SaveOurSea.NET

SaveOurSea.NET (http://www.saveoursea.net/forums/index.php)
-   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม (http://www.saveoursea.net/forums/forumdisplay.php?f=13)
-   -   สถานการณ์ปะการังฟอกขาว ปี 2553-2554 (http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=1337)

สายน้ำ 24-01-2011 07:52


อช.สั่งปิดเกาะเชือก "ตรัง"ฟุ้งไม่กระทบดำน้ำ เผยมีอันซีนอีกหลายแห่ง


ตรัง:นาย สลิล โตทับเที่ยง ประธานหอการค้าจังหวัดตรัง กล่าวถึงกรณีที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ประกาศปิดพื้นที่บางส่วนของอุทยานแห่งชาติทางทะเลทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามันรวม 7 แห่ง ว่า พื้นที่ จ.ตรัง มีการสั่งปิดบริเวณเกาะเชือก อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม แต่เชื่อว่าไม่กระทบการท่องเที่ยวมากนัก เนื่องจากยังมีเกาะอีกหลายแห่งที่นักท่องเที่ยวสามารถดำน้ำดูปะการังได้ โดยเฉพาะบริเวณถ้ำมรกตซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลอีนซีนของ จ.ตรังอยู่แล้วและยังมีบริเวณม้าที่มีปะการังสวยไม่แพ้เกาะเชือก

โดยขณะนี้ทางหอการค้าจังหวัดตรัง ประสานผู้ประกอบการท่องเที่ยว เพื่อสำรวจแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนบริเวณเกาะเชือกที่ถูกปิดไป ในส่วนของค่าบริการของนักท่องเที่ยว แม้จะตัดจุดบริเวณเกาะเชือกไปแต่คิดว่าไม่น่าจะปรับลดอัตราค่าบริการลง เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันแพงแต่ผู้ประกอบการยังคงตึงราคาเดิมไว้

ด้านนางรัศมี ขจรศิริสิน ประธานชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารจังหวัดตรัง กล่าวว่า ในส่วนของ จ.ตรัง มีการปิดเกาะเชือก ไม่ส่งผลกระทบเท่าไหร่ เนื่องจากยังมีเกาะม้า เกาะกระดาน ถ้ำมรกต เป็นจุดขายที่สวยเหมือนเกาะเชือก แต่จนถึงขณะนี้บรรยากาศการท่องเที่ยวตรังยังไม่คึกคักเท่าที่ควร ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการให้ทำนายของโหรเมื่อปลายปี 2553 ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวจังหวัดตรังน้อยลง ทั้งๆที่ขณะนี้อยู่ในช่วงไฮซีซั่น ทางผู้ประกอบการท่องเที่ยวหวังเพียงให้นักท่องเที่ยวเดินทางเที่ยวจังหวัดตรังให้มากขึ้น




จาก ..................... แนวหน้า วันที่ 24 มกราคม 2554

สายน้ำ 24-01-2011 07:55


พบแหล่งปะการังใหม่สวยสมบูรณ์หมู่เกาะสิมิลัน-สุรินทร์

http://www.khaosod.co.th/online/2011...295783148l.jpg

วันที่ 23 ม.ค. นายรัษฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ผลจากการระดมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกว่า 30 นาย ลงตรวจสอบแนวปะการังที่ได้รับความเสียหายจากการฟอกขาว ในพื้นที่หมู่เกาะสิมิลันและหมู่เกาะสุรินทร์ ซึ่งได้รับความเสียหายเนื่องจากอุณหภูมิน้ำสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2553 พบว่าปะการังที่ฟอกขาวจำนวนมากเริ่มฟื้นตัวบ้างแล้ว โดยเริ่มมีฝูงปลาจำนวนมาก เริ่มเข้ามาอาศัยและหากินในแนวปะการังดังกล่าว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติยังได้พบแนวปะการังแห่งใหม่เพิ่มขึ้นอีกหลายจุด ทั้งในหมู่เกาะสุรินทร์และหมู่เกาะสิมิลัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดเก็บข้อมูลเพื่อเสนอให้กรมอุทยานฯ ประกาศเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในเร็วๆนี้ ส่วนการศึกษาแนวปะการังที่เกิดการฟอกขาว เพื่อหาแนวทางในการป้องกันและฟื้นฟูนั้นขณะนี้กรมอุทยานฯ ได้แต่งตั้งคณะทำงานซึ่งประกอบด้วยนักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญจากจากสถาบันการศึกษาและหน่วยงานราชการเพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของแนวปะการังอย่างใกล้ชิดแล้ว

http://www.khaosod.co.th/online/2011...295783236l.jpg

ด้านนายโสภณ เพ็งประพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา กล่าวว่า แม้หมู่เกาะสุรินทร์จะได้รับผลกระทบปะการังฟอกขาวรุนแรงมากที่สุดของประเทศ โดยแหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานฯบางแห่งเกิดการฟอกขาวของปะการังเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ต้องสั่งปิดแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำไปทั้งหมดรวม 6 จุดด้วยกัน คือ บริเวณอ่าวสุเทพ อ่าวไม้งาม เกาะสตอร์ค หินกอง อ่าวผักกาด และแนวปะการังอ่าวช่องขาด บริเวณด้านหน้าที่ทำการอุทยานฯ ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ปะการังฟื้นตัวเองโดยธรรมชาติ พร้อมทั้งระดมเจ้าหน้าที่ติดตามการเปลี่ยนแปลงของปรากฎการณ์ปะการังฟอก ขาวอย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตามหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ เชื่อว่าการสั่งปิดแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำทั้ง 6 จุดนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน เนื่องจากหมู่เกาะสุรินทร์ยังมีแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำที่เปิดให้นักท่อง เที่ยวเข้าชมได้อีกหลายจุด ขณะที่ผู้ประกอบการนำเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์ยืนยันว่าการประกาศปิดจุดดำน้ำทั้ง 6 แห่งในหมู่เกาะสุรินทร์ ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆต่อการท่องเที่ยวทางทะเลของจังหวัดพังงา เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่ทราบดีว่าจุดที่สั่งปิดนั้น ไม่สวยงาม และยังมีแหล่งดำน้ำที่สวยงามจุดอื่นๆอีกหลายแห่ง แต่ก็ยอมรับว่านักท่องเที่ยวเกิดความสับสนอย่างมากในการประกาศปิดเกาะของทาง ราชการครั้งนี้




จาก ..................... ข่าวสด วันที่ 24 มกราคม 2554

ดอกปีบ 24-01-2011 09:26

อ้างอิง:

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ สายชล (โพส 22838)


เราคงต้องพยายามรวมตัวกัน แล้วก็หาวิธีช่วยกันกระตุ้นสังคมให้ตื่นตัว เพื่อไปกระตุ้นต่อมทำงานของพวกท่านทั้งหลาย ให้ทำงานอีกต่อหนึ่ง....


วันที่เราจะนัดกันอาทิตย์นี้ เราไปนั่งคุยกันหาวิธีกระตุ้นสังคมเพื่อที่จะไปกระทบชิ่งต่อมทำงานของพวกท่านทั้งหลายก็น่าจะดีนะครับ ..

แต่อ่านข่าวพบแหล่งปะการังใหม่แล้วหมดแรง สงสัยเราจะต้องกระตุ้นต่อมทำงานของบางท่านในเชิงอนุรักษ์ด้วยนะครับ ไม่ใช่นึกถึงแต่เรื่องธุรกิจอย่างเดียว

ไม่รู้สิครับ อย่างนี้ก็มีด้วย พอจุดดำน้ำบางจุดจะปิด ก็งัดเอาจุดใหม่มาขายต่อกันทัีนทีเลยทีเดียว เฮ้อ .. มีน้อยก็เที่ยวน้อย เที่ยวกันอย่างพอเพียงพร้อมทั้งมีการจัดการที่ดีไม่ได้หรือไงน๊า

angel frog 24-01-2011 09:52

จะปิด ก็ปิด ให้ถูกจุด ปิดไปเลย จะปิดนานเท่าไหร่ ก็ประมาณการณ์มาให้รู้ด้วยก็ดี คนทำธุระกิจ เขาอาจบ่นหน่อย แต่เขาก็เข้าใจ เพียงแต่ ต้องมีความชัดเจน ว่า ตอนนี้ ต้องเอาผลประโยชน์ของชาติมาก่อน มีรูมให้เขาทำมาหากินกันหน่อย มีระเบียบกติกาให้ทุกคนปฎิบัติเหมือนๆกัน โดยยึดแนวทางในการอนุรักษ์เป็นหลัก

ภาครัฐต้องเข้มแข็ง ดูแลให้ได้ ป้องกันความเสียหายให้ได้ เสียหายแล้ว จะฟื้นฟูอย่างไร..... จะทำยังไง ก็รู้ๆกันอยู่แล้ว ....ขึ้นอยู่ว่า จะทำหรือไม่ และทำแค่ไหน ...ก็เท่านั้น

moeak 24-01-2011 11:38

งี้ต้องเก็บภาษีพวกหากินทางนี้หนักๆอะดิ จะได้เอาเงินไปฟื้นฟูที่ทำมาหากินของเค้า

แล้วพอมีปัญหาจะได้แก้ไขถูกใจ แล้วจะได้หากินได้นานๆๆ

sea addict 24-01-2011 18:10

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติยังได้พบแนวปะการ ังแห่งใหม่เพิ่มขึ้นอีกหลายจุด ทั้งในหมู่เกาะสุรินทร์และหมู่เกาะสิมิลัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดเก็บข้อมูลเพื่อเสนอให้กรมอุทย านฯ ประกาศเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในเร็วๆนี้

เอะอะก็จะเปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ท่าเดียว

เราจะเหลืออะไรที่ดีๆที่ไม่ใช่แหล่งท่องเทียวไว้บ้างได้มั้ยครับ

พอสวย พอสมบูรณ์เข้าหน่อยก็จะเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว กะจะขายกันอย่างเดียว

ท่านอธิบ่ดีท่านคงไม่รู้ว่าปัจจุบันพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเลของบ้านเราแทบไม่มีพื้นที่ๆ

เป็น Core area สำหรับเป็นแหล่งสนับสนุนความสมบูรณ์และความหลากหลายทางพันธุกรรม

เลยทั้งๆที่มันเป็นลำดับความสำคัญระดับต้นๆในการประกาศเป็นพื้นที่อุทยาน และความสำคัญ

ของการท่องเที่ยวเป็นลำดับท้ายๆ ดันเอามาเป็นความสำคัญระดับต้นๆซะนี่ แค่คิดก็ผิดแล้ว

ครับ สำรวจเจออะไรสวยๆดีๆเข้าหน่อยก็จะเอาไปเป็นสินค้าซะทุกที

ใช้กันจนพังแล้วก็จะไปเอาของไหม่มาใช้ แทนที่จะมีการฟื้นฟูหรือซ่อมบำรุงของเก่า อย่างนี้

ประเทศชาติจะมีทรัพยากรที่ดีๆเหลือไว้บ้างได้อย่างไร

ปล. เกาะตะเกียงมันอยู่ในอช.เกาะเภตรานี่ครับ ทั่นบอกว่าอยู่ในอช.ตะรุเตาได้ยังไง แล้วอย่างงี้ขอมูลปะการังจะน่าเชื่อถือได้ยังไง

KENG@SK 24-01-2011 20:46

ช่วงมีนานี้มีผมจะไปที่เกาะอาดังเดี๋ยวจะถ่ายรูปมาให้ดูนะครับว่าสภาพเป็นยังไงบ้าง

สายชล 24-01-2011 21:59



ขอบคุณล่วงหน้าค่ะน้องเก่ง....:)


สายน้ำ 25-01-2011 07:07

http://i835.photobucket.com/albums/z...hairath_01.jpg



จาก ..................... ไทยรัฐ วันที่ 24 มกราคม 2554

สายน้ำ 25-01-2011 07:09


หวั่นปะการังฟอกขาวส่งผลกระทบ ท่องเที่ยวสตูลถึงขั้นปิดอุทฯ ตะรุเตา


สตูล/ นางโรสนีย์ ยกชม นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวสตูล กล่าวว่า ทาง 80 บริษัททัวร์ในพื้นที่ จ.สตูล ต่างวิตก ตามที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้เสนอข่าว ถึงการเกิดปะการังฟอกขาวในพื้นที่ทะเลอันดามันนั้นและได้ทำการปิดอุทยานฯและเกาะต่างๆไปแล้วหลายเกาะ ดังนั้นทาง จ.สตูล โดยสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.สตูลและผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวใน จ.สตูลจำนวน 80 บริษัท ได้เปิดให้มีการแถลงข่าวเมื่อเร็วๆนี้ ที่สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.สตูล ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การท่องเที่ยวของ จ.สตูล ในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้ประสบปัญหาข่าวลือสึนามิจนทำให้การท่องเที่ยวของ จ.สตูล ซบเซาลง นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศและในประเทศได้เดินทางมายัง จ.สตูล ลดน้อยลงไปมาก ดังนั้นการที่มีข่าวเกิดปะการังฟอกขาวขึ้นมาอีกนั้น ทำให้การท่องเที่ยวของ จ.สตูลเกิดความสับสนว่ากรมที่เกี่ยวข้องให้ประกาศให้ชัดเจนว่า จ.สตูล โดยพื้นที่เกาะต่างๆนั้นว่ามีพื้นที่ส่วนไหนบ้างที่เกิดปะการังฟอกขาวขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความไม่สบสนต่อข่าวที่ออกมา

อย่างไรก็ตาม ทาง จ.สตูลและสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.สตูล รวมทั้งผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชื่อว่าข่าวดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของ จ.สตูลอย่างแน่นอน เพราะขณะนี้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้เดินทางมายัง จ.สตูล โดยเฉพาะเกาะหลีเป๊ะและเกาะตะรุเตาเป็นจำนวนมากและก็ขอให้ทางจังหวัด อุทยานฯ รวมทั้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ให้ข่าวที่ชัดเจนแก่นักท่องเที่ยวด้วย

นายสามารถ เจริญฤทธิ์ เจ้าของบุหงารีสอร์ท กล่าวว่า ข้อเท็จจริงแล้วปะการังฟอกขาวในพื้นที่ จ.สตูล มีเพียงแค่ 10% เท่านั้นบริเวณพื้นที่อาดังราวีและเกาะหลีเป๊ะ ดังนั้นจึงไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวของ จ.สตูล แต่อย่างใด เพราะฉะนั้นการเสนอข่าวสารของสื่อมวลชนต้องให้ชัดเจนเพราะจะทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความเข้าใจผิดคิดว่า จ.สตูลซึ่งอยู่ในฝั่งอันดามันมีผลกระทบไปด้วย โดยเฉพาะทางจังหวัดและอุทยานฯควรจะออกมาให้ข่าวที่ชัดเจนแก่นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการในท้องที่

อย่างไรก็ตามการท่องเที่ยวของ จ.สตูล ในปีนี้ต้องประสบปัญหาต่อข่าวลือสึนามิและมากระทบต่อข่าวการเกิดปะการังฟอกขาวอีก จนทำให้ผู้ประกอบการต่างๆเกิดการท้อแท้และหมดกำลังใจ ดังนั้นจะเห็นได้ว่า สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.สตูล ควรจะให้การช่วยเหลือและให้ข่าวที่เป็นความจริงแก่นักท่องเที่ยวและบริษัททัวร์ให้ชัดเจน




จาก ..................... บ้านเมือง วันที่ 24 มกราคม 2554


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:16

vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger