ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 07-12-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,433
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


ตายแล้ว "วาฬเบลนวิลล์" พบแผลถูกฉลามกัด-รอยอวนรัด

"วาฬเบลนวิลล์" สัตว์ทะเลหายาก ตายแล้ว หลังพบเกยตื้นหาดสะกอม สงขลา คาดสาเหตุเบื้องต้นเกิดจากการป่วยระยะเวลานาน ทำให้ขาดอาหาร-น้ำ จนเลือดเป็นกรดรุนแรง พบรอยจากฉลามคุกกี้คัตเตอร์ทั่วลำตัว แผลอวนรัดที่ปากล่าง ครีบหลัง



วันที่ 5 ธ.ค.2566 ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง (ศวทล.) รายงานว่า วาฬเบลนวิลล์ ตายเวลา 08.07 น. หลังมีอาการชักเมื่อเวลา 07.20 น. และทำการกู้ชีพ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

ผลการชันสูตรพบรอยที่เกิดจากฉลามคุกกี้คัตเตอร์ทั่วลำตัว รอยแผลคล้ายรอยอวนรัดที่บริเวณปากล่างและครีบหลัง กล้ามเนื้อบริเวณหลังฝ่อลีบ เนื่องจากวาฬขาดอาหาร พบเลือดออกที่บริเวณโหนกหัว ปอดพบก้อนหนองขนาดเล็กกระจายอยู่ พบฟองอากาศขนาดเล็กอยู่ที่บริเวณหลอดลมฝอยในปอดทั้งสองข้าง ต่อมน้ำเหลืองขยายขนาดทั่วร่างกาย

ไม่พบอาหารตลอดความยาวของทางเดินอาหาร พบขยะที่บริเวณหลอดอาหารและกระเพาะอาหารส่วนไพโลริก มีแผลจากกรดไหลย้อนบริเวณส่วนปลายของหลอดอาหาร กระเพาะอาหารอักเสบ และมีแผลหลุมที่บริเวณกระเพาะอาหารหลัก ตับมีขนาดเล็กกว่าปกติ ไตซ้ายมีขนาดเล็กกว่าไตขวาอย่างเห็นได้ชัด

สาเหตุการตายเบื้องต้นเกิดจากการป่วยเป็นระยะเวลานาน ทำให้วาฬมีภาวะขาดอาหารและน้ำ จนเกิดภาวะเลือดเป็นกรดอย่างรุนแรง นอกจากนี้ ได้ส่งตัวอย่างชิ้นเนื้อและตัวอย่างเพาะเชื้ออื่น ๆ เพื่อยืนยันสาเหตุการตายที่แน่ชัดต่อไป

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จากเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาปะช้าง-แหลมขาม ได้รับแจ้งพบ "วาฬเบลนวิลล์" ขนาดความยาวลำตัว 4 เมตร สภาพร่างกายค่อนข้างผอม เกยตื้นเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านและเจ้าหน้าที่พยายามผลักดันออกไปทะเล 3 ครั้ง แต่โดนคลื่นซัดกลับมาเกยตื้นซ้ำ

เจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์หายาก พร้อมสัตวแพทย์ได้ให้ยาซึมก่อนเคลื่อนย้ายมาบริเวณร่องน้ำด้านในเพื่อดูแลรักษา และเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อนำส่งตรวจ ต่อมาวันที่ 4 ธ.ค.2566 ได้เคลื่อนย้ายไปดูแลที่บ่อขนาดใหญ่ในศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมสัตว์น้ำชายฝั่ง ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลาเนื่องจากสภาพพื้นที่และน้ำไม่เหมาะสม

ข้อมูลจาก ThaiWhales ระบุว่า วาฬเบลนวิลล์ สัตว์ทะเลหายาก เป็นวาฬเขี้ยว (ziphiidae) อาศัยในเขตน้ำลึกที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้พบเจอกันบ่อย ๆ พบเกยตื้นในไทยเป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกพบเกยตื้นตายตั้งแต่ปี 2554 ที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งในไทยมีข้อมูลการพบการเกยตื้นของวาฬเขี้ยวแค่ 3 ชนิด คือ Blainville?s beaked whale, Ginkgo beaked whale, Cuvier?s beaked whale


https://www.thaipbs.or.th/news/content/334621


******************************************************************************************************


นักวิทย์ใช้ AI ทำนายการเกิดคลื่นยักษ์ ด้วยข้อมูลจากทุ่น 158 แห่งทั่วโลก



นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน พัฒนาระบบ AI ให้สามารถทำนายการเกิดคลื่นยักษ์ด้วยข้อมูลจากทุ่น 158 แห่งทั่วโลก ซึ่งคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด

คลื่นขนาดมหึมาตำนานแห่งการทำลายล้างทางทะเล เป็นภัยอันร้ายแรงต่อเรือในมหาสมุทรและแท่นจุดเจาะน้ำมัน เป็นคลื่นที่มีความสูงอย่างน้อย 2 เท่าของคลื่นที่อยู่รอบ ๆ นักวิทยาศาสตร์จึงพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลคลื่นที่มีอายุมากกว่า 700 ปี ซึ่งครอบคลุมคลื่นมากกว่าพันล้านคลื่น เพื่อพัฒนาแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่สามารถพยากรณ์คลื่นยักษ์ได้

นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนเริ่มต้นพัฒนาระบบ AI ด้วยการป้อนข้อมูลคลื่นจำนวนมหาศาลเข้าสู่ระบบ โดยข้อมูลจะถูกรวบรวมจากทุ่น 158 แห่งทั่วโลก ซึ่งทำงานตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน นับเป็นข้อมูลที่มีอายุมากกว่า 700 ปี โดยจากการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าคลื่นที่ผิดปกติเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

จากการวิเคราะห์พบว่าสาเหตุของการเกิดคลื่นยักษ์ที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดขึ้นผ่านปรากฏการณ์ที่เรียกว่าการซ้อนทับเชิงเส้น โดยเมื่อระบบคลื่น 2 ระบบตัดกันและเสริมกำลังซึ่งกันและกันในช่วงเวลาสั้น ๆ หรือมาบรรจบกันในทะเลในลักษณะที่เพิ่มโอกาสในการสร้างความสูงของคลื่น ตามมาด้วยการเกิดร่องน้ำลึก ทำให้เกิดความเสี่ยงของการเกิดคลื่นขนาดมหึมาตามมา

ระบบ AI ทำงานแบบเรียลไทม์โดยรวบรวมข้อมูลจากทุ่น 158 แห่งทั่วโลก นำเสนอมุมมองที่ครอบคลุมเกี่ยวกับสภาพมหาสมุทรและโอกาสที่จะเผชิญกับคลื่นยักษ์ โดย AI ไม่เพียงแต่คาดการณ์ความเสี่ยงของการเผชิญหน้าคลื่นยักษ์เท่านั้น แต่ยังช่วยบริษัทขนส่งทางเรือในการเลือกเส้นทางที่ปลอดภัยได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย


https://www.thaipbs.or.th/news/content/334551

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม