ขอบคุณข่าวจาก คม ชัด ลึก
เตือนประชาชนระวังพิษจากแมงกะพรุน ........................... ดูแลสุขภาพ โดย รศ.นพ.นภดล นพคุณ นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย
นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังฯ ขอฝากเตือนให้ระวังแมงกะพรุน ไม่ว่าจะเป็นแมงกะพรุนไฟและแมงกะพรุนกล่อง ซึ่งการเล่นน้ำทะเลไม่ควรลงเล่นน้ำหลังฝนตกและในช่วงเวลากลางคืน ถ้าหากรู้สึกว่าโดนแมงกะพรุน ให้รีบล้างด้วยน้ำทะเลและใช้น้ำส้มสายชูราดบริเวณถูกพิษและไปรักษาที่โรงพยาบาลโดยด่วน
แมงกะพรุนกล่อง เป็นสัตว์น้ำที่อยู่อาศัยในแถบทะเลเแถวอินโดจีนและทะเลแปซิฟิก มีหลายสายพันธุ์ ชนิดที่รุนแรงมากที่สุด ได้แก่ Chironexfleckeri ซึ่งพบมากที่สุดด้านเหนือของทวีปออสเตรเลีย แถบน่านน้ำของมาเลเซียพบ Chiropsalmusquadrigatus ส่วนในประเทศญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์มักพบเป็นชนิด Chironexyamaguchi สำหรับในประเทศไทยสามารถพบแมงกะพรุนกล่องได้ตั้งแต่บริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ฤดูที่แมงกะพรุนกล่องจะเข้าใกล้ชายฝั่ง จะต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ เช่น ในออสเตรเลียความเสี่ยงจะสูงสุดช่วงระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤษภาคม แมงกะพรุนชนิดนี้โปร่งแสง ทำให้มองเห็นในน้ำได้ยาก ลำตัวของ Chironexfleckeri(bell) เป็นรูปสี่เหลี่ยมเหมือนกล่อง ขนาดโตเต็มที่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 16-24 ซม. มีหนวด (tentacles) ที่มุมทั้งสี่จำนวน 15 หนวดต่อมุม ขณะว่ายน้ำหนวดจะหดตัวทำให้มีความยาวเพียง 15 ซม. แต่ขณะออกล่าเหยื่อหนวดจะยืดยาวได้ถึง 3 เมตร แมงกะพรุนกล่องสามารถว่ายน้ำล่าเหยื่อได้ด้วยความเร็วสูง ต่างจากแมงกะพรุนแท้ (scyphozoan) ที่จะลอยไปมารอให้เหยื่อมาสัมผัสเอง แมงกะพรุนกล่องจะล่าปลาขนาดเล็กเป็นอาหาร
อันตรายจากแมงกะพรุนกล่อง เมื่อหนวดของแมงกะพรุนสัมผัสได้ถึงตัวกระตุ้นที่เป็นแรงกดร่วมกับสารเคมีที่อยู่บนผิวของเหยื่อ จะมีการฉีดสารพิษเข้าสู่ผิวของเหยื่อ เมื่อโดนพิษของแมงกะพรุนกล่องจะมีอาการปวดแสบอย่างรุนแรงทันทีในบริเวณที่โดน ส่วนใหญ่ผู้ที่โดนแมงกะพรุนกล่องจะมีอาการเพียงเล็กน้อย แต่บางคนเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ พิษจากแมงกะพรุนชนิดนี้มีความรุนแรงมาก หากบริเวณสัมผัสเกินร้อยละ 10 ของผิวหนังทั่วตัวอาจทำให้เสียชีวิตได้ภายใน 5 นาที หรืออาจจะเสียชีวิตภายในเวลา 20 นาทีหลังจากการสัมผัสแมงกะพรุนกล่อง แต่หากเกิน 20 นาทีไปแล้วยังมีชีวิตอยู่แสดงว่าอาการไม่รุนแรงมากจนถึงแก่ชีวิต ทั้งนี้สารพิษจากแมงกะพรุนกล่องสามารถออกฤทธิ์ได้หลายรูปแบบ เช่น ทำให้ระบบหมุนเวียนของโลหิตและปอดล้มเหลว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ผิวหนังแพ้หรือผิวหนังตายได้ จากสถิติในประเทศออสเตรเลียพบผู้เสียชีวิตจากพิษแมงกะพรุนดังกล่าวอย่างน้อย 63 รายในระหว่างช่วงปี ค.ศ. 1884-1996 และเด็กจะมีโอกาสเสี่ยงเลียชีวิตมากที่สุด
วิธีการรักษาโดยส่วนใหญ่ผู้ที่โดนแมงกะพรุนกล่องที่ผิวหนัง จะมีอาการเพียงเล็กน้อย (ขึ้นกับความกว้างของบริเวณที่โดนพิษ) แต่บางคนเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ในเบื้องต้นหากโดนหนวดของแมงกะพรุ่นกล่อง อย่าแกะหรือขยี้เนื่องจากหนวดยังสามารถปล่อยพิษต่อได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง ให้ใช้น้ำส้มสายชู (ความเข้มข้นของกรดอะซิติคอยู่ระหว่างร้อยละ 3-10) ชะล้างบริเวณที่หนวดเกาะอยู่และบริเวณรอบๆ เป็นเวลา 30 วินาที ค่อยแกะเอาหนวดออกโดยใช้ผ้าปัดออก หากโดนในตา ให้ล้างด้วยน้ำเกลือ 0.9 เปอร์เซ็นต์หรือน้ำเปล่า แล้วรีบไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจดูแผลและสังเกตอาการ หากมีอาการระบบหัวใจและปอดล้มเหลวจะต้องปฏิบัติการกู้ชีพโดยด่วน การรักษาโดยทั่วไปจะเป็นการรักษาตามอาการในประเทศออสเตรเลียได้มีการผลิตซีรั่มต้านพิษแมงกะพรุนกล่อง แต่ในประเทศไทยยังไม่มีการนำเข้าซีรั่มดังกล่าว เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่โดนพิษแมงกะพรุนกล่องยังมีไม่มากนัก ตลอดจนการใช้ซีรั่มจะต้องใช้โดยด่วนที่สุดโดยตั้งแต่เริ่มโดนพิษใหม่ๆ จึงจะได้ผลดีเป็นประโยชน์ และการใช้ซีรั่มสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการภาวะล้มเหลวของระบบหลอดเลือดและปอดยังไม่เป็นที่แน่ชัด นอกจากนี้การใช้ซีรั่มอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยเนื่องจากผลิตจากซีรั่มของวัว
แมงกะพรุนกล่องเป็นสัตว์อันตรายที่แทบมองไม่เห็นในน้ำ แต่การเตรียมตัวป้องกันอย่างดีก่อนลงเล่นน้ำตามชายทะเล จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงจากการได้รับพิษจากแมงกะพรุนกล่องได้ หากโดนพิษแมงกะพรุนกล่องให้รีบใช้น้ำส้มสายชูล้างบริเวณที่โดนหนวดแมงกะพรุนแล้วรีบไปโรงพยาบาลโดยด่วน
http://www.komchadluek.net/detail/20151015/215147.html
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
|