ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 12-05-2010
Super_Srinuanray's Avatar
Super_Srinuanray Super_Srinuanray is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Deep Blue Sea
ข้อความ: 1,070
Default จาก ....... สมยศ – แน่งน้อย ยศสุนทร (จ๋อม – น้อย / สายน้ำ – สายชล)

ความในใจถึงพี่พจน์ Milo15......


เราสองคน เริ่มรู้จักกับพี่พจน์ในช่วงปลายปี 2551 เมื่อ www.saveoursea.net (SOS) จัดกิจกรรมพาสมาชิกไปปล่อยพันธุ์ปลาและม้าน้ำ รวมทั้งปลูกป่าชายเลนที่จังหวัดกระบี่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนม์พรรษ าของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความทรงจำและความประทับใจในตัวพี่เริ่มจากจุดนี้

ก่อนไปทำกิจกรรมข้างต้นสัก 2 – 3 เดือน เราได้รับโทรศัพท์จากสมาชิกใหม่คนหนึ่ง ที่ใช้ชื่อว่า “Milo15” โทร.มาสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติของคนที่จะ เข้าร่วมกิจกรรม น่าจะเป็นเพราะคงไม่แน่ใจว่าคุณสมบัติและอายุจะทำให้ เรายอมรับหรือเปล่า เพราะเราไปดำน้ำทำงานกันไม่ใช่ไปดำน้ำเที่ยวเล่น

คุยกันเสียยืดยาว สรุปว่า คุณสมบัติผ่าน เนื่องจากไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุ และ“Milo15” หรือพี่พจน์เองก็ยืนยันว่าตัวเองแข็งแรง ถีบจักรยานวันละ 10 กิโลสบายๆ

หลังจากนั้น....เราได้รับโทรศัพท์จากพี่อีกหลายครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องของการส่งใบสมัครทางอีเมล์ และด้วยความน่ารัก ใสซื่อ และเป็นกันเองของพี่ทำให้เราอดยิ้มไม่ได้ เมื่อพี่บอกว่า “ผมใช้คอมพิวเตอร์ไม่ค่อยเก่ง แนบไฟล์ไปกับอีเมล์ไม่เป็น” และก็จริง พี่ส่งกี่ครั้งๆไฟล์ใบสมัครที่อยากแนบก็ไม่ยอมมาด้วย ผลสุดท้ายพี่ต้องยอมแพ้ ใช้วิธีส่งแฟ็กซ์มาแทน

จำได้ว่า พี่ถูกใจ มีความสุขและสนุกสนานมากกับการได้ไปดำน้ำทำงานกับเรา พี่บอกเราว่า ดำน้ำมาพักหนึ่งแล้ว แต่ได้ดำน้ำและทำประโยชน์ให้ทะเลไทยครั้งนี้เป็นครั้ งแรก และจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายอย่างแน่นอน ซึ่งหลังจากนั้น พวกเราได้เห็นชื่อของพี่ หรือ Milo15 ปรากฏในรายชื่อของสมาชิกอาสาสมัครของ SOS แทบทุกกิจกรรมที่ SOS ได้จัดให้มีขึ้นในโอกาสต่อๆมา

พี่พจน์ทราบหรือไม่ว่า พี่ได้ทำให้สถิติบางอย่างของ SOS เปลี่ยนไป ซึ่งแต่เดิม น้อยจะเป็นผู้ที่มีวัยวุฒิสูงสุด และมีความซน หรือที่พวกเราเรียกว่า “ไฮเปอร์” มากที่สุดในเหล่าสมาชิกนั้น มีอันต้องตกอันดับไปทันที เมื่อพี่เข้ามาเป็นสมาชิกและเข้าร่วมกิจกรรมกับ SOS ทั้งนี้ เนื่องจากพี่มีอายุสูงกว่าน้อยหลายปี และมีความซน หรือ ไฮเปอร์ มากกว่าน้อยหลายเท่าตัวนัก พี่ไม่เคยอยู่นิ่ง มักจะหาอะไรทำอยู่เสมอเมื่ออยู่ว่างๆบนเรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาอยู่ใต้น้ำ พี่ได้ทำให้หนุ่มๆสาวๆต้องชิดซ้าย เมื่อมีงานหนักตรงไหน พี่จะเข้าไปช่วยทันที ทำนองที่ว่า “น้องไม่ต้อง..พี่เอง” และเป็นแบบนี้ทุกครั้ง จนทำให้พวกเราได้ตระหนักว่า ลุง Milo ของเรา มีสุขภาพที่แข็งแรงเกินอายุมากทีเดียว

เมื่ออยู่บนเรือ พี่ไม่เคยถือตัว พูดคุยเป็นกันเองกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นน้องๆวัยไหน คนขับเรือ แม่ครัว ลงไปจนถึงเด็กเรือ และเรื่องที่คุยแต่ละเรื่องล้วนออกมาจากประสบการณ์กา รทำงานและประสบการณ์ชีวิต ที่ทำให้ทุกคนที่คุยด้วยต้องทึ่งและมักได้แง่คิดดีๆต ิดตัวกลับไปบ้านด้วยเสมอ โดยเฉพาะทริปสุดท้าย ที่ SOS ไปปล่อยปลากับม้าน้ำทางอันดามันใต้ กัปตันชัยของเรือโชคศุลีน่าจะเป็นคนที่รักพี่มากที่ส ุด เพราะพี่ไปแย่งกัปตันขับเรือ ทำให้กัปตันได้มีเวลาพักผ่อนเพิ่มขึ้น แถมพี่ยังมายุให้ SOS ซื้อเรือ เพื่อจะได้นำไปใช้ทำงานไม่ต้องเช่าคนอื่น แล้วพี่จะมาเป็นกัปตันเรือให้ “เรือ SOS” สัก 10 ปี

อีกเรื่องที่อยากเรียนให้พี่ทราบคือ เรื่องขับรถเที่ยวป่าของเรา กับทริปแรกที่ไปไกรเกรียง เราลงทุนเปลี่ยนช่วงล่างและเปลี่ยนยางให้กับซูซูกิ สปอร์ตตี้ของเราหมดไปพอสมควร แต่ก็ได้ตื่นเต้นสนุกสนานกับการขับรถผ่านทางวิบากภาย ใต้การแนะนำสั่งสอนของพี่เป็นอย่างดี หลังจากนั้น พี่ได้วางแผนที่จะพาเราไปลุยอีกหลายต่อหลายแห่ง เพื่อให้เราได้คุ้มกับการลงทุนไปกับการทำรถ ...... อยากให้พี่รับทราบว่าเรายังรอพี่อยู่จนทุกวันนี้

ความรัก และความประทับใจในตัวพี่เป็นที่สุดนั้น คงต้องยกให้ความเป็นห่วงคนอื่นๆมากกว่าตัวเองของพี่ พี่เป็นห่วงเรา เป็นห่วงน้องๆหลายๆคน ฝากคนโน้นให้ดูแลคนนี้ บอกคนนี้ให้ช่วยดูแลคนโน้น เป็นอย่างนี้เสมอ โดยเฉพาะกับเรา ได้รับทราบจากน้องๆว่าพี่ได้โทร.ไปฝากน้องๆให้ช่วยกั นดูแลเรา 2 คน เพราะเห็นว่า เวลาทำกิจกรรมเราเหน็ดเหนื่อยแทบทุกครั้งจนพี่สังเกต ได้ และพี่ยังเป็นห่วงที่ได้พบเราเมื่อใด เราก็ดูจะอ้วนท้วนสมบูรณ์กันขึ้นทุกที พี่เคยย้ำให้เราออกกำลังกายอย่างอื่นนอกเหนือจากการด ำน้ำเสียบ้าง อย่างเช่นการถีบจักรยาน พี่แนะนำให้เราถีบจักรยานอยู่กับที่ไปดูทีวีไปจะได้ไ ม่เบื่อ ทำให้ได้วันละ 10 กิโล ร่างกายของเราจะได้แข็งแรง และไม่อ้วน ..... เราทำได้กันเต็มที่ก็แค่ 2 กิโลก็หมอบกันแล้ว

มันดูเหมือนตลก แต่เรื่องมันไม่น่าตลกเลย ..... เราเริ่มรู้จักกันจากเรื่องการส่งใบสมัคร และเหมือนกับเราล่ำลากันด้วยเรื่องใบสมัครอีกเหมือนก ัน พี่ได้โทร.มาหาเรา ในช่วงสายๆวันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม เหตุผลเหมือนเดิมคือ ให้เราเปิดอีเมล์ดูว่า ใบสมัครของทริปทำกิจกรรมที่เกาะเต่ามาถึงเราหรือไม่ ทำให้เราขำในความน่ารักของพี่อยู่ในใจ แถมพี่ยังบอกต่ออีกว่า พรุ่งนี้เช้า พี่จะไปซ่อมหลังคาบ้านที่พะเยาเพราะถูกลูกเห็บเสียหา ย ...... ไม่ได้นึกเลยว่า นั่นเป็นการคุยกันครั้งสุดท้ายของเรา วันถัดมา พี่ก็จากพวกเราไปโดยไม่มีวันหวนกลับ

ไม่ทราบว่าพี่จะได้ยินหรือไม่ แต่เราต้องบอกให้พี่ได้ทราบว่า เรารัก เคารพ และนับถือพี่ดุจพี่ชายแท้ๆของเรา .... รอยยิ้มทั้งปากและตา และเสียงหัวเราะที่มีให้เห็นและได้ยินตลอดเวลาที่อยู ่ด้วยกัน ความเป็นกันเอง ไม่ถือตัว ความเสียสละ ความมีน้ำใจ ความห่วงหาอาทรคนอื่น ฯลฯ อีกมากมายที่ประกอบกันเป็นตัวตนของพี่นั้น ทำให้เราเชื่อว่า ในโลกนี้ พี่ไม่น่าจะมีศัตรูแม้แต่คนเดียว จะต้องมีแต่คนรัก เคารพ นับถือพี่อย่างหมดใจเหมือนพวกเราอีกมากมายหลายคน การจากไปของพี่ ทำให้เรา 2 คนรวมทั้งน้องๆหลานๆของพี่ที่ทราบข่าวจากเว็บบอร์ดขอ ง www.saveoursea.net ต้องโศกเศร้าเสียใจ หลั่งน้ำตาด้วยความอาลัยพี่กันทุกคน

จากความเป็นห่วงของพี่ที่มีต่อเรา 2 คน เราขอสัญญาว่า เราจะดูแลสุขภาพตัวเอง ออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานให้ได้วันละ 10 กิโล และถ้าเป็นไปได้ อยากขอให้พี่เป็นกำลังใจให้เราได้ช่วยกันดูแลปกป้องท ะเลที่พี่รักต่อไปอีกนานๆ

ขอให้พี่หลับให้สบาย อย่าห่วง อย่ากังวล และขอให้พี่มั่นใจว่า พี่จะอยู่ในใจของเราตลอดไป......


ด้วยรักและอาลัย


จาก ....... สมยศ – แน่งน้อย ยศสุนทร (จ๋อม – น้อย / สายน้ำ – สายชล)
__________________
__________________
Superb_Sri_Nuan.Ray ณ SOS
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม