SaveOurSea.NET

SaveOurSea.NET (http://www.saveoursea.net/forums/index.php)
-   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม (http://www.saveoursea.net/forums/forumdisplay.php?f=13)
-   -   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม 2563 (http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=5240)

สายน้ำ 07-08-2020 03:27

สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม 2563
 
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 6 - 7 ส.ค. 63 ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ลาว และเวียดนามตอนบน ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทย มีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 8 - 12 ส.ค. 63 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณอ่าวไทยคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 7-8 ส.ค. 63 และเคลื่อนไปทางทะเลจีนใต้ตอนบน


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 8 - 12 ส.ค. 63 ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง



https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

สายน้ำ 07-08-2020 04:16

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


โลกร้อนทำ 'สัตว์กินพืช' อยู่ยาก หลายสปีชีส์เสี่ยงสูญพันธุ์

สัตว์กินพืชหากินลำบาก เพราะมนุษย์รุกคืบพื้นที่อาศัยและสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง นักวิทยาศาสตร์กังวลสัตว์หลายสปีชีส์เสี่ยงสูญพันธุ์

https://lh3.googleusercontent.com/TP...-no?authuser=0

บนโลกใบนี้ทั้งมนุษย์และสัตว์ ทุกชีวิตต่างอยู่ร่วมกันภายใต้ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ แม้แต่สัตว์ป่าเอง ก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศที่ช่วยให้โลกมีความสมดุล แต่นับวันสัตว์ป่าทั้งหลายค่อยๆ ถูกทำลายจนสูญพันธุ์หายไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะโลกยุคนี้ การอยู่รอดของสัตว์กินพืชบางจำพวก เริ่มมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ยากลำบากมากยิ่งขึ้น หลายสปีชีส์มีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์สูง เนื่องจากปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงของภาวะโลกร้อนและการรุกคืบที่อยู่ของสัตว์ของมนุษย์


สัตว์กินพืช หรือ สัตว์กินเนื้อ ใครจะอยู่ใครจะไป

แม้ว่าสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์กังวลมากที่สุด จะเป็นการสูญพันธุ์ของสัตว์จำพวกนักล่า แต่การศึกษาใหม่ที่ครอบคลุม ของบรรดานักนิเวศวิทยาและผู้เชี่ยวชาญ พบว่าสัตว์กินพืช กลับกลายเป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากที่สุดในขณะนี้ โดยเฉพาะในระบบนิเวศป่าไม้

นักวิทยาศาสตร์ตระหนักได้ว่าสัตว์ป่าทั่วโลกกำลังประสบปัญหาเสี่ยงสูญพันธุ์แม้แต่สัตว์กินเนื้อเองก็เช่นกัน แต่ความเสี่ยงสูญพันธุ์ของสัตว์กินพืชนั้นมีมากกว่า กล่าวได้ว่า แทนที่จะเป็นสัตว์จำพวกหมีขั้วโลก หรือ เสือ สัตว์นักล่าที่เสี่ยงจะสูญพันธุ์ แต่กลับกลายเป็นสัตว์จำพวกแรด หรือ เต่าทะเลสีเขียว ที่มีความเสี่ยงสูญพันธุ์มากกว่า

อย่างกรณี การสูญเสียแรดขาวเหนือเพศผู้ตัวสุดท้ายในป่า ที่เสียชีวิตในปี 2561 แต่นักวิทยาศาสตร์ยังคงพยายามทุกวิถีทาง เพื่อดิ้นรนศึกษาค้นคว้าหาวิธีช่วยชีวิตสัตว์สายพันธุ์นี้ด้วยการถ่ายฝากตัวอ่อน (donor embryos)

"ผลกระทบของเรื่องนี้มีมาก เราต้องคิดว่าสัตว์กินพืช เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่ใกล้สูญพันธุ์" Atwood นักวิจัยกล่าว


สาเหตุการสูญพันธุ์

เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการสูญเสียที่อยู่อาศัยจากฝีมือมนุษย์ ล้วนเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้สัตว์กินพืชได้รับผลกระทบหนักกว่าสัตว์ที่มีอาหารอื่นๆ เพราะโดยธรรมชาติของสัตว์กินพืชแล้ว ปกติโดยส่วนใหญ่พวกมันมีขนาดที่ใหญ่กว่าสัตว์กินเนื้อ ต้องหากินในปริมาณเยอะและต้องการพื้นที่ที่อยู่อาศัยเป็นบริเวณกว้าง ในทางกลับกัน เมื่อพวกมันถูกรุกรานพื้นที่อาศัย ทำให้พวกมันหากินลำบากขึ้นทุกวัน และเสี่ยงสูญพันธุ์มากขึ้นตามไปด้วยนั้นเอง

หากกล่าวถึงเรื่องการรุกคืบที่อยู่ของสัตว์ ภายในเพียงช่วง 2 ชั่วอายุคนของมนุษย์ โลกเราสูญเสียสัตว์ป่าไปแล้วกว่าร้อยละ50 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการขยายตัวของเมือง การตัดไม้ทำลายป่าเพื่อเปลี่ยนเป็นที่อยู่อาศัย พื้นที่เกษตรกรรม โรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงการลักลอบล่าสัตว์ และการสร้างขยะ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาหลักที่ทำให้จำนวนประชากรสัตว์ป่าลดลง

อย่างไรก็ตาม ประเด็นการสูญพันธุ์ของสัตว์กินพืชและสัตว์กินเนื้อ รวมถึงการแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในเหล่านักวิทยาศาสตร์และนักชีววิทยา ว่าควรชี้เป้าไปที่สัตว์จำพวกใดก่อน หรือในความเป็นจริงแล้ว ควรแก้ที่ต้นตอหลัก นั่นก็คือ มนุษย์ ซึ่งเป็นนักล่าชั้นบนสุดของห่วงโซ่อาหาร เพราะ "โลกที่ไม่มีสัตว์กินพืชจะเป็นหายนะสำหรับระบบนิเวศทางธรรมชาติ" Galetti กล่าว


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1904903


สายน้ำ 07-08-2020 04:19

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


'หอยหลักไก่'ของขวัญจากทะเลช่วงมรสุมสร้างรายได้นำมาประกอบอาหารได้หลายเมนู

https://lh3.googleusercontent.com/NV...-no?authuser=0

วันที่ 6 ส.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหน้าฤดูมรสุมคลื่นลมแรง ชาวบ้านในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงได้อาศัยจังหวะที่น้ำทะเลลดลงออกเก็บหอยหลักไก่ที่บริเวณชายหาดซอยตกปลา ต.เกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ได้มีชาวบ้านจำนวนมากเดินทางมาหาหอยหลักไก่ ที่ถูกคลื่นซัดมาอยู่ตามบริเวณชายหาดเป็นจำนวนมาก ทำให้แต่ละคนเก็บได้วันละหลายกิโลและจะเลือกเก็บเฉพาะตัวที่โตเต็มวัยแล้วเท่านั้น เพื่อเป็นการช่วยอนุรักษ์ให้หากินได้ตลอดไป โดยจะนำไปประกอบเป็นอาหารในครัวเรือน และบางส่วนก็นำไปขายได้ในราคากิโลกรัมละ 25-30 บาท เป็นรายได้เสริมให้แก่ครัวเรือนในช่วงฤดูมรสุม ส่วนชาวบ้านจากพื้นที่ใกล้เคียงจะมาเก็บเพื่อนำไปขายเป็นหลัก

https://lh3.googleusercontent.com/Q9...-no?authuser=0

นายอนุวัฒน์ ไวว่อง ชาวบ้านที่หาหอยหลักไก่ กล่าวว่า ในช่วงที่มีมรสุมคลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังแรง จนทำให้คลื่นขนาดใหญ่พัด หอยหลักไก่ขึ้นมาซึ่งทางชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างพามาหาหอยเพื่อนำไปรับประทานและนำไปขายในตลาดสดกิโลกรัมละ 25-30 บาท ซึ่งในแต่ละวันชาวบ้านหลายคนเก็บหอยได้หลายกิโลกรัม จนมีรายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 800 ? 1,000 บาท เป็นผลดีกับชาวบ้านเป็นอย่างมาก

สำหรับหอยหลักไก่ เป็นหอยฝาเดียวที่รสชาติดี มีมากในทะเลอันดามัน เมนูยอดนิยมคือ แกงคั่วหอยหลักไก่ ผัดฉ่าหอยหลักไก่ สำหรับวิธีนำมาประกอบอาหารต้องนำมาแช่น้ำให้หอยขับเมือกและทรายออกมาก่อน จากนั้นต้องใช้มีดสับเอาส่วนยอดของเปลือกหอยออกไปเล็กน้อยเพื่อทำเป็นรูระบายอากาศ เนื่องจากว่าเมื่อแกงสุกดีพร้อมที่จะรับประทานกันแล้ว เราจะต้องใช้ปากจุ๊บ หรือดูดที่ปากหอย เพื่อให้เนื้อหอยมันย้ายที่เข้ามาอยู่ในปากของเรา ถ้าหากไม่ทำรูระบายอากาศที่ว่าแล้ว เราจะไม่สามารถดูดเนื้อหอยออกมาได้ ขั้นตอนของการจุ๊บ หรือดูดหอยเป็นความสนุกอย่างหนึ่งของการกินหอยชนิดนี้


https://www.naewna.com/likesara/510139


สายน้ำ 07-08-2020 04:23

ขอบคุณข่าวจาก Greennews


รวมพลังคนสมุย เก็บขยะ 90 ตันจากเฟอร์รี่ล่ม หวั่นกระทบปะการังและสัตว์ทะเล

ชาวสมุยรวมพลังด่วนเก็บขยะจากเรือเฟอร์รี่ล่มกลางทะเล อ.ธรณ์ชี้เป็นเรื่องร้ายแรงและเร่งด่วน กระทบปะการังและสัตว์หายาก ด้านผอ.สำนักทรัพยาการทะเลสุราษฎร์เผย โศกนาฏกรรมนี้เป็นยอดภูเขาน้ำแข็ง สมุยยังขยะท่วม ต้องขนออกอีกร่วม 300,000 ตัน

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2563 เวลา 9.00 น. หน่วยงานราชการ โรงเรียน จิตอาสาและประชาชนทั่วไป ร่วมเก็บขยะจากเหตุเรือบรรทุกขยะ ราชาเฟอร์รี่ 4 ประสบอุบัติเหตุทำให้ล้มกลางทะเลเมื่อคืนวันที่ 1 สิงหาคม หลังจากเดินทางออกจากท่าเรือสมุยได้ประมาณ 5 ไมล์ทะเลเพราะคลื่นลมแรงกว่าปกติ สำนักข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่าเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้ประสบเหตุ 16 คน เสียชีวิต 2 ราย หน่วยซีลได้ลงพื้นที่ค้นหาผู้สูญหายที่เหลืออีก 3 ราย ทว่าล่าสุดยังไม่พบ

นอกจากนั้นแล้ว เหตุดังกล่าวยังทำให้ขยะที่ตั้งใจขนไปกำจัดบนแผ่นดินปริมาณ 90 ตันปนเปื้อนลงทะเล เทศบาลนครเกาะสมุยจึงได้ออกจดหมาย "ด่วนที่สุด" ระดมกำลังเก็บขยะ ณ บริเวณเกาะแตน ทางตอนใต้เกาะสมุย

วิชัย สมรูป ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) อธิบายว่า เรือราชา 4 มีลักษณะเป็นเรือบรรทุกสินค้าโดยขยะจะถูกห่อเป็นแพ็คหุ้มด้วยพลาสติก เรียกว่า ?บิ๊กแพ็ค?? บรรจุใส่รถเทรลเลอร์ใส่ขยะ 3 คัน (คันละ 30 ตัน) และคลุมด้วยผ้าใบ

"การสำรวจความเสียหายตอนนี้ทำได้ยากเพราะคลื่นลมแรงด้วยเป็นหน้ามรสุม เรายังไม่สามารถระบุได้ว่าขยะกระจัดกระจายอยู่ในทะเลบริเวณไหนบ้าง ตอนนี้เห็นว่าบางส่วนถูกพัดเข้ามาติดที่เกาะแตน ตอนใต้เกาะสมุย ซึ่งจะเก็บได้ง่ายกว่าในทะเล"

https://lh3.googleusercontent.com/6C...-no?authuser=0
ก้อนขยะจากเรือเฟอร์รี่ติดอยู่ที่หาดเกาะแตน ทางตอนใต้เกาะสมุย // ขอบคุณภาพ: ธรณ์ ธํารงนาวาสวัสดิ์

เขาเผยว่า เบื้องต้นเทศบาลนครสมุยได้ประสานกับบริษัทขนขยะ "ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน)" ซึ่งยินดีรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ตามหน้าที่ซึ่งระบุไว้ในสัญญาจ้าง โดยได้ประกาศให้ชาวประมงและชาวบ้านที่พบเห็นขยะ นำส่งขยะก้อนแล้วให้เงินรางวัลก้อนละ 2,000 บาท ส่วนมาตรการระยะยาว กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกรมทรัพยากรชายฝั่งจะตามติดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมอย่างใกล้ชิด

"ขยะที่ขนครั้งนี้เป็นโครงการขนขยะรอบพิเศษ ขนขยะที่ตกค้างบนเกาะสมุยไปฝังกลบที่เทศบาลอำเภอเวียงสะซึ่งมีพื้นที่หลุมไม่ได้ใช้งานจากเหมืองทิ้งร้างเยอะ โครงการนี้วางแผนมานานแล้วเพราะพื้นที่เกาะสมุยรองรับขยะไม่เพียงพอ มีขยะสะสมมาตั้งแต่ปี 60 อีกร่วม 300,000 ตัน ขณะเดียวกันขยะใหม่ก็เกิดขึ้นทุกวัน"

