SaveOurSea.NET

SaveOurSea.NET (http://www.saveoursea.net/forums/index.php)
-   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม (http://www.saveoursea.net/forums/forumdisplay.php?f=13)
-   -   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม 2563 (http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=5381)

สายน้ำ 24-12-2020 03:40

สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม 2563
 
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง คาดว่าจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ ในวันนี้ (24 ธ.ค. 63) ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่ลุ่มต่าง ๆ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2563

สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศหนาวเย็นนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 24 ? 29 ธ.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียสกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับในช่วงวันที่ 24-26 ธันวาคม พ.ศ.2563 หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนผ่านบริเวณอ่าวไทย ภาคใต้ แล้วเคลื่อนออกไปทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 24 ? 29 ธ.ค. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย และในช่วงวันที่ 24 - 26 ธ.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 25 ธ.ค. 2563)" ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2563

หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง คาดว่าจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ ในวันนี้ (24 ธ.ค. 63) ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่ลุ่มต่าง ๆ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

พื้นที่ที่คาดว่าได้รับผลกระทบมีดังนี้


วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2563

บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง และพังงา


วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2563

บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง และพังงา

ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 25 ธันวาคม 2563



https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

สายน้ำ 24-12-2020 04:32

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ภูเขาไฟฟูจิ! เปลี่ยนไป ไร้หิมะในเดือนธันวาคม 2020 สร้างความกังวลให้กับคนอยู่อาศัยในญี่ปุ่น

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

ขณะนี้คนในโลกโซเชียลต่างแสดงความกังวลถึง "ความเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติ" ของภูเขาไฟฟูจิ ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว แม้ว่าอากาศหนาวขึ้น แต่ภูเขาไฟฟูจิกลับไม่มีหิมะปกคลุมเหมือนทุกปี

ตามทวีตต่างๆ เกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิที่ถ่ายในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวเน็ตในญี่ปุ่นแสดงความกังวลเกี่ยวกับการไม่มีหิมะบนภูเขาไฟฟูจิแม้ว่าอากาศหนาวเย็นในช่วงเวลานี้ของปีเหมือนเดิมอยู่ก็ตาม

ภาพของภูเขาไฟฟูจิที่มีหิมะปกคลุมในช่วงเดือนนี่เป็นสิ่งที่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่คาดหวังที่จะเห็น และบันทึกภาพที่สวยงามไว้ตอนที่เข้าสู่ฤดูหนาว

ลักษณะของภูเขาไฟฟูจิ เสมือนหมวกหิมะยังเป็นสัญลักษณ์ และเป็นสิ่งที่ทำให้เดือนธันวาคมของทุกปีเป็นหนึ่งในเดือนที่ดีที่สุดในการชมภูเขาไฟฟูจิ

"ภูเขาไฟฟูจิในช่วงฤดูหนาวสวยงามตระการตาปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวบริสุทธิ์และมองเห็นได้จากที่ไกล ๆ ด้วยอากาศที่แห้ง" นี่คือสิ่งที่ Live Japan อธิบายไว้ในเว็บไซต์ของพวกเขา

ทั้งนี้ ภูเขาไฟฟูจิระเบิดครั้งสุดท้ายในปี 1707 แต่ยักษ์ที่สูงตระหง่านยังคงเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่นับตั้งแต่การปะทุครั้งก่อนเมื่อกว่า 300 ปีก่อน ภูเขาไฟอาจต้องผ่านเวลาที่ยาวนานจนกว่าจะสามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนได้หลายร้อยครั้งต่อเดือน และนี่คือความกังวลใจของคนอยู่อาศัยในญี่ปุ่น




https://mgronline.com/greeninnovatio.../9630000131110


*********************************************************************************************************************************************************


จีนเริ่มสร้าง "เรือเลี้ยงปลาอัจฉริยะ" ลำแรกของโลก ล่องขุนปลาในน่านน้ำสากล

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds
(แฟ้มภาพเอเอฟพี)

สำนักข่าวซินหัว สื่อทางการจีนรายงาน (22 ธ.ค.) บริษัท ชิงเต่า คอนซอน เดเวลอปเมนต์ กรุ๊ป (Qingdao Conson Development Group) เริ่มก่อสร้าง "เรือเลี้ยงปลาอัจฉริยะ" ลำแรกของโลกในเมืองชิงเต่า

รายงานระบุว่า เรือดังกล่าวมีชื่อว่าคอนซอน นัมเบอร์วัน (Conson No.1 มีความกว้าง 45 เมตร ยาว 249.9 เมตร ด้วยระวางน้ำหนัก 1 แสนตัน และน้ำหนักบรรทุก (Displacement) 1.3 แสนตัน คาดว่าจะสร้างเสร็จในเดือนมีนาคม 2656

คอนซอน นัมเบอร์วันสามารถทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในน่านน้ำสากล โดยความสามารถในการแล่นด้วยความเร็วสูงสุด10 น็อตทำให้หลบหลีกพายุไต้ฝุ่น ตลอดจนสภาพอากาศรุนแรง และภัยพิบัติระดับสีแดง และสีอื่นๆ ได้ทันท่วงที

เรือดังกล่าวได้รับการติดตั้งระบบเปลี่ยนน้ำ และอุปกรณ์สูบน้ำลึก ทำให้ปลาสามารถเจริญเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ

นายหวัง เสี่ยวหู่ หัวหน้าสถาบันวิทยาศาตร์การประมงจีน (CAFS) เปิดเผยว่า จีนผลักดันแนวคิดเรือเพาะเลี้ยงปลาตั้งแต่ราวปี 2523 เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรประมง และความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม

บริษัทฯ เปิดเผยแผนความร่วมมือกับหุ้นส่วนหลายรายเพื่อสร้างเรือเลี้ยงปลา 50 ลำ เพื่อสร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลลึก ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 2 แสนตัน อันคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1.1 หมื่นล้านหยวน (ราว 5 หมื่นล้านบาท)


https://mgronline.com/china/detail/9630000130360

สายน้ำ 24-12-2020 04:35

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ใช้ได้จริง!! สะพานลอยสัตว์ข้าม

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

การเสียชีวิตของสัตว์ป่าจากการถูกรถชนเป็นปัญหาได้รับการแก้ไขมากขึ้น ล่าสุด เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หน่วยงานทรัพยากรสัตว์ป่ารัฐยูทาห์ (Utah Division of Wildlife Resources) สหรัฐอเมริกา เผยแพร่คลิปวิดีโอของสัตว์ป่าต่างๆ เช่น กวาง หมี สุนัขจิ้งจอก ฯลฯ มาใช้บริการสะพานลอยสำหรับสัตว์ป่า Parley's Canyon Wildlife Overpass ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน

สะพานลอยดังกล่าวมีมูลค่า 5 ล้านดอลลาร์ ข้ามถนน 6 ช่องทางที่มีรถยนต์พลุกพล่าน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลดปัญหาการเดินทาง ช่วยให้มีความปลอดภัยมากขึ้น และป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนที่จะเกิดกับสัตว์ป่าได้เป็นอย่างดี


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9630000130707


สายน้ำ 24-12-2020 04:38

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


โลกร้อนทำพิษ โลมาป่วยโรคผิวหนัง อันตรายถึงชีวิต เหตุพายุถี่-น้ำจืดรุกน้ำเค็ม

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

โลมาเหล่านี้ต้องเผชิญกับโรคผิวหนังที่เกิดขึ้น ทำให้โลมาเกิดรอยเหมือนแผลพุพองหรือแผลเน่าเปื่อย สามารถพบได้ครอบคลุมบริเวณผิวหนังประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของร่างกาย ซึ่งโรคนี้เชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นบนโลก

ทั้งนี้หัวหน้านักวิจัย และอาจารย์ด้านพยาธิวิทยาทางสัตวแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยเมอร์ด็อกได้กล่าวว่าแผลที่โลมาเหล่านี้ต้องพบเทียบเท่ากับแผลไฟไหม้ระดับที่สามในมนุษย์ ซึ่งเป็นอาการบาดเจ็บที่น่ากลัว และอาจทำให้เสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว "แผลเหล่านี้จะฆ่าโลมาในที่สุด เพราะจะทำให้อิเล็กโทรไลต์หยุดชะงักในกระแสเลือดของโลมา และสุดท้ายพวกมันก็จะตายจากการล้มเหลวของอวัยวะ"

โรคลึกลับดังกล่าว ถูกเรียกว่า "Fresh Water Skin Disease" หรือโรคผิวหนังน้ำจืด ซึ่งส่งผลกระทบต่อโลมา และทำให้พวกมันทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก นักวิจัยพบโรคนี้ครั้งแรกในโลมาปากขวด 40 ตัวในเมืองนิวออร์ลีนส์รัฐลุยเซียนาในปี 2548 หลังจากพายุเฮอริเคนแคทรีนา ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าโรคผิวหนังที่ร้ายแรงนี้ได้คร่าชีวิตโลมานับตั้งแต่พายุเฮอริเคนแคทรีนาและในที่สุดพวกเขาก็พบต้นตอของปัญหานี้

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

และการศึกษาใหม่ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในรายงานทางวิทยาศาสตร์ได้ให้คำจำกัดความกรณีแรกสำหรับโรค เกิดขึ้นหลังจากการระบาดในหลุยเซียน่า มิสซิสซิปปี แอละแบมา เท็กซัส ฟลอริดาและออสเตรเลีย แต่มันยังไม่จบแค่นั้น เพราะฤดูพายุเฮอริเคนในอ่าวเม็กซิโกในปีนี้ที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และพายุที่รุนแรงขึ้นทั่วโลกเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การแพร่ระบาดที่ร้ายแรงที่คร่าชีวิตโลมาจะเกิดมากขึ้นกว่านี้แน่นอน

นักวิจัยจาก The Marine Mammal Center ในเมืองซอซาลิโต รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นผู้ทำการศึกษาพบว่าในทุกสถานที่ที่ระบุไว้พบว่าระดับความเค็มในน่านน้ำดังกล่าวลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งโลมาชายฝั่งแม้เคยชินกับการเปลี่ยนแปลงของระดับเกลือ แต่มันก็ไม่สามารถอยู่ในน้ำจืดได้อยู่ดี

ทั้งนี้เว็บไซต์ทางวิทยาศาสตร์ชื่อดัง Phys.org ระบุว่าน้ำทะเลชายฝั่งค่อยๆ เปลี่ยนเป็นน้ำจืดเนื่องจากมีพายุฝนเฮอริเคน และไซโคลนบ่อยครั้งทำให้มีปริมาณน้ำฝนมากกว่าที่เป็นมา และก่อนที่จะเกิดพายุใหญ่ชายฝั่งยังเกิดภาวะแห้งแล้งหนัก ปัจจัยเหล่านี้ทำให้น้ำจืดไหลลงทะเลปริมาณมากผิดปกติ และทำให้ความเค็มลดลง

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

ในแถลงการณ์ของหัวหน้าพยาธิแพทย์ของ The Marine Mammal Center กล่าวว่า "โรคผิวหนังที่ร้ายแรงนี้ได้คร่าชีวิตโลมา ครั้งตั้งแต่เกิดพายุเฮอริเคนแคทรีนา และเรายินดีที่จะชี้ให้เห็นถึงปัญหาดังกล่าว ด้วยฤดูพายุเฮอริเคนในอ่าวเม็กซิโกในปีนี้ และการเกิดพายุที่รุนแรงมากขึ้นทั่วโลก อันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เราจะได้พบกับการระบาดที่ร้ายแรง และโรคเหล่านี้ทจะคร่าชีวิตโลมาอีกหลายชีวิต"

อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญยังให้ความหวังเล็กน้อยกับวิธีป้องกันไม่ให้โลมาต้องทรมานไปมากกว่านี้ โดยกล่าวว่าอุณหภูมิของมหาสมุทรที่ร้อนขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อสัตว์ทะเลทั่วโลก แต่เมื่อใช้ข้อมูลจากการศึกษานักวิทยาศาสตร์ เราจะสามารถหาวิธีบรรเทาโรคที่เกิดกับโลมาและป้องกันไม่ให้พวกมันติดโรคมากขึ้นได้ และที่สำคัญคือการค้นพบนี้จะกระตุ้นให้เราต้องต่อสู้กับโลกร้อนอย่างแข็งขันมากขึ้นด้วย


https://www.khaosod.co.th/lifestyle/news_5588469


สายน้ำ 24-12-2020 04:41

ขอบคุณข่าวจาก BBCThai


รูปนกเพนกวินม่ายปลอบใจกัน คว้ารางวัลประกวดภาพถ่ายมหาสมุทร ประจำปี 2020

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds
ภาพถ่ายผลงานของโทเบียส บามแกร์ตเนอร์ เป็นผู้ชนะในสาขาภาพถ่ายขวัญใจมหาชน

รูปของนกเพนกวินม่ายสองตัวที่ยืนเหม่อมองท้องทะเล โดยที่ตัวหนึ่งใช้ปีกเล็ก ๆ โอบกอดอีกตัวไว้ในลักษณะเหมือนการปลอบใจกัน ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในภาพที่ชนะการประกวดภาพถ่ายมหาสมุทร Ocean Photography Awards ประจำปี 2020 ของนิตยสาร Oceanographic Magazine

ภาพถ่ายชิ้นนี้ได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะในสาขาภาพถ่ายขวัญใจมหาชน โดยเป็นผลงานของนายโทเบียส บามแกร์ตเนอร์ ที่ถ่ายภาพนี้ได้จากบริเวณท่าเรือเซนต์คิลดา ในนครเมลเบิร์น ของออสเตรเลีย ซึ่งมีนกเพนกวินชนิดนี้อาศัยอยู่ประมาณ 1,400 ตัว

ช่างภาพชาวเยอรมันผู้นี้บอกว่า เขาได้รับการบอกเล่าจากคนในพื้นที่ว่า เพนกวินนางฟ้า (Fairy penguin) สองตัวนี้ เพิ่งจะสูญเสียคู่ครองของพวกมันไปเมื่อไม่นานมานี้ และมีคนเห็นว่าพวกมันมักแสดงท่าทางปลอบประโลมใจกันและกันอยู่เสมอ

"อาสาสมัครคนหนึ่งที่ดูแลเพนกวินกลุ่มนี้เล่าให้ผมฟังว่า เพนกวินตัวสีขาว (ทางขวามือ) เป็นเพนกวินเพศเมียวัยชราที่เพิ่งจะสูญเสียคู่ครองของมันไป เช่นเดียวกับเพนกวินหนุ่มทางซ้ายมือ" นายบามแกร์ตเนอร์ ระบุทางอินสตาแกรม

"นับจากนั้นพวกมันมักใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ปลอบใจกัน และยืนมองแสงไฟจากเมืองใกล้ ๆ นานหลายชั่วโมง" เขาเล่า

ช่างภาพผู้นี้บอกว่าเขาใช้เวลา 3 คืนกับเพนกวินกลุ่มนี้กว่าที่จะบันทึกภาพถ่ายที่แสนกินใจภาพนี้เอาไว้ได้ เพราะมีเงื่อนไขหลายอย่าง เช่น ไม่สามารถใช้แสงไฟรบกวนฝูงเพนกวินได้

"การที่ไม่สามารถใช้แสงไฟบวกกับการที่เพนกวินตัวน้อยเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ทั้งใช้ปีกลูบหลังกันและกัน และทำความสะอาดให้กัน มันจึงทำให้เป็นเรื่องยากมากว่าที่จะได้ภาพช็อตนี้"

"แต่ผมก็มีโชคในจังหวะที่งดงามช่วงหนึ่ง"

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds
เพนกวินนางฟ้า เป็นสัตว์ที่มักมีคู่ครองตัวเดียวไปตลอดชีวิต
ที่มาของภาพ,AUSCAPE/GETTY


เพนกวินนางฟ้า มีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น เพนกวินน้อย, เพนกวินสีน้ำเงิน หรือ เพนกวินสีน้ำเงินน้อย (Little penguin, Blue penguin, Little blue penguin) เป็นเพนกวินที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดานกเพนกวินทั้งหมด มีความสูงโดยเฉลี่ยประมาณ 33 - 43 เซนติเมตร และน้ำหนักราว 1.5 กิโลกรัม

เพนกวินชนิดนี้มีขนที่ส่วนหลังสีฟ้าหรือสีน้ำเงิน มีจะงอยปากสั้นสีดำ พวกมันมีถิ่นอาศัยอยู่ในหลายพื้นที่ของออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ รวมถึงบางพื้นที่ในประเทศชิลี และเป็นสัตว์ที่มักมีคู่ครองเดียวไปตลอดชีวิต


https://www.bbc.com/thai/features-55422763



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:49

vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger