SaveOurSea.NET

SaveOurSea.NET (http://www.saveoursea.net/forums/index.php)
-   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม (http://www.saveoursea.net/forums/forumdisplay.php?f=13)
-   -   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 5 กันยายน 2563 (http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=5268)

สายน้ำ 05-09-2020 03:53

สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 5 กันยายน 2563
 
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักในระยะนี้

อนึ่ง พายุระดับ 5 (ไต้ฝุ่น) "ไห่เฉิน" บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นและคาบสมุทรเกาหลี ในช่วงวันที่ 6-7 ก.ย. 63 โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 5 - 10 ก.ย. 63 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง

อนึ่ง พายุระดับ 5 (ไต้ฝุ่น) "ไห่เฉิน" บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นและคาบสมุทรเกาหลี ในช่วงวันที่ 6 - 7 ก.ย. 63 โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 5 - 9 ก.ย. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม



https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

สายน้ำ 05-09-2020 03:56

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ไฟไหม้เรือน้ำมันนอกชายฝั่งศรีลังกา ตาย 1 กองทัพยันน้ำมันยังไม่รั่ว

เจ้าหน้าที่ยังคงพยายามดับไฟซึ่งลุกไหม้เรือบรรทุกน้ำมัน ที่นอกชายฝั่งของศรีลังกามาตั้งแต่วันพฤหัสบดี ท่ามกลางความกังวลว่าน้ำมันจะรั่วไหล แต่กองทัพยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่มีความเสี่ยง

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า ในวันศุกร์ที่ 4 ก.ย. 2563 กองทัพเรือของประเทศศรีลังกากับหน่วยยามฝั่งของประเทศอินเดีย ยังคงพยายามดับไฟบนเรือบรรทุกน้ำมัน 'นิว ไดมอนด์' ของบริษัท 'ปอร์โต เอมเพอริออส ชิปปิ้ง อิงค์' ประเทศไลบีเรีย ซึ่งลุกไหม้มาตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

เหตุไฟไหมเกิดขึ้นในขณะที่ นิว ไดมอนด์ กำลังเดินทางนอกชายฝั่งทางตะวันออกของศรีลังกา หลังจากหม้อต้มในห้องเครื่องยนต์หลักของเรือเกิดระเบิด ทำให้ลูกเรือชายฟิลิปปินส์เสียชีวิต 1 ราย และเกิดไฟไหม้อย่างรุนแรงบนเรือที่บรรทุกน้ำมันมาถึง 270,000 ตันลำนี้ โดยลูกเรือที่เหลืออีก 22 คนประกอบด้วยชาวกรีซ 5 คนและฟิลิปปินส์ 17 คน ถูกอพยพออกจากเรือทั้งหมดแล้ว

ในวันศุกร์ เรือบรรทุกน้ำมันลำนี้ถูกลากออกไปในทะเลมากขึ้น ท่ามกลางความกังวลว่าอาจเกิดน้ำมันรั่วครั้งใหญ่อีกครั้งในมหาสมุทรอินเดีย ตามหลักกรณีที่เกาะมอริเชียส อย่างไรก็ตาม โฆษกกองทัพเรือศรีลังกายืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่มีความเสี่ยงเกิดน้ำมันรั่วอย่างปัจจุบันทันด่วน แต่หากมันเกิดขึ้น ศรีลังกาก็จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ

กองทัพเรือระบุด้วยว่า ตอนนี้หน่วยยามฝั่งของอินเดียกำลังสังเกตการณ์รอยแตกยาว 2 เมตรบนลำเรือ ซึ่งอยู่ในจุดที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 10 เมตร

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

ด้านนาง ธาร์ชานี ลาฮันดาปุระ ประธานสำนักงานป้องกันสิ่งแวดล้อมทางทะเล (MEPA) ของศรีลังกา เตือนว่า หากเกิดเหตุน้ำมันรั่วจากเรือ นิว ไดมอนด์ จะถือเป็นหนึ่งในหายนะทางสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่ที่สุด ไม่เพียงต่อภูมิภาคนี้ แต่ต่อโลกทั้งใบ และ MEPA จะฟ้องร้องบริษัทเจ้าของเรือด้วยหากเกิดเหตุน้ำมันรั่ว

ขณะที่นาย สุดันธา รานาสิงเห หัวหน้าศูนย์จัดการภัยพิบัติของศรีลังการ ออกมาสร้างความมั่นใจว่า สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ไม่ได้แย่อย่างที่เห็น โดยไฟไม่ได้ลุกลามไปถึงคลังสินค้า และเมื่อดับไฟได้ เรือจะถูกลากออกไปไกลขึ้น ไปยังจุดที่น้ำลึกกว่านี้


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1924365


สายน้ำ 05-09-2020 03:58

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ระทึก! ไฟไหม้ 'เรือบรรทุกน้ำมัน' นอกชายฝั่งศรีลังกา ลูกเรือปินส์สูญหาย

เรือรบจากอินเดียและรัสเซียเข้าร่วมปฏิบัติการดับไฟซึ่งลุกไหม้เรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่นอกชายฝั่งตะวันออกของศรีลังกาเมื่อวานนี้ (3 ก.ย.) ขณะที่เบื้องต้นมีรายงานลูกเรือชาวฟิลิปปินส์สูญหาย 1 คน

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

อินดิกา เดอ ซิลวา โฆษกกองทัพเรือศรีลังกา ระบุว่า เรือนิวไดมอนด์ (New Daimond) ซึ่งบรรทุกน้ำมันดิบ 270,000 ตัน และน้ำมันดีเซลอีก 1,700 ตัน ได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือหลังเกิดเหตุเครื่องยนต์ระเบิดเมื่อวานนี้ (3) โดยบนเรือมีลูกเรือชาวฟิลิปปินส์อยู่ 18 คน และชาวกรีซอีก 5 คน

ลูกเรือฟิลิปปินส์ 1 คนยังคงสูญหาย และอีกคนได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่เหลือได้รับการช่วยเหลือจากเรือสินค้าติดธงปานามาลำหนึ่ง

ผู้ช่วยต้นเรือ (third officer) ซึ่งเป็นชาวฟิลิปปินส์มีบาดแผลไฟไหม้สาหัสและถูกนำส่งโรงพยาบาลกัลมูไน ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโคลัมโบไปทางตะวันออก 360 กิโลเมตร

เดอ ซิลวา บอกกับเอเอฟพีว่า ขณะนี้เรือยามฝั่งอินเดียและเรือรบลำหนึ่งของศรีลังกากำลังเร่งสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปถึงน้ำมันที่เรือลำนี้บรรทุกมาด้วย และก่อนหน้านี้ยังมีเรือต่อต้านเรือดำน้ำสัญชาติรัสเซียอีก 2 ลำ คือ Admiral tributs และ Admiral Vinogradov เข้ามาช่วยอีกแรง ก่อนจะล่าถอยไปเนื่องจากไม่มีศักยภาพพอที่จะช่วยดับไฟได้

เจ้าหน้าที่จัดการภัยพิบัติศรีลังการะบุว่า จากแบบจำลองกระแสน้ำและสภาพอากาศในเวลานี้เชื่อว่าหากมีเชื้อเพลิงรั่วไหลก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่งของศรีลังกา



เรือนิวไดมอนด์จัดเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบขนาดใหญ่พิเศษ (VLCC) โดยมีความยาวถึง 330 เมตร และมีขนาดใหญ่กว่าเรือ เอ็มวี วากาชิโอะ (MV Wakashio) ของญี่ปุ่นซึ่งประสบอุบัติเหตุพุ่งเกยแนวปะการังในมอริเชียสเมื่อปลายเดือน ก.ค. จนทำให้มีน้ำมันดิบกว่า 1,000 ตันรั่วไหลลงสู่ท้องทะเล และก่อมลพิษทางสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่


https://mgronline.com/around/detail/9630000090783


สายน้ำ 05-09-2020 04:02

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


สิ่งมหัศจรรย์! 'กิ้งกือมังกรสีชมพู' หนึ่งเดียวในโลก ณ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

"ช่วงปลายฝนต้นหนาว" ที่หุบป่าตาด ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน ในพื้นที่อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี มีหนึ่งสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์หายาก ซึ่งพบในประเทศไทยและที่หุบป่าตาดเพียงแห่งเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ "กิ้งกือมังกรสีชมพู" ที่จะเผยตัวให้นักท่องเที่ยวได้เห็นเพียงปีละครั้งเท่านั้น

"กิ้งกือมังกรสีชมพู" สิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ ที่ถูกการันตีด้วยการประกาศให้เป็นสุดยอดการค้นพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ในอันดับที่ 3 ของโลก จากมหาวิทยาลัยรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในด้านความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติเป็นอย่างมาก

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

ทั้งนี้ ที่ได้ชื่อว่า "กิ้งกือมังกรสีชมพู" นั้น เพราะอยู่ในวงศ์กิ้งกือมังกร (พาราดอกโอโซมาติเดีย) บวกกับสีชมพูสดใส และยังมีลักษณะเด่นด้วยลวดลายและปุ่มหนาคล้ายมังกร เมื่อโตเต็มวัยจะมีลำตัวยาว 7 ซม. มี 20 - 40 ปล้อง ที่สำคัญและต้องระวังสำหรับนักท่องเที่ยวคือ สามารถขับสารพิษประเภทไซยาไนด์ เพื่อป้องกันตัวได้อีกด้วย

การเข้าไปชมกิ้งกือมังกรสีชมพู สามารถชมได้ในช่วงปลายฝนต้นหนาว ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - พฤศจิกายน ขึ้นอยู่กับความชุ่มชื่นของผืนป่า


ข้อมูลจาก : ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช


https://www.naewna.com/likesara/516265


สายน้ำ 05-09-2020 04:05

ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย


ฉลามวาฬโผล่เกาะทะลุ นักท่องเที่ยวสุดฟิน

ประจวบคีรีขันธ์ 4 ก.ย.-ฉลามวาฬตัวใหญ่ โผล่ว่ายน้ำใกล้เรือพานักท่องเที่ยวไปจอดดำน้ำดูปะการัง ที่เกาะทะลุ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจ ลงไปว่ายน้ำถ่ายภาพคู่

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

ผู้โพสต์เฟซบุ๊ก ชื่อ เผ่าพิพัธ เจริญพักตร์ โพสต์คลิปฉลามวาฬตัวใหญ่ ที่มาว่ายอยู่ใกล้ๆ กับเรือที่นำนักท่องเที่ยวไปจอดดำน้ำดูปะการังใกล้เกาะทะลุ อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ช่วงวันหยุดยาววันแรก ทำให้นักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจที่ได้เห็นและยลโฉมอย่างใกล้ชิด พร้อมถ่ายภาพคู่ที่หาดูได้ยากมาก

นายเผ่าพิพัธ กล่าวว่า ภาพฉลามวาฬที่น่ารัก ดูเป็นมิตร ว่ายน้ำวนรอบเรือของนักท่องเที่ยว ช่วยสร้างกระแส และการรับรู้เกี่ยวกับปัญหาผลกระทบทางธรรมชาติต่อท้องทะเล ทำให้หลายคนเริ่มหันมาสนใจเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรมากขึ้น ไม่เพียงแต่เรื่องการเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ แต่สำหรับบางคนถึงกับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตหลายๆอย่างเลยทีเดียว การลดการบริโภค ลดขยะ การลดการใช้ทรัพยากรฯ ทุกรูปแบบในชีวิตประจำวันคนละเล็กละน้อย อาจช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงกับโลกได้จริงๆ

ฉลามวาฬเป็นที่รู้จักมากขึ้น ส่วนหนึ่งปัจจุบันกระแสการท่องเที่ยว ดำน้ำ และการอนุรักษ์ทะเลทำให้คนช่วยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับฉลามวาฬและสัตว์ทะเลหายากอื่นๆ ฉลามวาฬได้รับสมญานามว่า ?ยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งท้องทะเล? เป็นสัตว์นำโชคอีกด้วย และปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เคลื่อนที่ความเร็วเฉลี่ย 5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันจะว่ายน้ำไปเรื่อยๆ กินแพลงก์ตอน และปลาตัวเล็กๆ เป็นอาหาร ตลอดช่วงชีวิตหนึ่งๆ ของฉลามวาฬนั้น จะเดินทางกว่า 1 ล้านกิโลเมตร ล่าสุดฉลามวาฬ เตรียมขึ้นทะเบียนเป็นว่าที่สัตว์สงวนของไทย

ทีนี้เรามาดูกันว่าหากไปดำน้ำแล้วเจอฉลามวาฬ ต้องทำอย่างไรบ้าง ลดความเร็วเรือไม่เกิน 2 น็อต หรือไม่เข้าใกล้เกิน 20 เมตร ลดเสียงให้เบาไม่สร้างความเครียดให้ปลา เข้าชมทีละลำเรือ เมื่อปลาไม่เครียดจะว่ายเล่นได้นานขึ้น ไม่สัมผัสสัตว์ เพราะปลาจะบาดเจ็บง่าย หรือได้รับสิ่งแปลกปลอม ถ้าปลาว่ายเข้ามาใกล้ๆให้ลอยตัวนิ่งๆรักษาระยะห่าง การถ่ายภาพต้องไม่ใช้แฟลช ตาของปลาไวต่อแสง ควรถ่ายที่ลำตัวไม่ควรถ่ายหน้าตรง และไม่คุกคามขวางทาง แต่ต้องว่ายตามช้าๆ.


https://tna.mcot.net/region-530556


สายน้ำ 05-09-2020 04:08

ขอบคุณข่าวจาก PPTV


วางขาแท่นขุดน้ำมันหมดอายุทำปะการังเทียม ที่เกาะพะงัน

ในช่วงปี 2562ถึง 2565 มีแท่นขุดเจาะและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทยหมดสัมปทานและต้องรื้อถอนออกไปกำจัด ซึ่งงบประมาณในการกำจัดขาแท่นเหล่านี้ค่อนข้างสูง //กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงร่วมกับบริษัทเอกชนและนักวิชาการ นำขาแท่นที่หมดอายุการใช้งานมาใช้ทำปะการังเทียม หลังทำการศึกษามาตั้งแต่ปี 2556 แล้วพบว่า ขาแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ประจำการในอ่าวไทยนานหลายปีมีสิ่งมีชีวิตมาเกาะติดและมีปะการังเกิดขึ้นจำนวนมาก

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

แท่นขุดเจาะน้ำมันที่หมดอายุการใช้งานของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ถูกลากจากอ่าวไทยมาถึงบริเวณเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเตรียมล้มทำปะการังเทียม ตามโครงการนำร่อง เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล หลังศึกษาความเป็นไปได้มาตั้งแต่ปี 2556และ รับฟังความคิดเห็นคนในพื้นที่ไปตั้งแต่ปี 2561

ขาแท่นที่นำมาล้มทำปะการังเทียมล่าสุด เป็นขาที่ 4 จากเป้าหมายที่จะวางทั้งหมด 7 ขา โดยจะจัดวางในพื้นที่ 0.05 ตารางกิโลเมตร ในความลึกประมาณ40เมตร

ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาความเป็นได้มานานหลายปี เกี่ยวกับการนำขาแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ปลดระวางมาทำปะการังเทียม ซึ่งพบว่า วัสดุที่เป็นเหล็กมีความคงทนแข็งแรง และอยู่ในทะเลได้นาน มีสิ่งมีชีวิตจำพวกปะการัง สัตว์น้ำมาเกาะติดจำนวนมาก และเป็นบ้านปลาที่ดี

https://hosting.photobucket.com/imag...370&fit=bounds

หลายคนกังวลว่า ขาแท่นขุดเจาะน้ำมันจะมีการปนเปื้อน แต่บริษัทเอกชน ชี้แจงว่า ขั้นตอนการนำขาแท่นมาทำปะการังเทียม จะยกหัวแท่นขุดเจาะออกเพื่อนำไปใช้งานต่อ จากนั้นจะตัดส่วนท่อที่ดูดน้ำมันออกไป เหลือไว้เฉพาะขาแท่นที่เป็นเหล็กกล้าเท่านั้น

โดยปกติขาแท่นขุดน้ำมันที่ถูกปลดระวางจะต้องถูกนำขึ้นฝั่งไปกำจัดโดยไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ต่อ และใช้งบประมาณในการกำจัดต่อขามากถึง 30ล้านบาท

การนำขาแท่นขุดเจาะน้ำมันที่หมดอายุการใช้งานทั้งหมด 7 ขาครั้งนี้ เป็นโครงการนำร่อง ที่ต้องติดตามผลอีก 2 ปี และหากได้ผลที่ดี คณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ อาจจะอนุมัติให้นำขาแท่นที่ปลดระวางมาใช้ประโยชน์ในแง่นี้มากขึ้น


https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8...0%B8%99/132651



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:39

vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger