ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
เศร้า จนท.นอร์เวย์ทำการุณยฆาต วอลรัสขวัญใจมหาชน หวั่นเป็นภัยต่อมนุษย์
เจ้าหน้าที่นอร์เวย์ทำการุณยฆาต วอลรัส ซึ่งกลายเป็นขวัญใจมหาชนใน ออสโล ฟยอร์ดแล้ว เนื่องจากกังวลว่ามันจะทำร้ายคน หลังนักท่องเที่ยวไม่สนคำเตือนและพยายามเข้าใกล้มัน
สำนักข่าว บีบีซี รายงานในวันอาทิตย์ที่ 14 ส.ค. 2565 ว่า เจ้าหน้าที่ของนอร์เวย์ ตัดสินใจทำการุณยฆาตจบชีวิตเจ้า ?เฟรยา? วอลรัสเพศเมียซึ่งกลายเป็นขวัญใจประชาชนบริเวณเวิ้ง ออสโล ฟยอร์ด (Oslo Fjord) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศแล้ว จากความกังวลว่ามันอาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของมนุษย์
เฟรยา เริ่มมีชื่อเสียงและดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวจากการที่มันชอบปีนป่ายขึ้นไปบนเรือ และบางครั้งก็ทำให้เรือจม จนเจ้าหน้าที่ต้องออกคำเตือน แต่คนจำนวนมากไม่ยอมฟังยังพยายามเข้าใกล้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมน้ำหนักกว่า 600 กก.ตัวนี้ ทำให้ทั้งเฟรยาและนักท่องเที่ยวตกอยู่ในความเสี่ยง
ในเหตุการณ์หนึ่ง ตำรวจถึงขั้นต้องปิดพื้นที่อาบแดดบนชายหาด หลังเฟรยาคลานไล่ตามหญิงคนหนึ่งลงไปในน้ำ ขณะที่เมืองสัปดาห์ก่อน กระทรวงการประมงนอร์เวย์เผยแพร่ภาพแสดงให้เห็น กลุ่มคนจำนวนมากรวมถึงเด็กๆ ยืนอยู่ห่างจากวอลรัสตัวนี้ในระยะที่สามารถเอื้อมถึง โดยไม่หวั่นเกรงอันตราย
เมื่อวันอาทิตย์ (14 ส.ค.) นายฟรังก์ บัคเก-เยนเซน ผู้อำนวยการกรมประมง กล่าวว่า การตัดสินใจทำการุณยฆาตเฟรยา เกิดขึ้นบนพื้นฐานของการประเมินความเสี่ยงโดยรวมต่อความปลอดภัยของมนุษย์ ?จากการสังเกตการณ์ในพื้นที่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ชัดเจนว้า สังคมไม่สนใจต่อคำแนะนำล่าสุดที่ให้อยู่ห่างจากวอลรัสตัวนี้ ดังนั้น ทางกรมฯ จึงมีข้อสรุปว่า ความเป็นไปได้ที่จะเกิดการทำร้ายมนุษย์นั้น สูง และไม่มีการดูแลรักษาสวัสดิภาพสัตว์?
นายบัคเก-เยนเซน เสริมด้วยว่า พวกเขาได้พิจารณาทางเลือกอื่นๆ แล้ว รวมถึงการย้ายเฟรยาออกจากฟยอร์ด แต่พวกเขาตัดความคิดนั้นไปจากความกังวลเรื่องสวัสดิภาพของวอลรัสตัวนี้ เขาย้ำด้วยว่า เจ้าหน้าที่ทำการการุณยฆาตด้วยวิธีการที่มีมนุษยธรรม และร่างของมันจะถูกนำไปชันสูตรเพิ่มเติมโดยสัตวแพทย์
ทั้งนี้ เฟรยาถูกพบเห็นครั้งแรกในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม และได้รับการตั้งชื่อตามเทพีแห่งความงามและความรักในตำนานเทพปกรณัมของชาวนอร์ส สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยวอย่างมาก เนื่องจากตามปกติแล้ว วอลรัสจะอาศัยอยู่ทางเหนือของมหาสมุทรอาร์กติกขึ้นไปอีก
ตามปกติแล้ววอลรัสจะไม่จู่โจมมนุษย์ แต่ก็เคยเกิดกรณีวอลรัสทำร้ายคนจนเสียชีวิตมาแล้ว เช่นที่เกิดกับนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่สวนสัตว์จีนในปี 2559 โดยนักท่องเที่ยวพยายามถ่ายรูปเซลฟี่แต่กลับถูกวอลรัสลากลงไปใต้น้ำ เจ้าหน้าที่พยายามช่วยสุดท้ายโดนลากลงไปด้วยและเสียชีวิตทั้งคู่
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2472831
******************************************************************************************************
ปริศนาปลาตายเกลื่อนแม่น้ำที่ไหลผ่านเยอรมนี-โปแลนด์
ปลาหลายพันตัวตายเกลื่อนแม่น้ำโอเดอร์ ที่ไหลผ่านเยอรมนีและโปแลนด์ ทำให้เกิดความวิตกว่าจะเกิดภัยพิบัติทางด้านสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ทางการขอให้ประชาชนอย่าบริโภคปลาหรือใช้น้ำ
เจ้าหน้าที่ในโปแลนด์และเยอรมนีกำลังพยายามหาสาเหตุของการตายของปลาจำนวนมากในแม่น้ำโอเดอร์ ซึ่งไหลผ่านระหว่างสองประเทศ โดยพบปลาตายเกลื่อนแม่น้ำหลายร้อยกิโลเมตร ซึ่งเชื่อว่าลอยมาจากต้นน้ำที่ประเทศโปแลนด์ ซึ่งมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าพบปลาตายเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่เยอรมนีกล่าวหาเจ้าหน้าที่โปแลนด์ว่าไม่แจ้งเตือนเกี่ยวกับปลาตาย ทำให้เกิดความตกใจที่เห็นปลาลอยตายเป็นจำนวนมากไหลตามแม่น้ำมา สำหรับที่โปแลนด์นั้น รัฐบาลถูกวิพากษ์ตำหนิอย่างหนักที่ไม่ดำเนินการใดๆ ในทันที หลังจากพบปลาตายที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในโปแลนด์ผ่านไปได้ 2 สัปดาห์
แอนนา มอสกวา รัฐมนตรีกระทรวงภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมของโปแลนด์ กล่าวว่า ผลการวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำที่เก็บได้ในโปแลนด์และเยอรมนี พบว่ามีระดับเกลือสูงขึ้น ขณะที่ผลการศึกษาด้านพิษวิทยายังคงดำเนินต่อไป และกล่าวว่าหน่วยงานด้านสัตววิทยาของโปแลนด์ได้ทำการทดสอบปลาที่ตายแล้ว 7 สายพันธุ์ และชี้ว่าสารปรอทไม่ได้เป็นสาเหตุของการตายของปลา แต่ยังคงรอผลการตรวจสอบสารอื่นๆ เธอกล่าวว่าผลการทดสอบจากเยอรมนีแสดงว่าไม่พบสารปรอทสูงเช่นกัน
นายกรัฐมนตรีมาแตอุช มอราวีแยตสกี ของโปแลนด์ กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า เดิมคิดว่าเป็นปัญหาในท้องถิ่น แต่เขายอมรับว่า ภัยพิบัติครั้งนี้ใหญ่มาก จนถึงขั้นกล่าวได้ว่า จะต้องใช้เวลาหลายปีกว่าแม่น้ำโอเดอร์จะกลับมาอยู่ในสภาพอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิม เขากล่าวด้วยว่า อาจจะมีการทิ้งของเสียที่เป็นสารเคมีลงในแม่น้ำ ทั้งๆ ที่รู้ว่ามีความเสี่ยงและมีผลกระทบตามมา ทางด้าน สเตฟฟี เลมเก้ รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของเยอรมนี เรียกร้องให้มีการสอบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้
นายมอราวีแยตสกี ยังประกาศที่จะทำทุกวิถีทางที่จะจำกัดความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม ด้านรัฐมนตรีมหาดไทยโปแลนด์ ประกาศจะมอบเงินรางวัล 1 ล้านซวอตี หรือราว 7.9 ล้านบาท สำหรับผู้ที่สามารถแจ้งเบาะแสผู้ที่สร้างมลพิษให้แก่แม่น้ำ
เจ้าหน้าที่แคว้นเมคเลนบูร์ก-ฟอร์พอมเมิร์น ของเยอรมนี ยังเตือนไม่ให้ประชาชนจับปลา หรือใช้น้ำจากทะเลสาบ ในขณะที่น้ำที่ปนเปื้อนสารเคมีได้ไหลมายังพื้นที่ปากแม่น้ำแล้วเมื่อวานนี้
ทั้งนี้ แม่น้ำโอเดอร์ไหลมาจากสาธารณรัฐเช็ก ก่อนที่จะไหลผ่านโปแลนด์ พรหมแดนระหว่างเยอรมนีและโปแลนด์ และไหลลงสู่ทะเลบอลติก.
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2472257
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
|