SaveOurSea.NET

SaveOurSea.NET (http://www.saveoursea.net/forums/index.php)
-   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม (http://www.saveoursea.net/forums/forumdisplay.php?f=13)
-   -   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ 3 ตุลาคม 2563 (http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=5298)

สายน้ำ 03-10-2020 03:45

สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ 3 ตุลาคม 2563
 
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคกลาง ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ตลอดช่วง ส่วนในช่วงวันที่ 5 ? 7 ต.ค.บริเวณความกดอากาศสูงจะแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 3 ? 8 ต.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของประเทศไทย ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก สำหรับชาวเรือในบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง



https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

สายน้ำ 03-10-2020 03:48

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


สวทช.-ทช.จับมือวิจัยจีโนมพืชป่าชายเลนเสี่ยงสูญพันธุ์

สวทช.และ ทช.ลงนามความร่วมมือวิจัยพันธุ์ไม้ป่าชายเลนหายากใกล้สูญพันธุ์ 15 สปีชีส์ มุ่งสร้างฐานข้อมูลจีโนมพืชป่าชายเลนเป็นครั้งแรกในไทย หวังต่อยอดคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์และปรับปรุงพันธุ์ในอนาคต

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

วันนี้ (2 ต.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการวิจัย พัฒนา และวิชาการ เกี่ยวกับป่าชายเลน

ศ.ดร.สนิท อักษรแก้ว ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะประธานสมาคมป่าชายเลนนานาชาติ กล่าวว่า ป่าชายเลนเป็นระบบนิเวศที่มีพันธุ์พืชมากกว่า 80 ชนิด ในบริเวณรอยต่อระหว่างน้ำจืดกับน้ำเค็ม และเป็นพืชที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

"ป่าชายเลนเป็นพื้นที่เชื่อมโยงระหว่างบนบกและทะเล เป็นจุดเริ่มต้นห่วงโซ่อาหารชายฝั่ง จึงมีความสำคัญอย่างมาก และเป็นที่รวมของสัตว์ 3 น้ำคือ สัตว์น้ำจืด สัตว์น้ำกร่อย และสัตว์น้ำเค็ม แสดงให้เห็นถึงความหลายหลายทางชีวภาพ"

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

งานวิจัยป่าชายเลนครั้งนี้มีความสำคัญ จะนำไปสู่การเปิดบทบาทการวิจัยแนวหน้าด้านป่าชายเลนของไทย รองรับการดำเนินการของโครงการ "สวนพฤษศาสตร์ป่าชายเลนนานาชาติ ร.9" ซึ่งเป็นสวนพฤษศาสตร์ป่าชายเลนแห่งแรกของโลกที่ จ.จันทบุรี


ป่าชายเลนสมบูรณ์เพิ่มเป็น 1.7 ล้านไร่

นายโสภณ ทองดี อธิบดี ทช. ระบุว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านป่าชายเลนของโลก โดยในระยะแรกมุ่งเป้าศึกษาพันธุ์ไม้ป่าชายเลนหายากใกล้ศูนย์พันธุ์ ตามบัญชีชนิดพันธุ์ที่ถูกคุกคามขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN) ครอบคลุมพื้นที่ป่าชายเลนในฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน 24 จังหวัด

"ก่อนหน้านี้มีพื้นที่ป่าชายเลนสมบูรณ์ทั้งหมด 1.5 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์ 1.3 ล้านไร่ ล่าสุดจากการสำรวจภาพถ่ายดาวเทียมของจีสด้า พบว่ามีพื้นที่ป่าชายเลนสมบูรณ์เพิ่มเป็น 1.7 ล้านไร่ คาดหวังว่าจะแตะ 2 ล้านไร่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า"

นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล รวมถึงเครือข่ายชุมชนชายฝั่งกว่า 400 เครือข่าย มีสมาชิกกว่า 10,000 คนในพื้นที่จังหวัดชายทะเล ช่วยเป็นหูเป็นตาและแจ้งข่าว รวมถึงมีส่วนร่วมดูแลรักษาป่าชายเลน ขณะเดียวกันได้ดำเนินการจัดทำ "ป่าชายเลนในเมือง" เพื่อให้ภาคส่วนต่างๆ เข้ามาช่วยดูแล

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds
ภาพ : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง


เก็บตัวอย่าง 15 สปีชีส์เสี่ยงสูญพันธุ์

ดร.วิรัลดา ภูตะคาม หัวหน้าห้องปฏิบัติการวิจัยจีโนม หน่วยวิจัยเทคโนโลยีจีโนม ไบโอเทค สวทช. ให้ข้อมูลว่า ในส่วนของ สวทช.จะใช้เทคโนโลยีในการช่วยอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลน ผ่านศูนย์โอมิกส์ และธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ ซึ่งความหลากหลายทางพันธุกรรมเป็นเรื่องสำคัญที่จะอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตทุกสปีชีส์ ไม่ใช่เฉพาะป่าชายเลน เพราะหากความหลากหลายทางพันธุกรรมตกลง โอกาสที่สปีชีส์นั้นจะสูญพันธุ์ก็มีสูงมาก

ศูนย์โอมิกส์แห่งชาติ จะใช้วิธีการสำรวจความหลากหลายทางพันธุกรรมของพืชป่าชายเลนในระดับดีเอ็นเอ ลำดับเบส ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด และสามารถเทียบกันระหว่างแล็บต่างๆ ทั่วโลกได้ โดยหากพบว่าพืชชนิดใดมีความหลากหลายทางพันธุกรรมต่ำ ก็อาจจะต้องนำมาเพาะในสวนพฤษศาสตร์ต่อไป

สำหรับโครงการนี้ ทีมงานลงพื้นที่เก็บตัวอย่างใน จ.ระนอง ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร จันทบุรี เบื้องต้นจะวิจัย 15 สายพันธุ์ อาทิ โปรงแดง โปรงขาว โปรงหมู 2 สายพันธุ์ ถั่วดำ ถั่วขาว ลำแพน และลำแพนหิน เป็นต้น ซึ่งบางสายพันธุ์มีความเสี่ยงสูญพันธุ์อย่างมาก นอกจากนี้ยังต้องศึกษาความสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อม (ความเค็ม ปริมาณออกซิเจนที่ละลายในน้ำ การนำไฟฟ้า ความเป็นกรด-ด่าง อุณหภูมิ และปัจจัยอื่นๆ) และแหล่งกระจายพันธุ์ของไม้ป่าชายเลนในพื้นที่ 24 จังหวัดชายฝั่งทะเล เพื่อเป็นการอนุรักษ์ในถิ่นกำเนิด และรักษาความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าชายเลน

โดยการวิจัยในระดับจีโนมและพันธุกรรม จะมุ่งเป้าให้เกิดฐานข้อมูลจีโนมอ้างอิงของพืชป่าชายเลน เพื่อศึกษาลักษณะพิเศษของพืชแต่ละชนิด รวมถึงวิธีการอนุรักษ์พันธุกรรมในสภาพปลอดเชื้อระยะยาว นำไปสู่การคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ป่าชายเลน และปรับปรุงพันธุ์ในอนาคต โดยในเฟสแรก ตั้งเป้าดำเนินการ 3 ปี และคาดว่าในเฟสที่ 2 จะขยายไปถึงสปีชีส์ใหม่ๆ ด้วย


https://news.thaipbs.or.th/content/297050


สายน้ำ 03-10-2020 03:51

ขอบคุณข่าวจาก PPTV


อังกฤษบังคับใช้กฎหมาย "แบนหลอดพลาสติก"

ตั้งแต่ 1 ต.ค. 63 อังกฤษเริ่มบังคับใช้กฎหมาย ห้ามใช้หลอดพลาสติก ที่คนที่เครื่องดื่มพลาสติก และคอตตอนบัดแบบใช้ครั้งเดียว จากเดิมที่ข้อบังคับดังกล่าวจะเริ่มใช้ตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

จอร์จ อัสติซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า รัฐบาลมีความจริงจังในการจัดการกับหายนะด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวและภายหลังที่กฎหมายดังกล่าวบังคับใช้ นัดอนุรักษสิ่งแวดล้อม ต่างยินดีกับเรื่องดังกล่าว พร้อมกับเรียกร้องให้มีการปราบปรามสินค้าที่เป็นพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวเพิ่มเติม

ไซออน เอลิส วิลเลียมส์ จาก Friends of the Earth กล่าวว่า รัฐาลต้องทำมากกว่านี้เพื่อโดยการบังคับให้เปลี่ยนวัสดุที่ใช้ครั้งเดียวทั้งหมดและสนับสนุนสินค้าหรือวัสดุที่ใช้ซ้ำได้

ที่ผ่านมาในแต่ละปี คนในอังกฤษใช้หลอดพลาสติก ประมาณ 4.7 พันล้านหลอด ไม้คนเครื่องดื่มพลาสติก 316 ล้านชิ้น และคอตตอนบัดแบบใช้ครั้งเดียว 1.8 พันล้านก้าน

นักอนุรักษ์อีกคน ระบุว่า อังกฤษยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของการห้ามใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ขณะที่ ไอร์แลนด์และฝรั่งเศส มีความมุ่งมั่นและจริงจังมากกว่านี้ เช่น การให้ผลตอบแทนเป็นเงินสดสำหรับประชาชนที่ใช้ผลิตภัณฑ์แบบใช้ซ้ำ

ขณะที่ รัฐบาลเวลส์ ก็กำลังพิจารณาการห้ามใช้พลาสติกในลักษณะเดียวกัน รวมถึงร้านอาหารของรัฐบาลหลายแห่งแบนการใช้หลอดพลาสติกก่อนที่จะมีการประกาศกฎหมาย อย่างไรก็ตาม กฎหมายดังกล่าว ยกเว้น ให้โรงพยาบาล บาร์ และร้านอาหาร ในการจัดหาหลอดพลาสติกให้กับคนพิการ หรือผู้ป่วยที่ต้องการใช้หลอดพลาสติดจริงๆ


https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8...0%B8%99/134236



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:10

vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger