด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ ก้าวลงจากเรือมาทีละคน ทีละคน |
ลุ้นด้วย ระทึก ระทึก จะได้ลงจากหลังม้ากันโดนสวัสดิภาพมั้ย @^__^@
|
ขอบคุณค่ะพี่ Frappe'
รีสอร์ท น่ารักมากๆ เลยค่ะ Chickykai ติดตามกันต่อนะ |
1 Attachment(s)
ก็ไม่รู้เหมือนกันเนอะว่าแต่ละคนนี่คิดยังไง แต่สำหรับหวานนี่คิดว่า เป็นไงเป็นกัน มาถึงถิ่นเค้า
แล้วนี่ แต่ที่แน่ๆ ท่าทางลงเรือแต่ละคน ดูเกร็งมากๆ ฮา เพราะเก้าอี้และสะพานไม้ไผ่ผุๆนั่นดูมั่นคงซะเหลือเกิน |
1 Attachment(s)
เมื่อลงจากเรือมาครบกันแล้วด้วยความเงียบกริบของผู้ช่างกล้าอยากจะเป็นอัศวิน เดินมายืน
รวมกันแบบ เก้ๆ กัง จะเอาไงต่อกันดีคะ หันหลังกลับหรือจะเดินหน้าลุยต่อ มองเลยเข้าไปทางด้านหน้าเพิงบ้านพัก ก็ถึงจะเห็นไกด์ท้องถิ่นเดินจูงม้ามาพร้อมส่งเสียงโหวก เหวกโวยวายที่ฟังไม่รู้เรื่องอย่างไม่หยุดยั้ง ..... ที่แน่ๆ ไม่ใช่เสียงแห่งความยินดีแน่ๆ น่าจะเป็น เสียงสั่งการที่ตีความไปได้ว่า เดี๋ยวเอ็งแยกผู้ชายสองคนนั้นไว้เดี่ยวๆนะ แล้วข้าจะพาพวกผู้หญิง ขึ้นไปบนยอดเขาเอง ที่นั่นเตรียมหม้อต้มไว้รอท่าแล้ว.... อึ๋ยยย เผ่ามนุษย์กินคน... คิดไปได้ |
1 Attachment(s)
แล้วความคิดเตลิดเปิดเปิงก็ถูกขจัดออกไป เมื่อพี่น้อย จอมทัพของเราเหมือนจะตั้งสติได้และไม่
เกรงกลัวอันตรายใดๆ เดินนำเข้าไปก่อน |
1 Attachment(s)
มีคนนำแล้ว อัศวินช่างกล้าก็เดินตามๆกันเข้าไปใกล้ ไกด์และฝูงม้าที่เค้าจูงมารอท่าแล้ว อืม และ
ก็เหมือนจะเริ่มคุ้นเคยเป็นกันเองมากขึ้น เมื่อไกด์เค้าเริ่มส่งภาษาอังกฤษมาทักทายบ้าง พร้อมทั้ง แข่งกันตะโกนเรียกมาดามๆ ให้มาขึ้นม้าของตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย เอ้อ ทำไมต้องแย่งกันด้วยหล่ะ ไม่เข้าใจจริงๆเลย แล้วคุณป้าสวมหมวกสานเก๋ไก๋ก็จูงม้ามาขวางหน้าพร้อมเก้าอี้ 1 ตัววางแหมะเกือบทับเท้า ฮา พร้อมทั้งบอกให้ขึ้นม้าเลย |
1 Attachment(s)
มองเลยหลังม้าเข้าไป เห็นท่านพี่เบิ๊ดอัศวินหญิงแกร่งเตรียมพร้อมกำลังจะขึ้นมา ก็เลยหันมาป๊ะ
หน้าสบตากะคุณป้า ที่เร่งเอาเร่งเอา ไม่รู้จะรีบไปไหน ขอถ่ายรูปก่อนซิ แต่ก็ตอบไปว่า ได้เลยจ๊ะป้า เป็นไงเป็นกันวุ้ย ขึ้นม้าคุณป้านี่แหล่ะ อย่างน้อยแกก็เป็นผู้หญิงน่าจะคุยกันง่ายหน่อย |
1 Attachment(s)
ถ้าไม่นับรวมม้าหมุนกะม้านั่ง นี่ก็เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ขึ้นขี่ม้าตัวจริงเสียงจริง เหยียบเก้าอี้ แล้วก็
เหวี่ยงขาข้ามไป แล้วเค้าก็ให้เอาเท้าใส่ไว้ในเหล็ก อะไรซักอย่าง เสร็จแล้วก็หันมาถามว่าโอเคมั้ย พยักหน้าไปหนึ่งหงึก แล้วเค้าก็เริ่มจูงเดิน โอ้วๆ ป้า โอ้ว หยุดก่อน จะไม่สอนวิธีขี่ม้าหรือทรงตัวอะไรเลยเรอะ งั้น หยุดก่อน ป้ามามะ ขอถ่าย รูป ทำความรู้จักคุ้นเคยกันซักหน่อยนะ คุณป้าเค้าก็ดูท่าจะชอบกล้องซะด้วยนะ หันมาโพสท่าเท่ มากให้ด้วย |
1 Attachment(s)
ถ่ายรูปเสร็จคุณป้าก็เห็นเราทำท่าเก้ๆกังๆ ก็บอกให้จับไม้ที่อานม้าไว้ แล้วก็เดินจูงม้าไป เอ้อ แค่นี้
เหรอวิธีขี่ม้า มันคงจะง่ายๆแหล่ะนะ แล้วก็หันไปเห็นพี่ติ่ง พี่ติ๋ว ขึ้นม้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนพี่ น้อยกำลังขึ้นม้าอยู่ |
1 Attachment(s)
และพี่จ๋อมอัศวินคนสุดท้ายขึ้นม้าเรียบร้อยแล้ว เหล่าอัศวินช่างกล้าทั้งหกคนก็เริ่มออกเดินทาง
ผจญภัยพิชิตยอดภูเขาไฟตาอัลกัน แต่น แต้น แต๊นนนนนน |
1 Attachment(s)
เพิ่งจะได้รู้ว่า การขี่ม้ามันทำให้รูปถ่ายสั่นไหว ปรับค่ากล้องใหม่ก็ทำไม่ได้เพราะมือไม่ว่าง ต้องเอา
ไปจับที่อานม้าเพื่อช่วยในการทรงตัว แค่ทำให้ตัวให้อยู่บนหลังม้าก็ลำบากพอดูแล้ว ถ้าต้องปล่อย มือจากอานม้าอีก มีหวังร่วงลงไปแหงๆ โอ้ว แถมมีสิ่งกีดขวางระหว่างทางด้วย จะรอดมั้ยเนี่ย เรา แต่ม้าก็ก้าวขาข้าม ทรงตัวได้นิ่งมากๆ เลยสบายใจได้หน่อยนึง ระหว่างทางเค้าก็จูงม้าเดินผ่านหมู่บ้าน แต่ไม่ได้ชมวิวหรือถ่ายรูปใดๆ มาเลย อย่างที่บอก ลำพัง แต่ทรงตัวอยู่บนหลังม้าก็จะแย่แล้ว แถมตอนนี้ชักเริ่มรู้สึกว่ากล้องที่คล้องอยู่ที่คอชักเป็นภาระ มากๆเลย เดินมาซักพักขบวนม้าอัศวินก็หยุดลง แล้วเค้าก็ให้พี่ติ่งลงจากม้า แล้วก็ให้คนที่เหลือทั้งหมด เดินนำไปก่อน |
1 Attachment(s)
ด้วยความเป็นห่วงว่าเกิดอะไรขึ้นแถมสีหน้าพี่ติ่งออกอาการบึ้งตึง บูดๆ มากๆ เลย บอกป้าที่จูงม้า
ว่าให้รอก่อน รอพี่ติ่งก่อนอย่าเพิ่งเดินไป แกก็ไม่สนใจใดๆทั้งสิ้น แล้วก็จูงม้าตามคนอื่นๆไป จะ กระโดดลงก็ทำไม่ได้ มันติดขา ในใจก็คิดว่าเอาแล้วไง จะเจอดีมั้ยเนี่ย ยังไม่ทันไรพอเดินพ้นหมู่บ้านมาซักแป๊ปเดียวก็เป็นทุ่งโล่ง ที่ทุกคนถูกบอกให้หยุด แล้วก็ให้พี่จ๋อ มเอาเป้มาสะพายไว้ข้างหน้า เพื่อที่จะให้คนจูงม้าขึ้นไปขี่ซ้อนได้ อ่ะน๊า เอาจริงเด่ะ ม้าตัวนิดเดียว เองนะ ซ้อนสองเลยเหรอ อ้อ ลืมบอกไปว่าตลอดทางที่เดินมา คุณไกด์ทั้งหลายเค้าตะโกนกันยังไม่หยุดและดูเหมือนจะ ทะเลาะกันด้วย |
1 Attachment(s)
เมื่อจัดขบวนม้าใหม่เสร็จแล้วก็ออกเดินทางกันต่อ พี่น้อย พี่เบิ๊ด พี่จ๋อม ดูท่าทางขี่ม้าเก่ง เดินนำ
ลิ่วๆ ไปแล้ว เดินไปซักพักยังไม่ทันพ้นเนินต้นมะพร้าวเลย ม้าตัวที่ขี่อยู่ก็เริ่มยกสองขาหน้า หวาน เริ่มหน้าซีดพร้อมตะโกนบ้าง แล้วม้าเชื่องๆ ที่เค้าจูงมาเมื่อกี้ก็กระโดดสองขาหน้า สองขาหลัง สลับกันอยู่ซักพักก็สงบลง ยังดีนะที่มือเหนียวแน่นทนทานไม่ถูกดีดตกลงมา แต่ใจอ่ะ หล่นไป กองอยู่กับตาตุ่มเรียบร้อยแล้ว และดูเหมือนว่าคุณป้าเค้าจะคุมม้าไม่อยู่ เลยต้องสลับให้แฟนเค้า ที่จูงม้าพี่ติ๋วอยู่มาจูงม้าตัวนี้แทน หลังจากเจอม้าขาแดนซ์เข้าไป หวานจ๋อยสนิทเลย กล้องเก็บเข้าที่สองมือจับอานม้าแน่น ตามอง แต่หัวม้าคอยสังเกตอาการเผื่อเธออยากจะแดนซ์ขึ้นมาอีก ยังดีที่มีพี่ติ๋วขี่ม้าตามมาอีกคนนึงก็ ค่อยเบาใจหน่อย เพราะคิดว่าถ้าตกม้าไปไงๆ ก็มีอัศวินพี่ติ๋วพยาบาลทำแผลให้แน่ๆ เดินมาเท่าไหร่ก็ไม่รู้แล้ว ผ่านอะไรมาบ้างก็ไม่รับรู้แล้ว แล้วมุมมองโลกกว้างก็กลับคืนมาเมื่อได้ มาเจอพี่ติ่งขี่ม้ามาจากทางแคบๆอีกทางนึง |
1 Attachment(s)
ใจชื้นขึ้นมาเป็นกอง อย่างน้อยพี่ติ่งก็ไม่โดนหลอกไปต้มยำทำน้ำแกงที่ไหนแล้วหล่ะ แต่ก็ทำได้
เพียงแค่นั้น เพราะ หนทางที่เดินไปเนี่ย ช่างโหดร้ายเหลือเกิน เดินบนสันเขาบ้าง สลับกับทางเดิน สูงชันที่ฝั่งนึงเป็นหุบเหว อีกฝั่งนึงเป็นหน้าผาที่มีทางเดินแคบๆ ที่กว้างซักประมาณ 70 เซ็นติเมตร เลาะสันเขาไปเรื่อยๆ พื้นดินก็เป็นดินฝุ่นแห้งๆ เดินที่เท้าจมลงไปทั้งเท้าพร้อมฝุ่นตลบ คนเดินตาม มากินฝุ่นเข้าไปเต็มๆ ดูสีหน้าหวานกับพี่ติ่งดิ อารมณ์ไม่ดีสุดๆ |
1 Attachment(s)
พื้นดินเป็นฝุ่นร่วนแห้งแบบนี้ไปตลอดทางจนรองเท้าแตะของไกด์ที่จูงมาขาดหายไปกลางทาง พี่
ติ่งกับพี่ติ๋วเลยได้เป็นอัศวินตัวจริง สละรองเท้าให้คุณไกด์ใส่ |
1 Attachment(s)
นอกจากหวานจะได้ม้าขาแดนซ์แล้ว ยังได้ม้าเอาแต่ใจตัวเองอีกด้วย เดินๆอยู่อยากจะควบก็ควบ
ต้องดึงเชือกกันตัวโก่ง นึกจะหยุดถ่ายหนักถ่ายเบาก็หยุดเอาดื้อๆ แถมแวะกินหญ้ามาตลอดทาง ก็เข้าใจนะว่ามันเป็นธรรมชาติ แต่ ตัวอื่นไม่เห็นเป็นนิ แต่ก็อดสงสารไม่ได้ตอนที่เจ้าม้าต้องปีนขึ้นเขาชันๆ ตะกุยดินร่วนเป็นผง น่าสงสารมากๆ และแล้วในที่สุด สามอัศวินช่างกล้า (ที่สองในสามปอดแหกไปแล้ว) ก็ดั้นด้นมาจนสามารถพิชิต ยอดปล่องภูเขาไฟจนได้ ด้วยความทุลักทุเล ไม่เหลือเค้าโครงความเท่อย่างที่จินตนาการไว้เลย ซักนิดเดียว ฮ่าๆ |
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อนะ วันนี้ง่วงนอนแล้วจ้า
|
รีสอร์ตน่ารักจัง...ช่างดีจิงๆ :):):) อัศวินทั้ง 6
|
อ่านแล้วลุ้นระทึุกไปด้วยตลอดเวลาเลย
ดีใจด้วยนะจ๊ะที่รอดกลับมาได้อย่างปลอดภัยทุกคน เป็นประสบการณ์ที่ต้องจดจำไปเลยเน๊าะ ^^' |
โอ๊ย.. อ่านไปหัวเราะไป น้องแสนหวานนี่เล่าเรื่องได้น่าเอ็นดูเสมอเลย..
..รู้น่า ว่าปลอดภัยกลับมาแล้ว เลยหัวเราะขำได้ ที่จริงพี่แม่หอยตาแหกกว่าใครๆ ในโลก ดังนั้นถ้าเจอสถานการณ์จริงอย่างนี้ สงสัยขำไม่ออก อิอิ.. รออ่านต่อด้วยความระทึกนะจ๊ะ |
อ้างอิง:
|
แต่บรรยากาศสองข้างทางมันแห้งแล้งกันดารเหมือนกันนะครับ นึกถึงตอนสมัยไปฝึกรด.ที่เขาชนไก่เลย ฮ่าๆ
|
อ้างอิง:
เดี๋ยวมันหยุดฉี่......เอ้า! O.k.ธรรมชาติ สักพัก....มันหยุดอีกแล๊ะ.....คราวนั้นปล่อยหนัก เกือบหลบไม่ทันแน๊ะ พักใหญ่ๆมันก็หยุดอีก.......เฮ้อ! มันแสบจริงๆ เพราะมันปล่อยเบาบ้างหนักบ้างเป็นระยะ .....เราสรุปในจริงว่า---->พยศจริงๆ ขนาดบรรทุกหวานคนเดียวน๊ะเนี่ย แล้วถ้ามันเป็นแบบม้าพี่จ๋อมหล่ะที่ขี่ 2 คน + กระเป๋ากล้องอีก 1 .....โอ้ย!!!ไม่อยากคิดเลย5555555 |
ม้าของหวานมันท้องเสียป่าว ถ่ายตลอดทางเนี่ย:confused:
|
แล้วได้ต่อรองเค้าป่าวว่ารองเท้าน่ะให้เช่านะ จะได้ลดราคาค่าม้า.... หุหุ... ถ้ากล้าต่อนะ
รีสอร์ทน่ารักมั่ก ๆ มีรูปภายในห้องมาฝากมั้ยจ๊า ไปเวียดนามมาเข้าเว็บไม่ได้เลยอ่ะ โหลดไว้ถึงเช้า ตื่นมาคลิกดูอ้าว ลิงค์เสีย บ๊ะ เวียดนามเนี่ยแย่จัง |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:59 |
vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger