SaveOurSea.NET

SaveOurSea.NET (http://www.saveoursea.net/forums/index.php)
-   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม (http://www.saveoursea.net/forums/forumdisplay.php?f=13)
-   -   สถานการณ์ปะการังฟอกขาว ปี 2553-2554 (http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=1337)

สายชล 28-01-2011 20:58



ถ้าผลการเสวนาในวันนี้นำไปใช้จริงๆ....ผู้กระทำผิด นอกจากจะถูกปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับแล้ว ยังจะถูก Black List ห้ามเข้าอุทยาฯฯด้วยค่ะ...น้อง KENG@SK


KENG@SK 28-01-2011 21:30

อ้างอิง:

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ สายชล (โพส 22975)


ถ้าผลการเสวนาในวันนี้นำไปใช้จริงๆ....ผู้กระทำผิด นอกจากจะถูกปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับแล้ว ยังจะถูก Black List ห้ามเข้าอุทยาฯฯด้วยค่ะ...น้อง KENG@SK


ดีเลยครับแบบนี้คงมีคนแหกกฏน้อยลงเยอะเลย:)
แต่เรื่องเอาไปใช้ก็คงยากอีกตามเคย:(

สายน้ำ 29-01-2011 07:51


"ตะรุเตา-เภตรา"จำกัดจุดดำน้ำ 70 บริษัทวุ่น-หวั่นลูกค้าทัวร์เคว้ง

http://www.khaosod.co.th/news-photo/...01290154p1.jpg

จากกรณีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ประกาศปิดเกาะเพื่อฟื้นฟูปะการังฟอกขาว ในอุทยานแห่งชาติทางทะเลด้านอ่าวไทยและอันดามัน 7 แห่ง ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะนักท่องเที่ยวและประชาชนเกิดความสับสน นักธุรกิจและผู้ประกอบการท่องเที่ยวก็ออกมาเคลื่อนไหวต่อกรณีการให้ข่าวดังกล่าวนั้น

นายเจตกร หวันสู ประธานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสตูล เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการร่วมประชุมกับอุทยานแห่งชาติตะรุเตา เพื่อหารือให้การท่องเที่ยวของ จ.สตูล มีแนวโน้มและสอดคล้องกับกรมอุทยานฯ ที่มีนโยบายอย่างชัดเจนในเรื่องของการอนุรักษ์ปะการังฟอกขาว ดังนั้น ผู้ประกอบการทั้ง 70 บริษัททัวร์จะเริ่มนำนักท่องเที่ยวเพื่อเป็นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในพื้นที่อุทยานฯตะรุเตาและเกาะหลีเป๊ะ พร้อมกันนี้ผู้ประกอบการจะมีส่วนร่วมและประชาสัมพันธ์แนวปะการังใหม่ที่มีความสวยงามโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวแต่อย่างใดและยังเป็นการฟื้นฟูปะการังฟอกขาว

อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวของ จ.สตูล ยังคงรวมตัวและเดินหน้าต่อไป เพราะขณะนี้มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว จ.สตูล โดยจองที่พักรวมทั้งรีสอร์ตบนเกาะหลีเป๊ะไว้มากมาย ทำให้การท่องเที่ยวของสตูลมีบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก แม้จะมีข่าวปะการังฟอกขาว แต่การท่องเที่ยวของสตูลยังคงเดินหน้าต่อไป

นายปณพล ชีวเสรีชล ผู้ช่วยอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล กล่าวว่า จากการสำรวจของนักวิชาการพบว่า ปะการังในเขตอุทยานฯมีความเสียหาย 20% ส่วนอีก 80% ยังมีความสวยงาม และไม่มีการปิดเกาะ แต่ห้ามทำกิจกรรมดำน้ำบางจุดเท่านั้นคือ โซนเกาะหินงาม หาดทรายขาว เกาะดง ส่วนการขึ้นเกาะหรือไปเที่ยวบนเกาะยังทำได้ตามปกติ ส่วนแหล่งดำน้ำดูปะการังและดูปลาที่สวยงามนั้นยังมีอีกหลายสิบจุดที่ยังคงความสวยงามและมีปะการัง 7 สี ให้ชมอยู่ เช่น บริเวณแนวเกาะอาดัง ด้านทิศตะวันตกและตะวันออก ตรงอ่าวเรือใบ อ่าว 2 อ่าว 3 เป็นต้น บริเวณหน้าเกาะหลีเป๊ะ เกาะกระ เกาะไผ่ เกาะหินซ้อน แหล่งดูปะการังเหล่านี้มีความสวยงามมาก

"อยากเชิญชวนให้ไปเที่ยวเหมือนเดิม และที่ห้ามทำกิจกรรมดำน้ำบริเวณ 3 จุด เพื่อให้ปะการังฟอกขาวคือ ปะการังเขากวาง ปะการังสมอง ซึ่งเป็นปะการังน้ำตื้นฟื้นตัว ซึ่งขณะนี้ปะการังเหล่านั้นกำลังฟื้นตัวและงอกอยู่ ต้องมีการควบคุมจำกัดจุดดำน้ำ และเข้มงวดไม่ให้มีการไปเหยียบย่ำปะการัง ส่วนปะการังเจ็ดสีและปะการังน้ำลึกยังมีความสวยงามอยู่เหมือนเดิม" นายปณพลกล่าว

ด้านนายเทอดไทย ขวัญทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา กล่าวว่า ในส่วนของอุทยานฯเภตรางดดำน้ำ 2 จุด คือ เกาะบุโหลนไม้ไผ่ เกาะบุโหลนรังผึ้ง หรือบริเวณกลุ่มเกาะหินขาว ซึ่งมีปะการังเจ็ดสีและกัลปังหาที่สวยงามมาก ขณะนี้ปะการังเหล่านี้ไม่ได้เสียหาย เสียหายแต่ปะการังเขากวาง ปะการังสมอง ซึ่งอยู่น้ำตื้นเท่านั้น และที่เสียหายมากที่เกาะบุโหลน หน้าเกาะบุโหลนไม้ไผ่ซึ่งเสียหายประมาณ 60% ส่วนที่อื่นไม่มาก ทางอุทยานฯไม่ได้ปิด แต่งดกิจกรรมดำน้ำบริเวณนั้น

ส่วนการท่องเที่ยวอื่นเที่ยวได้ตามปกติ ไม่ได้ปิดเกาะตามข่าว และจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวได้ ยังมีอีกหลายจุด อาทิ เกาะบุโหลนเล และที่เกาะลีดิ ปะการังยังสวยงาม ไม่ฟอกขาว สามารถไปเที่ยวได้ทั้งปี สะดวกทั้งน้ำไฟ และการเดินทางเพราะมีเรือให้บริการบริเวณที่ทำการอ่าวนุ่น ไปกลับคนละ 120 บาท




จาก ..................... ข่าวสด วันที่ 29 มกราคม 2554

sea addict 29-01-2011 10:08

นายนพดล ทองเกิด ประธานชมรมผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะพีพี จ.กระบี่ กล่าวถึงกรณีที่ทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ ุ์พืช เตรียมที่จะปิดอุทยานบางแห่งในพื้นที่ฝั่งอันดามัน

ใครเห็นด้วยกับการให้สื่อเลิกใช้คำว่า "ปิดอุทยานฯ"ในการเสนอข่าวบ้าง ยกมือขึ้น

ผู้สื่อข่าวของสื่อบางสำนักที่ไม่เข้าใจมักใช้คำนี้ลงในสื่อของตัวเอง เพราะ มันใช้คำง่ายดี มันฟังดูยิ่งใหญ่ดี และเรียกความน่าสนใจจากผู้เสพสื่อ และประชาชนทั่วไปได้ดี และขณะเดียวกัน มันสร้างความเข้าใจผิด ความตื่นตระหนกและแรงต่อต้านจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างไม่สมควรแก่เหตุผล ทั้งยังส่งผลต่อการท่องเที่ยวอย่างไม่อาจคาดเดาได้

การใช้คำว่า งดการดำน้ำในจุดดำน้ำบางแห่ง ของอุทยาน มันยาวกว่า ยากกว่า แต่ก็น่าจะทำให้ผู้ประกอบการที่เข้าใจและไม่หวังกอบโกยจากธรรมชาติ สบายใจมากขึ้นและอาจจะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่ต้องทำงานด้านนี้มากขึ้น เพราะเขารู้สึกว่ายังมีพื้นที่หากิน และนักท่องเที่ยวยังคงได้มาเที่ยวชม

ถึงตอนนี้ผมยังไม่แน่ใจว่า ระหว่างการออกมาตรการของรัฐ กับการให้ข่าวของสื่ออะไรจะส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนมากกว่ากัน

สายชล 29-01-2011 11:00



เรื่องการใช้คำว่า "ปิดอุทยาน" ที่หนังสือพิมพ์โปรยหัวตัวเป้งไว้นั้น ได้ไปขึ้นพูดในเวทีเสวนาเรื่อง "ระดมความคิดแก้วิกฤตปะการัง" ไว้ว่า มีผลกระทบต่อจิตใจของนักดำน้ำและนักท่องเที่ยวทางทะเล และผู้ประกอบการมาก ก่อให้เกิดความตกใจ สับสน นึกว่าอุทยานฯ ถูกปิดทั้งหมด (เสียงก่นด่าเลยตามมา)

เห็นด้วยกับน้องsea addict ค่ะ.....เปลี่ยนคำพูดซะใหม่ดีกว่า ไม่อย่างนั้น ใจจะวายกันหมด


สายน้ำ 29-01-2011 11:08


เมื่อวานนี้ ถ้าจำไม่ผิด ดร.เนะก็ได้กล่าวเตือนสื่อไปแล้วในเรื่องการใช้คำและการนำเสนอข้อมูลเนื้อหาข่าวที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ซึ่งทำให้ผู้บริโภคสื่อเข้าใจผิด


Super_Srinuanray 29-01-2011 22:24

น้องก็เห็นด้วยสำหรับการนำเสนอของสื่อค่ะ คำบางคำสำหรับคนที่ไม่มีความรู้ สักแต่ใช้โปรยหัวข่าวเพื่อเรียกร้องความน่าสนใจของข่าว ในทางกลับกัน กลับเป็นการทุบหม้อข้าวตัวเองแท้ๆๆ

แล้วอย่างนี้เมื่อไรเศรษฐกิจจะฟื้น และต้องเสียเงินประชาสัมพันธ์ กันอีกเท่าไรเพื่อให้เมืองไทยเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว

ไม่ใช่ไม่สนับสนุนการอนุรักษ์นะคะ แต่อยากให้การอนุรักษ์ใต้ท้องทะเลเป็นจุดดึงดูดให้คนที่สนใจว่า เมืองไทยทำอย่างไรกับแนวปะการังที่เสียหาย ให้ฟื้นกลับคืนมาได้อย่างรวดเร็ว

คิดว่าคงจะไม่สายเกินไปนะคะ...

สายน้ำ 30-01-2011 07:29


คุมเข้มปะการังฟอกขาว


เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ หอมช่วย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ได้สั่งการให้สั่งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำเรือตรวจการณ์ออกไปลอยลำในทะเลอันดามัน เพื่อเฝ้าระวังแหล่งปะการังฟอกขาวในเขตพื้นที่เกาะตะรุเตา ที่มีเนื้อที่กว่า 9.9 แสนไร่ โดยเฉพาะที่บริเวณหาดทรายขาว เกาะหินงาม เกาะดง และเกาะตะเกียง เพื่อป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยว ลักลอบแอบลงไปดำน้ำดูปะการังบริเวณพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีปะการังฟอกขาว

แต่อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเดินทางลงไปเที่ยวชมบรรยากาศตามเกาะต่างๆ แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่าเป็นพื้นที่งดกิจกรรมดำน้ำดูปะการัง พร้อมกันนี้ได้ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว งดนำนักท่องเที่ยวมาดำน้ำดูปะการัง เพื่อให้ปะการังได้ฟื้นตัว.




จาก ..................... เดลินิวส์ วันที่ 29 มกราคม 2554

ดอกปีบ 31-01-2011 09:23

ดีใจที่เริ่มเห็นการเฝ้าระวังติดตามผลตามมาบ้างแล้วครับ .. หวังว่าจะไม่ใช่ช่วงต้นๆเท่านั้นนะครับที่ช่วยกันตรวจตราสอดส่องแบบนี้

เห็นด้วยเช่นกันที่บทลงโทษที่รุนแรงมากขึ้นน่าจะทำให้การควบคุมดูแลมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้บ้าง แต่ก็จะเป็นจะต้องได้ความร่วมไม้ร่วมมือจากผู้ปฏิบัติและผู้บังคับใช้กฎหมายด้วย ไม่อย่างนั้นกฎหมายแรงแค่ไหนก็ไร้ผลครับ ..

นาย 31-01-2011 20:49

....เมื่อประมาณ 3-4 เดือนที่แล้วไปดำน้ำที่บริเวณช่องแสมสาร จ.ชลบุรี...พบปะการังขาวประมาณ 40 % ของปะการัง...หลังจากติดธุระไม่ค่อยได้ไป....เมื่อวานนี้ไปดำน้ำมา...ไม่น่าเชื่อไม่พบปะการังฟอกขาวเลยและพบปะการังอ่อนขึ้นเป็นจำนวนมาก..สวยงามมาก...ขอบคุณธรรมชาติ....ถามเพื่อนฝูงที่ไปประจำเล่าให้ฟังว่า..หลังจากที่อากาศเริ่มเย็นลงปะการังฟอกขาวก็ค่อยๆหายไป...ก็ขอขอบคุณธรรมชาติอีกครั้งหนึ่ง....


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:16

vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger