ข่าวนี้อ่านแล้วสะท้อนสะท้านใจ....
มลพิษระยองน่าห่วง สารปรอทกระทบหญิงท้อง
กลุ่มศึกษาและรณรงค์มลภาวะอุตสาหกรรม เผยผลการตรวจสุขภาพประชาชนพื้นที่จังหวัดระยอง พบประชาชนมี อนุพันธ์ของสารเบนซิน มากกว่าปกติ 3.1% เสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง และพบโลหะหนักประเภทปรอทและสารหนู อีก 34.8% อันตรายมากในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์...
14 ก.ค. น.ส.เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้ประสานงานกลุ่มศึกษาและรณรงค์มลภาวะอุตสาหกรรม เปิดเผยผลการตรวจสุขภาพประชาชนพื้นที่จังหวัดระยอง ตามโครงการสำรวจสุขภาพประชาชนในเขตควบคุมมลพิษและนอกเขตควบคุมมลพิษ พบประชาชนมีอนุพันธ์ของสารเบนซินมากกว่าปกติ 3.1% และพบโลหะหนักประเภทปรอทและสารหนู อีก 34.8% ว่า แม้ผลการตรวจสุขภาพประชาชนในพื้นที่จังหวัดระยองครั้งนี้ จะพบสารอันตรายในระดับไม่สูงมากจนน่าวิตก และเป็นผลสำรวจที่เสร็จเพียง 80% ก็ตาม
"ต้องยอมรับว่า มีการเจ็บป่วยเกิดขึ้นจริงในพื้นที่ ซึ่งยังไม่สามารถระบุลงไปได้ชัดเจนว่า เกิดขึ้นจากสารพิษประเภทใดบ้าง แต่เชื่อว่าหากประชาชนยังคงได้รับสารพิษสะสมอยู่ตลอดเวลา ก็จะเกิดการสะสมและส่งผลเสียต่อสุขภาพรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหากประชาชนยังคงต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษอยู่ ก็ยังวางใจไม่ได้ ยกตัวอย่างสารเบนซินที่พบ เป็นสารอินทรีย์ที่ระเหยง่าย และเป็นสารก่อมะเร็ง หากชาวบ้านยังคงต้องหายใจในอากาศที่มีสารเบนซินสะสมอยู่ทุกวันๆ ก็อาจสะสมพัฒนากลายเป็นมะเร็งได้ หรือกรณีสารปรอท เป็นสารที่ทำลายระบบประสาทส่วนกลาง อันตรายมากโดยเฉพาะในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ หากได้รับสารสะสมในร่างกายปริมาณสูง อาจทำให้ทารกในครรภ์พิการได้" น.ส.เพ็ญโฉม กล่าว
นอกจากนี้ ผู้ประสานงานกลุ่มศึกษาและรณรงค์มลภาวะอุตสาหกรรม กล่าวอีกว่า ข้อเสนอแนะการเฝ้าระวังสุขภาพของประชาชน ควรดำเนินการใน 2 ส่วนหลักคือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งระบบการเฝ้าระวังมลพิษอย่างเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะมลพิษทางอากาศ และอีกส่วนคือชุมชน ต้องมีการจัดระบบการเฝ้าระวังด้วยตัวเอง เช่น เมื่อได้กลิ่นผิดปกติจะต้องรู้แล้วว่าควรป้องกันตัวเองอย่างไร ส่วนกระทรวงสาธารณสุขจะต้องมีระบบการติดตามตรวจสอบสุขภาวะของประชาชนใน พื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการติดตามการการแพร่กระจายของมลพิษในพื้นที่ต่อไป
__________________
Saaychol
|