SaveOurSea.NET

SaveOurSea.NET (http://www.saveoursea.net/forums/index.php)
-   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม (http://www.saveoursea.net/forums/forumdisplay.php?f=13)
-   -   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน 2564 (http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=5497)

สายน้ำ 01-04-2021 02:52

สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน 2564
 
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าว ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนหลายพื้นที่และมีอากาศร้อนจัดบางแห่ง กับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงไว้ด้วย

สำหรับทะเลอันดามันและภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ในช่วงวันที่ 1 - 2 เม.ย. 64 ทั้งนี้เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณทะเลอันดามัน ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 3 - 6 มีนาคม 2564 ประเทศไทยจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นด้วย โดยจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 1 ? 2 เม.ย. 64 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 3 - 6 เม.ย. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกเป็นบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่า โดยจะเริ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ส่วนภาคใต้ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 1 ? 2 เม.ย. 64 ภาคใต้ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ส่วนในช่วงวันที่ 3 - 6 เม.ย. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทย (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 3 - 6 เมษายน 2564)" ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 01 เมษายน 2564

ในช่วงวันที่ 3 - 6 เมษายน 2564 ประเทศไทยจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นด้วย โดยจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดต่อเนื่องกันหลายวัน



https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

สายน้ำ 01-04-2021 02:54

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


เผย! นาทีมหัศจรรย์ลูกเต่าตนุชุดแรก วิ่งสู่ทะเลเกาะหูยง-หมู่เกาะสิมิลัน

โซเชียลฯแห่ชมภาพนาทีลูกเต่าตนุชุดแรก วิ่งสู่ทะเลเกาะหูยง-หมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา เผย เป็นภาพที่ดีต่อใจ พร้อมให้กำลังใจให้เต่าตัวน้อยเติบโตและแข็งแรงอยู่คู่กับท้องทะเลไทย

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

วันนี้ (31 มี.ค.) เฟซบุ๊ก "Kongkiat Kittiwatanawong" โดยระบุว่าคือ ทีมเจ้าหน้าที่ของทัพเรือภาคที่ 3 โพสต์คลิปวิดีโอภาพสุดมหัศจรรย์และเป็นความสวยงามของธรรมชาติ ขณะที่ลูกเต่าตนุ หลังฟักออกจากไข่และวิ่งสู่ทะเลเกาะหูยง-หมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา

โดยระบุข้อความว่า "ทีมเจ้าหน้าที่ของทัพเรือภาคที่ 3 นำลูกเต่าตนุแรกฟักปล่อยลงสู่ทะเล ณ เกาะหูยง หมู่เกาะสิมิลัน แม้ว่าลูกเต่าเหล่านี้จะมีโอกาสรอดกลับมาเป็นพ่อแม่พันธุ์ไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ แต่โดยส่วนตัวผมเชื่อมั่นว่าธรรมชาติได้สร้างสรรค์สิ่งที่ลงตัวโดยสมบูรณ์แบบ ไม่เช่นนั้น เต่าทะเลซึ่งถือกำเนิดมาตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์คงสูญพันธุ์ไปแล้ว The best conservation practice is to mimic the natural way."

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

ทั้งนี้ เต่าตนุ เป็นเต่าทะเลที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ และน้ำหนักมาก หัวป้อมสั้น ปากสั้น เกล็ดเรียงต่อกัน (ไม่ซ้อน) กระดองหลังโค้งนูนเล็กน้อย บริเวณกลางหลังเป็นแนวนูนเกือบเป็นสัน ท้องแบนราบขาทั้ง 4 แบน เป็นใบพาย ขาคู่หลังมีขนาดเล็กกว่าขาคู่หน้ามาก ขาคู่หน้ามีเล็บแหลมเพียงข้างละชิ้นสีของกระดองดูเผินๆ มีสีน้ำตาลแดงเท่านั้น โดยเต่าตนุพบมากในบริเวณอ่าวไทย และทางจังหวัดภาคใต้และทางฝั่งทะเลอันดามัน


https://mgronline.com/onlinesection/.../9640000030827


สายน้ำ 01-04-2021 02:57

ขอบคุณข่าวจาก มติชน


วิกฤตที่แนวปะการังวิตซัน หรือแนวปะการังฮูเลียน เฟลิเปแล้วแต่จะเรียก ................... โดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ทางการประเทศฟิลิปปินส์ได้ส่งเครื่องบินขับไล่เบาบินเหนือเรือประมงจีนร่วม 200 ลำที่จอดลอยลำอยู่ใกล้กับแนวปะการังวิตซัน (จีนเรียก) หรือแนวปะการังฮูเลียน เฟลิเป (ฟิลิปปินส์เรียก) ในทะเลจีนใต้ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2564 เพื่อกดดันให้กองเรือประมงเหล่านี้ล่าถอยออกไปจากพื้นที่พิพาทยืดเยื้อระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์โดยเฉพาะในขณะที่กระทรวงการต่างประเทศจีนอ้างว่าเรือของจีนเหล่านี้เป็นเรือประมง ที่มาหลบสภาพอากาศเลวร้ายเท่านั้น

ประธานาธิบดี โรดริโก ดูแตร์เต แห่งฟิลิปปินส์ กล่าวย้ำกับ นายหวง สีเหลียน เอกอัครราชทูตจีนประจำฟิลิปปินส์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงคำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการในนครเฮกของเนเธอร์แลนด์เมื่อ พ.ศ.2559 ว่า ไม่มีกฎหมายใดรองรับการที่จีนอ้างสิทธิตามประวัติศาสตร์ที่จะครอบครองพื้นที่กว่า 80% ในทะเลจีนใต้ตามเส้นประ 9 เส้น ในแผนที่ที่จีนกำหนดขึ้นเอง และผืนดินที่จีนอ้างเป็นเจ้าของนั้นไม่ใช่เกาะ จึงไม่อาจมีเขตเศรษฐกิจจำเพาะ 200 ไมล์ทะเล

ครับ! ท่านผู้อ่านส่วนใหญ่คงจะงงและไม่เข้าใจเรื่องกรณีพิพาทในทะเลจีนใต้เท่าไรนักผู้เขียนจึงขออนุญาตเล่าความเป็นมาของปัญหาและวิกฤตที่เกี่ยวกับทะเลจีนใต้พอสังเขปก่อนเพื่อท่านผู้อ่านจะได้เห็นเป็นรูปภาพไม่สับสนกล่าวคือ ทะเลจีนใต้เป็นทะเลปิดที่เป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแปซิฟิก ครอบคลุมอาณาบริเวณตั้งแต่ประเทศสิงคโปร์ไปจนถึงช่องแคบไต้หวัน รวมทั้งอ่าวตังเกี๋ยและอ่าวไทย มีเนื้อที่ประมาณ 3,500,000 ตารางกิโลเมตร สำหรับอาณาเขตของทะเลจีนใต้นั้นอยู่ทางใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีนและไต้หวัน อยู่ทางตะวันตกของฟิลิปปินส์และอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะบอร์เนียวอันมีมาเลเซียและบรูไนอยู่ทางเหนือของอินโดนีเซีย และอยู่ทางตะวันออกของเวียดนามพื้นที่ของทะเลจีนใต้มีความสำคัญ เพราะมีเส้นทางขนส่งทางเรือผ่านคิดเป็นหนึ่งในสามของโลก นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่า ใต้พื้นทะเลมีน้ำมันและแก๊สธรรมชาติสำรองขนาดใหญ่ด้วย

หมู่เกาะทะเลจีนใต้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเกาะ มีจำนวนหลายร้อยเกาะ ทะเลและเกาะที่ไม่มีผู้คนอยู่อาศัยส่วนใหญ่นี้เป็นหัวข้อพิพาทอธิปไตยโดยหลายประเทศ โดยเฉพาะข้อพิพาทเกี่ยวกับหมู่เกาะสแปรตลีและพาราเซล เช่นเดียวกับแนวแบ่งเขตทางทะเลในอ่าวตังเกี๋ยและที่อื่น มีข้อพิพาทอีกในน่านน้ำใกล้หมู่เกาะนาตูนาของอินโดนีเซีย ผลประโยชน์ของหลายชาติมีการได้พื้นที่ประมงรอบสองกลุ่มเกาะดังกล่าว การแสวงหาประโยชน์ที่เป็นไปได้จากน้ำมันดิบและแก๊สธรรมชาติที่คาดว่ามีอยู่ในหลายส่วนของทะเลจีนใต้ และการควบคุมเส้นทางเดินเรือสำคัญทางยุทธศาสตร์

สำหรับแนวปะการังวิตซัน หรือแนวปะการังฮูเลียน เฟลิเป นี้เป็นแนวปะการังรูปตัว V อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือสุดของในหมู่เกาะสแปรตลีถือเป็นส่วนหนึ่งของแนวปะการังหลักมิสชีฟตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ (จังหวัด) ปาลาวัน ซึ่งทอดยาวจากเกาะมินโดโรทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือสู่เกาะบอร์เนียวทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และคั่นกลางระหว่างทะเลจีนใต้กับทะเลซูลู จังหวัดปาลาวันมีความยาวราว 450 กิโลเมตร และกว้าง 50 กิโลเมตร

การที่ทางการฟิลิปปินส์ต้องวิตกกังวลมากก็เพราะหลังจาก 7 ปีที่จีนเริ่มสร้างเกาะเทียมบนแนวปะการังหลายแห่งในหมู่เกาะสแปรตลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สการ์โบโลห์ โชล ซึ่งใกล้กับเกาะลูซอนอันเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงของฟิลิปปินส์เป็นสิ่งปลูกสร้างทางทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกในหมู่เกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่มาก่อนเลยโดยสร้างทางวิ่งเครื่องบินยาว 3,000 เมตร ท่าเทียบเรือ โรงเก็บเครื่องบิน คลังเก็บอาวุธ ฐานยิงขีปนาวุธ และสถานีเรดาร์แล้ว ภาพถ่ายทางอากาศแสดงให้เห็น อาคารที่พักอาศัย ตึกที่ทำการของรัฐบาลท้องถิ่น โรงพยาบาล หรือแม้แต่ศูนย์กีฬา นอกจากนี้ ยังได้ปลูกต้นไม้ทำให้เกาะเทียมเขียวขจีขี้นมาได้เป็นการแสดงให้เห็นว่าเป็นความสำเร็จทางวิศวกรรมทางสมุทรศาสตร์ของจีนที่น่าทึ่ง

แนวปะการังซูบีรอบหมู่เกาะสแปรตลีได้ถูกทางการจีนแปลงสภาพเป็นพื้นที่ทำการเกษตร มีทั้งสวนปลูกผลไม้และพืชผักต่างๆ มีการนำผึ้งเลี้ยงมาจากแผ่นดินใหญ่จีนในการช่วยผสมเกสรให้กับพืชพันธุ์บนเกาะเทียมอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการเลี้ยงหมู สัตว์ปีก และบ่อเลี้ยงปลาในขณะที่สถาบันวิทยาศาสตร์จีนได้เข้าไปตั้งศูนย์วิจัยด้านสมุทรศาสตร์บนแนวปะการังมิสชีฟ เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2562

คณะนักอุทกวิทยาชั้นนำของจีนประกาศว่า ระดับน้ำบาดาลที่แนวปะการังเฟียรี ครอสส์ ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและจะกลายเป็นแหล่งน้ำที่ผู้คนดื่มและใช้ได้อย่างพอเพียงภายในเวลา 15 ปี และผู้อยู่อาศัยบนเกาะเทียมจะมีพืชผักผลไม้สดที่นำเข้ามาในตู้คอนเทนเนอร์เย็นให้บริโภคไม่ต่างจากคนที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่ โดยภาพถ่ายทางอากาศยังเผยให้เห็นกองเรือประมงขนาดใหญ่จอดอยู่ที่แนวปะการังซูบี และแนวปะการังเฟียรี ครอสส์

ครับ ! จะไม่ให้ฟิลิปปินส์เต้นได้ยังไงครับ เมื่อกองเรือประมงร่วม 200 ลำมาจอดลอยลำใกล้กับแนวปะการังวิตซัน หรือแนวปะการังฮูเลียน เฟลิเป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวปะการังมิสชีฟ เพราะเผลอๆ ก็จะเป็นการก่อสร้างเกาะเทียมอีกนั่นเอง


https://www.matichon.co.th/columnists/news_2650314



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:36

vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger