ระหว่างรอส่องสัตว์ก็ออกมาเดินเล่นอีกตามเคยตามประสาคนอยู่นิ่งไม่เป็น:pได้รูปสวยๆยามเย็นมา2รูปเพราะแบตกล้องใช้งานมานานจนเสื่อมแล้วเลยดับไปซะดื้อๆ:mad:

กลางคืนส่องสัตว์ไม่ค่อยเห็นอะไรเลยครับเพราะปีใหม่คนเยอะมากสัตว์เลยหลบเจ้าหน้าที่บอกเคยมีช้างลงมากินโป่งประมาณ50ตัว3คืนติด
แต่ช่วงเทศกาลมันคงไม่ออกมาแบบนี้แน่:(ก่อนกลับบ้านพักอุณหภูมิหล่นไปเหลือ14.5องศา
ตื่นเช้ามาออกเดินทางไปวังน้ำเขียวระหว่างทางก็เห้นสิ่งที่พี่บุญยิ่งบอกผมไว้ตอนเดินป่าว่า
ไปวังน้ำเขียวตอนนี้แทบไม่เหลือป่าแล้วภูเขาก็กลายเป็นเขาหัวโล้นพื้นที่ก็กลายเป็นไร่กับรีสอร์ทหมด:(นี่ถ้าเขาใหญ่ไม่เป็นอุทยานคงไม่ต่างกัน

มาถึงแล้วหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ขญ.4คลองปลากั้งเข้ามาถามข้อมูลและขอขึ้นไปดูกระทิงที่หอตอนเย็นที่ด้านหลังที่ทำการมีคนมากันอย่างหลวมๆ
สรุปว่าจองขึ้นหอดูสัตว์ดูกระทิงตอนเย็นและส่องสัตว์ตอนกลางคืนประมาณ1ทุ่มพอถามถึงเส้นทางที่ไปวังน้ำเขียวหลังจากคุยกับเจ้าหน้าที่แล้วก็ได้ความว่า
เส้นทางที่จะไปดูวังน้ำเขียวและไร่ต่างๆรถติดมาก8กิโลเมตรช้เวลาซัก1ชั่วโมงตอนแรกคิดกันว่าเค้าอยากให้เที่ยวอยู่ที่นี่เลยบอกเกินจริงไป
พอเดินทางไปกินข้าวกลางวัน(ซึ่งแน่นอนว่าต้องรวมเป็นข้าวเย็นด้วย:p)ก็ถึงรู้ว่าคนที่ไปถึงบอกว่ารถติดที่นั่นไม่ใช่ชั่วโมงนึงอย่างที่เจ้าหน้าที่บอก
แต่เป็น3ชั่วโมง:eek:แถมฝุ่นเยอะมากคนที่บอกไปถึงแล้วก็เลยไม่อยากเดินต้องกลับออกมาดีนะที่กลุ่มของผมไม่หลวมตัวไป:)

กินข้าวเสร็จก็กลับมาที่หน่วยพิทักษ์อุทยานไปขึ้นหอดูกระทิงที่นี่จะมี2หอโดยจะมีมัคคุเทศน์น้อยซึ่งเป็นเด็กในพื้นที่มานำทางและอธิบาย
มัคคเทศ์ประจำกลุ่มผมชื่อน้องดรีมหลังจากถ้าถึงเรื่องหอดูสัตว์น้องเค้าบอกว่าจากที่นำทางมาหลายๆครั้งหอ1น่าจะเห็นได้มากกว่าหอ2
แต่หอ1จะต้องเดิไกล500เมตรจากที่รถส่งหอ2จะเดินใกล้กว่าคือประมาณ100เมตรวันที่ผมไปหอ1มีรถไป10กว่าคัน(คันละราวๆ10คน)
หอรับได้30คนที่เหลือต้องผลัดกันข้างล่างยังดีที่ผมได้ไปที่หอ2ถึงจะมีโอกาสน้อยกว่าแต่ก็ยังดีที่คนน้อย
เส้นทางไปใช้รถกระบะของอุทยานเป็นทางลูกรังพอรถวิ่งฝุ่นก็ปลิวคลุ้งเป็นทางทางที่เดินเข้าหอเป็นทางแคบๆ
เดินเข้าไปเห็นหอสูงประมาณตึก3ชั้นรอบๆมีการตัดหญ้าให้หญ้าระบัดใหม่

รอบๆหอเป็นป่าทึบบ้างโปร่งบ้างบางที่ก็เป็นทุ่งโล่งโดยทุ่งโล่งที่เห็นมีโป่งเทียมในรูปที่2เวลาที่กระทิงมาเป็นฝูงใหญ่จะมาที่นั่น
ข้างล่างหอดูสัตว์ด้านหน้าจะมีลำธารเล็กไหลผ่านซึ่งมองไม่เห็นเพราะต้นไม้บังแต่จะมีน้ำตลอดปี

บนหอมีคนราวๆ20ถือกล้องส่องทางไกลบ้างกล้องถ่ายรูปบ้างมองหากระทิงกันอย่างใจจดใจจ่อ

นั่งกันอยู่พักนึงก็มีเสียงเดินแหวกพงหญ้ามาจากด้านขวาของหอฟังเสียงแล้วคาดว่าน่าจะเป็นกวางหรือกระทิง:d
พอคนเริ่มขยับมันจึงหยุยเดินและแอบซุ่มที่ด้านหลังต้นไม้ทึบห่างจากหอแค่30เมตรจุดที่สงสัยคือบริเวณด้านหลังกิ่งไม้แห้งรูปตัวvในรูปที่1
ประมาณ5โมงครึ่งน้องดรีมเห็นคล้ายๆหางกระทิงสะบัดเอี้ยวตัวตรงจุดนั้นประกอบกับมีเสียงนกร้องขึ้นถี่ๆช่วงหนึ่งเลยค่อนข้างมั่นใจว่ากระทิงอยู่ตรงนั้น
แต่ได้ยินเสียงและเสื้อสีสันฉูดฉาดของคนเลยหลบใกล้เวลากลับผมมองไปที่จุดเดิมแล้วเห็นคล้ายๆจมูกกระทิงทำท่าดมๆอยู่แถวนั้น
เลยเรียกคนดูไม่ถึง5วินาทีมันก็หลบไปอีกพอผมลองถามคนอื่นก็มีคนบอกว่าเห็นเหมือนกันสรุปคือคอย2ชั่วโมงเห็นปลายจมูกกระทิงครับ:d
รูปสุดท้ายจะเป็นนกแก๊ก(นกเงือก)ตอนแรกมีอยู่6-7ตัวครับแต่มันบินหนีไปซะหมดกว่าผมจะปรับกล้องเสร็จเลยได้มาแค่ตัวเดียวแถมย้อนแสงอีกตังหาก

ตอนกลับก็นั่งคุยเรื่องสัตว์ป่าแถมนี้กับน้องดรีมน้องมีช่วงนึงถามเรื่องทำไมไม่ให้ขึ้นหอตอนกลางคืนเค้าบอกมีรอบนึงที่นำคนมาที่หอ2
มีคนพาเด็กลงไปข้างล่างแล้วมีเสียงวิ่งแหวกพุ่มไม้มาเค้าเลยรีบวิ่งขึ้นมาพอเจ้าหน้าที่ลงไปดูเอากิ่งไม้ขว้างลงไปเห็นหมาป่าวิ่งหนี
เจ้าหน้าที่เลยรีบขึ้นมาบนหอสั่งทุกคนหมอบลงกับพื้นวอให้คนข้างนอกเปิดเสียงไล่มันแล้วรีบเอาคนออกจากหอหลังจากนั้นปิดหอ2วัน
เพราะกลัวว่าถ้ารู้ว่ามีคนมันจะเอาฝูงมาแถวนี้ความจริงตอนแรกเค้าเห็นมันแล้วแต่มันพรางตัวดีมากจนนึกว่าเป็นตอไม้
มารู้ตอนมันจะวิ่งเข้าใส่:eek:ยังดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเลยเข้าใจสาเหตุเลยว่าทำไมไม่ให้ขึ้นตอนกลางคืน
จุดที่เจอคือรูปข้างล่างครับอยุ่ทางด้านซ้ายของหอ

กลับมาถึงที่ทำการก็พักซักพักนึงแล้วไปส่องสัตว์ครับตอนบ่ายมาคุยเค้าบอกเมื่อคืนส่องเจอกระทิง1ตัวกับอีกตัวติดบ่วงดักกบของชาวบ้านอยู่
พอคนมาไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยมันตกใจสะบัดทีเดียวหลุด:eek:
พอส่องสัตว์ไปได้ไม่ถึง5นาทีน้องมุกคนส่องสัตว์ฉายไปไฟกลางถนนผมเห็นเงาน้ำตาลเข้มตัดกับขาสีขาวยืนอยู่ครึ่งถนน
ปากกินใบกล้วยอยู่ก็บอกเบาๆว่ากระทิงๆแล้ววางกล้องกับหลังคารถกดชัตเตอร์แบบเร็วๆเพราะกลัวว่ามันจะเตลิดไปเลย
แต่กลายเป็นว่ามันหันมามองไฟ2ทีแล้วก็เดินลงข้างทางไปเล็มใบกล้วยต่อ:p
พอรถเริ่มออกถึงเห็นว่าในกอกล้วยย่อมๆข้างทางที่ตัวแรกไปหลบมีกระทิงอยู่อีกตัว
ขนาดเล็กกว่าตัวแรกแต่ถ่ายไม่ทันแล้วครับเพราะรถออกแล้วกล้องโหมดกลางคืนถ่ายไม่ได้เบลอหมด
และน้องมุกอยากให้ออกรถเร็วๆเพราะกลัวว่าคนเยอะๆเดี๋ยวกระทิงจะตื่นกลุ่มต่อไปจะไม่เห็นกระทิง