ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 30-09-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,416
Default

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


ไข้หวัดนกระบาด! 'แมวน้ำ-สิงโตทะเล'อุรุกวัยตายกว่า 400 ตัว



29 ก.ย.66 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อุรุกวัยแจ้งว่า พบซากแมวน้ำและสิงโตทะเลประมาณ 400 ซากบนชายหาดและริมแม่น้ำในช่วงไม่กี่สัปดาห์ สันนิษฐานว่าเกิดจากการติดโรคไข้หวัดนก

เจ้าหน้าที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมอุรุกวัยเผยว่า กระทรวงต่าง ๆ กำลังติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากพบสิงโตทะเลติดโรคไข้หวัดนกเอช 5 (H5) ตัวแรกบนชายหาดในกรุงมอนเตวิเดโอ บริเวณริเวอร์เพลต (River Plate) ซึ่งเป็นชะวากทะเลที่เกิดจากแม่น้ำ 2 สายมาบรรจบกันแล้วไหลออกสู่มหาสมุทรแอตแลนติก เจ้าหน้าที่ได้ฝังซากไปแล้ว 350 ซากเพื่อหยุดยั้งเชื้อไวรัสแพร่ระบาด โดยสันนิษฐานว่าเป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดนก เจ้าหน้าที่ยอมรับว่า โรคนี้ไม่สามารถควบคุมได้ ทำได้เพียงรอให้สัตว์มีภูมิคุ้มกัน แต่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด และขอให้ผู้ไปเที่ยวชายหาดหลีกเลี่ยงการสัมผัสซากสัตว์ เพราะถึงแม้การติดเชื้อจากสัตว์สู่คนเกิดขึ้นยากแต่ก็เกิดขึ้นได้

อุรุกวัยเป็นประเทศในทวีปอเมริกาใต้ มีแมวน้ำและสิงโตทะเลประมาณ 315,000 ตัว


https://www.naewna.com/inter/759870


******************************************************************************************************


ท่องเที่ยวเกาะเต่ากลับมาคึกคัก นักท่องเที่ยวทั่วโลกแห่ดำน้ำชมจุดจมเรือรบ



วันที่ 29 กันยายน 2566 บรรยากาศท่องเที่ยวเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กลับมาคึกคักภายหลังจากที่รัฐบาลได้เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากยุโรปและเอเชียเดินทางเข้าเกาะเต่าอย่างต่อเนื่อง การมาของนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้ส่งผลทำให้โรงแรมรวมถึงที่พักต่างๆ บนเกาะเต่ามีนักท่องเที่ยวจองเข้าพัก ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาเกาะเต่าเพื่อต้องการเรียนดำน้ำและบางคนก็มาดำน้ำเพื่อชมความสวยงามใต้ทะเลรอบเกาะเต่า

หลังจากข่าวพิธีการจัดวางเรือหลวงหาญหักศัตรู หมายเลขประจำเรือ 312 และเรือหลวงสู้ไพรินทร์ หมายเลขประจำเรือ 313 หลังจากที่ปลดประจำการกองทัพเรือได้อนุมัติให้ทำพิธีจมเรือทั้ง 2 ลำบริเวณเกาะเต่า และเกาะนางยวน ซึ่งเรือทั้ง 2 ลำได้ปฏิบัติภารกิจในท้องทะเลมากว่า 47 ปีให้เป็นจุดท่องเที่ยวดำน้ำรูปแบบอุทยานการเรียนรู้ใต้ทะเลเป็นการทำประโยชน์ให้ประเทศชาติครั้งสุดท้ายของเรือทั้ง 2 ลำคือส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมากองทัพเรือได้มอบเรือที่ปลดประจำการคือเรือหลวงสัตกูด มาจัดวางเป็นจุดดำน้ำเมื่อเดือนมิถุนายน 2554 เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวและฟื้นฟูระบบนิเวศของปะการังอีกด้วย ข่าวการจัดวางเรือหลวงทั้งสองลำเป็นที่สนใจของนักดำน้ำทั่วโลกต่างเดินทางมาดำน้ำเพื่อชมเรือหลวงทั้ง 2 ลำอย่างใกล้ชิด ซึ่งการดำน้ำชมเรือที่จมเป็นที่ชื่นชอบของนักประดาน้ำเพราะเป็นกิจกรรมที่ตื่นเต้นและท้าทายจึงทำให้เกาะเต่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าเกาะอย่างต่อเนื่องสร้างรายได้ให้กับชาวเกาะเต่า และผู้ประกอบการท่องเที่ยว

ในเรื่องนี้นางรำลึก อัศวชิน นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะเต่า กล่าวว่า ตอนนี้การท่องเที่ยวของเกาะเต่าได้กลับมามีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเหมือนช่วงก่อนโควิด และเป็นเรื่องที่ดีที่เกาะเต่าได้รับความช่วยเหลือจากหลายหน่วยงานอย่างกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่มาร่วมประชาสัมพันธ์เกาะเต่าให้นักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศได้รับทราบถึงกิจกรรมของเกาะเต่า ซึ่งช่วงปลายปีนี้มีนักท่องเที่ยวจองห้องพักแล้วถึงประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาร่วมสัมผัสและร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อมใต้ทะเลรอบเกาะเต่าอย่างที่ชาวเกาะเต่าทำอยู่ ชาวเกาะเต่ายินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างมิตรเหมือนเช่นคนในครอบครัว


https://www.naewna.com/likesara/759751

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม