SaveOurSea.NET

SaveOurSea.NET (http://www.saveoursea.net/forums/index.php)
-   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม (http://www.saveoursea.net/forums/forumdisplay.php?f=13)
-   -   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม 2563 (http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=5135)

สายน้ำ 14-05-2020 03:39

สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม 2563
 
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีลมใต้และ ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมบริเวณดังกล่าว ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไปและมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะนี้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ไว้ด้วย สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนต่อเนื่อง เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง

อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนตัวขึ้นสู่อ่าวเบงกลอตอนบน สำหรับพายุไต้ฝุ่น "หว่องฟ้ง" (VONGFONG) บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 14 - 16 พ.ค. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเกิดขึ้นบางพื้นที่ เนื่องจากลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นเข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน

ส่วนในช่วงวันที่ 17-19 พ.ค. 63 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ มีฝนเพิ่มมากขึ้น กับลมกระโชกแรงเกิดขึ้นบางพื้นที่ เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าว ในขณะที่ หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่างมีกำลังแรงขึ้น มีแนวโน้มเป็นพายุไซโคลน และจะเคลื่อนไปทางอ่าวเบงกอลตอนบน

อนึ่ง พายุโซนร้อนหว่องฟ้ง(VONGFONG) ปกคลุมบริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ กำลงัเคลื่อนตัวทางทิศทางตะวันเฉียงเหนืออย่างช้าๆ คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นขึ้นฝั่งบริเวณประเทศฟิลิปปินส์ตอนบน ซึ่งพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมทั้งฟ้าผ่า ในระยะนี้ไว้ด้วย และประชาชนภาคใต้ฝั่งตะวันตกระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย ในช่วงวันที่ 17-19 พ.ค. 63



https://i1198.photobucket.com/albums...psnt1siiu5.jpg


https://i1198.photobucket.com/albums...psvotzcvnc.jpg


https://i1198.photobucket.com/albums...ps5rvmpion.jpg


https://i1198.photobucket.com/albums...psr8kreywv.jpg

สายน้ำ 14-05-2020 04:01

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ไมโครพลาสติกส่งผลพฤติกรรมปูเสฉวน

https://i1198.photobucket.com/albums...pspkgrlwi1.jpg

มลพิษทางมหาสมุทรกำลังคุกคามความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นอันตรายต่อชีวิตสัตว์ทางทะเลและผลกระทบต่อพฤติกรรมของพวกมัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการแก้ไขปัญหานี้ก่อนที่จะสายเกินไป และต้องวิจัยว่าเหตุใดไมโครพลาสติกถึงเปลี่ยนพฤติกรรมของสัตว์ในทะเล เช่นสัตว์ที่ช่วยทำความสะอาดทะเลอย่างปูเสฉวนที่ถูกระบุว่าได้รับผลกระทบมลพิษพลาสติก

ปกติแล้วปูเสฉวนจะอาศัยอยู่ในเปลือกหอยเปล่า และจะเปลี่ยนเปลือกอยู่บ่อยครั้ง ถ้าเปลือกเก่าไม่เหมาะกับขนาดตัวของมันอีกต่อไป ล่าสุด นักชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยควีน?ส เบลฟาสต์ ในไอร์แลนด์เหนือและมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล จอห์น มัวร์ ในอังกฤษ ออกโรงเตือนว่าไมโครพลาสติกอาจมีผลกระทบต่อพฤติกรรมของสัตว์โดยเฉพาะผลเสียต่อพฤติกรรมการเลือกเปลือกหอยของปูเสฉวน ซึ่งสำคัญต่อการอยู่รอดของปูเสฉวนและการสืบพันธุ์ในระยะยาว

ทีมได้ตรวจสอบผลกระทบของไมโครพลาสติกต่อพฤติกรรมของปูเสฉวนเพศเมีย 35 ตัว ในถังที่ใส่น้ำทะเลพร้อมสาหร่ายและเม็ดพลาสติกโพลีเอทิลีนเป็นเวลา 5 วัน และให้ปูเสฉวนอีก 29 ตัว อยู่ในถังที่ไม่มีพลาสติก หลังจากนั้นก็ส่งปูเสฉวนไปให้เลือกเปลือกหอย นักวิจัยพบว่าปูเสฉวนที่สัมผัสกับพลาสติก มีแนวโน้มตรวจสอบการเข้าไปอยู่ในเปลือกหอยที่ดีที่สุด พวกมันยังใช้เวลานานในการเคลื่อนย้ายตัวเองเข้าไปในเปลือกหอย มากกว่ากลุ่มปูเสฉวนที่ไม่สัมผัสพลาสติก เป็นไปได้ว่าไมโครพลาสติกจะรบกวนพฤติกรรมการอยู่รอดที่สำคัญของปูเสฉวน ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีส่วนสำคัญต่อระบบนิเวศ.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1842409


*********************************************************************************************************************************************************


ล็อกดาวน์คุมโควิด ทำอินเดียปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำสุดใน 4 ทศวรรษ

https://i1198.photobucket.com/albums...psosq3oicd.jpg

มาตรการล็อกดาวน์คุมโควิด-19 พลอยส่งผลทำให้อินเดียปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ในเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ทศวรรษ

เว็บไซต์ "Carbon Brief" ที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารด้านสิ่งแวดล้อมและสภาพอากาศเปลี่ยน ระบุว่า อินเดียปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศลดลงต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ทศวรรษ โดยนับตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ชาวอินเดียเริ่มใช้ไฟฟ้ากันน้อยลง มีการใช้พลังงานที่มาจากการเผาไหม้ถ่านหินลดลง และชาวอินเดียยังหันไปใช้พลังงานหมุนเวียนในประเทศเพิ่มขึ้นทดแทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ทำให้ตัวเลขการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศลดลงแต่หลังจากที่มีการออกมาตรการล็อกดาวน์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตัวเลขก็ยิ่งลดลงไปอย่างมาก

ผลการศึกษาพบว่า อินเดียปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศลดลง 15%ในเดือนมีนาคม 2563 และลดลงถึง 30%ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบกว่า 37 ปี

ข้อมูลจากการไฟฟ้าแห่งชาติของอินเดียระบุว่า การใช้ไฟจากถ่านหินลดลง 15% ในเดือนมีนาคม และลดลง 31%ในเดือนเมษายน ในส่วนของการส่งมอบถ่านหิน จนถึงสิ้นสุดไตรมาสแรกปีนี้ ก็มีปริมาณลดลง 2%

นอกจากนี้ ปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงฟอสซิลของอินเดียลดลงต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2562 และพอเข้าสู่ช่วงมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้การคมนาคมได้รับผลกระทบ การใช้น้ำมันลดลงไป 18% ต่อปี ในเดือนมีนาคม 2563.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1842768

สายน้ำ 14-05-2020 04:05

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ศึกษากันสักนิด! ปล่อยเต่าลงน้ำหวังได้บุญ สุดท้ายอาจกลายเป็นบาป

หนุ่มโพสต์ข้อความให้ความรู้เกี่ยวกับการปล่อยเต่าคืนสู่ธรรมชาติ หรือปล่อยลงแม่น้ำ ควรศึกษาข้อมูลให้ดี เนื่องจากเต่าบางชนิดว่ายน้ำไม่เป็น ปล่อยไปอาจทำให้จมน้ำตายได้

https://i1198.photobucket.com/albums...ps39l6scvz.jpg

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Nattawut Phothong" ได้ออกมาโพสต์ข้อความเพื่อเป็นวิทยาทาน สำหรับผู้ใจบุญ ที่ต้องการช่วยเหลือชีวิตสัตว์ด้วยการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ แต่อาจจะกลับกลายเป็นได้ปาบ หากท่านปล่อยผิดวิธี จนทำให้สัตว์ดังกล่าวต้องตายลงอย่างน่าสงสาร

โดยผู้โพสต์ได้ยกตัวอย่าง "เต่า" ซึ่งพบว่าเต่ามีหลายชนิด บางชนิดไม่สมควรปล่อยลงน้ำ หรือทะเล บางชนิดเหมาะสมอยู่บนบก เนื่องจากว่ายน้ำไม่เป็น ซึ่งผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า

"เผื่อช่วยอีกหลายชีวิต อยากบอกว่า ประเภทของเต่ามีหลายชนิด ซึ่งมีเต่าประเภทเต่าบก เค้าว่ายน้ำไม่ได้ กระดองหนัก หลายคนด้วยความไม่รู้ ปล่อยเต่าบกลงน้ำ ไม่กี่นาทีเค้าต้องตาย เพราะจมน้ำ

เลยอยากประชาสัมพันธ์ข้อมูลนี้ ก่อนที่จะเกิดเหตุสลดจากการทำบุญปล่อยเต่าดังภาพ"

https://i1198.photobucket.com/albums...psp2pg9uid.jpg

สำหรับสิ่งที่ต้องรู้ ไม่ใช่เต่าทุกชนิดที่จะว่ายน้ำได้

1. "เต่าบก" ว่ายน้ำไม่เป็น ถ้าปล่อยลงน้ำก็จม เพราะกระดองหนักมาก จุดสังเกต เท้ากลมไม่มีพังผืด เล็บหนาขามีเกล็ดแข็ง

2. "เต่าน้ำจีด" ว่ายน้ำได้ แต่ต้องการพื้นดินไว้พักเหนื่อย จุดสังเกต เท้าแบน มีพังผืดระหว่างนิ้ว เล็บขนาดเล็ก

3. "เต่าทะเล" อยู่ในทะเลตลอด ยกเว้นตอนขึ้นมาวางไข่ จุดสังเกต ขามีลักษณะคล้ายใบพาย


https://mgronline.com/onlinesection/.../9630000049870


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:17

vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger