1) ถ้ากางตำราของ PADI ก็จะบอกว่า ถ้าคุณใช้ wetsuit 3 mm แบบแขน-ขาสั้น ก็จะใช้น้ำหนักประมาณ 5% ของน้ำหนักตัว = 120 x 5% = 6 kg.
แต่ถ้าใส่แค่ skin suit ประมาณเสื้อ rush guard + กางเกงขาสั้น ก็จะใช้ประมาณ 2 kg.
2) กรณีดำน้ำทะเล สำหรับคนที่น้ำหนักตัว 86-99 kg ต้องเพิ่มตะกั่วอีก 3.2 kg ก็กะ ๆ เป็น 3 kg
3) เผื่ออากาศในถังหมด อีก 2 kg
ดังนั้น จากที่กะ ๆ คุณจะต้องใช้น้ำหนักประมาณ 6 + 3 + 2 = 11 kg กรณีใส่ wetshit 3 mm แขนขาสั้น
หรือ 2+3+2 = 7 kg กรณีใส่ rushguard + กางเกงขาสั้น
ตะกั่วก้อนเล็ก จะหนักประมาณ 0.8 kg = 11/0.8 = 13.75 -> 14 ก้อน (9 ก้อนถ้าไม่ใส่ wetsuit)
ถ้าตะกั่วก้อนใหญ่ (หนักก้อนละประมาณ 2 kg) ก็เป็น 7 ก้อน (ประมาณ 4-5 ก้อน ถ้าไม่ใส่ wetsuit)
อันนี้เป็นแค่การประมาณคร่าว ๆ
ส่วนของ NAUI บอกว่า
ไปวัดใต้น้ำ ขณะที่อากาศใกล้หมดถัง เอาลมออกจาก BCD ให้หมด และใช้ตะกั่วน้อยที่สุดเท่าที่คุณจะสามารถลอยตัวอยู่ที่ความลึก 5 เมตร ได้นิ่ง ๆ
ซึ่งวิธีนี้น่าจะแม่นยำที่สุด แต่เพื่อความปลอดภัย ก็ควรที่จะมีคนคอยดูแล (คอยแบกตะกั่ว + ถ่วงให้ กรณีเกิดลอยขึ้นมา)
ซึ่งการใช้ตะกั่วจะลดลง หากมีประสบการณ์มากขึ้น ร่างกายฟิตขึ้น
กรณีที่ห่างจากการดำน้ำไปนาน หรือมีการใช้อุปกรณ์ใหม่ ก็ควรที่จะมีการทดสอบตะกั่วใหม่ ครับ
|