ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 02-03-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,433
Default

ขอบคุณข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ


วิจัยใหม่คาด ปี 2024 อากาศร้อนทุบสถิติโลก อันดามัน-ทะเลจีนใต้เดือด



งานวิจัยชิ้นใหม่ในวารสาร Scientific Reports ระบุมีโอกาส 90% ที่ปี 2024 นี้ โลกจะมีอุณหภูมิสูงสุดทุบสถิติเดิม และบางส่วนของเอเชียจะร้อนระอุเป็นพิเศษ พร้อมเกิดปะการังฟอกขาว ภัยแล้ง และไฟป่าในหลายพื้นที่

วันที่ 1 มีนาคม 2567 งานวิจัย Enhanced risk of record-breaking regional temperatures during the 2023 ? 24 El Ni?o ซึ่งเผยแพร่ในวารสาร Scientific Reports เมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2024 ระบุว่า มีโอกาสสูงที่ในปี 2024 นี้ ปรากฏการณ์เอลนีโญจะทำให้อุณหภูมิอากาศใกล้ผิวโลก (Surface air temperature) สูงจนทำลายสถิติอีกครั้ง โดยบริเวณอ่าวเบงกอล-ทะเลอันดามัน และทะเลจีนใต้ จะได้รับผลกระทบสูงเป็นพิเศษทั้งด้านอุณหภูมิ และปะการังฟอก

หลังเมื่อเดือนมกราคม องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก เพิ่งประกาศว่า ภาวะการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศทำให้ ปี 2023 ที่ผ่านมาเป็นปีที่อากาศร้อนที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บสถิติเมื่อปี 1850 หรือในรอบ 173 ปี ไปแล้ว

ข่าว The Verge รายงานว่า งานวิจัยนี้ใช้การสร้างแบบจำลองสถานการณ์เอลนีโญในระดับความรุนแรงปานกลาง และรุนแรงมาก จากนั้นจึงศึกษาผลกระทบด้านระดับอุณหภูมิและภัยธรรมชาติในแต่ละพื้นที่ของโลก


อากาศร้อนทำสถิติใหม่อีก

ผลจากแบบจำลองชี้ว่า ไม่ว่าเอลนีโญจะมีความรุนแรงระดับใดก็มีความเป็นไปได้ถึง 90% ที่อุณหภูมิพื้นผิวเฉลี่ยรายปีทั่วโลกในปี 2024 นี้จะสูงจนทำลายสถิติเดิมอีกครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่อ่าวเบงกอล-ทะเลอันดามัน, ทะเลจีนใต้, ทะเลแคริบเบียน, อะแลสกา และป่าอเมซอน ส่วนสิ่งที่แตกต่างกันจะมีเพียงพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากผลของอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น


อ่าวเบงกอล-อันดามัน ทะเลจีนใต้ เดือด

ในกรณีที่เอลนีโญมีความรุนแรงระดับปานกลาง พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจะเป็นบริเวณอ่าวเบงกอล, ประเทศฟิลิปปินส์ โดยบริเวณอ่าวเบงกอลและทะเลอันดามันน้ำทะเลจะอุ่นขึ้นตลอดทั้งปีทำให้แนวปะการังตายเป็นวงกว้าง ส่งผลกระทบทั้งทางระบบนิเวศและเศรษฐกิจ ส่วนประเทศฟิลิปปินส์และหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกจะเกิดภัยแล้งนานต่อเนื่องหลายเดือน

ส่วนกรณีที่เอลนีโญรุนแรงมาก พื้นที่รอบทะเลจีนใต้จะกลายเป็นอีกจุดที่ได้รับผลกระทบหนัก อย่าง อุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้น ทำให้แนวปะการังตาย เช่นเดียวกับบริเวณอ่าวเบงกอล และประเทศฟิลิปปินส์ ขณะที่บริเวณป่าอเมซอนจะเกิดภัยแล้งและไฟป่า ส่วนบริเวณอะแลสกาจะสูญเสียธารน้ำแข็งและชั้นดินเยือกแข็งถาวร

"เต๋อเหลียง เฉิน" ศาสตราจารย์ภาควิชาธรณีศาสตร์ มหาวิทยาลัยโกเธนเบิร์ก หนึ่งในทีมผู้เขียนงานวิจัยฉบับนี้ กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกในแบบของปีนี้ เคยก่อปัญหาให้หลายพื้นที่ในโลกมาแล้ว เราจึงพยายามเตือนผู้คนล่วงหน้าไว้ก่อน


https://www.prachachat.net/world-news/news-1513496

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม