ใส่หน้ากาก เข้าหากัน
 

เมื่อสักสองเดือนที่แล้ว ผมใส่หน้ากาก N95 เดินทางไป ปักกิ่ง และ ฮ่องกง เพื่อป้องกันตัวเองจากหวัด 2009 ที่เริ่มระบาด คนที่ฮ่องกงดูจะเห็นเป็นเรื่องปกติ แต่คนที่สนามบินสุวรรณภูมิเห็นเป็นเรื่องแปลก และเจ้าหน้าที่ก็ไม่สนใจแบบฟอร์มที่ให้กรอกข้อมูลส่วนตัว

ผมใส่หน้ากากไปตึกเอมไพร์ ก็จะมีคนคุ้นหน้ามาถามว่าป่วยหรือ ผมตอบว่าไม่ป่วยแต่ใส่เพื่อป้องกันตัวเอง เพราะคนไทยที่ป่วยจะไม่ยอมใส่เพื่อป้องกันผู้อื่น

ลูกผมก็ใส่ไปโรงเรียนเกือบเดือน ทั้งๆที่เพื่อนในห้องพกไป แต่ไม่ใส่ ครูก็มาถามลูดผมว่าว่า ป่วยหรือ ผมต้องอธิบายยืดยาวว่า ไม่ได้ป่วย และไม่อยากป่วย แต่หน้ากากอนามัยเป็น Social Responsibility หรือความรับผิดชอบต่อสังคม คือหากเราไม่ป่วย ก็ต้องป้องกันตัวเอง และ หากเราป่วย ก็ต้องป้องกันผู้อื่น ความรับผิดชอบต่อสังคมแทบหาไม่เจอในสมองคนไทย หรือหากมีก็เป็นเรื่องแปลก น่ามหัศจรรย์

เหมือนยุค เอดส์ไม่กลัว กลัวอด ใครจะตายก็ช่าง ฉันสบายเป็นพอ

เพื่อผ่อนคลายสมอง อยากชวนไปเที่ยวที่นี่ เผื่อกลับมาจะได้ปรับตัวให้เข้ากับสังคมนี้ได้ง่ายขึ้น ;)

สักสองสามอาทิตย์ที่แล้ว มีเพื่อนขึ้นรถเมล์ ก็โดนมองว่าแปลกและไม่กล้านั่งใกล้เหมือนกัน ทั้งๆ ที่เขาไม่ป่วยแต่ป้องกัน...คงเป็นที่แนวคิดของสังคมที่ทำให้มองเป็นอย่างนั้น....แต่เมื่อเวลาผ่านไป คนเป็นมากขึ้น คนเลยเพิ่งมาตระหนักความสำคัญตรงนี้...และเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