ขยะที่ตกค้างในทะเลนั้นสร้างผลกระทบต่อระบบนิเวศ ดร.ธรณ์ ธํารงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการทะเล เผยว่าประเทศไทยเคยพบเหตุเรือขนขยะล่มมาก่อน ทว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ ?ร้ายแรงที่สุด? เพราะปริมาณเยอะที่สุด อีกทั้งยังปนเปื้อนในบริเวณน้ำตื้น ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงทำลายปะการังมากกว่าในทะเลเปิด

"ขยะพวกถุงพลาสติกจะไปเกี่ยวปะการัง พอน้ำพัดก็ดึงปะการังหัก หรืออาจไปครอบปะการังตาย ทำให้มันหายใจและรับแสงไม่ได้ ขยะในทะเลยังกระทบกับสัตว์หายากหลายชนิด เพราะพื้นที่เกาะสมุย เป็นพื้นที่วางไข่ของเต่ามะเฟือง นอกจากนี้ยังมีโลมาสีชมพูซึ่งอาศัยอยู่ใกล้ฝั่งและโลมาหัวบาก ที่รู้จักกันว่า 'โลมาอิรวดี' บริเวณเกาะแตน อาศัยอยู่ในเขตที่ขยะกระจัดการจายนั้นแหละ สัตว์พวกนี้จะกินขยะเข้าไปแล้วตายเหมือนที่เราเห็นข่าวกัน"

เขาเผยว่าการเก็บกู้ขยะเป็นเรื่องท้าทายเพราะเป็นพื้นที่แนวปะการังไม่ต่ำกว่า 10 กิโลเมตร อีกทั้งขยะยังพัดไปติดที่หาดหินซึ่งไม่ใช่จุดท่องเที่ยวและชุมชน จึงไม่ค่อยมีคนพบเห็นและนักดำน้ำ ทว่าโชคดีที่คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำเคยทิ้งทุ่นตรวจกระแสน้ำและศึกษาทิศทางน้ำไว้ในบริเวณนั้น พบว่ากระแสน้ำจะหมุนวนในบริเวณเกาะแตนอีกหลายวัน ขยะจะลอยในลักษณะเดียวกับทุ่น จึงบอกเส้นทางเคลื่อนที่ของขยะได้

จากผลวิเคราะห์ยังพบว่า นอกจากเกาะแตนและ ชายฝั่งด้านตะวันตกและใต้ของเกาะสมุย ขยะบางส่วนอาจลอยไปที่อุทยานหมู่เกาะอ่างทอง รวมถึงเกาะพะลวยและหมู่เกาะใกล้เคียง ซึ่งมีสภาพน้ำนิ่ง ขยะที่ลอยมามีโอกาสตกลงสู่แนวปะการังและหาดต่างๆ โมเดลยังยืนยันว่าน้ำในบริเวณจะวนไปมาหลายวัน ทำให้ขยะอาจลอยไปมาแถวนี้

https://lh3.googleusercontent.com/4p...-no?authuser=0
ทุ่นตรวจกระแสน้ำ // ขอบคุณภาพ: ธรณ์ ธํารงนาวาสวัสดิ์

เขาแนะว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นเรื่องด่วนที่ต้องรีบวางแผนฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ในระยะสั้นอาจจัดกิจกรรมระดมกำลังเก็บขยะที่หาดแตนช่วงเสาร์อาทิตย์ ระยะยาว ควรตรวจสอบเกณฑ์การขนส่งขยะทางเรือให้รัดกุมขึ้น เช่น ติดตะข่ายคลุมรถไว้ เพื่อกันขยะรั่วไหลเมื่อเกิดเหตุเรือล้มเช่นโศกนาฏกรรมคราวนี้

นอกจากนี้ เขายังเสนอให้มีการคำนวณค่าความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมจากการรั่วไหลของขยะทะเลครั้งนี้ เพื่อประเมินผลกระทบจากขยะทะเลเป็นมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์ และปรับปรุงการบริหารความเสี่ยงในกรณีที่มีการขนย้ายขยะจากเกาะสู่ฝั่ง

"สิ่งสำคัญคือเราจะได้เรียนรู้จากเหตุครั้งนี้แล้ววางแผนสำหรับการขนขยะทางเรือครั้งต่อๆ ไป การขนขยะไม่ได้มีที่สมุยที่เดียว แต่มีที่เกาะทั่วประเทศไทย"


https://greennews.agency/?p=21541



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:04

vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger