[psychiatrist]

เพื่อนๆพี่ๆน้องที่รักทุกท่านครับ

งานพิธีพระราชทานเพลิงศพของคุณพ่อผม “พลอากาศตรี สุพจน์ กำเนิดศิริ” หรือ คุณลุงไมโล ได้สำเร็จลุล่วงลงอย่างเรียบร้อยสมเกียรติชายชาติทหาร ผมขอขอบทุกท่านในความทรงจำที่ดีจากทุกท่านที่มีแด่คุณพ่อที่ผมรัก ผมจะเดินทางกลับต่างประเทศบ่ายวันนี้ และจะกลับเมืองไทยอีกครั้งเพื่อใช้ขบวนการทางกฏหมาย ต่อสู้กับกลุ่มอิทธิพลการเมืองท้องถิ่นที่ได้ร่วมมือกันทำเป็นขบวนการ ใส่ร้ายให้คุณพ่อผมเป็นฝ่ายผิด เพื่อให้ตัวเองไม่มีความผิดในทางอาญา ทั้งๆที่คุณพ่อของผมซึ่งเป็นผู้สูญเสีย ในขณะเกิดเหตุท่านวิ่งรถอยู่ในเลนซ้ายโดยมีภาพหลักฐานของเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน การต่อสู้ในครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีของคุณพ่อไม่ใช่เพื่อเงินตราดังที่ทางฝ่ายคู่กรณีของคุณพ่อได้กล่าวหา

คุณพ่อผมท่านเป็นคนดี ตรง รักความยุติธรรม ไม่เคยกล่าวร้ายใส่ความใคร เลือดคุณพ่อวิ่งอยู่ในตัวของผมครึ่งหนึ่ง ผมจะไม่ปล่อยให้อิทธิพลการเมืองท้องถิ่นมีอำนาจในการกดขี่ข่มเหงให้คุณพ่อเป็นคนผิดได้ แม้คุณพ่อจะไปอยู่สวรรค์แล้วก็ตาม

คุณแม่ผมได้เล่าให้ฟังว่า เย็นวานนี้คู่กรณีของคนที่ทำให้คุณลุงไมโลของพวกเราเสียชีวิต ที่ชื่อ “สิบตำรวจโท อดุลย์ ศรศิริ” ได้บุกมาที่บ้านพร้อมกับทนาย แจ้งว่าความประสงค์ว่าอยากไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพของคุณพ่อแต่ไปไม่ทันจึงอยากฝากเงินมาทำบุญ คุณแม่ปฏิเสธไม่รับเพราะพิธีศพของคุณพ่อได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ทนายคนดังกล่าวได้ถ่ายรูปคุณแม่โดยพลการในขณะที่คู่กรณีคุณพ่อได้คุกเข่าลงหน้าประตูรั้วทั้งที่คุณแม่ไม่ได้รับไว้

ผมเป็นกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตของคุณแม่ ผมกังวลว่าคุณแม่จะตามเล่ห์เหลี่ยมของกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ทัน ที่ได้บุกมาถึงหน้าบ้านคุณพ่อในเย็นวันงานพระราชทานเพลิงศพเยี่ยงนี้

ผมเป็นลูกชายคนเดียวของคุณพ่อ ผมพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีคุณพ่อและคุ้มครองคุณแม่อย่างดีที่สุดเท่าที่ชีวิตของผมจะทำได้

ผมขอขอบคุณพี่สองสายและเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกท่านมา ณ ที่นี้

ผมปรารถนาที่จะสานต่อเจตนารมย์ให้คุณพ่อ แล้วเมื่อเดือนมิถุนายนมาถึง เราจะพบกันครับ