ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 01-12-2010
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,403
Default


พายุฝูงปลาสากที่เกาะมาราตัว ............... โดย วินิจ รังผึ้ง


เกาะมาราตัว

จุดสนใจอันดับต้นๆสำหรับการมาดำน้ำบริเวณหมู่เกาะเดราวันประเทศอินโดนีเซียและเกาะใกล้เคียงกับเรือทริปของภาณุนี เรือบริการดำน้ำชั้นนำของคนไทยที่มาลอยลำให้บริการดำน้ำบริเวณนี้ก็คือ การดำน้ำท่ามกลางฝูงปลาสากนับพันนับหมื่นที่ว่ายกันมามากมายราวกับพายุทอนาโดที่เกาะมาราตัว (Maratua) ซึ่งเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งสำหรับคนที่มีโอกาสลงไปดำน้ำที่นั่น

มาราตัวเป็นเกาะรูปทรงคล้ายกับเกือกม้า แต่เป็นเกือกม้าหัวแหลมๆยาวๆ บางคนก็บอกคล้ายกับบูมเมอแรงหรือรูปตัววี บางคนก็เปรียบเหมือนกระดูกอกไก่ โดยตรงส่วนกลางมีสภาพเป็นลากูนขนาดใหญ่ มาราตัวเป็นเกาะที่เกิดจากภูเขาไฟใต้น้ำที่พ่นลาวาขึ้นมาเป็นขอบคัน กลายเป็นสัญฐานของเกาะโอบปากปล่องที่ตื้นเขินจนกลายเป็นลากูนกลางเกาะ เมื่อกาลเวลาผ่านไปจนเกาะแห่งนี้กลายเป็นซากภูเขาไปพื้นที่บนเกาะจึงกลายเป็นที่ก่อเกิดสรรพชีวิต มีผืนป่าปกคลุมเขียวขจี ชายเกาะมีป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์เป็นปราการกันคลื่นโดยมีของแนวผาปะการัง ด้านนอกเป็นแนวปะทะคลื่นลำดับแรกอีกทีหนึ่ง แนวน้ำตื้นในลากูนอันกว้างใหญ่มีพื้นทรายขาวละเอียดความลึกราว 1-10 เมตร มีช่องทางน้ำทะเลจากภายนอกไหลผ่านเข้าออกเป็นช่องแคบๆ ทำให้น้ำทะเลในลากูนมีการขึ้นสูงสุด และลดลงต่ำสุดจนเห็นพื้นทรายขาวเบื้องล่าง และในบริเวณลากูนแห่งนี้นี่เองที่เป็นแหล่งอนุบาลเพาะเลี้ยงกุ้ง หอย ปู ปลาขนาดเล็ก เกาะมาราตัวจึงเป็นเกาะที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดและมีชาวเกาะอาศัยอยู่มากที่สุด ในบรรดาเกาะทั้งสี่แห่งในหมู่เกาะเดราวัน


ศูนย์รวมฝูงปลานับพัน

ผมเคยมาดำน้ำที่เกาะมาราตัวแห่งนี้เมื่อ 5 ปีก่อน เป็นการมาดำน้ำโดยพักที่รีสอร์ตเล็กๆบนเกาะมาราตัว ทางรีสอร์ตใช้เรือไฟเบอร์ขนาดกลางบรรทุกนักดำน้ำได้สัก 10 คน ขนถังอากาศและอุปกรณ์กล้องลงเรือออกไปดำตามจุดดำน้ำต่างๆในแต่ละวันแล้วกลับขึ้นมานอนรีสอร์ต ต้องขนของขึ้นๆลงๆในแต่ละวันไม่ค่อยจะสะดวกกับการทำงานถ่ายภาพใต้น้ำเท่าใดนัก แต่มาครั้งนี้ผมใช้บริการเรือภาณุนีซึ่งเป็นเรือบริการดำน้ำแบบเรือ Liveaboard ขนาดใหญ่ที่กินนอนบนเรือ มีห้องนอนปรับอากาศที่แสนสบาย เมื่อจะลงดำน้ำเรือก็สามารถจะเข้าไปจอดได้ถึงจุดดำน้ำ ทำให้การทำงานใต้น้ำและการถ่ายภาพสะดวกสบายยิ่งขึ้น

แหล่งดำน้ำขึ้นชื่อที่สุดของเกาะมาราตัวก็คือจุดดำน้ำที่ชื่อว่า The Channel หรือดำกันบริเวณช่องแคบร่องน้ำปากทางเข้าลากูนซึ่งเป็นบริเวณที่มีลักษณะพิเศษ เป็นเสมือนชุมทางของอาหารที่ไหลมากับกระแสน้ำที่ภูมิประเทศใต้ทะเลบีบช่องทางไหลให้เหลือเพียงช่องแคบๆตรงปากประตูทางเข้าลากูนเท่านั้น บริเวณนี้จึงมักเป็นจุดศูนย์รวมของฝูงปลาสากหรือ Baracuda ขนาดใหญ่ลำตัวยาวราว 1 เมตรนับพันๆหมื่นๆตัวมารวมฝูงอยู่บริเวณปากช่องแคบแห่งนี้ หรือไม่ก็ฝูงปลากะมงตัวขนาดยาวราว 1 ฟุต นับพันๆตัวว่ายเวียนวนรอบๆช่องแคบบริเวณปากลากูน และที่นี่ยังเป็นถิ่นของกระเบนนกที่อาศัยอยู่ประจำเป็นปลาเจ้าถิ่นอีกชนิดหนึ่ง ทั้งบริเวณแนวผาที่ชันที่ลุ่มลึกมืดดำลงไปหลายร้อยเมตรด้านนอก ยังมีฉลามชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฉลามหัวค้อนและฉลามหางยาวที่มักจะว่ายผ่านมาอวดโฉมให้เห็นกันบ่อยครั้ง

การลงดำน้ำที่ปากช่องแคบลากูนเกาะมาราตัวนั้นนับเป็นความตื่นเต้น ท้าทายอย่างยิ่ง เพราะจะดำให้ดีต้องรอเวลาช่วงที่น้ำไหล คือตั้งแต่หัวน้ำขึ้นที่น้ำทะเลจากด้านนอกจะไหลเข้าสู่ลากูนไปจนถึงช่วงน้ำเริ่มนิ่ง แต่หลังจากน้ำนิ่งแล้วฝูงปลาแถวๆปากช่องแคบก็จะแยกย้ายไปหากินที่อื่นเหมือนตลาดวายซึ่งจะไม่ค่อยเห็นอะไร ดังนั้นการลงดำที่นี่จึงจะต้องดำท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยว ถ้าถามว่ากระแสน้ำบริเวณนี้เชี่ยวแค่ไหนก็ต้องบอกว่าเชี่ยวประเภทโดดลงจากเรือแล้วจะต้องปักหัวดำดิ่งลงไปใกล้แนวผาใต้น้ำให้เร็วที่สุด จากนั้นก็จะล่องลอยไปกับกระแสน้ำเหมือนร่อนบินล่องลอยไปในอากาศ ไม่ต้องคิดที่จะว่ายทวนน้ำกลับมาเพราะไม่มีทางจะต้านความรุนแรงของกระแสน้ำได้ และการดำน้ำที่นี่นอกจากอุปกรณ์ดำน้ำที่จำเป็นทั่วๆไปแล้ว นักดำน้ำจะต้องใช้ตัวช่วยที่สำคัญเป็นอุปกรณ์เสริมนั่นคือตะขอที่มีห่วงผูกเชือกยาวสัก 1 เมตร ปลายเชือกด้านหนึ่งมีตัวล็อคเกี่ยวติดไว้กับห่วงบีซีที่นักดำน้ำสวมอยู่ ตะขอนี้จะมีความสำคัญมากประเภทขาดแทบไม่ได้เลยทีเดียวสำหรับการดำน้ำที่นี่ เพราะจะทำให้เราสามารถเกาะเกี่ยวติดกับหินแล้วลอยตัวดูฝูงปลาสากได้โดยไม่ลอยละลิ่วปลิวไปกับกระแสน้ำ


ขบวนสวนสนามของปลาสาก

เมื่อไดฟ์ลีดเดอร์พาล่องลอยตามกระแสน้ำเลียบผาแนวปะการังมาได้ชั่วครู่ก็จะถึงปากช่องแคบที่จะแยกเข้าสู่ลากูน มาถึงตรงนี้ก็จะต้องบังคับทิศทางเพื่อเลี้ยวเข้าสู่ปากลากูนให้ทัน ไม่เช่นนั้นก็จะลอยเลยไปตามแนวผาใต้น้ำลอยเลียบแนวปะการังไปอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อบังคับเลี้ยวมาถึงปากช่องทางเข้าลากูน บริเวณนี้จะมีลักษณะคล้ายสามแยก มีลานกว้างระดับความลึกราว 15-16 เมตร ให้เป็นจุดชมฝูงปลาสากซึ่งนักดำน้ำทุกคนจะต้องรีบมองหาก้อนหินเพื่อเอาตะขอประจำตัวเกี่ยวกับก้อนหินเพื่อหยุดตัวเองให้ลอยอยู่กับที่เหมือนเรือลงจอดทอดสมอ ซึ่งเมื่อมาถึงที่นี่สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจก็จะปรากฏให้เห็นอยู่ตรงหน้า ด้วยฝูงปลาสากครีบดำขนาดใหญ่ แต่ละตัวความยาวราว 1 เมตร จับกลุ่มรวมฝูงล่องลอยกันอยู่นับพันนับหมื่น มันลอยตัวเรียงรายเป็นขบวน เป็นระเบียบราวกองทัพที่หันหน้าไปทางเดียวกัน เคลื่อนพลไปทางเดียวกันเหมือนกองทัพที่กำลังแปรขบวนสวนสนาม บางครั้งมันก็แปรขบวนเป็นรูปวงกลมดูเหมือนพายุทอนาโดที่กำลังพัดหมุนเคลื่อนผ่าน บางครั้งฝูงปลาสากก็เคลื่อนเข้ามาใกล้จนแทบจะเอื้อมมือจับถึง มองเห็นคมปากแหลมเรียว กับเขี้ยวแหลมยาวคับออกมานอกปากกับดวงตาดำขลับกลมโต ลายเกล็ดสีเงินกับลายริ้วบั้งสีเทาบนลำตัวสะท้อนกับแสงตะวันที่ส่องลงมาจากผิวน้ำเบื้องบน

ฟองอากาศของนักดำน้ำแต่ละคนที่เรียงรายกันเกี่ยวตะขอลอยตัวดูการแปร ขบวนสวนสนามของฝูงปลาสาก พร่างพรูล่องลอยลู่ไปทางเดียวกันเป็นสีเงินยวงตามแนวความเชี่ยวแรงของกระแสน้ำ กำลังชมฝูงปลาสากสวนสนามอยู่ดีๆ อาจเจอกับฝูงปลากระเบนนก 5-6 ตัว ก็ขยับปีกเคลื่อนผ่านมาตามแนวน้ำอันล้ำลึกด้านนอกมองดูราวกับฝูงนกบิน ขบวนสวนสนามของฝูงปลาสากยังคงแปรขบวนดำเนินไปอย่างดงามกระทั่งกระแสน้ำเริ่มทรงๆตัว และเมื่อสายน้ำเริ่มหยุดนิ่งอิ่มตัวไม่ขึ้นไม่ลง แพลงก์ตอนและอาหารที่ล่องลอยมากับกระแสน้ำราวกับสายพานอาหารที่หมุนผ่านก็หยุดลง ฝูงปลาขนาดเล็กที่มารวมตัวกันบริเวณสามเหลี่ยมปากลากูนก็แยกย้าย ฝูงปลาสากก็เคลื่อนย้ายไปหากินที่อื่นต่อ จวบจนระดับน้ำเริ่มขึ้นเริ่มลง กระแสน้ำเริ่มพัดพาเคลื่อนไหลอีกครั้ง ขบวนสวนสนามของฝูงปลาสากที่นี่ก็จะเริ่มต้นขึ้นอีก หมุนเวียนไปเช่นนี้วันแล้ววันเล่า.

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม